“นอนดูดาวด้วยกันนะครับ” แค่ได้ยินเท่านั้นสติของเธอก็แทบกระเจิง หัวใจของหญิงสาวก็เต้นเร่า ๆ คิดไปตามคำที่เขาเอ่ย หากคืนนี้เธอนอนดูดาวกับเขาแล้วมันจะเป็นเช่นไร เขาจะให้เธอดูดาวแบบไหน ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หรือจะให้ดูดาวทั้งฟ้า แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เธอสาบานว่าจะดู... +++++ วุ้นเส้น : สาวเนิร์ดร่างอวบประจำคณะสถาปัตย์ ผู้แอบรักหนุ่มหล่อเหลาดีกรีเดือนคณะมานานกว่าห้าปี เธอตั้้งใจจะแอบรักเขาไปเงียบ ๆ แต่ทว่าในคืนฉลองเรียนจบ กลับเกิดเหตุการแสนเร่าร้อนจนทำให้เธอได้มีโอกาสเปิดเผยความในใจที่มีต่อเขาอย่างใกล้ชิดชนิดเนื้อแนบเนื้อ และเมื่อการแอบรัก ไม่ใช่การแอบรักอีกต่อไป นั่นจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ครั้งแรกของคนที่ไร้ประสบการณ์อย่างเธอ แน่นอนว่าเธอคาดหวังเสมอว่าจะได้เจอรักแท้เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ มาร่วมลุ้นไปด้วยกันค่ะว่า คนที่เธอแอบรักจะใช่รักแท้ของเธอหรือไม่ แล้วถ้าหากไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร? ติดตามอ่านได้ใน "True love รักแท้แค่เพียงเธอ"
ในคืนวันศุกร์ที่สายฝนพรำ พร้อมเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ฟ้ายังร้องครืน ๆ แถมมีสายฟ้าสีส้มแสดที่ฟาดลงมาในบางครั้งพร้อมเสียงดังเปรี้ยงปร้าง
แม้บรรยากาศในคืนนี้เหมือนฝนฟ้าจะไม่เป็นใจให้ใครได้ออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ทว่าในผับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองหลวงกลับอัดแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก โดยพวกเขาไม่ได้แคร์ว่าฝนฟ้าจะมาหรือไป
เสียงเพลงที่ดีเจหนุ่มหน้าตาดีราวกับหลุดออกมาจากซีรีส์เกาหลี เปิดดังอึกทึกครึกโครมเร้าใจ นั่นทำให้เหล่าหนุ่มสาวนักเที่ยวต่างเต้นตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งกลุ่มหนุ่มสาวนักศึกษาปีห้าจากคณะสถาปัตยกรรมที่กำลังจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศก็เช่นกัน
พวกเขาขยับไปตามจังหวะอย่างเมามันสนุกสนาน ยกเว้นเพียง ‘วุ้นเส้น’ สาวร่างอวบอัดที่เอาแต่นั่งมองคนโน้นคนนี้อย่างเบื่อหน่าย
วุ้นเส้นเป็นเด็กเรียนตัวท็อปที่ใส่แว่นตาหนาเตอะ แต่หากแม้นพิศมองใบหน้าผ่านกรอบแว่นแล้วจะเห็นได้ว่าหญิงสาวนั้นน่ารักจิ้มลิ้มไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
แม้รูปร่างอวบอัด แต่วุ้นเส้นกลับมีอก เอว สะโพกอย่างที่ควรจะมี เสียดายที่เธอกลับชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าตัวหลวมโคร่งเพื่อปกปิดอำพรางเพราะขาดความมั่นใจ นั่นยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเธอคือเด็กเนิร์ดดี ๆ นี่เอง
แม้เธอจะมีเอวคอดกิ่ว แต่เธอกลับคิดว่าหน้าอก และต้นขาของเธอมันใหญ่เกินไป ความมั่นใจในการแต่งตัวเลยกลายเป็นศูนย์ แต่ในวันนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะวุ้นเส้นถูกเพื่อนสาวอย่างขิงจับแปลงโฉมจนทุกคนจำเธอแทบไม่ได้
‘อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไม่สวย ให้ลองแต่งหน้าแต่งตัวดูก่อน’
นั่นล่ะสิ่งที่เพื่อนบอก แล้วเป็นไงล่ะ วันนี้ยายขิงจัดสรรทุกอย่างให้จนเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เรียกว่าสวยเช้งตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว
แม้จะสวยขึ้นผิดหูผิดตา แต่วุ้นเส้นก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ดี เธอไม่ชอบเปิดเผยผิวกายที่ขาวเกินไปให้ใครเห็น อีกทั้งไม่มั่นใจในก้อนอกกลมโตที่แม่ให้มาจนมากล้น
ส่วนแว่นหนาเตอะที่ใส่นี่ก็เพราะสายตาเธอสั้นมาก และเธอเคยลองใส่คอนแทคเลนส์แล้วแต่พบปัญหาเกือบทำตาบอดเมื่อเธอดันลืมถอดมันตอนเข้านอน เธอเลยคิดว่าใส่แว่นก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่ากันตั้งเยอะ
เสื้อสายเดี่ยวสีดำทรงเอที่เธอสวมใส่ยิ่งขับผิวขาวอมชมพูให้ยิ่งมีออร่าเปล่งประกาย กระโปรงยีนส์สั้นที่เพื่อนจัดหามาให้ อีกทั้งแว่นตาที่เวลานี้อันตรธานหายไปเหลือไว้เพียงดวงตากลมโตภายใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลอมเทาที่กำลังฮิต รวม ๆ แล้วทำให้เธอดูดีจนเพื่อนหลาย ๆ คนจำแทบไม่ได้ และเอ่ยชมกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘สวย’
หญิงสาวจิบเหล้าเคล้าดนตรีที่เวลานี้เปลี่ยนมาเปิดเพลงเบา ๆ มองซ้ายมองขวาหาคนที่เธอยังไม่เห็นเขานับตั้งแต่เข้ามา กระทั่งสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงโปร่งที่กำลังเต้นแนบชิดกับสาวสวยคนหนึ่งเข้าพอดี
เขาคงเจอคนสวยคนนั้นที่ผับ คนหน้าตาดีอย่างเขาย่อมมีสาว ๆ เข้าหาเป็นเรื่องธรรมดา ตลอดหลายปีมานี้เธอเห็นจนชินตาเสียแล้ว
หญิงสาวได้แต่มองคนทั้งคู่ที่กำลังยืนพะเน้าพะนอคลอเคลียกันนิ่ง กระทั่งเขาหันมาสบตากับเธอ ก่อนจะยกยิ้มให้เพียงครู่ แล้วหันไปสนใจกระซิบกระซาบบางอย่างกับสาวสวยตรงหน้าต่อ
วุ้นเส้นเบือนหน้าหนีภาพนั้น แต่แล้วก็อดที่จะหันกลับไปมองคนทั้งคู่อีกครั้งไม่ได้ ภาพที่เขายกเครื่องดื่มที่ผู้หญิงคนนั้นยื่นให้ขึ้นดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าจนหมดอย่างเอาอกเอาใจ ยิ่งได้เห็นยิ่งรู้สึกบาดตาบาดใจอย่างไรพิกล
เธอคงไม่มีโอกาสได้เป็นอย่างผู้หญิงคนนั้น แค่คิดก็ได้แต่บอกตัวเองให้เจียมเนื้อเจียมตัว
บรั่นดีในมือถูกยกขึ้นมาจิบจนหมดแก้วในคราวเดียว ก่อนจะวางแก้วลงพร้อมยิ้มขันให้ตัวเองที่ริอ่านแอบชอบผู้ชายแม้รู้ทั้งรู้ว่าคนอย่างเขาไม่มีวันหันมามองเธอ
“เฮ้อ เลิกคิด ๆ ว่าแต่ตอนนี้ยายขิงหายไปไหนเนี่ย”
วุ้นเส้นพรูลมหายใจออกมา ก่อนจะบ่นพึมพำเสียงแผ่ว เวลานี้เธอนั่งเมาเหงา ๆ อยู่คนเดียว ไม่รู้ยายขิงเพื่อนรักหายหัวไปเมากับกลุ่มเพื่อนกลุ่มไหนเสียแล้ว เธอมองหาเท่าไรก็ไม่เห็น นี่ถ้าอนาวิลเพื่อนสนิทอีกคนมาด้วยก็คงดี เธอคงไม่เหงาเพราะเธอมั่นใจว่าอนาวิลจะไม่ทิ้งเธอไปสนุกกับใครเหมือนยายขิงซึ่งพร้อมจะทิ้งเธอไปสนุกกับคนอื่น ๆ ได้ทุกเมื่อ
“ยายขิงนะยายขิง เมาแล้วทิ้งกันเฉยเลย”
บ่นก่อนสอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งแล้วก็ตกใจเมื่อจู่ ๆ หนุ่มหล่อ สูงยาวเข่าดีอย่างแทนไทมายืนอยู่ใกล้ ๆ เธอตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
“แทน”
เขายิ้มแล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาที่ทำให้ใจเธอหวั่นไหวมานานหลายปีเข้ามาใกล้ เธอมองเขาจนตาพร่า
“วันนี้วุ้นสวยจนแทนจำแทบไม่ได้”
“.....”
สิ้นคำนั้นแก้มกลม ๆ กลับเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรือเพราะคำหวานหูนั่นกันแน่ และยิ่งเขาเข้ามาใกล้ยิ่งทำให้เธอประหม่า แต่ใด ๆ กลับไปเธอต้องให้รางวัลยายขิงเพื่อนรักที่ประทานความสวยนี้มาให้
“เมาแล้วเหรอ นั่งยิ้มแก้มแดงเชียว”
คนใจเต้นตึกตัก ที่เริ่มเมาจริง ๆ ดั่งเขาว่าพยักหน้าหงึกหงัก แล้วตอบไปอย่างประหยัดถ้อยประหยัดคำ
“อือ วุ้นคงเมาแล้วจริง ๆ นั่นแหละ”
นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวริอ่านดื่มเหล้า ใครว่าเด็กเรียนสถาปัตยกรรมจะต้องดื่มเหล้าเก่ง ยกเว้นเธอไว้คนหนึ่งล่ะ เธอมั่นใจว่าเธอมันเป็นพวกคอแป๊บ นี่ดื่มไปแก้วเดียวก็รู้สึกมึนหัวไปหมดแล้ว แถมร่างกายยังเคลื่อนไหวได้ช้าลงเรื่อย ๆ ซึ่งช่างแตกต่างจากหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ยิ่งเมื่อใบหน้าของของแทนไทขยับมาอยู่ใกล้ ใกล้แค่ฝ่ามือกั้น ขืนอยู่อย่างนี้นาน ๆ เธอคงได้หัวใจวายตายแน่ ไม่เป็นการดี ต้องชิ่งหนีคงจะดีต่อใจมากกว่า
“วุ้นว่าวุ้นกลับก่อนดีกว่า ขืนอยู่ต่อได้เมาหลับคาผับแน่ ๆ ไปก่อนนะแทน”
เอ่ยตัดบท ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้บาร์แล้วรีบเดินไปบอกลาเพื่อนคนอื่น ๆ โดยไม่หันกลับไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของตนอีก
“ทุกคนวุ้นกลับก่อนนะ อ้อขิงอยู่นี่เอง วุ้นกลับก่อนนะขิง”
บอกไปก็เท่านั้น ดูจากสภาพเมาหัวราของทุกคน รวมทั้งยายขิงเพื่อนสนิทของเธอแล้วท่าจะเมาหนักกว่าเธอเสียอีก คงไม่มีใครรับรู้การมีอยู่หรือจากไปของเธอแน่
วุ้นเส้นจึงตัดสินใจเดินฝ่าผู้คนออกไปจากผับเพื่อเรียกแท็กซี่กลับคอนโดตามลำพัง เธอไม่ต้องห่วงขิงเพราะขิงมีคนจากที่บ้านคอยตามดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นเธอต้องห่วงตัวเองก่อน
เมื่อออกมาจากผับปรากฎว่าบริเวณภายนอกชุ่มฉ่ำเจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนที่น่าจะเพิ่งหยุดตก เสียงอึกทึกครึกโครมภายในผับทำให้วุ้นเส้นไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาฝนตกไปห่าใหญ่แล้ว วุ้นเส้นแหงนมองท้องฟ้าที่ยังมืดดำ ก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวไปยังถนนหน้าผับหมายจะเรียกแท็กซี่สักคัน
“แทนไปส่งนะวุ้น”
แต่ยังไม่ทันจะได้เรียกด้วยซ้ำ เสียงอันคุ้นหูทำให้เธอต้องหันกลับไปมองด้วยใจที่ไม่ปกติอีกแล้ว
แทนไทคือคนที่เธอรู้สึกดีกับเขามาเนิ่นนาน ขนาดตั้งใจหาเรื่องใกล้ชิดเขาด้วยวิธีการเนียน ๆ อย่างเช่นการทำงานกลุ่มร่วมกับเขาเสมอ ไม่ได้จะวางแผนจับเขาหรอกนะ แค่บอกตัวเองขำ ๆ ว่าไม่ได้กิน หอมกลิ่นก็ยังดี
แม้แทนไทจะมีผู้หญิงรายล้อมรอบกายตลอดเวลา แต่เธอก็ดีใจที่ได้มองเขาอยู่เงียบ ๆ ช่างเป็นความรักที่ไร้เดียงสา และบริสุทธิ์เสียจริง
“ขอบใจนะแทนแต่วุ้นกลับเองได้ แทนไปสนุกกับทุกคนต่อเถอะ”
เธอไม่อยากขัดจังหวะ ก็เห็น ๆ อยู่ว่าเมื่อสักครู่เขากำลังดื่ม และกำลังติดหญิง...
“แทนสนุกมาพอแล้ว เรากลับกันเถอะ”
“แต่...”
“กลับคนเดียวมันอันตราย แทนเป็นห่วง”
เอ่ยพร้อมถือวิสาสะจับมือนุ่มนิ่มของเพื่อนสาวร่างอวบก่อนเดินไปยังรถของตน
ในขณะที่คนถูกจับจูงได้แต่เดินตามเขาไปพร้อมมองแผ่นหลังผึ่งผายนั่นตาปรอย หัวใจวุ้นเส้นเต้นแรงมาก เขาจะรู้บ้างไหมว่าการทำดีกับเธอแบบนี้มันทำให้เธอหวั่นไหว จนบางทีในใจนึกอยากเอ่ยปากสารภาพรักกับเขาไปให้รู้แล้วรู้รอด
เมื่อไปถึงรถคันกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก แทนไทก็จัดการเปิดประตูข้างคนขับและดันแผ่นหลังวุ้นเส้นเข้าไปนั่งในรถอย่างไม่รอช้า ก่อนจะปิดประตูให้เสร็จสรรพ
หญิงสาวได้แต่ยกยิ้มแล้วส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองสารถีหนุ่มรูปหล่อที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งในตำแหน่งคนขับ แล้วขับรถออกไปเงียบ ๆ
เธอหันไปมองเสี้ยวหน้าคมเข้มของคนตั้งใจขับรถ แล้วเผลอยิ้มน้อย ๆ ดีใจเหลือเกินที่เขา ‘เป็นห่วง’
เธอกับแทนไทเรียนคณะเดียวกัน และรู้จักเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เขาตรงสเปคของเธอทุกอย่าง ทั้งหน้าตาหล่อเหลาคมคาย ตัวสูง ผิวเข้ม
แทนไทหน้าตาดี มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะ เขามีสาว ๆ มาติดพันมากมายหลายคน ไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง สวยเซ็กซี่ขยี้ใจแค่ไหนก็มีมาให้เลือก เธอเคยเห็นเขาเคยควงมาแล้วทั้งนั้น
เขาจัดเป็นคนเจ้าชู้คนหนึ่งที่ควงสาวไม่ซ้ำหน้า เปลี่ยนผู้หญิงจนวุ้นเส้นจำหน้าแทบไม่ได้ว่าใครเป็นใคร บางทีเธอเองก็ถึงกับทักผิดทักถูก พักหลังมาเธอก็เลยเลิกทัก พยักหน้าแล้วยิ้มก็คงเพียงพอแล้ว
ทุกครั้งที่เห็นเขาคบหาผู้หญิงคนอื่น วุ้นเส้นรู้สึกหน่วงในใจแปลก ๆ แต่เธอก็ไม่เคยแสดงอาการใดออกมา เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
แทนไทมักบอกกับวุ้นเส้นว่าแม้เขาจะคบสาว ๆ บ้าง ตามประสาผู้ชาย แต่เขาก็อยากโฟกัสเรื่องการเรียนก่อนเป็นอันดับแรก เขาและวุ้นเส้นเลยทำงานกลุ่มร่วมกันได้อย่างสบายใจ
“แทนทุ่มเทให้กับเรื่องเรียนมากกว่าเรื่องผู้หญิงอยู่แล้ว”
เขาว่างั้นอ่ะนะ แม้บางครั้งเขาผิดนัดทำงานกลุ่มเธอก็ให้อภัยได้ แต่กลับเป็นขิงและอนาวิลที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องยอมเมื่อเธอขอ
ตลอดหลายปีที่เรียนด้วยกันวุ้นเส้นมักจะคอยแนะนำ ช่วยเหลือแทนไทเสมอเมื่อเขามาปรึกษาเรื่องเรียน กระทั่งวันนี้เธอกำลังจะเรียนจบและคาดว่าจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหมือนอนาวิลและขิง ส่วนแทนไทแม้จะไม่ได้เกียรตินิยมแต่ก็ได้เกรดเฉลี่ยนสามกว่า เพราะเธอช่วยติวให้
“ถึงแล้วครับคนสวย”
วุ้นเส้นที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ หลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงแทนไท เธอคิดอะไรเพลินจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ารถหยุดลงแล้ว
“ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาส่ง”
“แทนก็แค่อยากตอบแทนวุ้นบ้าง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาวุ้นช่วยแทนมาตลอดเลย แทนเรียนจบมาได้ก็เพราะวุ้น ขอบใจนะ”
ท่าทางอ่อนโยนของเขาทำให้ใจของเธอเหลวเป็นน้ำอีกแล้ว เธอคงชอบที่เขาเป็นแบบนี้กระมัง อ่อนโยน ไม่หักหาญน้ำใจใคร แม้กระทั่งกับเธอ ยายวุ้นแว่นที่ใคร ๆ ตั้งฉายาให้
“ไม่เป็นไรหรอกแทน วุ้นเต็มใจ”
“วุ้นใจดีกับแทนขนาดนี้ ทำไมแทนถึงเพิ่งเข้าใจนะ”
“เข้าใจอะไรเหรอ”
“ก็เพิ่งเข้าใจว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนน่ารักและจริงใจกับแทนเท่าวุ้นอีกแล้ว”
“งั้นเชียว”
“จริง ๆ นะวุ้น”
“แต่วุ้นว่าแทนคงเมามากแล้วล่ะถึงพูดออกมาแบบนี้”
วันนี้แทนไทปากหวานกว่าปกติ และยิ้มกรุ้มกริ่มแปลก ๆ ไม่เหมือนแทนไทคนเดิมที่เธอเคยรู้จักเลย อาจเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าที่เขาดื่มเข้าไปกระมัง
“แทนไม่ได้เมา ไม่เมาเลยสักนิด”
“ไม่เมาแล้วทำไมกลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนี้ล่ะ”
เธอได้กลิ่นจริง ๆ เธอมั่นใจว่าเขาเมา
“กลิ่นเหล้าจากวุ้นรึเปล่า ไหนขอแทนดมหน่อยสิ”
ไม่พูดเปล่าแต่เขาขยับใบหน้าไปใกล้ พร้อมสูดดมในขณะที่ริมฝีปากแสร้งแตะเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มเบา ๆ จนทำให้หญิงสาวถึงกับกายชาวาบ มือบางดันไหล่กว้างผึ่งผายของเขาออกห่างอย่างรวดเร็ว
แทนไทยิ้ม ก่อนจะมองสบตาหญิงสาวตาเยิ้ม
“ตอนนี้แทนไม่มีใคร เรามาลองคบกันไหมวุ้น”
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
อุตส่าห์ได้ออกเรือนกับคุณพี่ที่รักมาตั้งแต่เด็กทั้งที แต่มิมีที่คุณพี่ผู้เป็นผัวจักนอนร่วมเบาะเฉกเช่นผัวเมียพึงกระทำ ดังนั้นเธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาร่วมเบาะนอนกับเธอให้ได้ 'มารยาที่มีเมียคนนี้จักใช้กับคุณพี่เจ้าค่ะ' --- เมื่อเห็นแผงอกแกร่งของผัวชัด ๆ แม่หญิงก็ให้กลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ สิบคนว่าฤๅจักเท่าตาเห็น สิบตาเห็นฤๅจักเท่ามือคลำ แล้วสิบมือคลำฤๅจักเท่านอนคุย แค่คิดแก้มนวลก็แดงดั่งลูกตำลึงสุกแล้ว -------- ในหอนอน แม่หญิงชบานั่งรอคุณพี่ผู้เป็นผัวขึ้นมาจากท่าด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ในกบาลน้อย ๆ เฝ้าแต่คิดถึงสิ่งที่แม่ผัวสั่งแม่ผัวสอน “ฟังแม่หนาแม่ชบาลูก การเป็นผัวเมียมิใช่แค่การนอนหลับจับมือกันเพียงเท่านั้น” “แล้วลูกต้องทำสิ่งใดอีกเล่าเจ้าคะคุณแม่” “ผัวเมียนอกจากมีใจผูกสมัครรักใครกันแล้วไซร้ กายนั้นก็ต้องแนบชิดสนิทเสน่หา” “แนบชิดสนิทเสน่หารึเจ้าคะ ต้องทำเช่นไรรึเจ้าคะคุณแม่ ชบามิเคยทำดอกเจ้าค่ะ” “ก็รู้ว่ามิเคย แม่ถึงได้นั่งพร่ำสอนอยู่นี่อย่างไรเล่า แนบชิดสนิทเสน่หาก็คือใกล้ชิดกัน ตัวต่อตัว เนื้อแนบเนื้อ ผ้าเสื้อมิได้มาเกี่ยวมาข้อง” สิ้นคำนั้นแม่หญิงก็ให้อ้าปากค้าง ตั้งแต่เล็กแต่น้อย นางสนใจแต่การเล่นซน เพิ่งจะมาสนใจงานบ้านงานเรือนก็เมื่อปีที่แล้วด้วยโดนผู้เป็นแม่เอ็ดแลจักโดนลงหวาย แต่วันนี้เมื่อได้มาออกเรือนกับคุณพี่อย่างมิทันได้ตั้งตัว เธอเพิ่งรู้ว่าอิสตรีที่ออกเรือนนั้น นอกจากต้องดูเหย้าเฝ้าแลเรือนแล้วยังต้องปรนนิบัติพัดวีแบบเนื้อแนบเนื้อกับผัวด้วย
เมื่อยมทูตแห่งกาลเวลาส่งฉันย้อนเวลามาพบกับนายช่างใหญ่ผู้กร้าวใจ หล่อล่ำ แถมกล้ามแน่น แผนการอ่อยนายช่างของฉันจึงเกิดขึ้น “นายช่างใหญ่นี่ใหญ่สมชื่อนะเจ้าคะ” “พูดกระไรของเจ้า” “ข้าชมเจ้าค่ะ ใหญ่นักข้าชอบ แบบว่าประทับใจเจ้าค่ะ” “พูดจาอย่างคนวิปลาสหารู้ความไม่” ---- เมื่อต้องมาอยู่อโยธยา เมื่อเจอคนถูกตาต้องใจ เมื่อรู้สึกคลั่งรักเกินจะทนไหว เมื่อแม่บอกให้เชื่อใจ เมื่อพ่อไม่อยากให้ออกเรือน ฟ้ารดา มหานคร หญิงสาวทะลุมิติมายังอโยธยา ที่นี่เธอได้เจอกับนายช่างทองหลวงที่ถูกตาถูกใจ ก็ในเมื่อกลับไปไม่ได้ แผนการอ่อยนายช่างแบบเนียน ๆ จึงเกิดขึ้น นายช่างใหญ่ นายช่างทองหลวงผู้หล่อล่ำ กล้ามแน่น เขาจะต้านทานเสน่ห์ของแม่หญิงผู้ไม่เหมือนใครในอโยธยาได้หรือไม่ โปรดติดตามอ่านได้ใน "นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้"
เธอข้ามเวลามาพบเขา เขารอเวลาเพื่อจะได้เจอเธอ ------ คนอื่นทะลุมิติย้อนไปในอดีตที่พอจะรู้เรื่องราวที่ผ่านมาบ้าง แต่สำหรับแม่หญิงช่อฟ้าเธอกลับทะลุมิติมาในโลกปัจจุบันที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย เช่นนั้นเธอจะปรับตัวอยู่ในโลกแห่งนี้ได้ฤๅไม่ แล้วพี่หมอจะช่วยให้เธอผ่านวิกฤตในชีวิตได้อย่างไร ความรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคแค่ไหน โปรดติดตามอ่านได้ใน "พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว" โปรย จากแม่หญิงคนงามแห่งอโยธยา สู่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร แม่หญิงหวังให้พี่หมอสั่งพี่หมอสอน จักว่านอนแลสอนง่ายด้วยตั้งใจ แต่พี่หมอกลับอ่อนโยนจนหวั่นไหว ทำหัวใจมิใคร่อยู่กับเนื้อตัว ดั่งแสงสว่างชี้ทางยามมืดมัว ที่เคยกลัวกลับมลายหายสิ้นไป ยิ่งนานวันรักรุกคืบสู่หัวใจ ฤๅชะตาไซร้ลิขิตให้เรามาพบพาน ดลบันดาลให้อยู่เคียงคู่กัน ถ้าเยี่ยงนั้นข้าจักอยู่เป็นคู่เคียง ….. แปรงปัดแก้มถูกบรรจงปัดไล้เบา ๆ ลงบนผิวแก้มขาวละเอียดลออของคนดวงหน้าหวานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะค่อย ๆ วางแปรงลง แล้วสำรวจผลงานตัวเองอีกครั้ง ใบหน้างดงามหมดจดสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ช่างแต่งหน้าไม่น้อย “เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณฟ้าชอบรึเปล่าคะ” “ฟ้าชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” สิ้นคำนั้นช่างแต่งหน้าก็ค้อมศีรษะรับ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าของห้องนั่งอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง เจ้าของดวงตากลมโตจ้องมองตัวเองในกระจกนิ่ง ริมฝีปากรูปกระจับที่เคลือบด้วยลิปสติกสีโอลด์โรสค่อย ๆ คลี่ยิ้มเต็มใบหน้า แม้กระทั่งแววตาของเธอก็ยังเปล่งประกายทอแสงแห่งความสุข เรียวปากบางค่อย ๆ เผยอและขยับเขยื้อนเอื้อนเอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “ฉันชื่อ ‘ฟ้ารดา มหานคร’ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณก้องเกียรติ และคุณรดาภา มหานคร เจ้าของห้างทองสี่สาขาในกรุงเทพฯ”
โปรย : จู่ ๆ คู่หมั้นที่ทอดทิ้งไปนานถึงสี่ปี กล้าดีกลับมาสู่ขอ หึ! คนสติดีที่ไหนจะไปแต่งด้วย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่แต่งกับเขาเป็นอันขาด ****** “พี่ไม่ดีตรงไหนคะ” “เมต้องตอบด้วยเหรอคะ ไว้พี่ภีมตอบคำถามตัวเองได้เมื่อไหร่ แสดงว่าคงเป็นคนดีขึ้นมากโขเมื่อนั้น” “ก็ได้ค่ะ ก็ได้” ร่างสูงเปลือยเปล่ายกมือขึ้นสองข้าง แสดงอาการยอมแพ้ เมลดาเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า คนหน้าไม่อาย ‘รู้ว่าใหญ่ แต่ไม่เห็นต้องยืนอวดขนาดนั้น’ เธอไม่โง่ กลับไปกินไส้กรอกที่มีเจ้าของแล้ว ให้มันเสียศักดิ์ศรีหรอก แม้จะกินไปแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ ก็ตอนนั้นเธอยังไม่รู้นี่
คืนนั้นเตียงแทบลุกเป็นไฟเกินใครจะห้ามได้ เมื่อทั้งคู่ต่างโรมรันเข้าหากันอย่างถึงพริกถึงขิง เขา : ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่ผมลากขึ้นเตียงจะไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ที่ผู้ช่วยผมหามาให้ ผมไม่รู้ว่าเธอคือใคร เพราะเมื่อผมออกมาจากห้องน้ำเธอก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแบงก์พันสามใบกับกางเกงในซีทรูไว้ให้ดูต่างหน้า เธอ : ด้วยความเมาเธอฝันว่าเธอลากผู้ชายขึ้นเตียงแล้วแซบกับเขาอย่างถึงพริกถึงขิง ตื่นขึ้นมาเธอจึงรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ฝันแต่เธอลากผู้ชายขึ้นเตียงมาจริง ๆ เธอตัดสินใจรีบออกจากห้องไปโดยคิดว่าให้ทิปเป็นแบงก์พันสามใบก็คงน่าจะพอ
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ