ข้าผิดอะไร แค่ร้ายไปหน่อยเท่านั้นเอง
“พี่สาวข้าไม่อยากแต่งกับไท่จือ”
หลินเสี่ยวหลิน ทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนกับจะตายดับลงตรงหน้า
“ท่านพ่อหมายมั่นให้เจ้าจะต้องแต่งกับไท่จือ”
หลินเจี้ยนหลิงเอ่ยเรื่องจริงที่ถูกวางไว้แล้วไม่มีทางเป็นอื่นก็ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นและจะเป็นเช่นนั้น
“ท่านพ่อคงเห็นว่าข้าไร้ซึ่งปากเสียง ต่างจากท่านที่มักจะเก่งกาจเกินหญิง ท่านมีความสามารถรอบด้าน มีคนนับหน้าถือตามากมายอีกทั้งยังกล้าที่จะต่อคำท่านพ่อ ชีวิตท่านจึงไม่ต้องถูก ….กดดันเช่นข้า”น้ำเสียงตัดพ้อจนน่าสงสารหลินเจี้ยนหลิงก็ยังคงสงสารนางเช่นเดิมสินะ
“เจ้าดีกว่าข้ามากนักเสี่ยวหลิน อย่างน้อยมารดาของเจ้าก็ไม่บังคับให้เจ้าทำเรื่องที่หนักเกินไป ข้าแต่เดิมต้องอ่านหนังสือจนดึกดื่น ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อที่จะมาท่องตำราแล้วยังต้องเก่งเหนือใคร ส่วนเจ้ามารดาของเจ้าแม่เล็กแค่เพียงให้เจ้าเย็บถุงหอม ทำน้ำอบก็เท่านั้น"
“แล้วทำไมต้องเป็นข้า เดิมข้าอยู่แบบนี้ก็มีความสุขแล้ว ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่นผิดกับท่านที่วันๆ ขี่ม้าล่าสัตว์ฝึกกระบี่ ยิงธนูล้วนมีแต่เรื่องที่สนุกสนาน”
“เสี่ยวหลินกว่าข้าจะได้มีชีวิตอิสระเจ้ารู้หรือไม่ข้าต้องผ่านอะไรมาบ้าง เคยถูกท่านแม่ตีจนปางตาย ถูกท่านพ่อเคี่ยวเข็ญจนจะกลายเป็นยอดคน หากเปลี่ยนกันได้ข้าขอเป็นเจ้าดีกว่า แม่เล็กรักเจ้าดูแลทะนุถนอม ท่านพ่อก็ไม่เคยให้เจ้าทำเรื่องที่เกินกำลังด้วยเห็นว่าสุขภาพเจ้าไม่สู้ดีนัก”
“พี่สาวนั่นอย่างไรเล่าท่านจึงได้กล้าแกร่งไม่กลัวใคร อีกทั้งยังสามารถจัดการเรื่องหนักเบาได้หมดจด”เสี่ยวหลินพูดเรื่องที่ใครๆต่างรู้ดี
“เอาน่า เจ้าแต่งเป็นไท่จือเฟยข้าก็จะได้อาศัยเจ้าเข้าไปเที่ยวชมวังหลวงบ้าง ท่านพ่อร้อยวันพันปีไม่เคยบังคับเจ้า มาครั้งนี้ท่านพ่อคงมีเหตุผลไม่น้อย"
“พี่สาวข้าขออยู่กับท่านอย่างนี้กว่า อย่างน้อยท่านก็พอได้เป็นที่พึ่งช่วยเหลือยามยาก”
น้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อนเหมือนที่เคยทำประจำเวลาที่นางอยากจะได้สิ่งใดทาง
เดียวที่นางทำคืออดอ้อน
“คุณหนูใหญ่เจี้ยนหลิง ฮูหยินใหญ่เรียกหาท่าน”
หลินเจี้ยนหลิงยิ้มให้น้องสาวต่างมารดา ด้วยรอยยิ้มปลอบประโลม
“เฮ้อ... เห็นไหมอย่างน้อยเจ้าก็ไม่ถูกแม่เล็กเรียกหาบ่อยๆ เหมือนที่ท่านแม่เรียกหาข้า ”
ก้าวขาออกจากห้องไปที่ห้องนอนของมารดาหรือฮูหยินใหญ่ของบ้านหลิน
“เจี้ยนหลิง นั่งลงสิ เจ้าออกไปปิดประตูให้ข้าด้วย”
ท้ายประโยคหันไปหาสั่งสาวใช้ สาวใช้ให้ออกจากห้องไป หลินเจี้ยนหลิง วางกระบี่ข้างกายแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ต่างระดับลงมาจากที่ฮูหยินหลินนั่งอยู่
“เจ้ารู้ไหม เมื่อคืนข้าเฝ้าครุ่นคิดกังวลนอนไม่หลับทั้งคืน”
พูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีการทอดเสียงให้ดูอ่อนโยนเหมือนมารดาพึงกระทำกับบุตรี
“ท่านแม่มีเรื่องใดกังวล”เอ่ยปากถามด้วยท่าทีนอบน้อมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
“เจ้า ไม่กังวลอย่างนั้นหรือ ปีนี้เจ้าสิบแปดยังไร้คนมาสู่ขอ อีกทั้งไท่จือสู่ขอเสี่ยวหลินท่านพ่อตัดสินใจยกเสี่ยวหลินให้แต่งเป็นไท่จือเฟย”
เจี้ยนหลิงก้มหน้ารู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากมีสิ่งใดที่ฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดาไม่พอใจ
“ลูกเข้าใจแล้ว”พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
“ดีมาก เจ้า จ้าวแผนการอีกทั้งกลยุทธ์มากมาย ใช้ความสามารถของเจ้าให้ได้นั่งบนบัลลังก์ในตำหนักบูรพาเคียงข้างไท่จือ ข้าจึงจะสบายใจ”
หลายปีมานี้ เจี้ยนหลิงมีหน้าที่เพียงทำให้มารดาสบายใจ แต่ตัวเองสบายใจหรือไม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิด
“ลูกจะพยายาม”น้ำเสียงหนักแน่นดุจหินผา
“ดีข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง"
วังหลวง
“ฝ่าบาทในเมื่อตัดสินใจไม่ได้ เช่นนั้นไม่สู้รับทั้งสองคนมาเป็นไท่จือเฟยและเซ่อฝูจิ้น ไปพร้อมกัน”
“คิดว่าใต้เท้าหลินจะยินยอมอย่างนั้นหรือ”
“อย่างนั้น คงต้องใช้วิธีเสี่ยงดวง”ขันทีข้างกายออกความเห็น
“หลินฮูหยิน เดิมเป็นถึงองค์หญิงสาม เรื่องนี้นางก็คงไม่มีทางยอม ที่จะให้บุตรีของนางเป็นรองบุตรีของอนุเช่นกัน"น้ำเสียงแสดงออกหนักใจไม่น้อย
"แต่ผู้ที่ส่งฎีกาฉบับนี้มา จงใจที่จะให้ฝ่าบาทต้องทบทวนเรื่องที่ไท่จือทรงตัดสินใจไท่จือไม่ยอมแต่งบุตรีคนโต แต่ไปสู่ขอบุตรีคนรอง”
ขันทีข้างกายตั้งข้อสังเกตไท่จือจงใจทำสิ่งใดกันแน่
ตระกูลหลิน
“มีคนถวายฎีกากับฝ่าบาทให้มีการทบทวนเรื่องการแต่งตั้งไท่จือเฟย ข้าคิดว่าคงไม่ใช่เจ้าใช่ไหม ซูหลาน”
ใต้เท้าหลินเอ่ยปากถาม ฮูหยินใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ข้าเช่นไรจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นไท่จือตัดสินใจไปแล้ว”
ใต้เท้าหลิน เหลือบตามองหลินซูหลานภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"