“คุณตุลาเซ็นเอกสารไม่ครบหนึ่งหน้าค่ะ”
น้ำขิงเลขาสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนเธอเคาะประตูแต่ไม่ได้รับเสียงตอบจากเจ้านายจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเพราะมีเอกสารเร่งด่วนที่ตุลาลืมเซ็นและเธอต้องส่งให้กับบริษัทของลูกค้าภายในวันนี้
“ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาแล้วหรือไงไม่เห็นหรือว่าผมกำลังยุ่งอยู่”
เจ้านายขึ้นเสียงใส่อารมณ์กับเลขาสาวที่เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายกำลังอยู่ในสภาวะเหมือนไฟที่กำลังโหมลุกในใจเมื่อเพื่อนชายคนสนิทโทรศัพท์มาเล่าว่าได้พบภรรยาของตุลาที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งความเป็นจริงแล้วภรรยาของเขายืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเฝ้า ลูกสาวอยู่ที่โรงเรียน
“ไม่มีใครอนุญาตค่ะแต่มีเอกสารสำคัญที่คุณต้องเซ็น”
ตุลาคว้าแฟ้มจากมือของลูกน้องที่ดูคล้ายว่าเขาจะกระชากเสียมากกว่า เขารีบเซ็นเอกสารตามที่น้ำขิงต้องการและยื่นให้เธอโดยไม่มองสบสายตาเหมือนว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“น้ำขิงนั่งก่อนสิผมมีอะไรอยากถาม”
ตุลาเอ่ยเรียกลูกน้องที่กำลังจะเปิดประตูหน้าห้องออกไปเพราะตอนนี้เขาอยากคุยกับใครสักคนที่จะสามารถให้คำปรึกษาเขาได้เรื่องที่ทำให้ต้องกลุ้มใจมันเป็นความลับที่เขาไม่กล้าจะบอกใครหรือเอาเข้าจริงตัวเขาเองก็ไม่กล้าที่จะสงสัยด้วยซ้ำแต่วันนี้ ความอดทนมันเหมือนจะใกล้หมดลงทุกทีเขาจึงต้องการที่จะเล่าหรือระบายให้ใครสักคนได้ฟัง
“คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะหมดรักในตัวสามี”
เลขาสาวมองหน้าคนถามเพราะต้องการให้อีกฝ่ายอธิบาย มากกว่านี้แต่สายตาที่ล่องลอยเหมือนคนกำลังไร้ความรู้สึกของเจ้านายทำให้น้ำขิงรู้ว่าอีกฝ่ายคงมีอะไรในใจแต่เลือกที่จะโยนคำถามให้เธอเพียงแค่สั้น ๆ เหมือนว่าเป็นคำถามที่แท้จริงแล้วเขาก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ
“ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายจะเป็นแค่แฟนหรือเป็นสามีภรรยาถ้าวันหนึ่งได้เจอคนที่ดีกว่าหรือไม่รู้สึกพอใจกับคนที่เคยรักก็ย่อมหมดรักกันได้เรื่องแบบนี้” คนตอบหยุดมองสบตาคนถามอีกครั้งก่อนที่จะพูดต่อ
“น้ำขิงว่ามันเกิดได้ตลอดและบางครั้งมันก็ไม่มีเหตุผลแต่เรื่องแบบนี้น้ำขิงว่าถ้าเราอยากรู้ว่าคนคนนึงยังรักเราหรือเขาหมดรักจากตัวเราแล้วการที่เรามานั่งคิดเอาเองแบบนี้หรือถามใครมันคงไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงหรอกค่ะ คุณตุลาควรจะไปถามคุณนิดาเองนะคะ”
น้ำขิงเธอเป็นคนพูดจาตรง ๆ แล้วเวลานี้เธอก็รู้ดีว่าเจ้านายของเธอกำลังหมายถึงใครตลอดเวลาที่เธอมาทำงานที่นี่เธอแอบสังเกตพฤติกรรมของสามีภรรยาคู่นี้อยู่ตลอดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูไม่สนิทสนมกันเหมือนสามีภรรยาทั่วไป เธอคิดว่าทั้งคู่คงกำลังมีปัญหากันแน่ ๆ
“อย่าทำมาเป็นรู้ดี ผมไม่ได้หมายถึงผมกับนิดา แม่ของคุณสนิทกับคุณพ่อของผมก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ หมดธุระแล้วไปทำงานของคุณต่อเถอะ”
น้ำขิงอยากจะเถียงเหลือเกินว่าเธอไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของใครแต่ชายหนุ่มต่างหากที่เป็นคนเรียกเธอให้มานั่งลงตรงหน้าและเขาก็เป็นคนถามคำถามเธอแค่พูดออกไปตามความรู้สึกก็เท่านั้น
เลขาสาวมองนาฬิกาข้อมือเพราะใกล้เวลาเลิกงานแล้วแต่เธอยังไม่เห็นเจ้านายออกมาจากห้องทั้งที่ความจริงปกติตุลาจะกลับบ้านก่อนเธอทุกครั้งแต่วันนี้เขากลับไม่ออกมาแม้กระทั่งเวลาของมื้อกลางวันหญิงสาวอยากเข้าไปถามแต่ก็ดูรู้ว่าอารมณ์ของเจ้านายคงไม่พร้อมที่จะคุยกับใครจึงได้แต่นั่งรอที่จะกลับบ้านหลังจากที่เขากลับเพราะไม่อยากถูกหาว่าเป็นเด็กเส้นแล้วทำตัวไม่สมกับเงินเดือนที่เขามอบให้เธอเกือบครึ่งแสนบาท
“ทำไมยังไม่กลับนี่มันจะทุ่มนึงแล้วนะ”
ตุลาเปิดประตูห้องทำงานออกมาเขาคิดว่าเวลานี้คงไม่มีใครอยู่ในบริษัทแล้วเพราะปกติบริษัทของเขาให้พนักงานกลับได้ในเวลา ห้าโมงเย็น เต็มที่ทุกคนก็จะอยู่กันไม่เกินหกโมงแต่นี่เลยเวลาเลิกงานมานานแล้วเขากลับพบว่าน้ำขิงยังคงนั่งอยู่ที่หน้าห้องของเขาตามเดิม
“ฉันเห็นคุณยังไม่กลับก็เลยคิดว่าบางทีคุณอาจจะกำลังทำงานและฉันในฐานะเลขาก็ควรจะอยู่ก่อนเผื่อคุณจะมีอะไรให้ทำ”