บิดาถูกสังหาร ตระกูลถูกใส่ร้าย มีเพียง 'นาง' ที่รอดชีวิต เพื่อตามหาหลักฐานเปิดโปงคนร้าย นางจึงต้องปิดบังสถานะเข้าใกล้ 'เขา' ทว่า ‘เขา’ ผู้เป็นความหวังเดียวของนางกลับถูกลอบทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำไป
บิดาถูกสังหาร ตระกูลถูกใส่ร้าย มีเพียง 'นาง' ที่รอดชีวิต เพื่อตามหาหลักฐานเปิดโปงคนร้าย นางจึงต้องปิดบังสถานะเข้าใกล้ 'เขา' ทว่า ‘เขา’ ผู้เป็นความหวังเดียวของนางกลับถูกลอบทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำไป
“หมิงเอ๋อร์ฟื้นแล้วงั้นหรือ”
บุรุษที่นอนสลบสไหลไม่ได้สติมาเป็นเวลานาน ลืมตาขึ้นช้าๆ ร่ายกายเคลื่อนไหวได้ยากคล้ายกับไม่ค่อยจะเชื่อฟังคำสั่ง เขาพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยตนเองอย่างยากลำบาก สตรีวัยกลางคนรีบถลาเข้าไปด้านข้างคอยช่วยประคองให้เขาเอนกายพิงลงกับหัวเตียงด้วยความห่วงใย
“ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นขึ้นมาเสียที รู้สึกอย่างไรบ้าง ยังเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่”
องค์หญิงใหญ่จางอี้หนิงเอ่ยถามด้วยความกังวล ใบหน้าของนางซีดเซียวเนื่องจากความเครียดสะสม หลังบุตรชายเพียงคนเดียวถูกลอบทำร้ายกลับมาจากชายแดนใต้ แม้ฝ่าบาทจะส่งหมอหลวงที่เก่งที่สุดในวังมารักษา แต่ก็ไม่สามารถทำให้บุตรชายของนางฟื้นขึ้นมาได้
“ท่านแม่” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาแผ่วเบา
เห็นมารดาน้ำตาคลอ สองมือเกาะกุมมือตนเองไว้ด้วยความห่วงใย
“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ เหตุใดข้าจึงได้รู้สึกปวดศีรษะเช่นนี้”
“เจ้าได้รับมอบหมายจากฝ่าบาทให้ไปสืบคดีลับที่เมืองเว่ยหยาง แต่ถูกคนลอบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ศีรษะของเจ้าได้รับความกระทบกระเทือนจนสลบไม่ได้สตินานกว่าครึ่งเดือน”
คำกล่าวของมารดาทำให้เว่ยชิงโหวชะงักไป ก่อนจะยกมือกุมศีรษะตนเองด้วยความสับสน เมื่อสัมผัสกับผ้าที่พันอยู่โดยรอบยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากกว่าเดิม
“สืบคดีลับอันใด ลอบทำร้ายอันใด ทำไมข้าถึงจดจำเรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้เลย”
คำกล่าวของถังหมิงทำให้องค์หญิงใหญ่หันไปสบตากับแม่นมซูบ่าวคนสนิทด้วยความงุนงง
“หมิงเอ๋อร์ เจ้าจำเรื่องคดีทุจริตส่วยบรรณาการทางใต้ไม่ได้หรือ”
“ข้าจำได้แค่ว่าข้าปฏิเสธการหมั้นหมายกับคังจื่อผิงไป ส่วนเรื่องสืบคดีที่ท่านแม่กล่าวมานั้น...” คิ้วดาบขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด
ดวงตาคมมองหาคนข้างกายอย่างต้องการคำอธิบาย ทว่านอกจากมารดาและแม่นมซูบ่าวคนสนิทข้างกายมารดาก็ไม่มีใครอยู่ในห้องอีก
“เฉิงกวงเล่า?”
“อยู่ในคุก”
“เหตุใดเขาจึงต้องไปอยู่ที่นั่น”
องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจ ก่อนจะอธิบายอย่างอ่อนล้า “เป็นเพราะเฉิงกวงดูแลเจ้าไม่ดี ปล่อยให้เจ้าหายตัวไปขณะทำภารกิจที่เสี่ยงอันตราย ทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส หากมิใช่สุดท้ายยังพาเจ้ากลับเมืองหลวงมาได้สำเร็จ แม่คงสั่งประหารชีวิตเขาไปแล้ว”
“ท่านแม่ ท่านเรียกเฉิงกวงกลับมาก่อนได้หรือไม่ ลูกต้องการสอบถามเขาด้วยตนเอง”
เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของบุตรชาย จางอี้หนิงจึงสั่งให้บ่าวที่ยืนเฝ้าหน้าประตูรีบไปตามคนมา ไม่นานองครักษ์คนสนิทก็มานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“ท่านโหว ข้า ข้า…ผิดไปแล้ว เป็นเพราะข้าไม่ได้ความจึงไม่สามารถปกป้องท่านโหวให้ปลอดภัย เฉิงกวงยินดีชดใช้ความผิดด้วยชีวิต”
ร่างกำยำโขกศีรษะลงกับพื้นเสียงดัง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาบนหน้าผากก็ปรากฏเป็นรอยแดงช้ำ
“เหลวไหล ชดใช้ด้วยชีวิตอันใด เจ้าเลิกทำเหมือนข้าใกล้จะสิ้นลมหายใจแล้วลุกขึ้นเสียที” ถังหมิงตวาดเบาๆ ไม่อาจทนดูบุรุษตัวโตร้องไห้ฟูมฟายหลั่งน้ำตาให้กับตนเอง
“ท่านโหวไม่ตำหนิข้าหรือขอรับ” เฉิงกวงปาดน้ำตาลวกๆ ลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจ
“ในเมื่อท่านโหวไม่เอาผิดเช่นนั้นเจ้าก็กลับมาดูแลอยู่ข้างกายลูกข้าเช่นเดิมก็แล้วกัน เจ้าจะต้องดูแลเขาให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นครั้งนี้ขึ้นอีกเป็นอันขาด” จางอี้หนิงออกคำสั่ง
“ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่ที่ทรงเมตตา ข้าน้อยจะปกป้องท่านโหวด้วยชีวิต” เฉิงกวงยิ้มร่า
“หลังจากที่ข้าปฏิเสธการหมั้นหมายกับคังจื่อผิง เกิดอะไรขึ้นบ้างกันแน่” ถังหมิงไม่รีรอรีบเอ่ยถามเรื่องราวจากเฉิงกวง
“ท่านโหว เรื่องที่ท่านปฏิเสธการหมั้นกับคุณหนูคังผ่านมานานสามเดือนแล้วนะขอรับ” เฉิงกวงเอ่ยตอบด้วยความงุนงงสงสัย
“สามเดือน เป็นไปได้อย่างไร ข้าจำได้ว่า...” ถังหมิงทำท่านึกอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“การไปสืบคดีที่ชายแดนใต้ในครั้งนี้ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย ทางที่ดีควรหมอหลวงมาดูตรวจอาการอีกรอบ” จางอี้หนิงเอ่ยอย่างร้อนใจ ก่อนจะสั่งให้บ่าวรับใช้ไปตามหมอหลวงมาดูอาการให้กับบุตรชาย
ไม่นานหมอหลวงที่ฝ่าบาทสั่งให้มาประจำการอยู่ในจวนโหวก็รีบเข้ามาตรวจดูอาการบาดเจ็บของถังหมิงอีกหน
“เป็นอย่างไรบ้าง?” จางอี้หนิงรีบสอบถามท่านหมอ
“เรียนองค์หญิงใหญ่ แม้บาดแผลบนร่างกายจะหายดีทั้งหมดแล้ว ทว่าท่านโหวได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงบริเวณศีรษะ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ความทรงจำบางส่วนเลือนหายไป ไม่สามารถจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ขอรับ” หมอหลวงรีบเอ่ยรายงาน
“เช่นนั้นความทรงจำที่หายไปนี้จะกลับคืนมาได้หรือไม่” เว่ยชิงโหวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ในเมื่อลืมได้ก็สามารถจดจำได้เช่นกันขอรับ เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ข้าจะเขียนเทียบยาบำรุงประสาทเพื่อช่วยให้ท่านโหวฟื้นความทรงจำกลับคืนมาโดยเร็ว” หมอหลวงกล่าวก่อนจะขอตัวจากไป
“ในเมื่อเจ้าสูญเสียความทรงจำไปเช่นนี้ ก็ควรหยุดพักรักษาตัวและระงับการสืบคดีไปก่อน แม่จะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทแทนเจ้า ระหว่างนี้เจ้าก็พักรักษาตัวให้หายดี อย่าได้ไปไหนเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่” จางอี้หนิงออกคำสั่ง
“ลูกเชื่อฟังท่านแม่”
เมื่อมารดาจากไปแล้ว เว่ยชิงโหวจึงสั่งให้เฉิงกวงอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ตนเองฟังอีกหน
เมื่อสามเดือนก่อนหลังจากปฏิเสธการหมั้นหมายกับบุตรีของเสนาบดีคัง คังจื่อผิง ถังหมิงก็ขอพระราชทานอนุญาตจากฝ่าบาทเพื่อไปสืบคดีที่เมืองเว่ยหนานเป็นการลับ
เว่ยหนานเป็นเมืองใหญ่ มีเขตชายแดนติดกับทะเล มีเส้นทางขนส่งหลักเป็นเส้นทางน้ำ ดูแลควบคุมโดยเจ้าเมืองซุน นามซุนเถียน ขุนนางตระกูลเก่าแก่ที่ปกครองพื้นที่มาอย่างช้านาน
นอกจากเมืองเว่ยหนาน เจ้าเมืองซุนยังดูแลการขนส่งสินค้าทางน้ำตลอดพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด รวมถึงส่วยบรรณาการที่เมืองทางใต้ต้องส่งเข้ามายังเมืองหลวง
ทว่าหลายปีให้หลังพื้นที่ทางใต้หลายเมืองประสบกับอุทกภัย เกิดพายุรุนแรงฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายเดือน ชาวบ้านเดือนร้อน ต้องลี้ภัย ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ พื้นที่ชายฝั่งทะเลก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
หลังจากพายุพัดผ่านไป หลายเมืองเสียหายจนไม่อาจฟื้นฟู ประชาชนอดอยาก เจ็บป่วยล้มตายไปหลายหมื่นคน เจ้าเมืองซุนทำได้เพียงส่งฎีกาขอความช่วยเหลือมายังเมืองหลวง
หลังทราบเรื่องฝ่าบาทจึงรีบสั่งการให้ส่งเงินบรรเทาทุกข์ไปยังเมืองเว่ยหยานในทันที พร้อมกับมีรับสั่งให้ก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำเพิ่มที่เมืองจิ่งเหอเมืองหน้าด่านเขตชายแดนใต้ป้องกันอุทกภัยในปีถัดๆ มา
ทว่าการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำนี้กลับมีความล่าช้า ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือนร้อนไม่สามารถแก้ไข คนบางกลุ่มจงใจปกปิดเรื่องราวไว้จนเกิดการประท้วงและลุกฮือของกบฏในหลายพื้นที่
หากมิใช่เพราะมีการตรวจสอบความผิดปกติของส่วนบรรณาการที่ถูกส่งมายังเมืองหลวง ฝ่าบาทก็คงไม่อาจรับทราบว่ามีขุมอำนาจหนึ่งกระทำการยักยอกเงินบรรเทาทุกข์และทุจริตส่วยบรรณาการทางใต้
ดังนั้นฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้เว่ยชิงโหวลงไปสืบสวนเป็นการลับ เมื่อไปถึงเมืองจิ่งเหอสถานที่สร้างเขื่อนกั้นน้ำ ถังหมิงก็พบกับความผิดปกติมากมาย ยิ่งตามสืบไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันหลายฝ่าย ถือเป็นเรื่องใหญ่และร้ายแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางต่อไปยังเมืองเว่ยหยานเพื่อสืบหาตัวการสำคัญ
ไม่คาดว่าระหว่างทางกลับเจอการลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งไปถึงเมืองเว่ยหนาน เกิดการต่อสู้ขึ้นที่จวนเจ้าเมืองซุนเถียน เฉินกวงพลัดหลงกับเว่ยชิงโหวในระหว่างหลบหนี หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น
ผ่านไปหลายวันเฉิงกวงจึงสามารถตามหาถังหมิงจนพบ ทว่าตอนที่พบเจอนั้นถังหมิงก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว...
‘ลู่ซิงเหยียน’ ไม่คิดเลยว่าการอาสาช่วยโจรผู้หนึ่งหลบหนีออกจากจวนเจ้าเมืองเพื่อแลกกับชีวิตของตนเองนั้น จะทำให้โชคชะตาของนางผูกติดกับ ‘เขา’อย่างไม่มีวันแยกจาก ********************* ลู่ซิงเหยียนทำงานอยู่ภายในจวนเจ้าเมืองหลิวลี่ซือในฐานะสาวใช้ เพื่อสืบหาคนร้ายที่ทำให้ตระกูลลู่ของนางถูกประหารทั้งตระกูล ทว่าวันหนึ่งมีชายชุดดำบุกเข้ามาขโมยของในจวนเจ้าเมือง เพื่อแลกกับชีวิตของตนเอง ลู่ซิงเหยียนจึงอาสาช่วยเหลือโจรผู้นี้หลบหนี นางเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเขา นอกจากจะไม่ได้รับคำขอบคุณ เขากลับตามตอแย วนเวียนอยู่รอบกายนางเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ไม่รู้เป็นเพราะซาบซึ้งใจหรือชิงชังที่นางบังคับให้เขาหลบซ่อนอยู่ในถังอาจมกันแน่!!! ************************** “หมายความว่าอย่างไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ดวงตาเขียวปัด ฟังจากโทนเสียงคล้ายกับเป็นเสียงคำรามในลำคอเสียมากกว่า ส่วนเจ้าของคำถามบัดนี้จับจ้องสตรีตรงหน้าด้วยความโกรธจัดจนแทบอยากจะกระโจนเข้ามาบีบคอ “ปัดโธ่ ท่านมีทางเลือกมากนักหรือ นี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าคิดได้แล้ว หากอยากหนีออกไปโดยไม่ถูกจับได้ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” แม้ปากจะกล่าวไปเช่นนั้น แต่ใบหน้ากลับหดเล็กยิ่งกว่าฝ่ามือ ลู่ซิงเหยียนเหลือบมองร่างสูงสลับกับถังไม้ขนาดใหญ่บนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น ยามนี้เมื่อเปิดฝาที่ปิดอยู่ออกก็ยิ่งส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนจนรู้สึกคลื่นเหียนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด นางเห็นร่างสูงยืนแข็งค้างอยู่ในเงามืดหลังพุ่มไม้หนาทึบ มือข้างที่จับมีดกำแน่นขึ้นกว่าเดิมจนน่าหวาดหวั่น ท่าทางโกรธจัดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต คาดว่าภายในใจตอนนี้คงอยากปาดคอนางแล้วจับหมกลงไปในถังอาจมเป็นแน่ "ข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ************************************** สวัสดีค่ะ ไรท์กลับมาแล้ววววว เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวนะคะ แนวโรแมนติกดราม่านิดๆ + เกมการเมืองหน่อยๆ ไม่ทะลุมิติ ไม่ย้อนเวลาค่ะ ไม่อิงประวัติศาสตร์และยุคสมัยใดๆ นะคะ ตัวละครและสถานที่เกิดขึ้นจากจินตนาการทั้งหมดของไรท์ค่ะ
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
รักร้อนๆ ที่ซุกซ่อนไว้ด้วยเข็มฉีดยาอันโตฉีดได้ทุกเมื่อที่ปรารถนาเข็มใหญ่ ยาว และปริ่มน้ำสุดๆ #คุณหมอขาขอเข็มใหญ่(นายแพทย์เจนจบ ครบทุกท่า) ‘เจนจบ’ คุณหมอหนุ่มรูปหล่อ ถูกใจนักพยาบาลหยิ่งๆ เขาจีบแต่หล่อนไม่สน ทำตัว ‘สวย เริ่ด เชิด โสด’ แต่ ‘พลอยใส’ ดันเร่าร้อน ต้องรักษาโดยด่วน! คุณหมอเลยต้องจัดเข็มใหญ่ฉีดยาให้ งานนี้จะหายหรือจะเป็นมากขึ้น เมื่อเข็มใหญ่ๆ นั้น พลอยใสถูกใจเหลือเกิน #คุณหมอขาขอเข็มยาว(นายแพทย์ติณณ์ ทั้งใหญ่ทั้งยาว) ‘หนูนา’ พยาบาลสาวร่างเล็กมีปัญหาหนักใจ คงมีแค่คุณหมอสูติฯ เท่านั้น ที่จะช่วยหล่อนได้ แต่จะให้ไปถามเอาดื้อๆ หล่อนไม่กล้าหรอก ใครจะรู้จู่ๆ คุณหมอหนุ่มใหญ่ก็ตกใส่หล่อนโครมเบ้อเร่อ จะปล่อยให้หลุดมือได้ไง ก็หล่อนอยากรู้ว่ายาวจริงไหม ‘ติณณ์’ สูตินรีแพทย์หนุ่มใหญ่ถึงกับอึ้ง เมื่อพยาบาลสาววัยใสยืนบิดกายครางกระเส่าให้เขาเห็น หล่อนโดนยา และเขาต้องช่วย! #คุณหมอขาฉีดยานะคะ(นายแพทย์ไมเคิล เข็มเดียวเสียวถึงชาติหน้า) ‘พรพรรณ’ สาวโสดวัยใกล้เลข ๓ เป็นภูมิแพ้กินยาไม่หาย หล่อนอยากฉีดยา! แต่หมอดันจ่ายแต่ยาเม็ด แถมยังลวนลามดึงสายเสื้อในหล่อนอีก หล่อนจะฟ้องร้อง! แต่!!! ผู้บริหารที่หล่อนขอพบ กลับเป็นหนุ่มโสดในฝันที่หล่อนบริจาคเงินหลักพันเผื่อฟลุคได้ออกเดท เพี้ยง!! ขออย่าให้หล่อนเป็นผู้โชคดีเลย ‘ไมค์’ หัวเสียกับแม่สาวชื่อแปลกจักจี้หัวใจ หล่อนร่ำร้องจะ ‘ฉีดยาๆ’ จนเขาอยากกดเข็มยาวใหญ่ใส่หล่อนสักทีสองที โชคดีเข้าข้างเขาชะมัด เมื่อเจ้าหล่อนได้รับสิทธิ์นั้น “จ่ายยาเม็ดไม่ชอบอยากได้ยาเซ็กซ์! มาสิ ฉันจะฉีดให้เธอหาย รับรอง ‘เข็มเดียว’ เสียวถึงชาติหน้า!”
"เขาลือกันว่าคู่หมั้นของคุณฮั่วเป็นคนบ้านนอก ไม่มีการศึกษาและแถมยังหน้าตาขี้เหร่ซะอีก"เมื่อซูฉิงปรากฏตัวอยู่ ในงานเลี้ยง ทุกคนในงานล้วนตกตะลึงไปหมด! "พระเจ้า ขี้เหร่ซะทีไหน!" "ได้ข่าวว่าราชาภาพยนตร์เป็นน้องของเธอด้วย" "พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับแรกของโลกเลยนะ" "leo นักออกแบบหญิงที่ลึกลับคนนั้นก็คือเธอ!" เมื่อตัวจริงของเธอค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ทุกคนพากันตกตะลึงไปหมด แต่แล้วก็เป็นเป็นไง ฮั่วหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอสักหน่อย ในวันเดียวกัน ฮั่วซื่อ กรุ๊ปก็โพสต์ข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า"เราสองคนรักกันมาก และกำลังเตรียมจะแต่งงาน" คนภายนอก:"......!!!"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
"พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน ""เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก"" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง ""ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า""" พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด