ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
ณ โรงแรมจินซือ เมืองหวย
ท่าน เสิ่นเหยียนเป่ยมีกำหนดการร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ข่าวลือเรื่องคู่ควงของเขากำลังเป็นกระแสให้คนพูดถึงกันไปทั่ว ก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึงเสียอีก ทุก ๆ คนต่างรู้เรื่องนี้ ว่ากันว่าหญิงสาวคนนั้นหน้าตางดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์
ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคน เมื่องานเลี้ยงได้เริ่มไปสักพัก ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง การปรากฎตัวของชายหญิงคู่หนึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง
ขณะที่ทั้งสองค่อย ๆ เดินเคียงคู่กันเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ
คนที่เดินเข้ามา เป็นท่านเสิ่นตัวจริงเสียงจริง เขาสวมชุดสูทลายทางสีดำกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม และข้างกายของเขาก็มีสาวงามนางหนึ่ง
เธอสวมชุดเดรสสีดำยาวเกือบถึงพื้น พร้อมด้วยชุดเครื่องประดับพลอยไพลิน ใบหน้ารูปไข่ถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ความงดงามของเธอเปล่งประกายไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง จนไม่มีใครสามารถละสายตาไปจากเธอได้
แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัด ๆ พวกเขาต่างพากันอ้าปากค้าง พวกเขาเหลือบมองไปทาง ถังยี่ซู เจ้าของงานวันเกิด กับ สีจั้นถิง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายหล่อน โดยไม่ได้ตั้งใจ
แขกเหรื่อหันกลับไปซุบซิบกันเรื่องการปรากฏตัวของหญิงสาวคนนี้ “เมื่อกี้เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม ใช่ ซ่งชิงเหอ หรือเปล่า?” แขกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ เธอคือซ่งชิงเหอแน่ ๆ !” แขกอีกคนตอบ
“คุณพระช่วย! หล่อนยังไม่ตายอีกเหรอ? ทำไมถึงยังไม่ตายล่ะ? นังฆาตกร! เธอกล้าดียังไงถึงโผล่หน้ามาที่นี่” แขกอีกคนพูดแทรก
“ว่าแต่ว่า หล่อนทำหน้ามาใหม่รึป่าวนะ? สวยขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? หล่อนเป็น คู่เดทของท่านเสิ่น แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว!”
ทุก ๆ คนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า กำลังจะมีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การปรากฏตัวของชิงเหอ ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้กับแขกทุกคนในงานเลี้ยง แต่ยังทำให้พวกเขาหวาดกลัวอีกด้วย เพราะผู้ชายที่เธออยู่ด้วยคือเหยียนเป่ย คู่แข่งทางธุรกิจของจั้นถิง!
ไม่เพียงแค่นั้น ชิงเหอยังเป็นอดีตภรรยาของจั้นถิง ซีอีโอของจิ่งซิน กรุ๊ป
ทั้งสีจั้นถิงและเสิ่นเหยียนเป่ยต่างเป็นพวกเก็บตัว ไม่ค่อยชอบออกงานสังคม ยิ่งงานแบบนี้พวกเขายิ่งแทบไม่เคยปรากฎตัว แต่ก็สมเหตุสมผลอยู่ที่จั้นถิงมาร่วมงานเลี้ยงนี้ เพราะข่าวลือว่าเขากับยี่ซูกำลังจะหมั้นหมายกันเร็ว ๆ นี้กำลังเป็นประเด็นร้อน แต่เหยียนเป่ยคงไม่ได้มาแค่เพื่อฉลองวันเกิดให้ยี่ซูอย่างเดียวแน่นอน
จั้งถิงเป็นคนที่สามารถทำให้วงการการเงินสั่นสะเทือนได้เพียงแค่ดีดนิ้ว แต่ตอนนี้คู่แข่งของเขากลับมาปรากฏตัวต่อหน้า พร้อมกับอดีตภรรยาของเขาเอง แขกเหรื่อต่างพากันเก็บอาการตื่นเต้นไม่อยู่ ใครจะรู้ว่า คืนนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง?
ใบหน้าของชิงเหอยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา เธอเดินเข้าไปหายี่ซูด้วยรองเท้าส้นสูงเจ็ดเซนติเมตรประดับด้วยคริสตัล มือยังคงคล้องแขนของเหยียนเป่ยไว้
ยี่ซูมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เมื่อหกปีก่อน ยี่ซูได้ทำลายกล่องเสียงของซ่งชิงเหอ จนทำให้เธอพูดไม่ได้
หกปีผ่านไป ตอนนี้ทั้งสองกำลังจะได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง
ยี่ซูประหลาดใจกับการเปลี่ยนไปของชิงเหอ หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอกำแขนพี่จั้นถิงของเธอไว้แน่น มืออีกข้างบีบแก้วไวน์ที่ถือไว้จนเกือบแตกคามือ
ภายใต้สายตาอันสอดรู้สอดเห็นของแขกคนอื่น ๆ เหยียนเป่ยหันไปหยิบไวน์แดงสองแก้วจากพนักงานเสิร์ฟ ก่อนจะยื่นแก้วหนึ่งให้ชิงเหอ และถืออีกแก้วไว้เอง
เหยียนเป่ยเหลือบมองผู้หญิงที่กำลังยิ้มอยู่ข้าง ๆ ก่อนจ้องไปยังใบหน้าอันไร้อารมณ์ของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนเอ่ยปากทักทายจั้นถิงด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “คุณจั้นถิง ไม่เจอกันนานเลยนะ! ดูซิใครมากับผม”
แม้ว่าชายทั้งสองเคยมีข้อพิพาทเรื่องธุรกิจ แต่พวกเขาก็ยังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทุกครั้งที่พบกัน โดยเฉพาะในงานแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังทักทายกันอย่างสุภาพ และอีกอย่าง ในโลกธุรกิจแล้ว กำไรเท่านั้นที่คงอยู่ตลอดไป หาใช่ศัตรูไม่
จั้นถิงยังคงทำหน้าเรียบเฉย หลังจากที่ได้ยินคำทักทายของเหยียนเหป่ย ราวกับเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาไม่แม้แต่จะชายตามองคู่เดทของเหยียนเป่ยด้วยซ้ำ กลับยกเครื่องดื่มในมือของเขามาชนกับเหยียนเป่ย ก่อนจะตอบอย่างเรียบ ๆ ว่า “ก็แค่คนแปลกหน้า”
จั้งถิงเข้ามาในแวดวงธุรกิจมานานหลายปี ทั้งยังขึ้นมาเป็นซีอีโอได้สักพักหนึ่งแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามคนหนึ่ง
ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายปีแล้ว แต่ชิงเหอก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อต้องมายืนต่อหน้าสีจั้นถิงอีกครั้ง ไม่เพียงแค่เขาดูสุขุมมากขึ้น ดวงตาของเขาที่ดูลึกล้ำอยู่แล้ว ยิ่งดูยากที่จะหยั่งถึงขึ้นไปอีก
ผู้คนในเมืองหวยต่างเรียกเหยียนเป่ยว่า “ท่านเสิ่น” เพื่อแสดงความเคารพที่มีต่อเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีอำนาจเท่ากับคุณจั้นถิงได้ แต่ก็ไม่ได้ห่างชั้นกันนัก
ถ้าเปรียบจั้นถิงเป็นคนเลือดเย็นและเอาแต่ใจตัวเอง เหยียนเป่ยก็คงจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมและเผด็จการ ทั้งสองคนมีความเหมือนกันมากกว่าที่พวกเขาจะยอมรับ
จั้นถิงเปล่งประกายออร่าอันสูงส่งและเข้าถึงได้ยาก ขณะที่เหยียนเป่ยดูมีความอ่อนโยนและสง่างาม
“คนแปลกหน้าเหรอ?” เหยียนเป่ยยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ พลางคิดว่าคำตอบของจั้นถิงช่างน่าขันสิ้นดี ขณะที่เขายิ้ม นัยน์ตาของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมานิด ๆ แต่เขาเลือกไม่พูดอะไรต่อ
เมื่อได้ยินคำตอบของจั้นถิง ใบหน้าของชิงเหอยังคงไว้ด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม มันไม่สำคัญหรอก เพราะเธอรู้ดีว่าจั้นถิงเป็นคนยังไง และอีกไม่นานผู้ชายคนนี้ก็จะต้องตกมาอยู่ในกำมือของเธอ
“ไปเอาของขวัญวันเกิดของผมมาให้คุณยี่ซูสิ” เหยียนเป่ยสั่งคนของเขาที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“ครับ ท่านเสิ่น!”
ไม่นานคนของเหยียนเป่ยก็นำของขวัญมามอบให้ยี่ซู “สุขสันต์วันเกิดครับ คุณยี่ซู”
ยี่ซูเผยรอยยิ้มอันงดงามให้เขา “ของขวัญสวยจัง ขอบคุณท่านเสิ่นมาก ๆ นะคะ”
เหยียนเป่ยพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
ในฐานะเจ้าภาพงานเลี้ยง ยี่ซูยื่นของขวัญให้แม่บ้านที่อยู่ข้างหลัง ก่อนกล่าวทักทายหญิงสาวที่ยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างเขา “กลับมาแล้วเหรอ ชิงเหอ? หายไปไหนมา? ทุกคนเป็นห่วงเธอมากเลยนะ! สบายดีใช่ไหม?”
ชิงเหอยิ้มพลางมองเข้าลึกไปในดวงตาของยี่ซู ริมฝีปากที่บรรจงทาด้วยลิปสติกสีแดงของเธอเปิดขึ้นเล็กน้อย “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะพี่ยี่ซู ฉันสบายดี ฉันแค่ไปพักผ่อนมาเท่านั้นเอง”
น้ำเสียงของเธอฟังดูเรียบ ๆ ปราศจากอารมณ์ ไม่มีใครบอกได้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
หลังจากได้ยินเธอพูด ยี่ซูก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ‘เธอพูดได้งั้นเหรอ?’
ในฐานะที่เป็นผู้ดีระดับต้น ๆ ของเมืองหวย ยี่ซูสามารถดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันต้องขอบคุณท่านเสิ่นที่คอยดูแลฉัน ฉันสบายดี” เสียงของชิงเหอช่างดูอ่อนแอ ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ เหมือนกับว่าถ้อยคำที่เป็นห่วงเป็นใยของยี่ซูจะทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งไม่น้อย
แต่ทุกอย่างกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย ทั้งสองดูกำลังจะพยายามสานสัมพันธ์ของพวกเธอขึ้นมาใหม่ แต่ก็ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้ความจริงใจต่อกัน น้ำเสียงของทั้งคู่ราบเรียบ และพูดเหมือนขอไปที
ยี่ซูพยักหน้า ก่อนหันไปทางจั้นถิง เธอเสนอว่า “พี่จั้นถิงคะ ไหน ๆ ชิงเหอก็มาแล้ว พวกพี่คุยกันหน่อยไหมคะ?”
คิ้วหนาของชายหนุ่มขมวดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขารีบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล นัยน์ตาปรากฏร่องรอยของความรังเกียจ “ไม่”เขากล่าว น้ำเสียงของเขาเย่อหยิ่งและเย็นชาขึ้นไปอีก
ปฏิกิริยาของจั้นถิง ทำให้ยี่ซูอารมณ์ดีขึ้นมาก “ถ้าอย่างนั้น เนื่องจากฉันไม่ได้เจอชิงเหอนานแล้ว มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะเลย พี่จั้นถิง ท่านเสิ่น ขอตัวชิงเหอสักครู่นะคะ”
พอพูดจบเธอก็คว้าข้อมือของชิงเหอไว้ ก่อนเธอจะทันได้ตอบอะไร
เหยียนเป่ยปล่อยมือชิงเหอ พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “ไปเถอะ”
ก่อนจะเดินออกไปกับยี่ซูที่กำลังลากเธออยู่นั้น ชิงเหอหันกลับมามองเหยียนเป่ย ด้วยแววตา ที่มีเลศนัย
เขาโบกมือเป็นเครื่องหมายว่าทุกอย่างโอเค
ชิงเหอหันกลับมา และวิ่งเหยาะ ๆ เพื่อตามยี่ซูให้ทัน “นี่พี่ยี่ซู ส้นรองเท้าฉันสูงเกินไปที่จะวิ่งนะ เดินช้าลงหน่อยได้ไหม?” เธอเอ่ยถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมา
หญิงสาวสองคนจากไปแล้ว ทิ้งให้ชายหนุ่มสองคนที่มีความคิดต่างกันอยู่ด้วยกันตามลำพัง มือข้างหนึ่งของจั้นถิงล้วงอยู่ในกระเป๋า ส่วนอีกข้างหมุนแก้วไวน์ไปพลาง ๆ
เหยียนเป่ยหันไปถามเขาว่า “นายคิดว่าไง ชิงเหอเปลี่ยนไปมากเลยใช่ไหม?”
จั้นถิงชำเลืองมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ก่อนถามขึ้นว่า “คุณเหยียนเป่ยคงจะเบื่อ ๆ สินะ ไม่มีอะไรให้ทำแล้วรึไง?” จั้นถิงไม่คิดว่าพวกเขาจะสนิทกัน ถึงขนาดที่จะมาคุยเรื่องอะไรแบบนี้
“ก็ไม่เชิง” เหยียนเป่ยยื่นแก้วไปชนกับแก้วในมือของอีกฝ่าย “ได้ยินว่านายกำลังจะหมั้นกับคุณยี่ซูเหรอ?”
ไม่นานมานี้ เมืองหวยมีข่าวลือว่าจั้นถิง กับยี่ซูกำลังจะหมั้นกัน การที่สีจั้นถิงมาออกงานเลี้ยงงานนี้ ก็แสดงว่าข่าวลือทำท่าจะเป็นเรื่องจริง
“ใช่ครับ” สีจั้นถิงเห็นว่าโกหกไปก็เปล่าประโยชน์
เหยียนเป่ยพยักหน้า ไม่นานเขาก็พูดขึ้นมาบ้างว่า “บังเอิญจังเลยนะ! ผมกำลังคิดจะแต่งงานกับชิงเหออยู่พอดี”
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?