/0/22666/coverbig.jpg?v=2267a24a10d8c03aa5e18064155b2076)
ธิดา สาวมืดมนอายุ 20 ปี นักศึกษาโบราณคดี เพราะความจนเป็นเหตุ เจ้าของฮู้ดกับแว่นตาหนาเตอะที่ไม่เคยมีใครเห็นหัวเลยมีงานอดิเรกเป็นการนับเงินของตัวเองซ้ำๆราวกับมันจะเพิ่มขึ้น แด่ถึงชีวิตมันจะไม่มีอะไรดี หล่อนก็ไม่เคยคิดจะเป็นจักรพรรดินีทราช จางเฟิง หัวหน้านางกำนัลอายุ 22 ปี ผู้ดูมีลับคมคมใน สาวใช้คนสนิทขององค์จักรพรรดินีที่เอาแต่ร้องขอความตายอย่างไม่เกรงกลัว หญิงสาวผู้มี…ซิกแพคเป็นมัดๆ? ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ เมื่อก้างปลาติดคอตายจนต้องมาอยู่ในร่างจักรพรรดินีทรราช ธิดาก็หาทุกวิถีทางเพื่อจะรอดจากตอนจบสุดอนาถที่ต้องถูกเหล่านางบำเรอชำเราตุยคาเตียง ทว่า คุณพี่คะ ทำไมนางรับใช้คนสนิทถึงได้มีลูกกระเดือกโตตีหัวหนูได้ขนาดนั้นล่ะคะ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
ว่ากันว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีชีวิตรอดจากการปรับตัวไปตามสังคมโน่นนี่นั้นไปเรื่อย ทว่า ฉันอาจจะไม่ใช่มนุษย์
จะตอนเด็กหรือตอนยี่สิบปี มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เป็นแค่ฝุ่นผงที่เคลื่อนไหวได้เท่านั้น
“สิบ ยี่สิบ สามสิบบาท เหลือเงินแค่นี้เองเหรอเนี่ย เฮ้อ…อยากให้เงินกยศ.ออกไวๆจัง”
กินปลากระป๋องจนหน้าจะอยู่เป็นปลาอัดกระป๋องเองอยู่แล้ว
“ใครชื่อ ธิดา อะ เห็นอาจารย์บอกว่าวิชาโบราณคดีเขาได้คะแนนเสริมเพราะส่งคนแรก ถึงจะทำได้ไม่ค่อยดีก็เถอะ”
ฉันขยับแว่นเล็กน้อย เมินเสียงเพื่อนร่วมสาขาโบราณคดีที่ยืนพูดถึงฉันจากหน้าห้อง หยิบเหรียญสิบที่นอนนับกับโต๊ะเมื่อครู่เข้ากระเป๋าเสื้อฮู้ด แล้วออกจากห้องเรียน
มหาลัยชื่อดังกลางเมือง และสาขาโบราณคดีที่มีอยู่เซคเดียวมีประชากรจำกัดที่ยี่สิบคน แต่เรียนมาสองปีอย่าว่าแต่เพื่อนร่วมชั้น แม้แต่อาจารย์ยังไม่มีใครจำฉันได้เลยสักคน
ไม่สิ ใช้คำว่ามองไม่เห็นน่าจะถูกกว่า
ปึ๊ก
“อ้ะ ขอโทษ…”
“...”
“มีอะไรเหรอเธอ”
“เมื่อกี้รู้สึกเหมือนชนใคร”
“ไม่เห็นมีเลย คิดมากไปแล้ว”
นักศึกษาสองคนเดินผ่านไป ทั้งที่ชนไหล่เมื่อกี้แท้ๆ ฉันก็ไม่ได้หนีไปไหน ถึงจะชินที่ถูกมองข้ามแต่เจอแบบนี้ตามถนนทีไรก็หงุดหงิดทุกที
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
“เฮ้อ จำไม่ได้แล้วว่าเห็นภาพนี้มากี่ครั้ง”
ภาพที่เปิดฝาปลากระป๋องแล้วนั่งจ้องมันอยู่หน้าโต๊ะกินข้าวในห้องแคบๆ ที่มีเตียงและโซฟาอยู่ใกล้กันเบ็ดเสร็จ
ห้องขนาดรูหนูแต่ค่าเช่าราคาหูฉลาม!
นาฬิกาฝาผนังตีบอกเวลาหนึ่งทุ่ม เสียงเคลื่อนของเข็มวินาทีดังถี่ๆ
“รีบกินรีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปเรียนเช้า”
ทั้งที่ตั้งใจรีบกินรีบนอน แต่ตักปลาเข้าปากได้สองสามคำ ก้างที่ไม่ทันได้ดูให้ดีก็ทิ่มเหงือกจึ้ก พออ้าปากร้องโอ๊ย ก็ดูเหมือนก้างนั่นจะหลุดลงคอพอดี
“แค่ก แอ๊กๆ”
วันนี้ก็เป็นวันที่แสนน่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
มึนหัว หิวข้าว ปวดหลัง
ไม่อยากลืมตาตื่นเลย เอ๊ะ เพดานแปลกๆ เสาเตียง? เตียงไม้อันใหญ่ไร้ฟูก? และ…
“กรี๊ด! พวกเธอเป็นใคร”
“คารวะองค์จักรพรรดินีเวี่ยหมิง!” เหล่าสาวในชุดนางกำนัลสี่ห้าคนคุกเข่าก้มหัวติดพื้นอยู่หน้าเตียงเอ่ยพร้อมเพรียง อีกทั้งยังตัวสั่นราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
พอฉันลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปถามว่าที่นี่ที่ไหน พวกนางก็ตัวสั่นกว่าเดิม เดี๋ยวนะ ฉันอยู่ในชุดจีนโบราณ ลายที่ปักผ้านี่ก็คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นตอนเรียน
พอเงยหน้าก็เหลือบไปเห็นเงาใบหน้าตัวเองที่สะท้อนกับแจกันทองใบหนึ่ง
นั่นใคร!!!
“องค์จักรพรรดินีเวี่ยหมิง พระองค์ทรงเป็นอะไรไปเพคะ เหล่านางกำนัลที่บกพร่องในหน้าที่จนทำให้พระองค์ตื่นสาย จะทรงรับสั่งแขวนคอหรือดื่มยาพิษดีเพคะ”
นางกำนัลคนเดียวที่ยืนอยู่และกล้ามองหน้าฉันไม่เหมือนพวกนั้นเอ่ยถาม แต่คุณพระ! ใบหน้าคมๆกับลูกกระเดือกเม็ดเป้งทะลุคอนั่น
มีงานอดิเรกแต่งสาวใช่ไหม แล้วคนอื่นๆที่นี่ไม่รู้จริงหรือคะว่า คุณพี่เป็นผู้ชาย กล้ามคุณพี่กับซิกแพคมันนูนทะลุผ้าแล้วนะนั่น!
“เอ่อ…”
“หรือทรงต้องการให้โบยจนตายเพคะ”
แค่มาปลุกสายต้องฆ่าแกงกันเชียวหรือคะคุณพี่
“เธอ…เอิ่ม เจ้าไม่กลัวตัวเองจะโดนด้วยหรือ เจ้าก็เป็นนางกำนัล”
“เพคะ หัวหน้านางกำนัลอย่างหม่อมฉัน ‘จางเฟิง’ ไม่อาจดูแลนางกำนัลให้ดี ทุกครั้ง องค์จักรพรรดินีเวี่ยหมิงทรงละเว้น ทว่ากระหม่อมมีความผิดสมควรตาย หากสั่งลงโทษกระหม่อมจะน้อมรับด้วยความยินดี”
นี่เจ้าของร่างนี้ใจจืดใจดำโหดเหี้ยมขนาดไหนเนี่ย มิน่าพวกนางกำนัลถึงสั่นเป็นลูกนก
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ
“จักรพรรดินีเวี่ยหมิง? ใคร?”
“พระองค์ไงเพคะ” จางเฟิง หัวหน้านางกำนัลตอบหน้าตาย
ในขณะที่ฉันกำลังจะตายจริงๆ
“แสดงว่าที่นี่คือเมืองเวี่ย”
“เพคะ”
เมืองเวี่ย เมืองโบราณที่ล่มสลายไปแล้ว และผู้ปกครองคนสุดท้ายก็เป็นผู้หญิง ทรราชเวี่ยหมิงที่ตายอนาถคาเตียงตอนอายุสิบแปดปี
“จางเฟิง ตอนนี้ฉะ-ข้าอายุเท่าไหร่” เข้าไปจับไหล่ถาม อีกคนทำหน้างง
“ทรงมีพระชนมายุ 17 ปี 6 เดือนเพคะ”
เปรี้ยง!!
สายฟ้าลูกใหญ่ๆผ่าลงมากลางใจ นั่นหมายถึงเตียงใหญ่นี่จะกลายเป็นโลงศพในอีกหกเดือนข้างหน้า
ฉันหันไปมองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วสายตาก็เห็นมีดสั้นที่น่าจะเป็นอาวุธประจำกายของร่างนี้อยู่ข้างหมอน
“ฉันจะกลับบ้าน”
มือเรียวคว้ามีดนั่นชักจากฝัก ปักคมแหลมเข้าตำแหน่งหัวใจทันที
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาเพียงครู่ ได้ยินเสียงจางเฟิงพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะไม่รับรู้อะไร
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
ความรู้สึกเหมือนได้นอนหลับอย่างยาวนานเป็นสิบๆปีสิ้นสุดลง ทันทีที่เปิดเปลือกตาขึ้นก็ต้องประหลาดใจ
ไม่ใช่นรก สวรรค์ หรือโลกหลังความตาย แต่ฉัน…
“พระองค์ตื่นแล้ว องค์จักรพรรดินีเวี่ยหมิง” จางเฟิงเข้ามาประคองให้ลุกขึ้นนั่ง
นางกำนัลน้อยที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพอเห็นหน้าฉันก็รีบวิ่งหนีออกไป
บรรยากาศและใบหน้าของผู้คนที่นี่เขกหัวฉันแรงๆให้รู้ว่า ต่อให้ตายก็ไม่ได้กลับไปอีกแล้ว
จางเฟิงเดินไปนำอ่างล้างหน้ามาให้ สายตายังคงจับจ้องไม่วาง
“หม่อมฉันภาวนาตลอดสามวันให้พระองค์ตื่นโดยเร็ว หมอหลวงเองก็ไร้ความสามารถ”
“สามวัน!”
เดี๋ยวนะ ถ้าหมอหลวงไร้ความสามารถตามที่ว่างั้นบาดแผลฉกรรจ์ที่ควรมีตรงหน้าอกมันหายไปไหน
“ข้าแทงตัวเองขนาดนั้น แผลจะหายในสามวันได้ยังไง”
“พระองค์กล่าวอะไรเพคะ หรือมีมือสังหาร หม่อมฉันจะไปตามทหาร”
“เดี๋ยวๆ ไม่ต้องๆ ฉั-ข้าหมายถึงข้าประหลาดใจน่ะที่แผลแทงตัวเองของข้าหายไป”
คนฟังทำสีหน้าไม่เข้าใจ เอามือมาอังหน้าผากอย่างถือวิสาสะ
“ไม่มีเรื่องเช่นนั้นหรอกเพคะ หากองค์จักรพรรดินีเวี่ยหมิงได้รับบาดเจ็บ หม่อมฉันที่เป็นทั้งหัวหน้านางกำนัลและนางสนองโอษฐ์ย่อมไม่อาจมีชีวิตอยู่เพคะ”
ฉันอยากจับเขาเขย่าๆแล้วสั่งให้เลิกพูดจาเป็นผู้หญิงเสียที มันเหมือนเห็นจระเข้ยืนสองขาเต้นระบำ
ว่าแต่ตอนนั้นฉันจำได้ดีว่าแทงตัวเองต่อหน้าต่อตาหมอนี่ ทำไมเขาไม่รู้ไม่ชี้ล่ะเนี่ย เรื่องที่แผลหายอีก
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
ช่วงสายๆ ฉันยังนั่งบนโต๊ะมุมขวาในห้องนอน ไม่วายเห็นจางเฟิงที่ถูกไล่ไปยืนรอด้านนอกเอาแต่ชะเง้อชะแง้มองมา
ตอนอยู่ห้องเช่าฉันก็นั่งกินข้าว ทำการบ้าน เขียนงาน คิดโปรเจคที่โต๊ะตัวเดียวแบบนี้เหมือนกัน ถึงตอนแรกคนแอบมองจะตกใจแทบไม่เชื่อสายตาที่เห็นประมุขแผ่นดินนอนฟุบเอาแก้มแนบกับโต๊ะ
“เวี่ยหมิง สตรีทรราชในอดีต นางตายบนเตียงในสภาพถูกเหล่านายบำเรอร่วมรัก อ้ะ จริงสิ!”
ฉันเด้งตัวขึ้นหลังตรงรีบเดินออกห้องทันที
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
“พวกเจ้าทุกคนถูกไล่ออก!”
พัดจีนจำนวนมากร่วงตกราวกับหมู่ปักษาตกนภา หนุ่มๆที่ถูกเรียกมากองรวมกันในเรือนรับรอง ใบหน้าคมบ้างหวานบ้างสะอาดสะอ้านตั้งแต่ผิวกายและอาภรณ์ที่ใส พากันอ้าปากค้างบ้างก็เบิกตาโพลง
“องค์จักรพรรดินีเวี่ยผู้งดงาม กระหม่อมผิดไปแล้ว”
“กระหม่อมก็ผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
บรรดาชายหลังวังทั้งหนุ่มที่รับมาอย่างพึงใจ ทั้งเชลยเชื้อพระวงศ์ไม่ได้เต็มใจในตอนแรก
ตอนนี้พากันดาหน้ามาคุกเข่าเรียงหน้ากระดานเอ่ยโอดครวญขอโทษขอโพยทั้งที่ไม่มีความผิด
นี่มันวุ่นวายกว่าที่คิดเสียอีก ยิ่งฟังเสียงออดอ้อนออเซาะแล้วยิ่งปวดหู
“พวกเจ้าเป็นอันใดเล่า ข้าจะปล่อยพวกเจ้ากลับบ้าน ได้เวลาคืนถิ่นไม่ดีใจหรือ จากนี้ไปพวกเจ้าก็หาแม่นางดีๆสักคนมาแต่งเข้าเรือนเสีย”
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ผิงผิง อายุ 35 ปี อาชีพ อ่านนิยายไปวันๆ นางเอกผมประบ่าผิวขาวหน้าสวยติดไปทางหวานเป็นคนว่างงานกินเงินประกันสังคม วันๆเอาแต่นอนอ่านนิยาย กินป๊อปคอร์น แม้จะออกไปนอกบ้านบ้างแต่เห็นคู่รักทีไรก็ไปแวะใส่เขาทุกที เทียนชุน เซียนคนล่าสุดที่มาพร้อมกระบี่คู่ใจนาม ตี้หยาง พระเอกนิยายตามท้องเรื่องหล่อคม ผมยาวสีดำคลับ พูดน้อย วันๆเอาแต่นั่งบำเพ็ญเพียรอยู่บนแดนเซียน สิ่งที่ชอบไม่มี สิ่งที่เกลียด คนพูดมาก ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ ตายคาทรีนไม่พอ ลืมตาอีกทีกระบี่พระเอกใบ้ก็จ่อคอเรียบร้อย ใครอยากเป็นเซียนก็เป็นไป ตัวร้ายจนๆคนนี้จะตั้งแก๊งอันธพาลให้ได้เลย ถ้ายังไม่ตายอะนะ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀ ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ Trigger Warning **นิยายจีนโบราณ โรแมนซ์ ตลก** ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."