คำโปรย นางตัดสินใจลอบเข้ามาสำรวจความเป็นอยู่ของเฉิงจิ้งอ๋อง พิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเขาเป็นองค์ชายไร้ความสามารถ ที่มีส่วนทำให้บิดาของนางต้องถูกระเห็จออกไปว่าราชการที่ชายแดนทุรกันดารหรือไม่... เพียงแต่เมื่อนางย่างเท้าเข้ามาสู่ห้องทรงงานด้านใน สิ่งที่นางคิดว่าง่าย กลับกำลังทำให้นางต้องพบกับความยากลำบากเข้าเสียแล้ว.... .......................... "อือ....ปละ ปล่อย..." "ปล่อยให้ข้าเข้าครองครองกายเจ้า...เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่าที่พระชายาของข้า?"
คำโปรย
นางตัดสินใจลอบเข้ามาสำรวจความเป็นอยู่ของเฉิงจิ้งอ๋อง พิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเขาเป็นองค์ชายไร้ความสามารถ ที่มีส่วนทำให้บิดาของนางต้องถูกระเห็จออกไปว่าราชการที่ชายแดนทุรกันดารหรือไม่... เพียงแต่เมื่อนางย่างเท้าเข้ามาสู่ห้องทรงงานด้านใน สิ่งที่นางคิดว่าง่าย กลับกำลังทำให้นางต้องพบกับความยากลำบากเข้าเสียแล้ว....
..........................
“อือ....ปละ ปล่อย...”
“ปล่อยให้ข้าเข้าครองครองกายเจ้า...เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่าที่พระชายาของข้า?”
ตัวอย่าง(คัทซีน)
จิ้งอ๋องถอนร่างลุกขึ้นยืน ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่คิดที่จะวางตา ความงามของหานหลิงนั้นเป็นที่ประจักษ์ ภาพเสมือนของนางมีหรือที่เขาจะมิเคยได้เห็น เพียงแต่ความคล้ายคลึงนั้น...
“เจ้าดูดีกว่าภาพอัปลักษณ์นั่นตั้งเยอะ” ปลายมือชี้ตรงไปยังกระดาษหนาที่วางแผ่หราอยู่บนโต๊ะไม้ด้านข้าง
“แน่นอนว่าข้ารูปงาม” ไม่ต้องการถ่อมตัว
ทั้งยังเชิดหน้าชูคอแสดงออกถึงความมาดมั่นที่มีอย่างเต็มที่
“เจ้าไม่แม้แต่จะเขินอายเลยสักน้อย หรือว่า... บุตรีเพียงคนเดียวของเสนาบดีหาน จะเป็นดอกพุดตานที่ถูกเปลี่ยนสีไปเสียแล้ว”
“คารมคมคาย วาจาเชือดเฉือนน้ำใจคน หากมิได้มาเห็นกับตา ได้ยินกับหู ข้าคงไม่อาจเชื่อได้ว่าเป็นฉินจิ้งอ๋องผู้นี้”
“นี่เจ้า! กล้าสบประมาทข้าถึงเพียงนี้...คงมิได้มาเพราะตรวจสอบความสามารถเรื่องความสมชายของข้าหรอกหรือ?”
“นี่ท่าน!”
“อะไรเล่า? วันนี้ข้าค่อนข้างที่จะอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวเสียด้วย มีเจ้ามาเป็นเพื่อนเล่นด้วย สมองคงจะปลอดโปร่งขึ้น”
ขวับ! “อ๊ะ! ปล่อยข้านะ!” เพียงนางเผลอกระพริบเปลือกตาเท่านั้น ร่างอรชรก็ตกลงไปอยู่บนตักแกร่งด้วยการกอดเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวของเขาเสียแล้ว
เจ้าของเรือนกายอรชรด้วยความสวยอันทรงเสน่ห์ ทำให้จิ้งอ๋องถึงกับร้อนผ่าวไปทั่วลำกายแกร่ง
“สตรีเอ๋ย!... คิดจะลงมือกับข้า เจ้าสืบดูความสามารถของข้าอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?”
“นี่ท่าน...” เรี่ยวแรงมากมายที่ไม่เคยคิดว่าเขาจะมี มากกว่าบุรุษที่นางมักจะต่อกรด้วยหลายส่วน ทำให้ข้อมือเล็กของหานหลิง ถูกเขาตรึงเอาไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงข้างเดียว...ง่ายดายเพียงนั้น
ใบหน้าหล่อเหลา ทั้งองคาพยพทั้งห้างามพร้อมราวกับผ่านความตั้งใจแกะสลักจากช่างฝีมือชั้นดี ทำให้สตรีที่อยู่ในอาณัติ ถึงกับไม่ไหวติงไปชั่วคราว
ดวงตาคมปราบมองสบประสานดวงตาเมล็ดซิ่งของนาง เรียวปากหยักสวยได้รูปของจิ้งอ๋องยกสูงข้างหนึ่ง เขาตั้งใจกดปลายคางลงต่ำจรดถูกติ่งหูเล็กนุ่มนิ่มของนาง
กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทว่ากลับมีผลต่ออัตราการเต้นของก้อนเนื้อเล็กในอกด้านซ้ายของนางนัก
“อะไรเล่า? เจ้ามีฝีมือมากมายมิใช่หรือ? จากที่คนของข้ารายงานมา เจ้าสามารถจัดการชายร่างใหญ่กว่าเจ้าในคราวเดียวพร้อม ๆ กันถึงห้าคนเชียวนะ”
นัยน์ตาคมประกายเต็มไปด้วยความท้าทาย ขณะที่คนใต้อาณัติยังคงสู้ไม่ถอย
“สอดรู้เรื่องส่วนตัวของข้า เห็นได้ชัดว่าท่านว่างงานมากนัก” น้ำเสียงย้ำประโยคตอนท้าย หากแต่คนฟังยังคงไม่ยีหระ แววตายังคงปริ่มเต็มไป ด้วยความท้าทาย ตอบกลับคำพูดของนางอย่างสมน้ำสมเนื้อ
“คงว่างพอ ๆ กับเจ้ากระมัง ว่าที่พระชายาของข้า”
“ปล่อยข้าน่ะ! ไม่อย่างนั้นท่านกับข้า อ๊ะ อุ๊บส์!” กลีบปากสีชาดถูกเรียวปากอันทรงเสน่ห์ของเขาปิดไว้อย่างสนิทแนบแน่น
เรียวปากนุ่มนิ่มอันน่าหลงใหล กำลังทำให้เขาเผลอปล่อยความก้าวร้าวหยาบโลน บดบี้ขยี้สองกลีบปากบนล่างของนางรุนแรง หญิงสาวเผลอเผยออ้าปาก หมายจะกล่าวติเตียน ทว่าเขากลับ อาศัยจังหวะแสนสั้น แทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าครองครองโพรงปากหวานของนาง
“อืมมมม” หานหลิงเผลอครางแผ่วออกมาจากลำคองามระหง
เปลือกตาบางสวยของนางปรือพริ้ม ฉ่ำเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย
หนึ่งในนั้นที่เขาสัมผัสได้คือนางกำลังถูกเขาทำให้เกิดความเร้าใจ แรงเบียดเสียดจากลิ้นร้อนผสานเรียวปากอุ่น ผ่านท่าทางการจุมพิตอย่างดูดดื่ม ทำให้สตรีพรหมจรรย์เช่นนางเผลอระทวย อ่อนยวบลง
หญิงสาวเผลอเอนกายพิงแผงอกแกร่งของเขา ทันทีที่อ๋องหนุ่มปล่อยอิสระของนางกลับคืน
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก หานหลิงรีบตักตวงสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดเล็กทั้งสองข้าง เมื่อเค่อกว่าที่ผ่านมา ใช่ว่านางเกือบขิตสู่สวรรค์ เพราะขาดอากาศหายใจหรอกหรือ
“คนเลว!” เพี๊ยะ!
ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ สะบัดเอียงไปตามแรงมือ แม้จะไม่แรงมากพอที่จะทำให้เขาได้รับความเจ็บปวด หากแต่ก็หนักแน่นพอที่จะทำให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาราวกับหยกชั้นดี ขึ้นรูปเป็นรอยนิ้วเรียวทั้งห้า
“กล้ามาก!”
“ปล่อยข้า!”
“เจ้ารนหาเรื่องเองแท้ ๆ เหยื่อวิ่งเข้าปากราชสีห์ แล้วข้าจะแปลงกายเป็นแมวเชื่องเพื่อหนูร้ายกาจเช่นเจ้าได้อย่างไรกัน มานี่!”
“ว๊าย! ปะ ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่อย่างนั้นข้าจะ...”
“จะร้องครางให้ข้าฟังความเสียวกระสันของเจ้าทั้งคืน...เป็นเช่นนี้สิจึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน!”
“อ๋องบ้า อ๋องโรคจิต ปล่อยข้านะ ปล่อย!”
**นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น**
เขียนโดยนามปากกา ลู่ฟางซู
ภาพปกสำเร็จ
เผยแพร่ในรูปแบบของอีบุ๊กครั้งแรก
มิถุนายน 2567
ธอ ผู้เดินทางข้ามมิติเวลามาหล่นตุ๊บ! อยู่ในยุคโบราณที่เหนือกว่าจินตนาการ และไม่ใกล้เคียงกับบันทึกประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา แม้ลมหายใจจะยังอยู่ดี แต่ร่างกายกลับบิดเบี้ยวผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทว่าท่ามกลางความโชคร้าย ยังคงมีเคราะห์ดีหลงเหลืออยู่บ้าง ที่บังเอิญ เขา ผู้นั้นได้ผ่านทาง และให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังเป็นที่พึ่งเดียวที่ซูฮวามีได้ในเวลานี้ เพียงแต่ว่า.... เธอจะต้องทำสัญญาให้กับเขา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเขาผู้นั้นยังสร้างเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้นางแลกกับความเป็นอิสระ และได้กลับไปยังโลกเดิมที่นางจากมา ดูเหมือนว่าอุปสรรคของนางจะเป็นเพราะโชคชะตาขีดลิขิต ทว่าซูฮวาก็ยังคงหวังว่าจะสามารถหลบหนีไปให้จงได้... ------ เขาเป็นถึงองค์ราชาพยัคฆ์ผู้เก็บซ่อนโฉมหน้าเอาไว้ในหน้ากากทองคำล้ำค่า แต่เพราะถูกสาปให้เป็นปีศาจพยัคฆ์ จะคืนร่างมนุษย์ได้วันละ 2ชั่วยามเท่านั้น เหตุเกิดมาจากหินมรกต ที่เขาหยิบเอามาจากเผ่าปีศาจเสือโดยพละการ เมื่อครั้งที่ได้ออกไปล่าสัตว์ เพราะหินก้อนนี้ ทำให้เขาต้องคำสาป แต่เขาก็ไม่กล้าขว้างมันทิ้งเพราะกลัวว่าจะคืนร่างเดิมไม่ได้อีก ทำให้ต้องทนอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี ด้วยความเกลียดชัง ผ่านความทุกข์ทรมานมาแรมปี ... แต่แล้วคืนหนึ่งในขณะที่ร่างกำลังจะคืนสู่ฐานะเดิม ก็ได้เกิดนิมิตรประหลาด ในฝันนั้น...ปรากฏเป็นภาพของดาวหางสีสว่างประหลาด พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า หล่นใส่หน้าอกหนาของเขา จนทำให้ได้รับความเจ็บปวด อีกทั้งหน้ากากทองคำของเขาก็ร่วงหล่น ในภาพนิมิตเลือนรางนั้น ปรากฏเป็นเงาภาพของสตรีสวมชุดสีขาวราวกับดาวหาง ใบหน้าของนาง ทำให้เขาไม่อาจละเลย..
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
สวัสดีครับพี่สาวตัวน้อยของผม เราสองคนไม่ได้เจอกันมาก็นานแล้วนะ พี่คงไม่รู้ว่าปีนี้ผมก็สูงขึ้นอีกแล้ว แต่ผมรู้นะ ว่าพี่น่ะไม่สูงขึ้นเลยสักนิด พอถึงวันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง พี่จะจำผมได้ไหมนะ😊
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ