สวี่ซือเหยาเป็นคุณหนูที่แสนโง่งม ที่ถูกแม่เลี้ยงจัดฉากให้เสียกับบุรุษต่ำต้อย นางเดินตามเส้นเรื่องเหมือนคนโง่ที่ไร้สมอง เมื่อเดินทางมาถึงจุบจบของชีวิตจึงได้รู้ว่า ตัวเองเป็นเพียงตัวประกอบอย่างน้องสาวตัวร้ายในนิยายเท่านั้น แต่แล้วสวรรค์เหมือนจะเห็นใจตัวประกอบไร้ค่าอย่างนาง ถึงได้ให้นางกลับมาแก้ไขอดีต ในเมื่อนางหวนคืนกลับมาแล้ว นางเอกของเรื่องก็อย่าฝันว่าจะได้โจวเยี่ยนเฉินสามีนางไปครอบครอง เพราะตอนนี้นางมีความคิดเป็นของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีนักเขียนบงการจากปลายปากกา ต่อไปนี้นางจะสร้างครอบครัวของนางเองด้วยสองมือและหัวใจ ส่วนพี่ชายที่เป็นตัวร้ายเมื่อต้นเหตุคือตัวนางเอง ฉะนั้นหากนางไม่ตายพี่ชายที่แสนดีของนางก็จะไม่กลายเป็นตัวร้าย เส้นทางชีวิตของสวี่ซือเหยาจะเป็นอย่างไร ติดตามในเรื่อง ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม ได้เลยเจ้าค่ะ
สองข้างทางเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ถนนทุกเส้นในเมืองหลวงถูกประดับประดาเพื่อฉลองชัย โคมไฟสีแดงติดเรียงรายเป็นทิวแถว ประกาศผลงานอันยิ่งใหญ่ที่จวิ้นอ๋องนำกลับมา
กระถางดอกไม้ถูกนำมาตั้งเรียงตั้งแต่หน้าประตูวังกระจายออกไป เสมือนเกียรติยศที่กำลังเบ่งบานชูช่อ เสียงชื่นชมยินดีและสรรเสริญดังแซ่ซ้องไปทุกหัวมุมเมือง
ช่างแตกต่างจากตัวนางในตอนนี้เสียจริง…
สตรีร่างผอมแห้งแทบเหลือแต่หนังติดกระดูก เดินโซเซเจียนล้มทุกย่างก้าว ดวงตาว่างเปล่าเหมือนปลาตาย สวี่ซือเหยาเป็นถึงคุณหนูสกุลสวี่ บิดาเสนาบดีมีจวนใหญ่โตโอ่อ่า มีเบี้ยเลี้ยงให้ใช้จ่ายได้อย่างฟุ่มเฟือยทุกวัน
แต่ตอนนี้นางมีสภาพไม่ต่างจากขอทานคนหนึ่ง หรือบางทีขอทานอาจมีสภาพดูดีกว่านางด้วยซ้ำ ผิวที่เคยเนียนนุ่มแห้งแตกด้วยไม่ได้รับการดูแลอย่างเก่า ริมฝีปากแห้งผากคล้ายเอาทรายมาทาเคลือบ สีหน้าเศร้าหมองเกินทนดูได้
ตอนนี้นางเป็นเพียงหญิงบ้าเสียสติที่ได้แต่เดินเตร่ไปมาด้วยหัวใจล่องลอย และสวี่ซือเหยาหวังว่ามันจะหลุดลอยไปจริง ๆ ในสักวัน ดวงใจของนางแตกสลายไม่มีชิ้นดี หากแหลกลาญเป็นผุยผงเสียวันนี้เลยคงดีกว่า
ชีวิตคุณหนูสกุลสวี่เคยดีกว่านี้มาก นางเคยมีเสื้อสวย ๆ ใส่ มีปิ่นปักผมหลายอัน มีสาวใช้คอยติดตามดูแล
เรื่องนี้มันผิดพลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม้จะเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ผิดพลาด แต่นางก็เต็มใจอยู่กับเขาในภายหลังมิใช่หรือ หรือว่านี่เป็นทัณฑ์สวรรค์ ที่ลงโทษนางเพราะบันดาลโทสะกับเขาในคราวแรก
หนักหนาไปหรือไม่กับสิ่งที่ข้าสูญเสีย
นางกลายเป็นหญิงบ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เสียสามี หรือตอนที่เสียลูกไปกัน…
สวี่ซือเหยาไม่เข้าใจ ดวงตาหงส์เลื่อนลอยไม่เหลือประกายใด ๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงพันกันเป็นก้อนจากการที่ไม่ได้สางมานาน เสื้อที่ขาดแหว่งและมองไม่ออกว่าอดีตมันเคยเป็นสีอะไรมาก่อน สภาพของนางยามนี้น่าสมเพชจนสุนัขยังไม่กล้าเห่าไล่ แล้วเสียงเฮโลก็ดังขึ้น เมื่อคนที่อยู่นอกสุดมองเห็นธงที่ปักตราประจำแคว้นเคลื่อนขบวนมาแต่ไกล เขาตะโกนบอกต่อกันเป็นทอด ๆ ว่า จวิ้นอ๋องมาถึงแล้ว!
ผู้คนเบียดเสียดเดินมุ่งไปยังถนนสายหลัก หลังได้ยินเสียงแตรเป่าเป็นสัญญาณ ฝูงชนแน่นขนัดจนดันสวี่ซือเหยาให้เคลื่อนตัวไปตามคลื่นมนุษย์นั้น ขบวนเสด็จของจวิ้นอ๋องที่กลับมาจากชายแดนดูยิ่งใหญ่สมความดีความชอบที่ได้กระทำ ชัยชนะหลายต่อหลายครั้งได้มาเพราะเขาคนนี้จนจวิ้นอ๋องได้ฉายาว่าเทพสงคราม
ศัตรูที่ว่ามีการป้องกันแน่นหนาล้วนแตกพ่ายไปเพราะแผนการอันแยบยลของเขา
คนยังดันกันออกมาด้านหน้ามากขึ้น แต่สภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าขอทานนี้ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ พวกเขาต่างผลักไสนางให้ออกห่าง ทำสีหน้ารังเกียจอย่างโจ่งแจ้ง เพราะไม่มีใครสนใจหรือเอาเรื่องหากรังแกสตรีวิปลาสผู้นี้
"เกะกะจริง หลบไป"
"อย่ามาเบียดข้าสิ นางคนสกปรกนี่"
"ทำไมนางมาอยู่ที่นี่ได้ ไล่นางไปเลยนะ"
สารพัดเสียงขับไล่ไสส่งดังผสมโรงกันจนนางคร้านจะฟัง ได้ยินมาบ่อยเสียจนความขมขื่นนี้ชินชาไปเสียแล้ว สวี่ซือเหยาประคองร่างตัวเองให้ยืนขึ้นอย่างทุลักทุเล เดินสวนทางกับผู้คนที่มุ่งหน้ามายังถนนสายหลักนี้
"จวิ้นอ๋องใกล้มาถึงหรือยัง ข้ายอมทิ้งร้านเพื่อมาดูเขาท่านเลยนะ"
"พึ่งผ่านประตู อีกเดี๋ยวคงถึงแล้ว"
"ชื่นชมบุรุษอื่นออกนอกหน้าปานนี้ สามีเจ้าไม่ทำไหน้ำส้มแตกหรือ"
"เขาน่าชื่นชอบยิ่งกว่าข้าเสียอีก เอาความมุ่งมั่นเป็นแบบอย่างเชียวล่ะ"
"คราวนี้สงบศึกหรือปราบปรามสำเร็จ มีใครได้ยินข่าวบ้าง"
"ไม่ใช่จะติดประกาศแจ้งพรุ่งนี้หรอกหรือ"
บทสนทนาที่เต็มไปด้วยความสงสัยใครรู้ ดังมาจากทุกตรอกซอกซอย แต่สวี่ซือเหยาหาได้สนใจไม่ นางแค่อยากไปจากตรงนี้แต่ฝูงชนที่เบียดเสียดกันมาเหมือนไม่เข้าใจผลักไสนางแต่ก็ไม่เปิดทางให้ได้ไปไหน นางอยากออกไปจากที่แออัดแห่งนี้เต็มทน
ผู้ถือธงรบของแคว้นยิ่งใกล้มาถึงตรงนี้แล้ว สวี่ซือเหยาเห็นผืนธงโบกสะบัดอย่างชัดเจน ขบวนอาชาของทหารม้าเดินย่ำเปิดทาง กลองรบที่ได้พักหลังศึกสงบแล้วถูกตีด้วยความฮึกเหิม เพื่อประกาศชัยชนะให้เป็นประจักแก่ชาวบ้านที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง ชายผู้หนึ่งถูกนางยืนขวางทางก็ผลักอกออกอย่างแรงจนหญิงสาวหน้าคะมำอย่างไม่ทันตั้งตัว
พอดีกับที่ม้าของจวิ้นอ๋องวิ่งมาถึง มันตกใจร้องลั่น ยกขาหน้าขึ้นด้วยอาการตื่นตระหนก กระทั่งเหยียบศีรษะนางไปโดยไม่ตั้งใจ
ทุกอย่างเงียบลงฉับพลัน ก่อนดังเซ็งแซ่ขึ้นมาราวกับเสียงฝูงนกกระพือปีก เสียงกรีดร้องอย่างสยดสยองดังหวีดขึ้นจนเป็นคลื่นส่งไปถึงคนรอบ ๆ
"มีคนตาย!"
"ตายแน่หรือเปล่า!?"
"นั่นหญิงบ้าคนนั้นใช่ไหม!"
"คุณพระช่วย!"
ผู้ที่ตกอกตกใจและแสดงความเห็นใจออกมา ส่วนใหญ่เป็นผู้ชราที่ผ่านโลกมามาก ชายคนนั้นที่ผลักขอทานสปรกถูกประณามทางสายตาในทันทีจนต้องรีบเดินหนีหลบไป แต่การทำให้ขบวนเสด็จหยุดชะงักเป็นคนละเรื่องกัน
หากสวี่ซือเหยาเป็นผู้ไม่หวังดีที่ตั้งใจก่อกวนขึ้นมา คงถูกบั่นคอในทันที แต่เห็นสภาพของหญิงสาววิปลาสผู้นี้แล้วพวกเขาก็ปัดตกความคิดที่ว่านั่นไป
สวี่ซือเหยาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตนเองมาอยู่ตรงนี้ รู้เพียงว่าสติเริ่มเลือนรางลงเต็มที ทั้งมึนหัวและวิงเวียนจนแรงจะพยุงตัวให้ลุกขึ้นยังไม่มี
เสียงเอะอะโวยวายดังอยู่พักหนึ่ง ก็มีพลทหารมาลากร่างนั้นออกไปไม่ให้เป็นที่ระคายสายตา สวี่ซือเหยาถูกดึงขึ้นจากพื้นอย่างไม่สนว่าจะเป็นหรือตาย
ร่างกายที่ทรุดโทรมจากอาการป่วยสะสมทำให้นางกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เปรอะเปื้อนจนย้อมชุดมอมแมมให้กลายเป็นสีชาด หญิงวิปลาสที่พวกชาวบ้านพากันเรียกหมดลมหายใจไปในทันที
กลายเป็นเพียงร่างติดกระดูกที่ถูกหิ้วไปมาอย่างน่าเวทนาเกินจะทนดู
"อะไรเนี่ย น่าขยะแขยงจริง" พลทหารนายหนึ่งเอ่ยออกมาทั้งแสดงสีหน้ารังเกียจชัดเจน
"ลากไปทิ้งไว้สักที่ค่อยมาจัดการแล้วกัน ขบวนต้องเดินต่อ"
จวิ้นอ๋องที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่แรก รู้สึกเวทนาสตรีบ้าผู้นั้นยิ่งนักจึงห้ามปรามไว้
"อย่าทำตัวไร้ศีลธรรมให้มาก พวกเราไม่ได้อยู่ในสนามรบ และนั่นก็เป็นพลเมืองคนหนึ่งของฝ่าบาท จัดพิธีส่งวิญญาณให้นาง" เขาตำหนิพอประมาณ แม้จะดูเหมือนเป็นเช่นนั้นแต่จวิ้นอ๋องก็เด็ดขาดในการสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชา
พลทหารผู้นั้นรีบคุกเข่ากล่าวขออภัยในทันที ก่อนจะพาร่างที่พึ่งหมดลมหายใจไปนั้นออกไปจากถนน
ร่างของสวี่ซือเหยาถูกนำไปพักไว้ในโลงไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างลวก ๆ เป็นการชั่วคราว
หลังหมดลมหายใจไป สวี่ซือเหยาก็ลืมตาขึ้นใหม่ในร่างโปร่งแสงที่ลอยอยู่เหนือพื้น นางรับรู้ว่ามีผู้ใจบุญทำพิธีส่งวิญญาณให้ แม้จะไม่ใช่งานเป็นทางการอะไรแต่แค่ไม่โยนร่างไร้วิญญาณของนางลงเหวไปให้แร้งจิกทึ้งก็ถือว่าเมตตามากแล้ว สวี่ซือเหยามองร่างตัวเองที่กำลังมอดไหม้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะนอกจากตัวนางในตอนนี้ก็คงไม่มีเครือญาติที่ไหนมายืนส่งอีกแล้ว ที่พวกเขาเผานางนั้นพอจะเข้าใจ การจะมีสุสานตัวเองนั้นต้องมีญาติพี่น้องหรือตระกูล แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงสตรีวิปลาสคนหนึ่งเท่านั้น ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
ระหว่างที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้โชติช่วงอยู่นั่น อยู่ ๆ ร่างวิญญาณของนางก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมากระชากไป สวี่ซือเหยากรีดร้องลั่นด้วยความตก สิ่งนั้นลากนางไปจนมองไม่เห็นทิวทัศน์รอบข้างได้ชัดเจน คล้ายว่าอยู่ในวังน้ำวนสีดำอย่างไรอย่างนั้น
ยังไม่ทันได้คลายสงสัย สวี่ซือเหยาก็รู้สึกวิงเวียนจนแทบอาเจียนออกมาแม้ในท้องจะไม่มีอะไรให้สำรอกออกตั้งแต่ก่อนตายแล้วก็ตาม ร่างโปร่งแสงของนางที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง เสมือนตกจากหน้าผาสูง ดิ่งลงไปเบื้องล่างที่ไม่รู้ว่าปลายทางคือที่ไหน
ก่อนเสี้ยวสติสุดท้ายจะหายไปอีกครั้ง สวี่ซือเหยาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่โอบประคองร่างโปร่งแสงของนางเอาไว้จนการกระทั่งการรับรู้จากประสาทสัมผัสทั้งหมดถูกตัดขาดโดยแท้จริง...
เฉินซือหยู่ นักวิทยาศาสตร์มือทองเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ทำให้ต้องย้อนเวลากลับมาในปี 1978 ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนต้องเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความยากลำบาก ทว่ากลับมาเกิดใหม่ในร่างของใครไม่มา กลับต้องมาอยู่ในร่างของสะใภ้สามผู้อ่อนแอแห่งบ้านสกุลจาง เฉินซือหยู่ คนนี้เป็นที่ชิงชังของแม่สามีกับสะใภ้คนอื่นๆ ในบ้าน ตลอดช่วงที่สามีของเธอไม่อยู่ หญิงสาวจึงถูกข่มเหงรังแกจนต้องนอนกินน้ำตาอยู่ทุกคืน ทว่าเมื่อเฉินซือหยู่คนใหม่ย้อนเวลามาแล้ว หญิงสาวจึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ เธอกลายเป็นสะใภ้ปากร้ายชนิดร้ายมาจะร้ายกลับยิ่งกว่าเพื่อเอาตัวรอด ยามแยกบ้านกันออกมาแล้ว เฉินซือหยู่ก็ต้องพยายามหาทางสร้างอาชีพให้กับตนเอง เพื่อให้สามีอย่าง จางซือหยวน ไม่ผิดหวังที่เขายินยอมมีปัญหากับครอบครัวด้วยการพาเธอแยกบ้านมาอยู่ในค่ายทหาร หนทางข้างหน้าแม้จะยากแค้นมากเพียงไร เฉินซือหยู่ก็ไม่หวั่น เธอจะสร้างอนาคตของครอบครัวบ้านสามด้วยสองมือของตนเองให้จงได้!
เว่ยหย่งฮวาดาราตกกระป๋อง ที่โชคชะตาเล่นตลก ให้เธอฟื้นคืนชีพในโลงศพ กลายเป็นคุณหนูสามของจวนเสนาบดีตระกูลเว่ย สตรีที่มีชื่อแซ่เดียวกัน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วนางขอเป็นคุณหนูสามที่จะสร้างตัวตนให้เป็นที่เลืองลือในโลกจีนโบราณนี้ให้ได้ เปิดร้านแพรลับแฟชั่นทันสมัยและงดงามไม่เหมือนใคร ชื่อเสียงโด่งดังจนมีตัวปลอมโผล่มาอ้างเป็นเจ้าของร้านแพรลับงานนี้คุณหนูสามเจ้าของร้านแพรลับตัวจริงไหนจะยินยอม ชีวิตใหม่ของเว่ยหย่งฮวามีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน ไหนจะหาเงินเพื่อไม่ให้ตัวเองไร้ค่า ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่สร้างปัญหาให้ เรื่องราวของคุณหนูสามจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามในเรื่องได้เลยเจ้าค่ะ +++++ เมื่อดาราสาวต้องกลายเป็นคุณหนูสามตระกูลเว่ย เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ไหนต้องหาเงิน ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่ชอบก่อเรื่องให้ ไหนจะมียอดบัณฑิตแห่งต้าซานมาตามเกี้ยว เป็นเว่ยหย่งฮวาไม่ง่ายนัก แต่นางจะฝ่าทุกวิกฤตพร้อมมีชื่อเสียงเลื่องลือ!
เพราะชาติก่อนคุณหมอสาวโง่เขลาเชื่อมั่นในความรัก จึงถูกวางยาพิษจนตาย ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเป็นสวีอี้หลิง บุตรสาวของท่านโหวซึ่งนางเองก็ถูกวางยาเช่นกัน การกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้นางจะแก้ไขชะตาของคุณหนูที่น่าสงสารคนนี้ให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้ สวีอี้หลิงคนนี้จะไม่คิดใส่ใจสามีที่ตนเองไม่ได้เต็มใจรับเป็นอันขาด ทว่าต่อให้ไม่สนใจ ถึงอย่างไรนางก็ต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้มากความสามารถ ดังนั้นนางจะเป็นสตรีเรือนหลังที่เอาแต่จมทะเลน้ำตา และอ่อนแอไม่สู้คนไม่ได้! ต่อให้สามีไม่รักนางหรือชิงชังนางก็ช่าง นางเองก็มิได้ต้องการเขาเป็นสามีสักหน่อย แค่เพียงมอบหนังสือหย่าให้เท่านั้น สวีอี้หลิงก็พร้อมจากไปทันที ชีวิตสองชาติภพนางจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกแล้ว!
เมื่อดาราสาวต้องกลายเป็นคุณหนูสามตระกูลเว่ย เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ไหนต้องหาเงิน ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่ชอบก่อเรื่องให้ ไหนจะมียอดบัณฑิตแห่งต้าซานมาตามเกี้ยว เป็นเว่ยหย่งฮวาไม่ง่ายนัก แต่นางจะฝ่าทุกวิกฤตพร้อมมีชื่อเสียงเลื่องลือ!
เว่ยหย่งฮวาดาราตกกระป๋อง ที่โชคชะตาเล่นตลก ให้เธอฟื้นคืนชีพในโลงศพ กลายเป็นคุณหนูสามของจวนเสนาบดีตระกูลเว่ย สตรีที่มีชื่อแซ่เดียวกัน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วนางขอเป็นคุณหนูสามที่จะสร้างตัวตนให้เป็นที่เลืองลือในโลกจีนโบราณนี้ให้ได้ เปิดร้านแพรลับแฟชั่นทันสมัยและงดงามไม่เหมือนใคร ชื่อเสียงโด่งดังจนมีตัวปลอมโผล่มาอ้างเป็นเจ้าของร้านแพรลับงานนี้คุณหนูสามเจ้าของร้านแพรลับตัวจริงไหนจะยินยอม ชีวิตใหม่ของเว่ยหย่งฮวามีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน ไหนจะหาเงินเพื่อไม่ให้ตัวเองไร้ค่า ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่สร้างปัญหาให้ เรื่องราวของคุณหนูสามจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามในเรื่องได้เลยเจ้าค่ะ
นักฆ่าสาว ผู้มีชีวิตโดดเดี่ยวและเย็นชาอย่าง หม่าเยี่ยนถิง ถูกองค์กรหลอกใช้จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ยามได้โอกาสเกิดใหม่กลับกลายเป็นมารดาผู้รันทดในยุคจีนโบราณ หม่าเยี่ยนถิง เดิมทีก็เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ หากแต่ชีวิตพลิกผัน ทำให้ต้องถูกขับไล่ออกจากบ้าน กลายเป็นหญิงสาวที่ยากไร้ และต้องอุ้มชูลูกฝาแฝดเพียงลำพัง สี่ปีของความยากแค้น และความเจ็บช้ำทางใจที่ถูกสามีทอดทิ้ง ทำให้หม่าเยี่ยนถิงตรอมใจตายจาก แต่เมื่อหม่าเยี่ยนถิงฟื้นตื่น และกลายเป็นคนใหม่ นักฆ่าสาวจึงต้องหาทางผ่านพ้นความยากลำบากนี้ไปให้ได้ แม้ว่าเรื่องราวชีวิตของเจ้าของร่างจะยังเป็นหมอกดำที่หม่าเยี่ยนถิงคนใหม่ไม่อาจเข้าถึง แต่เธอก็จำต้องเลี้ยงดูเด็กน้อยสองคนให้ดี แต่แล้วเหตุการณ์กลับผลิกผันเมื่อเป้าหมายที่สังหารกลับมาเกิดใหม่ด้วย เรื่องราวจะจบเช่นไร ติดตามในเรื่อง ฮูหยินชาวไร่ท่านแม่ทัพ
เจียงเหว่ยยี่ และ กู้เหยียนอันเป็นคู่รักในวัยเด็กมา 12 ปีแล้ว และคบกันมา 3 ปีแล้ว การแต่งงานระหว่างตระกูลเจียง และตระกูลกู้นั้นยิ่งใหญ่มากจนผู้หญิงทุกคนในเมืองเอต่างก็อิจฉา ในวันแต่งงาน สถานที่จัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยแขกและเพื่อนต่างๆ แต่แล้วเมื่อมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาทำให้กู้เหยียนอันละทิ้งเจียงเหว่ยยี่ ซึ่งแต่งตัวอย่างหรูหราสวยงามแล้ว การหลบหนีจากงานแต่งงานของกู้เหยียนอันทำให้เจียงเหว่ยยี่ดลายเป็นตัวตลกของเมืองเอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่คนในเมืองเหล่านั้นได้หัวเราะเยาะเท่าไร ก็เห็นเจียงเหว่ยยี่โพสต์ใบทะเบียนสมรสระหว่างเธอกับเสิ่นจินโจว: "แต่งงานแล้ว" จากนั้นไม่นาน เสิ่นจินโจวที่ไม่ได้โพสต์ข้อความมาหลายปีก็โพสต์ว่า "อ่านแล้ว" บางคนบอกว่าครั้งนี้เจียงเหว่ยยี่โชคเข้าข้าง และสูญเสียของเล็กน้อยไป แต่กลับได้ของมีค่ามากกลับมา เพราะกู้เหยียนอันเทียบไม่ติดเสิ่นจินโจวแม้แต่นิดเลย เมื่อเผชิญกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความอิจฉาเหล่านี้ เจียงเหว่ยยี่ก็ตอบเห็นด้วยทุกครั้งอย่างตรงไปตรงมา จนกระทั่งวันหนึ่ง นักข่าวการเงินตัวกล้าถามเสิ่นจินโจวว่าเขาคิดอย่างไรกับการแต่งงานของเขา เมื่อทุกคนคิดว่าเสิ่นจินโจวจะเยาะเย้ยเจียงเหว่ยยี่อย่างหยิ่งผยอง แต่เขากลับพูดอย่างใจเย็นว่า: "ผมสมหวังแล้ว"
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" “จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ” “ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ”
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
นิยายสายบาป อีโรติค เรื่องราวของแม่เลี้ยงแสนสวยที่มีสัมพันธ์สวาทกับลูกเลี้ยงชายทั้งสามคน แถมยังแอบมีชู้นอกบ้านอีกมากหน้าหลายตา...
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .