ตอนนี้คนอยู่เบาะด้านหลังนั่งแทบไม่ติดเพราะอยากจะรู้ว่าเวลาดึกขนาดนี้แล้วอาเขยของตนเองจะออกบ้านไปไหนนี่ไม่ใช่คืนแรกที่เธอเห็นเขาออกจากบ้านเวลากลางคืน ตั้งแต่เธอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบจะหนึ่งเดือนก็เห็นอาเขยออกจากบ้านเวลาดึกอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายมีครอบครัวและมีภรรยากำลังตั้งครรภ์จะทำแบบนั้นเลย
รถคันหน้าขับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง
“หนูจะเอายังไงกันต่อ จะให้พี่ขับตามเข้าไปไหม” คนขับแท็กซี่หันมาถาม
“หนูว่ารอตรงนี้ก่อนค่ะ”
“แล้วถ้าเขาไม่ขับออกมาล่ะ”
“เรารอสักสิบนาทีนะคะพี่ ถ้าเขาไม่กลับเขามาพี่ค่อยวนไปส่งที่บ้านก็ได้ค่ะ” ไอศิกาบอกกับคนขับรถแท็กซี่
แต่เธอรอไม่ถึงห้านาทีรถคันนั้นก็ขับออกมา
“พี่คะขับตามไปเลยค่ะ พี่ว่าในรถมันมีคนนั่งมาด้วยมั้ยคะ หนูมองไม่ถนัด” หญิงสาวยื่นหน้ามาถามขณะที่ตาก็จ้องเข้าไปในรถ
“เหมือนจะมีคนขึ้นมานั่งเพิ่มอีกคนนะคะ หนูจะให้พี่ขับแซงไหมจะได้เห็นชัด”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขับตามไปก่อน”
คนขับแท็กซี่ทำตามที่ไอศิกาบอก เธอเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เธอขับตามจนรถคันนั้นเลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณโรงแรม
“พี่จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
ไอศิกาเห็นอาเขยของตนเองเดินลงจากรถเลยหายเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรีบยื่นธนบัตรใบล่ะหนึ่งพันให้คนขับ
“ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะให้พี่รอรับไหม”
“หนูไม่รู้ว่าต้องรอนานไหม”
“ถ้าจะให้พี่มารับก็เบอร์โทรที่แปะไว้ข้างหลังนะ”
“ได้ค่ะ” ไอศิกาหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถด้านจากนั้นก็รีบเปิดประตูและเดินเข้ามาในโรงแรม แต่เพราะเสียเวลาคุยกับแท็กซี่ก็เลยไม่เห็นว่าเขาไปทางไหน
“ขอโทษนะคะเมื่อกี้มีผู้หญิงกับผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่นี่หนูอยากรู้ว่าเขาไปทางไหนคะ” เธอถามพนักงานที่แผนกต้อนรับ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะเราบอกไม่ได้หรอกค่ะเพราะมันเป็นความลับของแขกค่ะ”
“หนูขอร้องล่ะค่ะพี่ช่วยบอกหนูหน่อยได้ไหมว่าเขาไปทางไหน”
“คุณเป็นอะไรกับสองคนนั้นเหรอคะ” พนักงานถามเพราะเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทางร้อนรนมาก
“หนูเป็นหลานสาวค่ะ”
“ถึงหนูจะเป็นหลานสาวแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“แต่หนูเป็นหลานสาวของเขาจริงๆ นะคะหนูอยากจะคุยกับเขาถ้าไม่เชื่อคุณดูรูปนี้สิคะ” ไอศิกายื่นรูปของตนเองที่ถ่ายรวมกันทั้งครอบครัวให้กับพนักงาน
“ถึงจะมีรูปมาให้ดูแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ ถ้ายังไงคุณลองโทรติดต่อคุณอาของคุณดูสิคะ”
หญิงสาวทำตามที่พนักงานแนะนำแต่ไม่ว่าจะโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด
“หนูโทรไม่ติดเลย พี่ช่วยหนูไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันผิดกฎ”
“หนูขอนั่งรอตรงนั้นได้ไหมคะ” ไอศิกาชี้ไปยังโซฟาด้านหน้าซึ่งตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่เลย
“ได้ค่ะ” เมื่อติดต่ออาเขยไม่ได้และพนักงานไม่ยอมบอกว่าเขาพักที่ห้องไหนหญิงสาวก็เลยต้องนั่งรอ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องรอนานเท่าไหร่ จะเดินไปทางพนักงานคิดว่าเขาคงไม่ตอบแน่ๆ หญิงสาวเลยตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อน
“ฮัลโหล ไอซ์มีอะไรหรือเปล่าตอนนี้เวลาที่ไทยมันดึกแล้วนะหรือไอซ์กลับมาอังกฤษแล้ว”
“เปล่า ไอซ์ยังไม่กลับแต่มีเรื่องอยากถามอลันนิดหน่อย”
“เรื่องด่วนใช่ไหม”
“อือ”
“ถามมาเลย”
“ไอซ์อยากรู้ว่าเวลาผู้ชายพาผู้หญิงเข้าโรงแรมเขาใช้เวลาอยู่ในโรงแรมนานแค่ไหน”
“ถามทำไมเนี่ยอย่าบอกนะว่ามีผู้ชายชวนเข้าโรงแรม”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกอลัน ตอบมาก่อนว่าเวลาอลันพาผู้หญิงเข้าโรงแรมส่วนใหญ่จะใช้เวลานานแค่ไหน”
“อย่างต่ำก็ชั่วโมงแต่ไม่น่าจะเกินสามชั่วโมงแล้วไอซ์ถามทำไม”
“เอาไว้วันหลังไอซ์จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะ ขอบใจมาก” เธอรีบวางสายจากเพื่อนจากนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือและคิดว่าถ้าเขาเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงเธอจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
ไอศิกาเคยสังเกตว่าอาเขยของเธอมักจะออกจากบ้านเวลาประมาณสามถึงสี่ทุ่มและเขาก็จะกลับไปนอนที่บ้านทุกครั้ง แต่เธอไม่แน่ใจว่าเขากลับเข้าไปตอนไหน
ที่มานั่งรอแบบนี้ก็เพราะอยากจะคุยกับเขาที่นี่เพราะถ้าไปคุยที่บ้านก็กลัวว่าคุณอาสาวของตนเองจะไม่สบายใจและมันจะกระทบต่อเด็กที่อยู่ในท้อง