เรื่องราวของเอมิ ภรรยาสาวสวยของหนุ่มออฟฟิศที่เปิดร้านกาแฟเล็กๆอยู่หน้าบ้าน วันนึงเธอเกิดใจอ่อนกำสารวัตรหนุ่มที่เข้ามาจีบ ยิ่งสามีเย็นชากับเธอยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ลับของเธอกับชายชู้ประทุขึ้นจนหยุดความใคร่เอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
(เช้าวันหนึ่ง ณ หมู่บ้านเล็กๆ ชานเมือง)
แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าเพิ่งเริ่มทาบทาลงบนหลังคาบ้านเรือนในหมู่บ้านเล็กๆ อันเงียบสงบ กลิ่นดินชื้นหลังฝนตกเมื่อคืนยังคงลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ผสมผสานกับกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่วสดใหม่ที่เริ่มลอยออกมาจาก "ละมุนใจ คาเฟ่" ร้านกาแฟเล็กๆ แต่ตกแต่งอย่างอบอุ่น ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ กึ่งกลางหมู่บ้าน
เอมิกา หรือ เอมิ หญิงสาวเจ้าของร้าน วัยยี่สิบปลายๆ กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมเปิดร้าน เรือนร่างอรชรในชุดผ้ากันเปื้อนสีครีมอ่อน เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ผมยาวสลวยถูกรวบเก็บเป็นมวยง่ายๆ เผยให้เห็นต้นคอระหงและใบหน้าเรียวรูปไข่ที่แม้จะไม่ได้แต่งแต้มสีสันจัดจ้าน แต่ก็มีเสน่ห์ชวนมองด้วยผิวพรรณละเอียดและดวงตาคู่สวยที่ฉายแววอ่อนโยนอยู่เสมอ
เสียงเครื่องบดกาแฟดังขึ้นเป็นจังหวะ ตามด้วยเสียงเคาะก้านชง และเสียงฟู่ฟ่าของเครื่องทำกาแฟเอสเปรสโซ่คู่ใจ กลิ่นหอมเข้มข้นของกาแฟอาราบิก้าชั้นดีฟุ้งกระจายไปทั่วร้าน ปลุกประสาทสัมผัสและเป็นสัญญาณว่าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เอมิก้มลงบรรจงวาดลวดลายลาเต้อาร์ตรูปหัวใจลงบนฟองนมนุ่มฟูอย่างชำนาญ นิ้วเรียวขยับอย่างแผ่วเบาแต่แม่นยำ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากอิ่มเมื่อเห็นผลงานที่น่าพอใจ นี่คือสิ่งที่เธอรักและภาคภูมิใจ – การสร้างสรรค์กาแฟแก้วพิเศษที่มอบความสุขให้ผู้คน
"หอมจังเลยเมียจ๋า" เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวบางจากด้านหลัง เอมิเอียงแก้มซบกับแผ่นอกอุ่นๆ ของ ศิวัฒน์ สามีหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านเดี่ยวหลังร้าน เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตทำงานเรียบร้อย กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเขาผสมกับกลิ่นกาแฟ กลายเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยและทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
"กาแฟยามเช้าสำหรับคุณวัฒน์ค่ะ" เอมิหมุนตัวกลับมายิ้มหวาน ยื่นแก้วลาเต้ที่เพิ่งทำเสร็จให้เขา
ศิวัฒน์รับแก้วกาแฟไป จิบเบาๆ พลางพยักหน้าอย่างพอใจ "ชื่นใจที่สุด กาแฟฝีมือเมียใครก็ไม่รู้ เก่งจริงๆ" เขาชม วางแก้วกาแฟลงบนเคาน์เตอร์ แล้วโน้มตัวลงหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่ "ตั้งใจทำงานนะ พี่ไปก่อน กว่าจะฝ่ารถติดเข้าเมืองไปถึงออฟฟิศคงสายพอดี เย็นนี้อาจจะกลับดึกหน่อยนะ มีประชุมต่อยาวเลย ไม่ต้องรอนะจ๊ะ"
"ขับรถดีๆ นะคะคุณ" เอมิบอก ยิ้มรับ แต่ในแววตากลับฉายแวววูบไหวเล็กน้อยกับประโยค "กลับดึก...ไม่ต้องรอ" ที่ได้ยินจนคุ้นชิน เธอยืนมองแผ่นหลังกว้างของสามีที่เดินเร็วๆ ออกไปขึ้นรถเก๋งคันหรู ขับเคลื่อนออกไปจากหน้าบ้าน ทิ้งไว้เพียงกลิ่นไอเสียจางๆ และความเงียบที่กลับเข้ามาแทนที่ชั่วขณะ
เสียงกริ่งหน้าร้านดังขึ้น ปลุกเอมิจากภวังค์ พลอยกับมิ้นท์ ลูกจ้างสาวสองคนเดินเข้ามาในร้านพร้อมรอยยิ้มสดใส พลอย สาวน้อยช่างพูด ทักทายเจ้านายเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะที่มิ้นท์ สาวเรียบร้อย ยิ้มบางๆ แล้วรีบเข้าไปประจำที่หลังเคาน์เตอร์ ช่วยเอมิจัดเตรียมขนมและเบเกอรี่ที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ กลิ่นหอมหวานของเนยและวานิลลาเริ่มเข้ามาผสมโรงกับกลิ่นกาแฟ ทำให้ "ละมุนใจ คาเฟ่" พร้อมต้อนรับลูกค้าคนแรกของวัน
ไม่นานนัก ลูกค้าประจำก็เริ่มทยอยเข้ามา ทั้งข้าราชการที่แวะซื้อกาแฟก่อนไปทำงาน หนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานในละแวกใกล้เคียง หรือแม้แต่คุณป้าคุณยายที่มานั่งจิบชา พูดคุยกันยามเช้า เอมิกลับสู่โหมดเจ้าของร้านคนเก่ง ต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มและคำทักทายที่เป็นกันเอง จดจำเมนูโปรดของแต่ละคนได้แม่นยำ ชงกาแฟด้วยความใส่ใจ เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ เสียงเครื่องชงกาแฟ ทำให้ร้านเล็กๆ แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวา
แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ในบางขณะที่ว่างเว้นจากการรับออเดอร์หรือชงกาแฟ เอมิจะเผลอทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูผู้คนที่ผ่านไปมา มองดูความเงียบสงบของหมู่บ้านที่เธอใช้ชีวิตอยู่มาหลายปีหลังแต่งงาน... ชีวิตที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์พร้อม มีสามีที่รัก มีธุรกิจของตัวเองที่ไปได้ดี แต่ลึกลงไปในหัวใจ เธอกลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง... ความรู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างขาดหายไปในกิจวัตรที่หมุนวนซ้ำๆ เดิมๆ นี้ กลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่นทุกเช้า ไม่อาจกลบกลิ่นอายของความเงียบเหงาที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในใจเธอได้เลย
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"