ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
บุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้นเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีทั่วทั้งแว่นแคว้น มีผู้ใดบ้างที่ไม่อยากเกี่ยวดองกับเขา มีผู้ใดบ้างจะไม่หลงรักเขาเพียงแค่แรกเห็น ใบหน้าหล่อเหลาล่อลวงสายตาเหล่าสตรีให้หลงใหล ความอบอุ่นดังแสงแดดในยามเช้า รอยยิ้มสว่างดังจันทราที่เจิดจ้า เขาใจดีและอบอุ่นเสมอ
ทว่าความใจดีและอบอุ่นเหล่านั้นหาได้มีไว้สำหรับนาง สิ่งเหล่านั้นมีไว้เพื่อสตรีในดวงใจผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเขาเท่านั้น แต่กระนั้นนางก็ยังหวัง หวังว่าสักวันเขาจะหันกลับมามองนางบ้าง มองเห็นความจริงใจที่นางมีให้เขามาตลอด ทว่าความหวังของนางคงจะเลือนรางเต็มที...
ใบหน้าหล่อเหล่าฉายแววเกรี้ยวกราดออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง ตั้งแต่นางแต่งเข้าตำหนักบูรพาไม่เคยมีสักครั้งที่นางจะเห็นสีหน้าเช่นนี้ของเขา ทว่าวันนี้เขากลับมอบให้นาง เขามองนางเหมือนดั่งศัตรูคู่อาฆาตที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลก
"ข้าไม่คิดเลยเจ้าจะน่าชิงชังถึงเพียงนี้ จิตใจเจ้าทำด้วยสิ่งใด ข้าอยากจะควักหัวใจเจ้าออกมาดูนัก เหตุใดจึงได้อำมหิตเลือดเย็นเช่นนี้" เสียงเข้มตวาดออกมาโดยที่ไม่ทันได้ถามนางเลยสักเพียงครึ่งคำก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่านางชั่วช้า
"เช่นนั้นพระองค์จะรอช้าอยู่ไย หากอยากควักหัวใจหม่อมฉันออกมาดู พระองค์ก็ลงมือเสียเถิด" ร่างบางตอบออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า
ร่างกายหนาวสั่นเพราะการตกน้ำ ยังไม่เท่ากับหัวใจที่หนาวเหน็บเพราะคำต่อว่าจากสวามี
"หยางหลิงเซียง!!..ข้าขอถาม เจ้าผลักซุนเอ๋อร์ลงไปในน้ำเพราะเหตุใด นางทำสิ่งใดให้เจ้า"
พระชายาหยางหลิงเซียงเค้นเสียงหัวเราะขึ้นมาหลังจากได้ฟังคำของผู้เป็นสวามี ทว่าแววตากลับเจ็บปวดเกินจะทนไหว
"หากหม่อมฉันบอกว่าไม่ได้ทำเล่า พระองค์จะเชื่อหม่อมฉันหรือไม่ พระองค์ก็ทรงเห็นนอกจากพระชายาชินอ๋องแล้วหม่อมฉันเองก็ตกลงไปในน้ำเช่นกัน เหตุใดจึงไม่ถามหม่อมฉันบ้างว่าหม่อมฉันเป็นเช่นไร หึ!..ไม่ถามก็แล้วไปแต่เหตุใดต้องปักปรำหม่อมฉันด้วย?"
"เหตุใดข้าต้องถาม ในเมื่อข้าเห็นกับตาว่าเจ้าผลักซุนเอ๋อร์ลงไป!! จำคำข้าเอาไว้หยางหลิงเซียง หากซุนเอ๋อร์หรือทารกในครรภ์ของนางเป็นอะไร ข้าไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่ กอดตำแหน่งพระชายาเอกของเจ้าไว้ให้ดี กว่าจะได้มันมาครองเสียแรงกายไปเยอะมิใช่หรือ" จ้าวตี๋เฟยหันหลังเดินตามพระชายาซุนฮวาและจ้าวฉงซานออกไป
ร่างอรชรของหยางหลิงเซียงทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง สายตาปวดร้าวมองตามหลังพระสวามีออกไป พร้อมกับหัวใจที่แตกสลายอย่างไม่มีวันหวนกลับ
“สักวันหม่อมฉันจะเลิกรักพระองค์ให้จงได้”
นิยายเรื่องนี้เป็นการนำตัวละคร ของสามเรื่องหลัก มาแต่งเป็นตอนพิเศษสั้น ๆ เพื่อตอบแทนนักอ่านที่รักทุกท่านที่สนับสนุนกันมาตลอดเวลา จะเป็นฉากเก็บตกที่รี๊ดขอมาทั้งสิ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ
เพื่อแคว้นนางเสียสละ เพื่อบิดานางกตัญญู จำใจรับสถานะพระชายาที่พระสวามีไม่ยินดี ได้ครองร่างกายแต่มิอาจได้ครองใจ เพราะมิอาจขัดขืนคำสั่งพระบิดา ฟางหลินจึงต้องอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ทว่าองค์ชายผู้นั้นกลับมีสตรีในดวงใจแล้ว เห็นทีชีวิตการแต่งงานของนางคงไม่พ้นต้องแบกรับความไม่เป็นธรรม
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀