‘พี่ธีร์ไม่เคยรักกวางเลยหรือคะ แล้วพี่ธีร์แต่งงานกับกวางทำไม’
‘กวางถามทำไม ทั้งที่รู้แก่ใจดีทุกอย่างอยู่แล้ว...หรือกวางอยากให้พี่รู้สึกผิด’
‘แต่พี่เลือกแต่งงานกับกวาง ทั้งที่พี่ชอบ...’
เธอพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็พูดสวนขึ้นมา น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกว่าเขาเริ่มหงุดหงิดแล้ว
‘กวางต้องยอมรับก่อนว่าตอนนั้นกวางเต็มใจแต่งงานกับพี่ พี่ถามความสมัครใจของกวางแล้ว พี่บอกเงื่อนไขการแต่งงานของเราทุกอย่าง กวางยืนยันว่าเข้าใจและรับได้ ดังนั้นการแต่งงานของเราจึงเกิดขึ้น...ส่วนเรื่องที่ทำไมพี่เสนอเงื่อนไขแต่งงานให้กับกวางแทนที่จะเป็นพี่สาวของกวาง เพราะพี่เห็นว่ากวางเป็นคนมีเหตุมีผล กวางดูเป็นผู้ใหญ่ พี่เลยเลือกกวาง เมื่อเรามาจับมือกัน พ่อของกวางก็ขายหุ้นของธุรกิจครอบครัวให้กับราชเวคิน กรุ๊ปได้โดยไม่ขัดกับพินัยกรรมที่บอกให้ขายและถ่ายโอนหุ้นให้คนในครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวของกวางได้เงินไปใช้หนี้ พ่อของกวางได้เกษียณงานและได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสบายๆ ส่วนพี่สาวและพี่ชายของกวางก็ได้เงินไปตั้งตัว มันวินวินกันทุกฝ่าย’
‘พี่ธีร์พูดถึงแต่เรื่องเงินและผลประโยชน์’
‘แล้วจะให้พี่พูดถึงเรื่องอะไร? ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยหลอกกวาง พี่พูดชัดเจนทุกอย่าง ครอบครัวของกวางเคลียร์กับเรื่องนี้ เมื่อธุรกิจบรรลุผล ทุกอย่างก็ควรจบ!’
จบ...เขาพูดง่ายเหลือเกิน แต่สำหรับเธอนั้นมันยากแสนยาก
เธอแต่งงานกับเขาหกเดือน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เขาพาเธอไปเที่ยวทั้งต่างจังหวัดทั้งต่างประเทศ เขาเทกแคร์เธอ เขาสร้างช่วงเวลาแห่งของความสุขให้เธอจดจำ...
เธอยอมเป็นของเขาหลังจากแต่งงานกันได้เพียงหนึ่งเดือน เธอยินดีที่จะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและตามพฤตินัย เขาไม่ได้บังคับ...ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเธอเอง
‘พี่รู้ว่าเรื่องนี้สุ่มเสี่ยงกับความรู้สึก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับใคร คนคนนั้นต้องรับผิดชอบตัวเอง จัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ เพราะเราต้องยอมรับว่ามันเป็นเพียงเรื่องงานและผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน’
ชีวาพรหายใจขาดห้วง ยกสองมือขึ้นมากำแนบหัวใจ หัวใจของเธอกำลังแหลกสลาย...เธอถอยมาตั้งหลักห่างจากเขาและครอบครัวของเธอตั้งไกล เธอไม่ได้ติดต่อใคร เธอทำตัวสูญหายไปจากโลกใบนี้ ทว่าความรู้สึกของเธอกลับไม่ได้ก้าวไปไหนเลย มันยังวนเวียนอยู่ที่เดิม เธอยังย้ำคิดย้ำทำอยู่กับเรื่องเดิมๆ...
ชีวาพรยังมองไม่เห็นทางเลยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เธอถึงก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้