บนท้องฟ้ากว้างใหญ่เหนือมหานครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหลยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกระฟ้าทอดยาวเป็นเส้นแสงสว่าง สีเงินระยิบระยับเหมือนดวงดาวที่หลุดลอยมาอยู่ใกล้ผืนดิน แต่ละมุมเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการแข่งขันและความเร่งรีบ ฟู่ ชิงชวน CEO หนุ่มหล่อผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจชั้นนำ กำลังยืนทอดมองวิวจากกระจกในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัท "เฉิงหยวนกรุ๊ป" เขาเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ชีวิตที่ใครหลายคนอิจฉา แต่เบื้องหลังดวงตาคมกริบที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ กลับมีร่องรอยของบาดแผลลึกซ่อนอยู่ในหัวใจ บาดแผลที่เกิดจากการทรยศของคนรักเก่า ลู่ ซูฉิน ผู้หญิงที่เขาเคยรักสุดหัวใจ แต่เธอเลือกทิ้งเขาไปเพื่อแต่งงานกับคนอื่น… การทรยศครั้งนั้นทำให้ฟู่ ชิงชวนสูญเสียความเชื่อใจในความรัก และปิดกั้นหัวใจของตัวเองจากผู้หญิงทุกคน มันกลายเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมั่นและเข้มแข็ง แต่ขณะเดียวกันก็สร้างกำแพงในใจที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ในขณะเดียวกัน ฟาง ซีอัน สาวงามผู้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น กำลังเดินทางกลับมายังประเทศจีนหลังจากใช้ชีวิตในต่างแดนนานนับสิบปี ความทรงจำในวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะถูกแทนที่ด้วยความโศกเศร้าจากการสูญเสียบุพการี เธอเลือกที่จะกลับบ้านเกิดเพื่อหวังจะได้สัมผัสความอบอุ่นที่หายไปและรู้สึกใกล้ชิดกับพ่อแม่อีกครั้ง แต่เมื่อกลับมาถึง เธอก็ต้องเผชิญกับปัญหาจากลุง ฟาง ซีตง น้องชายคนเดียวของพ่อ ติดเหล้าและการพนันอย่างหนัก ลุงของเธอสะสมหนี้สินหลายร้อยล้านหยวน และพยายามขอยืมเงินจากเธอเพื่อใช้หนี้ …ฟาง ซีอันจึงตัดสินใจสมัครงานที่บริษัทเฉิงหยวนกรุ๊ป ไม่เพียงเพื่อความมั่นคงทางการเงิน แต่ยังเพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์ในครอบครัวอีกด้วย การพบกันครั้งแรกของทั้งสองคน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญในสายตาของใครหลายคน แต่สำหรับโชคชะตาแล้ว มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันแสนซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยความรัก…
ในเช้าวันหนึ่ง ณ อาคารเฉิงหยวนกรุ๊ปที่สูงเสียดฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศการทำงานอันเคร่งเครียด พนักงานในบริษัทเริ่มพูดคุยถึงเลขาคนใหม่ของ CEO ฟู่ ชิงชวน คนที่มักจะตั้งมาตรฐานสูงกับทุกสิ่งรอบตัว
"ได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิงที่หัวไวมาก แถมยังเรียนจบจากอังกฤษอีกด้วย" เสียงซุบซิบนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวสวมสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบสะอาดที่เน้นความเรียบร้อย พร้อมกระโปรงดินสอสีกรมท่าที่เข้ากับรูปร่างของเธอ รองเท้าส้นสูงสีเบจช่วยเสริมให้การเดินของเธอดูสง่างามขึ้น รูปร่างของเธอสะกดสายตาผู้คนทันที เธอมีร่างโปร่งบางสมส่วน สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ผิวของเธอขาวเนียนละเอียด ราวกับกระเบื้องเคลือบที่ไร้ที่ติ ใบหน้าของเธอรูปไข่ได้สัดส่วน ดวงตากลมโตสีดำขลับที่ดูเหมือนจะสะท้อนความมุ่งมั่นและความลึกซึ้ง ขนตายาวเป็นแพทำให้ดวงตาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนเผยออกเล็กน้อย เธอแต่งหน้าเบาๆ เพียงเพื่อเสริมความสดใสในลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลช็อกโกแลตดัดลอนอ่อนๆ ปล่อยลงมารับกับลำคอระหงส์
ทุกก้าวที่เธอเดินมีความมั่นใจ แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนโยนที่ทำให้คนรู้สึกถึงความมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่ต้องพยายาม เธอถือแฟ้มเอกสารในมือขวา และในมือซ้ายเป็นกระเป๋าโท้ตใบเล็กสีเบจที่เข้ากับรองเท้า ทุกองค์ประกอบของเธอสะท้อนถึงความตั้งใจ ความกระตือรือร้น และความพร้อมที่จะเผชิญกับโลกของการทำงานใหม่อย่างเต็มที่
แม้หัวใจของเธอจะเต้นแรงเพราะความกังวล แต่แววตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
"คุณคือ ฟาง ซีอัน ใช่ไหม?" ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก เธอเงยหน้าขึ้นมอง ฟู่ ชิงชวน ในเสื้อสูทสีดำตัดเย็บอย่างประณีต ใบหน้าหล่อเหลาราวกับปั้นจากหินอ่อน และดวงตาคมที่เหมือนจะมองทะลุหัวใจของคนตรงหน้า
"ใช่ค่ะ ดิฉันฟาง ซีอัน จะมาเริ่มงานในตำแหน่งเลขาของคุณตั้งแต่วันนี้" เธอกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง
ฟู่ ชิงชวนมองเธออย่างพินิจพิจารณา สายตาคมกริบของเขาแฝงไปด้วยความสงสัยและอารมณ์ที่อ่านยาก แม้เขาจะสังเกตเห็นว่าเธอดูสวยสง่าอย่างแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยเข้ามาในชีวิต แต่ในใจลึกๆ เขากลับคิดว่าเธอคงเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องการจับเขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว "เริ่มจากนี่ก่อน ตรวจดูตารางงานของฉัน และรายงานภายในวันนี้" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมส่งแฟ้มเอกสารให้เธออย่างไม่ใส่ใจมากนัก
ฟาง ซีอันถูกจัดให้ไปนั่งอีกชั้นหนึ่ง เพราะคุณฟู่ไม่ชอบให้มีคนรบกวนเขาเวลาทำงาน ตลอดการทำงานเธอถูกกลั่นแกล้งให้ทำงานเยอะ เวลาน้อย และถูกนินทาจากเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะ หลิน เซียวเซิง ที่เป็นรุ่นพี่ในตำแหน่งผู้จัดการ เซียวเซิงมักจะโยนงานให้ซีอันเสมอ และให้เธอทำงานล่วงเวลา แล้วยังมักเคลมว่าเป็นผลงานของตัวเองอีกด้วย แต่ซีอันก็ไม่เคยปริปากใดๆ ตั้งใจทำงานเพื่อเริ่มต้นชีวิตในบ้านเกิด เธอไม่ได้ขัดสน แต่ลุงของเธอก็ทำให้เงินออมของเธอลดไปไม่น้อย ทำให้เธอต้องเก็บเงินเพิ่มเติม ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่ฟาง ซีอันกำลังจัดเอกสารกองโตที่ถูกโยนมาจากหลิน เซียวเซิง เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นอย่างแหลมคมและเต็มไปด้วยน้ำเสียงดูแคลน
"ฟาง ซีอัน งานแค่นี้จะทำไม่เสร็จอีกหรือไง? หรือว่าเธอคงเคยชินกับชีวิตสบายในอังกฤษจนลืมไปแล้วว่าที่นี่คือที่ทำงาน ไม่ใช่โรงแรมหรู" เซียวเซิงกล่าวพลางยิ้มเยาะ ฟาง ซีอันเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งสงบ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงความเฉียบคม "คุณหลินคงลืมไปว่า ฉันเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นาน และงานทั้งหมดที่คุณโยนมา ฉันก็ทำเสร็จเรียบร้อยทุกครั้ง ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์เร็วขึ้น บางทีคุณอาจจะต้องลงมือทำเองบ้าง"
เซียวเซิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยก่อนจะพยายามรักษาท่าที "เธอก็แค่โชคดีที่ได้งานนี้ ไม่ต้องคิดว่าเธอเก่งกว่าคนอื่น การได้มาเพราะเส้นสายไม่ได้ทำให้เธอเหนือกว่าใคร" ฟาง ซีอันหัวเราะเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "เส้นสายงั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งทนทำงานล่วงเวลาที่คุณโยนให้ทุกวันหรอก ฉันอยู่ที่นี่เพราะความสามารถ ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์อะไรให้ใครเห็น" เซียวเซิงกัดฟันแน่น แต่ยังไม่ยอมแพ้ "ถ้าเธอมั่นใจนัก งั้นลองพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นสิ ว่าเธอไม่ได้เป็นแค่ตุ๊กตาหน้าห้องของคุณฟู่ ชิงชวน" ฟาง ซีอันจ้องตอบด้วยแววตาคม "และฉันก็จะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า การเป็นตุ๊กตาในสายตาคุณ มันดีกว่าการเป็นคนที่ต้องพึ่งพาความอิจฉาเพื่อยืนยันตัวตนของตัวเองมากแค่ไหน"
ขณะนั้น ไป๋ ชิงเหวย เลขาคู่ใจของคุณฟู่ ที่เดินผ่านมาได้ยินทุกอย่างพอดี เขาแอบยืนฟังอยู่หลังมุมกำแพง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ "ยัยเด็กใหม่คนนี้ มีของแฮะ! ไม่ธรรมดาจริงๆ" ไป๋ ชิงเหวยคิดในใจ เขาพยายามไม่หัวเราะออกมาดัง ๆ เพราะการโต้วาทีของทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นเวทีดวลกันของสองนักคิด แต่เดี๋ยวนะ ถ้าซีอันกล้าปะทะกับเซียวเซิงได้แบบนี้ อาจจะมีอะไรสนุกๆ รออยู่ก็ได้ เขาแอบนึกขำ "หรือว่าเธอจะเป็นคนที่สามารถจัดการคุณฟู่ได้? เอ๊ะ! น่าสนุกดีแฮะ" เขายิ้มกับตัวเอง ก่อนจะคิดต่อไปว่า "คุณฟู่จะรู้ตัวไหมนะ ว่าอาจจะเผลอใจให้เด็กใหม่คนนี้เข้าแล้ว" ไป๋ ชิงเหวยหัวเราะเบาๆ กับความคิดของตัวเอง พลางพึมพำ "เอาล่ะ ฉันว่าต้องจับตาดูต่ออีกหน่อย คงมีอะไรสนุกๆ ให้เห็นอีกแน่ๆ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง