“อุ๊ย! พี่ฤกษ์” เธออุทานตาโตเมื่อโดนเขาหอมแก้มเข้าให้ ก่อนที่มือหนาจะจับมือเธอไปกุมเอาไว้
“คิดถึงจังครับ” เขายกมือเธอมาจุมพิตเบาๆ ก่อนจะมองเธอตาหวาน
“อย่ามาปากหวานเลยนะคะ เดี๋ยวกานต์จัดอาหารใส่จานให้นะคะ วันนี้ทำราดหน้าหมูหมักทะเลที่พี่ฤกษ์อยากกินมาให้ค่ะ”
“อยากกินคนตรงหน้ามากกว่า” เขาดึงเธอมากอด ก่อนจะช้อนอุ้มมานั่งบนตัก
“ไม่เอานะคะพี่ฤกษ์ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง
“งั้นล็อกประตูก่อนไหม ขอชื่นใจหน่อย”
“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเสื้อผ้ายับ” เธอดิ้นลงจากตักของเขา ทำให้ฤกษ์ถอนใจเฮือกใหญ่
“พี่ฤกษ์โกรธกานต์เหรอคะ”
“เมื่อไหร่จะใจอ่อนกับพี่สักทีครับ เราเป็นคู่หมั้นกันนะครับ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล อีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้ว” เขาเว้าวอน เป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เล็ก คอยเฝ้าตามหวงตามห่วงอยู่ไม่ห่าง เธอให้เขาได้เพียงจับมือถือแขน โตขึ้นมาหน่อยก็ได้แค่หอมแก้ม แค่กอดยังยาก เธอรักนวลสงวนตัวเขาเข้าใจ และคิดว่าดีเสียด้วย เพราะเธอไม่นอกกายนอกใจเขาแน่นอน แต่เธอก็ยังหวงตัวกับเขาซึ่งเป็นคู่หมั้นด้วย
“รอให้แต่งงานกันก่อนสิคะพี่ฤกษ์” เธอยิ้มหวานให้เขา
“งั้นขอจูบหน่อย” เขาเขยิบเข้าไปหา รั้งเธอมาอยู่ตรงหน้า
“อุ๊ย! อื้อ” ช่วงที่เธอหลุดอุทาน เขาก็จุมพิตเข้ามาหาแบบไม่ทันตั้งตัว มือหนาข้างหนึ่งโอบกอดรอบร่างบอบบางเอาไว้ อีกข้างจับท้ายของเธอเอาไว้เพื่อให้เขาจูบเธอได้อย่างถนัดถนี่
ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ก่อนที่จะแตะสัมผัสกับเกลียวลิ้นเล็กๆ ที่หลบหลีกอย่างตื่นกลัว
“อื้อ... พี่ฤกษ์” เธอครางออกมาเหมือนประท้วง เมื่อเขาถอนปากออกห่าง ก่อนที่จะบดจูบลงมาใหม่ จนเธอปราชัย
ร่างหนาหนักบดเบียดเข้ามาแนบชิด ดันเธอไปจนชิดกับพนักโซฟา เขาขบกัดริมฝีปากบนล่าง รุกเร้าหนักขึ้น ด้วยการสัมผัสทรวงอกสาวอวบอิ่ม
“พี่ฤกษ์ อย่าค่ะ พอก่อน” การบูรร้องประท้วง ตัวสั่นระริกเมื่อเขาเบียดกายเข้ามาแนบชิดจนเธอไม่มีช่องว่างให้หนีอีกแล้ว
“ปากหวานจัง ตัวก็หอมมากด้วย” ฤกษ์กระซิบชิดใบหน้าของเธอ ลมหายใจของคนทั้งสองเป่ารดกันถนัดถนี่
ท่าทีของเขาดูคลั่งไคล้คุกคามจนการบูรใจสั่น ปกติแล้วเขาจะเป็นสุภาพบุรุษ แต่พออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่เวลาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยอมรับว่าหลังๆ มานี้เขาถึงเนื้อถึงตัวพอสมควร
“พี่ฤกษ์ไม่หิวเหรอคะ เดี๋ยวราดหน้าเย็นชืดหมด” เธอตั้งใจทำมาให้เขาโดยเฉพาะ เขาควรกินมันตอนนี้เลย
“หิวครับ แต่หิวคนตรงหน้าพี่มากกว่า” เขาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปมากับริมฝีปากนุ่มสีสด
“ไม่ทำแบบนี้นะคะพี่ฤกษ์ มันไม่ดีค่ะ”
“อะไรที่ว่าไม่ดีครับ” เสียงเขาออดอ้อน จนใจเธอสั่นรัวอีกรอบ
“ก็เราไม่ควรชิงสุกก่อนห่ามยังไงล่ะคะ” เพราะครอบครัวของเธอเลี้ยงให้ลูกสาวรักนวลสงวนตัว มารดาบอกว่าหากมีลูกชายเพิ่มอีกคนก็จะสอนให้ลูกชายเป็นสุภาพบุรุษ ไม่รังแกผู้หญิงก่อนถึงวันที่สมควร แต่จนแล้วจนรอดมารดาก็มีลูกแค่คนเดียวคือเธอ
“พี่ทรมานจะตายอยู่แล้ว ทนมาตั้งหลายปีแล้วนี่ครับ” เขาพ้อเสียงน่าสงสาร ทั้งยังไล้มือของเธอเล่น
การบูรขนลุกเกลียว เธอเองก็เกือบใจอ่อนยอมทอดกายให้เขาหลายครั้ง แต่นึกถึงคำพูดของบิดามารดา ก็ทำให้เธอยั้งใจเอาไว้ได้ แต่ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก เธออาจจะไม่รอดมือเขา เพราะใจเธอนี่แหละ ตกหลุมรักเขาเหมือนกัน
ไม่รักคงไม่ยอมให้ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ กับคนอื่นเธอไม่เคยยินยอม แม้แต่จับมือยังไม่เคย
“ก็ทนต่ออีกนิดสิคะ อีกไม่กี่เดือนเอง” เธอจะขยับลุกหนี เขาก็โอบกอดเอวบางเอาไว้
“อุ๊ย!” เธอหลุดอุทานเขาก็ตรงเข้ามาทำท่าจะจุมพิต เธอรีบดันใบหน้าของเขาเอาไว้
“พี่รอกานต์มาตั้งแต่เด็ก ทั้งหวง ทั้งห่วงมาตลอดเลยรู้ไหม” เขาไล้แก้มสาวเล่น เธอมองสบตาเขาแล้วสะเทิ้นอาย หลบสายตาเป็นพัลวัน
“เอ่อ...” เธออึกอักเพราะไม่รู้จะตอบรับว่าอย่างไรดี เขาหวงเธอคือเรื่องจริง ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอ ได้มีเรื่องแน่ ๆ
เธอกับเขาอยู่บ้านใกล้กัน ดังนั้นจึงสนิทกันตั้งแต่เด็ก บิดามารดาก็เป็นเพื่อนกัน
ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งน่ารัก ทำเอาเขาหวงจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
ยิ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขายิ่งหวง ต้องไปรับไปส่งทุกวันเพราะเห็นหนุ่มๆ มองเธอแล้วรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง