สายน้ำประธานหนุ่มหน้าหวานที่พูดน้อยต่อยหนัก กับพ่อเลี้ยงอานนต์คนตรงๆไม่ยอมลงให้ใครนอกจากแฟนคนเดียว เกิดความเข้าใจถึงขั้นแตกหัก พ่อเลี้ยงอานนต์จะทำยังไงให้คนรักยอมให้อภัย
สายน้ำประธานหนุ่มหน้าหวานที่พูดน้อยต่อยหนัก กับพ่อเลี้ยงอานนต์คนตรงๆไม่ยอมลงให้ใครนอกจากแฟนคนเดียว เกิดความเข้าใจถึงขั้นแตกหัก พ่อเลี้ยงอานนต์จะทำยังไงให้คนรักยอมให้อภัย
Tara talk.
"อื้อ กี่โมงแล้ววะพี่นนต์"ผมถามคนข้างๆ ปวดตัวชิบหาย เมื่อวานไปนั่งกินเหล้ากับพวกเพื่อนผมมา ไม่ได้กลับบ้าน เลยโดนคนข้างๆ มันลงโทษแบบนี้ไง ผมเลยปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลยให้ตาย ถ้าไม่ติดว่าอยู่ปีสุดท้ายแล้วนะกูจะโดดเรียนแม้งเลย
"หกโมงกว่าแล้ว"พี่นนต์แฟนผมเองครับไม่รู้ตื่นตั้งแต่เมื่อไร กำลังนอนลูบแก้มผมอยู่เนี่ย
"หิว"ผมบอกคนข้างๆ พี่นนต์เลยยิ้มให้ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผมแรงๆ แล้วลุกไปทั้งที่ไม่ได้ใส่อะไรสักชิ้น
"มองแบบนี้ระวังไม่ได้ไปเรียนนะ"พี่นนต์คาดโทษไว้ก่อนจะหยิบเสื้อคุมมาสวม
"ก็ใครใช้ให้แก้ผ้าเดินวะพี่ กูไม่ได้มองนะ สายตามันไปเอง"
"หรอ" พี่นนต์หันมายิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไปข้างนอก พี่นนต์เรียนจบไปหลายปีแล้วครับ แต่ก็ยังไปช่วยงานที่มหาลัยอยู่ปกติพี่มันไม่ค่อยยิ้มแบบนี้ให้ใคร อยู่ที่นั่นไม่ยิ้มเลยก็ว่าได้ แต่กับผมยิ้มแบบนี้ตลอดผมว่าผมชักหวงรอยยิ้มของพี่มันนะครับ ไม่อยากให้มันยิ้มให้ใคร อยากให้พี่มันยิ้มให้ผมแค่คนเดียว
สายเข้า>>>จิว
"มีเหี้ยไรแต่เช้าวะ"ผมหยิบมือถือที่สั่นอยู่บนหัวเตียงมาดูพอเห็นว่าเป็นเบอร์เพื่อนสนิทเลยกดรับ
"กูไม่มี แต่ไอ้เหี้ยอาร์มมันมี"ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย มันมีห่าอะไรอีกวะ วันก่อนมันทะเลาะกับแฟนพวกผมเลยนั่งเป็นเพื่อนมันยันเช้า เมาจนกลับไม่ได้ไง
"เออเดี๋ยวกูรีบไป" ผมพูดก่อนจะวางสายจากไอ้จิว ผมลุกไปอาบน้ำ ก่อนจะออกมาแต่งตัวพอเดินออกมาด้านนอกก็ได้กลิ่นอาหาร พี่นนต์กำลังผัดข้าวให้ผมกินสินะ ผมเลยเดินไปกอดพี่มันจากด้านหลัง
"หอมจังวะ"
"ไปนั่งรอเลยอย่ากวนแบบนี้เดี๋ยวจะไม่ได้ไปเรียน"พี่นนต์ว่าผมเลยหอมแก้มพี่มันแล้วรีบเดินออกมา ไม่นานข้าวผัดจานใหญ่ก็มาวางตรงหน้า
"พี่มึงไม่กินหรอวะ"
"ยังไม่หิวเดี๋ยวไปส่งแล้วค่อยกลับมากินก็ได้ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน"พี่นนต์บอกผมแล้วเดินไปอาบน้ำ ผมก็แบ่งไว้ให้พี่มัน ทำให้ผมแต่ตัวเองไม่กินแบบนี้ได้ไงวะ
"ไม่อร่อยรึไง"พี่นนต์มานั่งข้างๆ ผมก่อนจะถามคงเห็นข้าวในจานยังเหลืออยู่
"อร่อย กินด้วยกันดิวะ" ผมเลยตักข้าวไปจ่อที่ปากพี่มัน พี่มันส่ายหน้าก่อนจะอ้าปากรับพอกินข้าวเสร็จพี่นนต์ก็ขับรถไปส่งผมที่คณะเหมือนทุกวัน
"เลิกกี่โมงโทรหากูนะเดี๋ยวมารับ"
"อือ"ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะลงจากรถพี่มันแล้วเดินเข้าคณะ
"กว่าจะมาได้ไอ้สัสนึกว่าจัดกันอีกรอบ"ไอ้จิวมันว่าผมตอนเดินไปถึงโต๊ะ
"ที่พูดนี่กูหรือมึง"ผมเลยถามกลับจนมันพูดไม่ออกแสดงว่าเมื่อเช้ามันจัดมาเลยไม่เถียงแบบนี้ ผมเลยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองไอ้อาร์มที่นั่งหลับตาอยู่ สักพักน้องเมแฟนมันก็เดินมา
"พี่อาร์มค่ะ"เพื่อนผมมันลืมตามามองน้องเมแต่ไม่ได้พูดอะไร
"ทำไมไม่รับสายหนูคะ"น้องเมพูดเหมือนอยากจะร้องไห้อีกจนผมอดสงสารไม่ได้
"โทรหาพี่มีอะไรรึป่าวคะ พี่ไม่ว่างรับสาย ขอโทษทีนะคะ"
"ต้องมีอะไรด้วยหรอคะ ถึงจะโทรไปหาได้ งั้นขอโทษค่ะ ที่รบกวน"น้องเมพูดแล้วเดินร้องไห้ออกไป ไอ้อาร์มมันก็แกล้งหลับตาครับ ผมเห็นน้ำตามันไหลแต่ผมไม่ได้พูด
"ไหวไมไอ้สัส"น้ำฝนมันถามไอ้อาร์ม
"ไหวดิ ถึงเวลาเรียนปลุกกูด้วย" ไอ้อาร์มมันบอกพวกผม
"อย่าปากแข็ง โกหกพวกกูได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้นะไอ้เหี้ย ความรู้สึกมึง มึงรู้ดีที่สุด"ผมเลยว่ามัน
พอเรียนเสร็จผมก็โทรหาพี่นนต์ พี่นนต์ไม่ได้รับสายผมแต่เป็นผู้หญิงรับแทน
/สวัสดีค่ะ/
"..."ใครกันที่รับสายแทนพี่มันแบบนี้ ปกติพี่นนต์ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับมือถือพี่มันนะ
/จะพูดรึป่าวคะ/เธอถามย้ำอีกรอบ
"พี่นนต์อยู่ไหน"ผมถามเสียงนิ่งๆ
/นอนอยู่ค่ะ/พี่มันนอนอยู่กับเธอหรอวะผมหงุดหงิดเลยวางสายใส่
"ไปส่งกูหน่อย"ผมหันไปบอกไอ้เอกที่นั่งข้างๆ
"มาแปลกโว้ย วันนี้ให้กูไปส่ง ผัวไปไหนไม่มารับ"ไอ้เอกมันถามผมกลับมา
"อย่าถาม จะไปไม่ไป"ผมกำลังอารมณ์ไม่ดีไง เลยไม่อยากตอบมัน ไอ้เอกมันมาส่งผมที่บ้านน่ะครับ บ้านผมทำไร่องุ่น มีธุระกิจโรงแรมอีก เดี๋ยวเรียนจบผมต้องเข้าไปดูแลเองตอนนี้มีคุณตาช่วยดูอยู่ครับแต่ท่านอายุมากแล้วผมเลยอยากให้ท่านพักผ่อน ผมลงจากรถไอ้เอก ก่อนจะไปเอากุญแจรถในบ้านแล้วขับรถตัวเองไปบ้านพี่นนต์
พอไปถึงบ้านพี่มันผมก็เข้าไปข้างใน ไม่เห็นพี่มัน ผมเลยเดินหาจนทั่วก่อนจะไปเจอพี่มันนอนอยู่บนเตียงไม่ได้ใส่เสื้อ มีผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ข้างๆ
"แบบนี้หรอวะที่มึงบอกว่ารักกู"
อาร์ม>>>นักศึกษาปี4 คณะวิศวะ สุดหล่อที่โคตรใจร้อนไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากน้องสาวอย่างแอมแปร์และเพื่อนรักอย่างน้ำฝน "เด็กแพทย์กูนึกว่ามีแต่คนเรียบร้อย แต่คนนี้กูว่ามาร้อยก็เรียบ" เมเบิ้ล>>>นักศึกษาปี4 คณะแพทย์ สาวสวยประจำคณะ เพื่อนสนิทของน้ำขิง สวยแรง เก่ง ฉลาด "เรียนแพทย์เขาใช้สมองนะ ไม่ใช่การแต่งตัว" ดีม>>>นักศึกษาป.โท คณะวิศวะ เพื่อนสนิทของอานนต์ เพลย์บอย เจ้าชู ไม่เคยจริงจังกับใคร "ก็พี่อยากรับผิดชอบหนูนี่คะ" แอมแปร์>>>นักศึกษาปี1 คณะบริหารสาวสวยที่พี่ชายโคตรหวง น่ารัก นิสัยดี แต่ดวงซวยเสียทีให้ผู้ชายในผับของพี่ตัวเอง "จะตามหนูเป็นเงาเลยรึไงคะ"
เพราะความกลัวทำให้เธอต้องปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ให้คนอื่นรู้โดยเฉพาะเพื่อนสนิท จนเป็นเหตุทำให้เขาเกิดความน้อยใจเธอขึ้นมา เขาเลยหลุดปากพูดบางสิ่งออกไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าคนที่อยากจะเป็นอิสระจากเธอคือเขาซะเอง แล้วเขาจะทำยังไงให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั่น เขาแค่ต้องการเปิดเผยสถานะของตัวเองให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นอะไรกับเธอ
เพราะความผิดพลาดเลยทำให้เธอโดนว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนรักตัวเองจับตัวไป ถึงเพื่อนเธอจะไม่ได้ชอบเขา แต่มันก็ไม่ควรเธอกับเขาไม่รู้จักกันสักหน่อย แถมเขาคือคนของเพื่อนอีก เธอเลยลืม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมง่ายๆ แนะนำตัวละคร มิคเซอร์>>>นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง ที่ต้องจากบ้านเกิดมาอยู่ในไทยเพราะคำสั่งสุดท้ายของพ่อ เป็นคนชอบเอาชนะคน ไม่เคยแพ้ใคร ยกเว้นน้องชายคนละแม่ของตัวเอง ไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง แต่ดันมาตกหลุมรักนางแบบสาวสุดฮอตอย่างจุ๊บแจง "ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่นอนด้วยอย่างนั่นสินะ" จุ๊บแจง>>>นางแบบสาวสวยสุดฮอต เพื่อนสนิทคนเดียวของมะปรางค์ รักอิสระ ไม่ชอบการถูกบังคับ คิดเสมอว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นของเขา "ทำไมถึงอยากเป็นแฟนกับหนูทั้งที่คุณมีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว"
เมื่อคนที่เขารักกำลังจะหมั้นหมายกับผู้ชายคนอื่น เขาเลยต้องปิดบังฐานะของตัวเอง เพื่อเข้าไปทำงานในบริษัทของเธอ เขาจะทำให้เธอหันมาสนใจเขาได้รึป่าว ในเมื่อการหมั้นหมายของเธอนั่นมันมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY