ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / มายาสีฝุ่น
มายาสีฝุ่น

มายาสีฝุ่น

5.0
72 บท
610 ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เมื่อ พราวพิชชา สาวสวยจากเมืองเพิร์ท กลับมายังเชียงราช โดยใช้สิทธิ์ลาพักร้อนสิบห้าวันมาทำภารกิจบางอย่าง...ทั้งหมดก็เพื่อน้องสาว อะไรๆ ก็เป็นไปตามแผน มันดูสำเร็จไม่ยาก แต่แล้วก็มีมนุษย์ป่าเถื่อนอย่าง รัชภาคย์ โผล่มาทำให้แผนของเธอล่มไม่เป็นท่า พราวพิชชาคิดว่าตัวเองแกร่งพอ รับมือเขาได้แน่นอน คราวนี้จะตอกกลับเขาให้หน้าหงาย สมกับที่เคยกวนอารมณ์เธอมาแล้วครั้งหนึ่ง แค่สบโอกาสเถอะ เธอจะจัดการให้อยู่หมัด แล้วจะเป็นไปได้แค่ไหน... เมื่อพราวพิชชาไม่รู้เลยว่าคู่ปรับเก่าอย่างรัชภาคย์มีแผนอะไรอยู่ในใจ เกมนี้เธอจะได้เอาคืนเขา... หรือจะเป็นเขาที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกคว่ำคะมำหงายตลอดการลาพักร้อนกันแน่ ----------- "คนท้องคนไส้...หมายถึงลดางั้นหรือคะ ลดาท้องหรือ" "อ้าว! ไม่รู้เหรอว่าน้องสาวคุณท้องจนจะคลอดแล้ว คุณป้า" พราวพิชชา ถึงกับกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินคำพูดสวนของ รัชภาคย์ เธอตั้งใจจะไม่สนใจมนุษย์ป่าเถื่อนคนนี้อยู่แล้ว แต่วาจาเราะร้ายที่กระทบโสตประสาท ไม่อาจทนไหวจริงๆ แล้วชายชราที่ดูน่าเกรงขามก็ห้ามทัพ...เป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอก็ไม่ได้จำ "นายเล็ก หยุดพูดสักห้านาทีเถอะ คุยไม่รู้เรื่องกันพอดี" ท่านชายปราม แล้วถามแขกสาว "ชื่ออะไรล่ะหนู จะได้ให้เด็กบอกนายใหญ่ถูก" "พราวพิชชาค่ะ พี่สาวของลดา" "ชื่อยังกะลิเก" เสียงเปรยเข้าหูในระยะประชิด พราวพิชชาต้องกลั้นอารมณ์อีกรอบ...

บทที่ 1 มายาสีฝุ่น

เป็นครั้งที่สองที่พราวพิชชาได้มาเยือนเมืองเชียงราช นับจากครั้งแรกเมื่อปลายปีก่อนที่ต้องเดินทางมาร่วมงานแต่งงานของปิ่นลดา...น้องสาวบุญธรรมอย่างกะทันหัน คราวนั้นหญิงสาวใช้เวลาอยู่ในเมืองนี้ไม่ถึงสามชั่วโมงดีก็ต้องเดินทางกลับเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย...สถานที่ที่อยู่มาร่วมสิบปี ตั้งแต่เรียนไฮสกูล จนจบมหาวิทยาลัยแล้วใช้ชีวิตคนทำงานต่อ

พราวพิชชาคุ้นเคยกับเมืองเพิร์ทพอๆ กับกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองเกิดของเธอ ถึงขนาดเคยวางแผนว่าถ้า ‘ครอบครัว’ ในเมืองไทยจะย้ายไปอยู่ด้วยกันเสียที่นั่น เธอคงมีความสุขไม่น้อย

และภาพที่วาดหวังก็เกิดขึ้น...เหตุการณ์นั้นผ่านมาแค่ปีกว่า พ่อกับแม่ของพราวพิชชาพากันหอบหิ้วบินไปหาอย่างที่เธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันได้บอกกล่าวให้เตรียมต้อนรับ หากนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะก่อนย้ายไปคราวนั้นพ่อกับแม่ได้ขายบ้านและทรัพย์สินในเมืองไทยจนหมดสิ้นแล้ว ทั้งสองคนจึงมีเงินมากพอไว้ดูแลตัวเองโดยไม่ต้องเป็นภาระใดๆ สำหรับเธอเลย

พราวพิชชาดีใจที่ได้อยู่พร้อมหน้า คิดจะซื้อบ้านและตั้งต้นใหม่กัน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของเธอ...ปิ่นลดาที่เธอถือว่าเป็นคนร่วมครอบครัวกลับไม่ได้ไปพร้อมกับพ่อและแม่ด้วย

เมื่อถามจากผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนก็ได้คำตอบว่าน้องสาวบุญธรรมสมัครใจอยู่เมืองไทยต่อ เพราะเจ้าตัวมีงานมีการทำ จึงไม่ต้องการย้ายไปอยู่ที่เพิร์ทเอง

ช่างขัดแย้งเหลือเกิน...มันก่อกวนจิตใจของพราวพิชชาจนไม่อาจสลัดความสงสัยนั้นไปได้

ปิ่นลดาเป็นคนเรียนเก่ง เจ้าตัวเคยวางแผนให้เธอช่วยหาทุนเรียนต่อในระดับปริญญาโทไว้ให้ที่ออสเตรเลียด้วยซ้ำ พราวพิชชาชื่นชมในความตั้งใจและมุ่งมั่นของน้องสาวเสมอ ความรู้สึกนั้นเคยปนด้วยความอิจฉา ในความไม่พร้อมของปิ่นลดาด้วยพ่อกับแม่อุปการะเพียงไม่ให้ขาดแคลน แต่ไม่ได้สนับสนุนเต็มที่อย่างที่มีให้เธอ แต่ปิ่นลดาก็ไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจ ตรงกันข้ามเจ้าตัวกลับยิ้มตาพราวทุกครั้งเมื่อพูดถึงการได้อยู่ร่วมครอบครัวกับเธอ แถมตบท้ายด้วยคำพร่ำถึงบุญคุณของพ่อกับแม่...จนพราวพิชชายอมแพ้ในความคิดดีของปิ่นลดาไปเอง

จนเมื่อเจ้าตัวเรียนจบมหาวิทยาลัย เป็นจังหวะที่พ่อแม่ย้ายไปอยู่กับเธอ...คนที่ตั้งมั่นจะย้ายไปเรียนต่อด้วย อีกทั้งยังเคยสัญญาว่าจะดูแลพ่อกับแม่ตอนแก่ชราเองกลับไม่ได้ตามไป...พราวพิชชาถึงได้คาใจมาตลอด

กระทั่งได้รู้เกี่ยวกับน้องสาวในวันที่ล่วงผ่านไปหลายเดือน พราวพิชชาได้รู้ว่าสิ่งที่พ่อกับแม่บอกนั้นมันไม่ใช่เลย

ความเป็นจริงคือปิ่นลดาถูกส่งไปให้ทำงานที่น่าอดสูใจในเมืองเชียงราช เมืองที่เธอไม่เคยแม้จะได้ยินชื่อมาก่อน ภาพที่นึกไว้จึงมีแต่ความเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และยิ่งทำให้หญิงสาวแทบล้มทั้งยืนเมื่อรู้เพิ่มว่าชะตากรรมของน้องสาวเกิดขึ้นโดยมีต้นเหตุมาจากตัวเธอ ครอบครัวมีหนี้สินล้นพ้นตัวจากการส่งเธอเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก เมื่อถูกเจ้าหนี้ตามทวงอย่างเลือดเย็น พ่อกับแม่จึงเลือกล้างหนี้ด้วยการส่งปิ่นลดาไปรับเคราะห์แทน

รู้เพียงเท่านั้นพราวพิชชาก็ไม่ยอมอยู่เฉย...วันรุ่งขึ้นเธอก็เดินทางออกจากเมืองเพิร์ทโดยไม่ยอมฟังคำคัดค้านจากใคร

ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับตน ก็จะสู้จนยิบตาเพื่อจะพาน้องสาวกลับไปให้ได้

จนเมื่อมาถึงเมืองเชียงราช ภาพในวันนั้นซึ่งเป็นวันฉลองการแต่งงานของปิ่นลดากับรัชตะ เจ้าของอาณาจักรราชเกียรติกูรแถมพ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าหนี้ของครอบครัว...บางสิ่งที่เห็นระหว่างคนทั้งสองก็ทำให้พราวพิชชาต้องลังเล แล้วเกิดความโล่งใจแทรกเข้ามาแทน

ท่าทีของปิ่นลดาและรัชตะที่แสดงต่อกันทำให้พราวพิชชายอมเปลี่ยนใจ นอกเหนือกว่านั้นความรู้สึกผิดในใจเธอก็บรรเทาลง มันเจือจางบางเบา...แม้จะไม่หมดสิ้นเสียทีเดียว

‘แหววฝากลดาให้คุณใหญ่ดูแลนะคะ ลดาเป็นเด็กดี ได้เห็นวันนี้ว่าน้องมีความสุข แหววก็ดีใจ ทางครอบครัวเราไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ’

พราวพิชชายังจำประโยคของตัวเองที่บอกกับน้องเขยซึ่งวัยอาวุโสกว่าอย่างน้อยก็คง 6-7 ปี เมื่อเขาถามถึงสินสอดย้อนหลัง วูบหนึ่งนั้นเธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเห็นว่าทั้งปิ่นลดาและรัชตะยังคงให้เกียรติครอบครัวเธออยู่...

‘คุณแหววไม่ต้องห่วงครับ ลดาเป็นผู้หญิงที่ผมรัก เธอเป็นหัวใจของผม ผมมีหน้าที่ดูแลและรักเธออยู่แล้ว’

คำพูดของรัชตะดังก้องหูตามมา พราวพิชชาจดจำถ้อยคำนี้ไม่ลืมเลือน...ประทับใจในความรักและความรู้สึกปกป้องของรัชตะที่มีต่อน้องสาว คำยืนยันหนักแน่นจากผู้ชายตัวโต ท่าทางสง่าภูมิฐานกับบุคลิกที่ดูน่าเกรงขามนั้น ทำให้ความกังขาในใจของเธอจางหายแทบจะทันที

พราวพิชชาหยิบแก้วพั้นช์ขึ้นมาจิบ เอนกายกับเก้าอี้หวายตรงระเบียงรีสอร์ต แสงอ่อนของแสงอาทิตย์ยามเย็นกำลังอุ่นสบาย เธอหลับตา ใบหน้ายังเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม...ภาพของสองคนในวันนั้นคงตรึงอยู่ในใจเธอ

แล้วรอยยิ้มของพราวพิชชาก็คลายลง ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือขึ้น

เสียงใสๆ ช่างฉอเลาะเคล้าเสียงห้าวทุ้มของผู้ชายดังมาใกล้เรื่อยๆ ...เรียวคิ้วสวยของหญิงสาวขมวดมุ่น เริ่มจะไม่พอใจเมื่อความสงบที่อยู่คู่กับความทรงจำอันแสนจะอบอุ่นหัวใจของเธอกำลังถูกขัดจังหวะ

หล่อนถอนหายใจอย่างปลงๆ จนเมื่อคิดว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน ระเบียงรีสอร์ตออกจะกว้าง ทอดยาวเกือบยี่สิบเมตร เก้าอี้หวายก็วางอยู่ตั้งหลายมุม หนุ่มสาวสองคนคงอยากสวีตกัน เดี๋ยวพวกเขาเห็นเธออยู่ ก็คงหลบไปเลือกมุมส่วนตัวไกลๆ เองนั่นแหละ...

ใครจะบ้าเลือกสถานที่ฉอเลาะต่อหน้าคนอื่นกันเล่า

พราวพิชชาหลับตาพริ้มลง เริ่มต้นบรรยากาศผ่อนคลายของตัวเองต่อ หากแค่แพขนตาทาบชิดพวงแก้มนวล ดวงตาหวานก็มีอันเบิกโพลงขึ้น...

“เมื่อวานหายไปทั้งวัน นัดกันแล้วด้วยซ้ำ หนูโทร.ไปหาก็ติดต่อไม่ได้ หนูร้อนใจทั้งวัน กลัวว่าคุณจะไม่สบาย หรือเป็นอะไรไป แล้วหนูจะทำยังไง”

“โถ แค่โทร.ไม่ติด คิดว่าผมจะชิงหนีตายไปเลยหรือจ๊ะ”

เสียงหัวเราะห้าวดังขลุกขลักในลำคอ...จะว่าซาบซึ้งก็ไม่เชิง มันฟังดูขำๆ ระคนเย้ยหยันชอบกล จนคนแอบฟังเผลอมุ่นคิ้วสงสัยตาม!

“คุณอยากทำให้หนูเป็นห่วงเองนี่ พอโทร.ไปที่ทำงาน ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้รับสาย พูดจากระโชกโฮกฮาก ฟังไม่ได้เลยค่ะ”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 72 มายาสีฝุ่น   03-25 15:32
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY