ผิงผิง อายุ 35 ปี อาชีพ อ่านนิยายไปวันๆ นางเอกผมประบ่าผิวขาวหน้าสวยติดไปทางหวานเป็นคนว่างงานกินเงินประกันสังคม วันๆเอาแต่นอนอ่านนิยาย กินป๊อปคอร์น แม้จะออกไปนอกบ้านบ้างแต่เห็นคู่รักทีไรก็ไปแวะใส่เขาทุกที เทียนชุน เซียนคนล่าสุดที่มาพร้อมกระบี่คู่ใจนาม ตี้หยาง พระเอกนิยายตามท้องเรื่องหล่อคม ผมยาวสีดำคลับ พูดน้อย วันๆเอาแต่นั่งบำเพ็ญเพียรอยู่บนแดนเซียน สิ่งที่ชอบไม่มี สิ่งที่เกลียด คนพูดมาก ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ ตายคาทรีนไม่พอ ลืมตาอีกทีกระบี่พระเอกใบ้ก็จ่อคอเรียบร้อย ใครอยากเป็นเซียนก็เป็นไป ตัวร้ายจนๆคนนี้จะตั้งแก๊งอันธพาลให้ได้เลย ถ้ายังไม่ตายอะนะ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀ ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ Trigger Warning **นิยายจีนโบราณ โรแมนซ์ ตลก** ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
╔.★.═════════╗
บทที่ ๑
╚═════════.★.╝
“ปวดหัวโว้ย! ถ้าเลือกได้ ฉันจะเป็นเจ้าสำนักสักแห่ง ให้คนมาบีบมานวดให้สาใจไปเลย”
เดี๋ยวนะ เหมือนนึกอะไรออก
ถ้าบีบไปบีบมามันไล้ลงเนินอก บีบคลึงลงไปถึง…‘เอว’ แบบในหนังสือที่เคยอ่านล่ะ ผู้หญิงในนิยายชอบจับของสงวนกันทุกเรื่อง ส่วนผู้ชาย…
อี๋ว แม่จะโดดเตะก้านคอเข้าให้ พวกศิษย์ทรพี!
“ถ้าเป็นเจ้าสำนักละก็ ต้องขี่กระบี่ไปตีกะชาวบ้านสินะ เจ้าสำนักสาวผิงผิง คริคริ”
นึกได้แค่นั้นก็หน้าถอดสี เอนตัวลงตะแคงข้างมือยังคั่นหนังสือไว้ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่โคตรน่าเบื่อ
พอหัวว่างทีไร
คำว่า ‘ว่างงาน’ มันก็แปลงร่างเป็นค้อนเหล็กมาทุบหัวทุกที
“ให้ตาย คนอายุ 35 จะตกงานกันทุกคนเลยเหรอ เฮ้อ…ช่วยไม่ได้ เศรษฐกิจแบบนี้ใครอยากไปทำงานก็ไปเถอะ”
ที่นอนกินเงินประกันสังคมทุกวันนี้ไม่ได้ขี้เกียจนะ ก็แค่ทำตัวให้สมกับ อาชีพ ‘ว่าง’งาน เท่านั้นแหละ
“เฮ้อ” นอนยกหนังสือชูขึ้นสูงๆ “《ไข่มุกวิญญาณสวรรค์ของมี่มี่》ถ้าไม่ได้แกฉันคงเฉาตาย จะว่าไปก็ใกล้ถึงบทสุดท้ายแล้วนี่”
ดึงหนังสือมาแนบอกเมื่อในหัวผุดนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะลุกเอาที่คั่นหนังสือมาใส่กระดาษคั่นหน้าไว้ดีๆ หยิบกุญแจบ้านแล้วเดินออกไป
▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
ฉันตาวาวเมื่อเห็นว่าสินค้าที่ต้องการยังมีขายอยู่บนชั้น
แจ่มแมว
“เวลาแบบนี้ก็ต้องป๊อปคอร์นสิ มันถึงจะฟิน”
ค่อยสบายใจหน่อย นึกว่าได้ของเต็มตะกร้าแต่จะขาดพระเอกชูโรงไปซะแล้ว
รู้ไหมว่าทำไม ป๊อปคอร์นต้องคู่กับโรงหนัง ก็เพราะถ้าฉากจบเราไม่ได้โซ้ยอะไรหวานๆกรึบๆเข้าปากแปลว่าหนังเรื่องนั้นมันยังไม่จบไงล่ะ
ฉันว่านิยายก็คือๆกัน
กึก!
“อี๋ว แหวะ”
โนๆๆ ฉันไม่ได้แหวะป๊อปคอร์น แต่ที่แหวะน่ะคือคู่ชายหญิงอินจันที่ใส่เสื้อคู่สีชมพูบานเย็นหวานแหววอย่างกับคลานตามกันมาอยู่ห่างไปอีกล็อก มือนี่พันกันจนไม่รู้ว่าจะรวมร่างกันตอนไหน
ไม่เกรงใจห้างสรรพสินค้าก็เกรงใจสายตากูบ้าง!
นี่ไงฉันถึงได้ไม่ค่อยออกจากบ้าน ถึงเหตุผลใหญ่ๆจะเป็นเพราะขี้เกียจมากกว่าก็เถอะ
ระหว่างขากลับ หางตามันก็เหลือบไปเห็นเงาดำๆในตรอกของคนคู่หนึ่ง เสียงบางอย่างมันก็แว่วมา
“อื้อ อ้ะ อ้ะ”
ರ_ರ
“อื้อ อ้ะ อ้ะๆ”
ರ╭╮ರ
“อ๊าง จะเสร็จแล้ว อ้ะ”
ಠಿヮಠ
เล่นหมากเก็บโดดชักเย่อกันมั้ง!!!!!
อื้ออ้า อื้ออ้าจนจะเสียวตามอยู่แล้วคุณเพ่
อะ ใครตามไม่ทันฟังทางนี้ เดี๋ยวจะปาฐกถาให้ฟัง เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันออกมาซื้อป๊อบคอร์นกับพวกของกินไปตุนในตู้เย็น แล้วทีนี้คนนะไม่ใช่ทินเดอร์จะได้ปัดทีเดียวถึงบ้านเลย แต่ไอ้ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันดันตาดีเกินเหตุ เหลือบไปเห็นหนังสดเรทผู้ใหญ่เข้า ทั้งที่เขาก็ทำอยู่ในหลืบคงเป็นคู่รักที่ชอบความตื่นเต้นแต่ไม่ได้ตั้งใจจะโชว์จริง ก็เล่นเข้าไปในที่มืดขนาดนั้น
ส่วนฉันก็ไม่ได้อยากหยุดดู แต่มันเสียวท้องจนก้าวขาไม่ออก
ไอ้ที่ออกก็มีแต่…ปาก!
“อี๋ว แหวะ”
จ่ะ แล้วมันเป็นปัญหาตรงไหนเหรอ ตรงที่เงาของร่างใหญ่ด้านในเก็บเป้าเข้าไปในกางเกงแล้วมุ่งเดินมาต่อยฉันน่ะสิ!
“ขยับ ขยับสิวะ”
ขามันแข็งไม่ยอมก้าวอ่า ออกแรงสุดฤทธิ์ได้แค่กระดิกเอง ไม่ทันแล้ว!!
ผู้ชายหน้ามีรอยแผลเป็นจากของมีคมใส่ยีนตัวใหญ่ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเหงื่อกำลังยืนอยู่ตรงหน้า
ถ้ารอดวันนี้ไปได้ ลูกจะถวายป๊อบคอร์นสองห่อใหญ่ๆเลย
“สะ สวัสดี”
ขอโทษสิโว้ย จะสวัสดีหาป๊อบคอร์นอะไรหา!
ฉันเอ่ยปากได้แค่นั้นก็โดนกระชากเสื้อคอกลมปลิวติดมือเข้ามาในตรอกแคบๆ ทั้งสกปรกทั้งเหม็น ไม่รู้ว่ากลิ่นน้ำคาวหรือกลิ่นเน่าอะไรกันแน่
ฉันมองซ้ายมองหาหาทางหนีทีไร แต่ขาก็ยังสั่นระริกไม่ยอมขยับตามใจ จนตอนนี้รู้สึกอยากจะอ้วกจริงๆแล้ว
“ไงมึง นังนี่นี่!” เหวี่ยงเข้ากำแพงแล้วจิกหัวขึ้นมา “มึงเจ๋งนักหรือ เจ๋งนักใช่ไหมวะ”
มันกัดฟันเจ็บใจ แต่ในทันใดนั้นฉันกลับเจ็บปวด ไม่รู้ว่ามือหรือเท้า แต่น่าจะทั้งสองที่กำลังทะเลาะกับร่างกายฉัน สายธารจากดวงตาไหลลงไม่หยุดและห้ามไม่ได้ ร่างกายที่เต็มไปด้วยห้อเลือดและรอยฟกช้ำ บ้างก็เลือดซิบจนไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป
มีเพียงพื้นดินแฉะๆที่รองรับแก้มและร่างทั้งร่างเอาไว้
สายตาฉันมองเหม่อไปที่ถุงป๊อบคอร์นที่มันยังตกอยู่ที่ปากทาง
ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นรองเท้าผ้าใบของใครที่เหยียบมันจนแตกเละ มีขนมบางส่วนกระเด็นออกมาหน่อยหนึ่ง รู้สึกว่ามัน…เหมือนกับฉันเลย
ความเจ็บปวดยังคงถูกป้อนเพิ่มเข้ามาอีกระยะ ฉันหลับตาไม่อยากจดจำใบหน้าของคนที่กระทำแม้จะมืดจนมองหน้าเขาไม่เห็นอยู่แล้ว
ขณะที่สติกำลังลังเลว่าจะอยู่หรือจะไป
ทั้งที่ง่วงงุนตั้งแต่โดนแรกๆแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็ยังทำให้หลับไม่ได้ จนลากยาวมากว่าสามสิบนาที สติที่มีถึงบอกว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว
[แจ้งเตือน! คุณได้รับพรตามคำขอ คำขอที่ 339 สัมฤทธิผล]
เสียงเหมือนระบบเอไอของอะไรสักอย่างแต่นุ่มนวลและทำให้สบายใจกว่าดังก้องในหัว
เจ็บจะแย่
คำขอบ้าบออะไร
อ่อ ที่ขอกินป๊อบคอร์นอ่านนิยายตอนสุดท้ายน่ะเหรอ ตอนนี้ไม่ต้องแล้วล่ะ
ในที่สุดความเจ็บปวดทั้งหมดก็หายไปเหมือนกำลังได้รับของขวัญเป็นการพักผ่อนอันยาวนาน ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่มีประสาทสัมผัสหรือการรับรู้ใดๆเหลืออยู่เลย
“ก็ดีแล้วล่ะ”
“เจ้าพูดอะไร มาทำอะไรที่นี่ บอกข้ามา”
“ซีส์!”
ทำไมขยับตัวได้ แถมเจ็บอีกแล้วล่ะ แต่เหมือนจะเจ็บแค่ที่คอแหะ เหมือนโดนอะไรบาด
!!!
ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องตาโตเท่าไข่ห่าน เมื่อตัวเองกำลังคุกเข่าที่พื้นเย็นๆในตรอกเล็ก ข้างคอมีคนที่ยืนอยู่ยกปลายกระบี่มาจ่อกัน
อะไร ยังไง มันเกิดอะไรขึ้น ฉันตายไปแล้วนี่
หรือยังไม่ตาย แล้วหมอนี่เป็นคะ…เอ๊ะ
ชุดสีขาวทองที่ไม่มีวันเปื้อน ดวงตาสีดำประกายคราม เส้นผมดำสลวยราวกับหญิงสาวทว่าใบหน้ากลับเอ่ยได้ว่าเป็นชายล่มเมืองเสียมากกว่า แถมที่เอวยังห้อยป้ายหยกที่เขียนว่า ‘เทียน’
ชัดเลย ถึงจะยังงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่คนตรงหน้าคือ ‘เทียนชุน’ พระเอกในนิยายเรื่อง 《ไข่มุกวิญญาณสวรรค์ของมี่มี่》แน่นอน!
ธิดา สาวมืดมนอายุ 20 ปี นักศึกษาโบราณคดี เพราะความจนเป็นเหตุ เจ้าของฮู้ดกับแว่นตาหนาเตอะที่ไม่เคยมีใครเห็นหัวเลยมีงานอดิเรกเป็นการนับเงินของตัวเองซ้ำๆราวกับมันจะเพิ่มขึ้น แด่ถึงชีวิตมันจะไม่มีอะไรดี หล่อนก็ไม่เคยคิดจะเป็นจักรพรรดินีทราช จางเฟิง หัวหน้านางกำนัลอายุ 22 ปี ผู้ดูมีลับคมคมใน สาวใช้คนสนิทขององค์จักรพรรดินีที่เอาแต่ร้องขอความตายอย่างไม่เกรงกลัว หญิงสาวผู้มี…ซิกแพคเป็นมัดๆ? ▄₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▄ เมื่อก้างปลาติดคอตายจนต้องมาอยู่ในร่างจักรพรรดินีทรราช ธิดาก็หาทุกวิถีทางเพื่อจะรอดจากตอนจบสุดอนาถที่ต้องถูกเหล่านางบำเรอชำเราตุยคาเตียง ทว่า คุณพี่คะ ทำไมนางรับใช้คนสนิทถึงได้มีลูกกระเดือกโตตีหัวหนูได้ขนาดนั้นล่ะคะ ▀₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪▀
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน