ไม่อยากจะเชื่อว่า แค่จูบของผู้หญิงคนเดียว ทำให้ใจผมสั่นได้ขนาดนี้ ผมผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมาย แต่ทำไมกับเธอคนนี้ถึงทำให้ผมเป็นได้มากขนาดนี้ เธอต้องมีอะไรที่พิเศษ และผมจะดึงเธอเข้ามอยู่ในใจผมให้ได้
ภาพคฤหาสถ์หลังใหญ่สีขาวนวล รอบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ทำให้ดูร่มรื่นและร่มเย็น อีกทั้งเมื่อเดินตามทางเรื่อยๆ และเมื่อเดินลึกเข้าไปด้านในก็จะเจอสระน้ำใหญ่ซึ่ง "แพรวา" หญิงสาวที่มีจุดมุ่งหมายกับการมาเยือนของเธอที่คฤหาสถ์แห่งนี้ เธอยืนมองรอบๆ อย่างนิ่งเฉยราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอ ในใจกลับหม่นหมองอย่างบอกไม่ถูก เรื่องราวที่นี่สร้างคำถามในใจให้เธอมากมาย ผู้คนที่นี่มีทั้งดีและไม่ดี และพร้อมจะหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางได้ตลอดเวลา ขณะที่กำลังยืนมองและคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็มีเสียงเท้ามาหยุดอยู่ข้างหลัง เธอหันไปมองด้วยความตกใจและหยุดมองบุคคลตรงหน้า เขาเป็นผู้ชายที่สวมสูทสีดำ สวมใส่แว่นตากันแดด ท่
าทางดูน่าเกรงขาม และข้างเอวก็มีปืนกระบอกหนึ่งเหน็บอยู่ เขาถอดแว่นตาออก ทำให้ให้เห็นใบหน้าคมเข้ม และดวงตาที่แข็งกร้าว แต่กลับซ่อนความเศร้าในแววตา
"คุณแพรวาใช่มั้ยครับ"
"ค่ะ"
"เชิญด้านในครับ นายกำลังรอ"
ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะเดินตามเข้าไปข้างใน
"นายครับ"
เขาพาเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
"มาอยู่ที่นี่ก็ต้องรู้จักกฎของที่นี่ก่อน"
ฉันพยักหน้าแล้วถอนหายใจพร้อมฟังกฎของที่นี่ เขาลุกขึ้นมาเดินรอบตัวฉัน ก่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้า
"ที่นี่ยินดีต้อนรับเธอ จะไปที่ไหนก็บอกลูกน้องฉันได้ แต่อย่าอยากรู้อะไรมากนัก มันอันตราย"
ประโยคสุดท้ายฉันรู้ดี การพาตัวเองมาในจุดที่ไม่สมควรเข้ามา มันย่อมอันตรายอยู่แล้วสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กับฉันฉันรับได้
"ฉันรู้ว่าต้องทำตัวยังไง คุณวางใจเรื่องนี้ได้ ฉันไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอน"
"ดี งั้นจะพาไปดูห้องนอน"
เขาพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย ฉันจึงไม่เดินตาม และเมื่อเขาเห็นว่าฉันไม่เดินตามจึงหันกลับมา
"ทำไมไม่เดินตามล่ะ ไม่อยากพักรึไง"
"ลูกน้องตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่เรียกใช้"
เขาหัวเราะออกมา พร้อมกับมองลูกน้อง ก่อนจะมองแบบทะเล้นๆกับฉัน
"กลัว ว่างั้น"
"ทำไมต้องกลัว นายไม่ได้น่ากลัวสักนิด"
"ถ้าไม่กลัว ก็ตามมา"
เขาถือวิสาสะจับมือฉันให้เดินตามเขา ฉันยอมเดินตามไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากต่อความกับเขา และอยากพักผ่อนแล้ว เขามาหยุดอยู่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูให้ฉัน
"นี่ห้องเธอ ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน"
ก่อนปิดประตูเขาส่งยิ้มให้ฉันพร้อมส่งสายตาที่สุดแสนจะขี้เล่นให้ฉัน วันเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือนและจากเดือนเป็นปีที่ฉันได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงมาเฟีย ที่นี่มีอันตรายรอบตัว แต่ก็มีสิ่งที่ซ่อนอยู่เช่นกัน ฉันต้องเริ่มลงมือค้นหาความจริงให้กับคนในครอบครัวของฉันสักที "มีนา"น้องสาวต่างแม่ที่มาอยู่ในที่นี้หายตัวไป เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉันต้องรู้ให้ได้ ขณะที่กำลังนอนคิดอะไรอยู่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายคือเขา
"วันนี้มีธุระข้างนอก ฉันให้เวลา 20 นาที ในการแต่งตัว"
พูดจบก็วางสายไป ฉันเบ้ปากให้เพราะเบื่อคำสั่งอะไรแบบนี้
"จะดีมากถ้าจะขึ้นไปรับด้วย"
"วันหลังจะขึ้นไปอุ้มลงมาแล้วกันนะ"
ไม่พูดเปล่าแต่กลับดึงมือฉันเดินออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ รถที่แล่นออกไปเรื่อยๆมองเห็นสองข้างทางและวิวธรรมชาติทำให้ฉันปล่อยใจล่องลอยออกไป จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งขับมาประชิดแล้วปาดหน้าทำให้การประทะเกิดขึ้น
"นึกว่ามาคนเดียว พาสาวสวยมาด้วยนี่หว่า"
"ไอ้เมฆา เอารถมึงออกไปจากตรงนี้ซะ วันนี้ไม่อยากมีเรื่อง"
"เห้ย ได้ยังไงกันเล่า วันนี้อุส่าห์มีสินค้าพรีเมียมมาอวดกู จะไม่อวดสรรพคุณหน่อยเหรอ"
เมฆาเดินมาวนรอบตัวฉัน ก่อนจะทำทีท่าว่าจะลวนลามฉัน แต่ 'เพทาย' กลับดักหน้าไว้ก่อน
"มึงยุ่งกับกูได้ แต่มึงอย่าแม้แต่จะคิดมายุ่งกับผู้หญิงของกู"
"ว้าว เป็นคำตอบที่ฟังแล้วน่าสนุก"
"งั้นวันนี้กูจะปล่อยไปก่อน ครั้งหน้าเราเจอกันนะจ๊ะคุณแพรวา"
ประโยคสุดท้ายเมฆาหันมามองฉันแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป
"ไอ้เมฆา มันเป็นหัวหน้าแก๊งหมาป่าที่อันตรายมาก และฉันขอสั่งให้เธอห้ามไปยุ่งกับมันเด็ดขาด"
"แก๊งหมาป่า คือแก๊งที่เคยก่อเหตุตามที่ข่าวออกใช่มั้ย"
"ใช่ แต่ถึงจะออกข่าว ตำรวจก็ยังทำอะไรพวกมันไม่ได้อยู่ดี นี่คือสาเหตุที่เธอต้องมาอยู่กับฉัน"
"นายบอกว่านายเมฆามันอันตราย นายล่ะอันตรายหรือเปล่า"
"แล้วที่เธอยอมมาอยู่กับฉัน เพราะเธอเองก็คิดว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของน้องสาวเธอใช่หรือเปล่า"
สิ้นคำพูด ฉันหันมองหน้าเขาเพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้ในการมาของฉัน คำถามที่่ค้างคาใจมาตลอดเวลา5ปี ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ วิญญาณน้องสาวฉันจะสงบสุขได้ยังไง
"นายรู้อะไรมั้ย ตั้งแต่น้องสาวฉันหายไป ฉันไม่เคยนอนหลับสนิทสักวัน ทุกวันฉันตั้งคำถามในใจมาตลอด ถ้าวันหนึ่งฉันรู้ว่าใครที่เป็นสาเหตุการหายตัวไปของน้องสาวฉัน วันนั้นฉันควรจะทำยังไง"
พูดไปน้ำตาไหลไป เขาเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ ก่อนจะปลอบใจ
"ฉันรู้ว่าเธอทุกข์ทรมาน แต่ให้เธอมั่นใจและเชื่อใจในตัวฉัน ฉันจะช่วยเธอหาคำตอบของเรื่องนี้"
"และฉันจะไม่อยู่เฉยๆแน่"
"ไม่ เธอทำอะไรที่เสี่ยงไม่ได้ ฉันขอสั่งห้ามเด็ดขาด ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเอง"
เขาบีบมือฉันเพื่อย้ำกับฉันว่าเขาจะทำตามที่เขาบอกอย่างแน่นอน แต่ถึงยังไงฉันก็จะขอลองดูสักตั้ง ไม่ว่าหนทางข้างหน้าฉันจะต้องพบเจอกับอันตรายร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม ฉันเชื่อในความดีและคนดี และความจริงจะต้องเปิดเผยในไม่ช้า
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"