เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
“นังสารเลว! ปกติเจ้าก็ชอบที่จะใช้หน้าตาของตัวเองในการหลอกล่อผู้ชายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไร? พอดีเลยหากเจ้าได้เข้าไปอยู่ในซ่องฉินโหลวฉู่แห่งนี้แล้ว ต่อไปเจ้าจะได้มีผู้ชายให้คอยบริการ มีลูกค้าให้คอยดูแลไม่รู้จบเลยอย่างไรเล่า.....”
แส้ถูกฟาดลงมาบนตัวอย่างรุนแรงมาก นอกจากนี้ ที่ข้างหูยังมีเสียงที่คุ้นหูและไม่คุ้นหูที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างได้ใจขึ้นมาด้วย เส้าหยวนหยวนเจ็บจนเหงื่อเย็นอออกท่วมตัวไปหมดแล้ว ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา
แต่หลังจากที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว นางก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย
สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือเตียงไม้จริง ๆ ที่แกะสลักลายดอกแบบโบราณ แล้วก็ผ้าม่านคลุมเตียงผ้าตาข่ายเบาบางที่เป็นสีชมพูฉูดฉาด นอกจากนี้ยังได้กลิ่นหอมแบบหวาน ๆ ของควันที่พวยพุ่งออกมาจากกระถางธูปหอมด้วย......
ที่นี่คือที่ไหนกันเนี่ย?
นางไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะไปเข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ระดับนานาชาติหรอกเหรอ?
ขณะที่นางยังไม่ทันได้โต้ตอบ แส้ก็ถูกฟาดลงมาอย่างรุนแรงราวกับฝนที่เทกระหน่ำลงมาอีกครั้ง
ไม่ไกลนัก ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดสีชมพูอ่อนกำลังหัวเราะคิกคักอย่างได้ใจ หลังจากสะบัดแส้ขึ้นก็ทำการฟาดแส้ลงไปที่นางอย่างรุนแรง
“จะมาหาว่าข้าเป็นน้องสาวที่ใจร้ายคงไม่ได้หรอกนะ หากจะโทษใครก็คงต้องโทษที่ตัวของเจ้าเองนั่นแหละที่มันไร้ค่า เป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถและไร้ประโยชน์ แต่กลับครองตำแหน่งบุตรีของฮูหยินเอกมาได้ตั้งหลายปี สมควรแล้วล่ะที่เจ้าจะถูกผู้ชายหลอกไปขายที่ซ่องเช่นนั้น!”
เส้าหยวนหยวนรู้สึกปวดหัวจนหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าแส้กำลังจะฟาดลงมา แววตาของนางก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
นางคว้าแส้เอาไว้ แล้วก็ดึงอย่างแรงด้วยความฉลาดเฉลียว ทำให้อีกฝ่ายถูกนางดึงจนล้มลงมากับพื้น
“โอ๊ย!”
ผู้หญิงชุดสีชมพูคนนั้นล้มลงมากับพื้นพลางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เส้าหยวนหยวนหัวเราะเยาะเย้ยออกมา จากนั้นก็พลิกข้อมือดึงแส้มาไว้ในมือของตัวเองแทน
สีหน้าของนางดูอาฆาตแค้นอย่างมาก นางตะโกนออกมาด้วยความโมโหว่า “นังสารเลว! เจ้ากล้าทำร้ายข้ารึ——โอ๊ย!”
เส้าหยวนหยวนไม่พูดพร่ำทำเพลง ทำการฟาดแส้ลงไปโดยมิได้มีความลังเลใด ๆ ซึ่งตีไปโดนปากของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำมาก
“ถ้าแม่ของเจ้าไม่เคยสอนให้เจ้าพูดจาดี ๆ งั้นวันนี้ข้าก็จะสอนเจ้าเอง!”
“เพี๊ยะ ๆ ๆ!”
นางทำการฟาดแส้ลงไปอีกหลายครั้ง ฟาดจนผิวหนังของอีกฝ่ายฉีดขาดเลยทีเดียว
ผู้หญิงคนนั้นเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นไม่หยุด ภายในเวลาเพียงชั่วครู่หนึ่ง ใบหน้าและร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยรอยแส้ที่ดูน่าตกใจ แต่เส้าหยวนหยวนกลับไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดแต่อย่างใด
ประการแรกเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธแค้นในใจออกไป ประการที่สองเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธให้กับเจ้าของร่างเดิม
เมื่อกี้นี้ นางได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมาแล้ว ทำให้ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตัวเองข้ามภพมาเป็นบุตรีของฮูหยินเอกที่ไม่ได้รับความโปรดปรานในจวนรองเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการแห่งราชวงศ์หวู่
เนื่องจากแม่ผู้ให้กำเนิดของนางเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร พ่อของนางก็เป็นคนไม่แยแสอะไร นางสนมของพ่อก็โหดเหี้ยมอำมหิต นางจึงต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ใช้ชีวิตอยู่ในจวนแย่ยิ่งกว่าสุนัขตัวหนึ่งเสียอีก
หลังจากที่นางโตขึ้นมา พ่อของนางก็ให้นางไปแต่งงานกับนายพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่จะตายมิตายแหล่อยู่แล้ว โดยหวังว่างานมงคลนี้จะขจัดเสนียดจัญไรได้
ด้วยความที่เจ้าของร่างเดิมเกิดความสิ้นหวังกับเรื่องนี้ จนไปหลงเชื่อคำโกหกของผู้ไม่หวังดีเข้า นางจึงหนีไปกับผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกจับไปขายให้ซ่องแทน
จากนั้นก็เพิ่งจะมารู้ในตอนท้ายว่า ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่เส้าเจียอี๋ที่เป็นน้องสาวต่างแม่ของนางกับผู้ชายคนนั้นสมรู้ร่วมคิดกันแล้วสร้างขึ้นมาเอง
นอกจากจะเอานางไปขายที่ซ่องยังไม่พอ ยังจะทำให้นางรู้สึกอัปยศอดสูและข่มเหงนางอีกด้วย
อารมณ์สิ้นหวังของคนที่หมดหนทางสู้ของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้นางรู้สึกหนักใจและเป็นทุกข์ใจตามไปด้วย
“ใครก็ได้! มานี่ที!”
“จับผู้หญิงสารเลวคนนี้มัดเอาไว้ซะ ข้าจะสับมันให้เป็นท่อน ๆ ไปเลย!”
เส้าเจียอี๋ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นกรีดร้องอย่างน่าอนาถ นางตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
ในที่สุดองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงดังกล่าว จึงรีบบุกเข้ามาทันที
แววตาของเส้าหยวนหยวนดูเคร่งขรึม นางโยนแส้ทิ้งและกระชากผมของเส้าเจียอี๋ไป จากนั้นก็ลากไปที่หน้าต่าง
“อร๊าย! เจ้าจะทำอะไรข้า! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!” เส้าเจียอี๋ดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนกหวาดผวา
เส้าหยวนหยวนทำการผลักหน้าต่างให้เปิดออก ฉากหลังเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกต ทันใดนั้นนางก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาก่อนจะพูดว่า “ทำอะไรน่ะหรือ? ก็ทำการเรียกสติเจ้ายังไงล่ะ!”
ไม่ทันได้รอให้เส้าเจียอี๋โต้ตอบ นางก็จับตัวเส้าเจียอี๋โยนออกไปนอกหน้าต่างทันที
“อร๊าย! ช่วยด้วย!”
“ตู้ม——”
องครักษ์ที่แต่เดิมกำลังวิ่งปรี่เข้ามาถึงกับตื่นตระหนกกันขึ้นมาทันที “รีบไปช่วยเร็วเข้า!”
เส้าหยวนหยวนจึงใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้หลบหนีออกไป โดยด้านหลังของนางมีเสียงกรีดร้องเหมือนหมูโดนฆ่าของเส้าเจียอี๋ดังขึ้นมา “นังสารเลว! ไปจับมันมาให้ข้าให้ได้ ข้าจะหั่นมันให้เป็นชิ้น ๆ ซะ!”
ก่อนที่เส้าหยวนหยวนจะออกจากเรือนอี๋หงไปได้ นางก็ถูกคนเข้ามาดักทางออกเอาไว้เสียก่อน
เพื่อช่วยชีวิตแฟนสาวของเขา มือขวาของหลินเทียนจึงพิการ แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้มาคือการทรยศของแฟนสาวและเพื่อนสนิทของเขา ขณะที่หลินเทียนกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับคนคนหนึ่งซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คนนั้นมีชื่อว่าหลิวอีเตา เป็นหมอในตำนาน หลินเทียนไม่เพียงแต่ได้กลายเป็นศิษย์ของแพทย์ผู้ไร้เทียมทานผู้นี้ แต่ยังได้รับมรดกอันมหาศาลจากดร.หลิวอีกด้วย จากนั้นเป็นต้นมา หลินเทียนโต้กลับทุกทาง กำจัดอุปสรรคต่าง ๆ จะกระทั่งไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน “คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม”
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
“ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ” “โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ” ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร “คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ” ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า “ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?” นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"