#ฟาร์มร้อนอ้อนรัก นิยายรักเร่าร้อนในฟาร์ม ประกอบไปด้วยเรื่องสั้นขยันอ่อย 3 เรื่อง แต่รสแซ่บซี้ดไม่ยอมกัน 1.คุณอาขารักหนูหน่อย (ฟาร์มแกะ) 'ไวทย์ เวทยางค์กูร’ สัตวแพทย์สุดหล่อ โสดน่าเจี๊ยะ 'หนูหน่อย’ ลูกเลี้ยงของพี่สาวมาฝึกงานในฟาร์ม ใครใช้ให้ส่งลูกแกะมาเข้าปากหมา หมามันก็เคี้ยวเพลินน่ะสิ 2.คุณน้าขาโปรดรักหนู (ฟาร์มม้า) ‘ปัถย์’ เพลย์บอยสุดเถื่อน ชอบม้า!!! ‘น้ำว้า’ หลานสาวนอกไส้ คิดจะงาบคุณน้าทุกครั้งที่มีโอกาส เด็กบ้า! ด่าเท่าไรก็ไม่จำ มันน่าจับขี่ซะให้เข็ด เอิ่ม... ใครจะเป็นม้า 3.คุณลุงขารักนะ (ฟาร์มวัวนม) ‘ปูรณ์’ เพลย์บอยตัวพ่อ ชอบนมใหญ่ๆ อวบๆ ‘เอื้อมดาว’ ลูกหนี้หญ้าอ่อนน่าเคี้ยว หลงรักคนแก่หัวปักหัวปำ ฝากไว้ก่อนเถอะเด็กบ้า ปากดีแบบนี้จะเรียกมาขัดดอกบ่อยๆ
แสงไฟวับแวมจากร้านคาราโอเกะตรงหน้าทำให้ ‘นายสัตวแพทย์ไวทย์ เวทยางค์กูร’ ตีไฟเลี้ยวเพื่อเตรียมจอด นี่คือสถานที่นัดพบของเขากับบรรดาก๊วนเพื่อนหนุ่มใหญ่ไร้เมียเคียงคู่ และเป็นที่ปลดปล่อยความต้องการในยามค่ำคืนกับสาวๆ ที่เขาพอใจหล่อนและหล่อนก็พอใจเขา ทุกอย่างแฟร์ หล่อนได้เงินส่วนเขาได้เสียววินวินกันทั้งคู่
แต่ในค่ำคืนนี้เขากลับมีเรื่องทุกข์จนไม่อยากแลกความเสียวกับใคร ที่มาก็เพราะอยากมาปรับทุกข์ และคนที่เขาจะเล่าปัญหาให้ฟังเพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำที่ดีก็น่าจะอยู่ในนั้น เพราะเลยเวลานัดมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว 2 คนนั่นคงรออยู่ และก็เป็นจริงเมื่อรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าคือรถของ ‘ปัถย์’ เจ้าของฟาร์มม้าที่ใหญ่ที่สุดในตำบล และถัดไปข้างหน้าก็เป็นรถของ ‘ปูรณ์’ เจ้าของฟาร์มวัวนมที่ใหญ่สุดในอำเภอ
ปัถย์กับปูรณ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ส่วนเขาเป็นเพื่อนของปัถย์ เลยได้สนิทสนมกับปูรณ์ และเขาก็เป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของทั้งคู่ด้วย
แค่ก้าวเข้าสู่ร้าน ‘เจ๊แหม่ม คาราโอเกะ’ เจ้าของร้านสุดสวยก็เดินยิ้มออกมาต้อนรับทันที
“มาทางนี้เลยค่ะคุณหมอ คุณปัถย์กับคุณปูรณ์รออยู่นานแล้วนะคะ มาช้าแบบนี้ของดีจะโดนแย่งชิงไปก่อน แหม่มไม่รู้ด้วยนะ”
“จริงเหรอครับ แต่ผมว่ายังไงของดีๆ ก็เหลือถึงผมอยู่แล้วล่ะ คุณแหม่มว่าอย่างนั้นไหม”
ไวทย์แตะฝ่ามือลงบนสะโพกของเจ๊แหม่ม เจ้าของร้านที่พ่วงดีกรีแม่ม่ายกระดังงาทรงเครื่อง น่ากินน่าหยอกอย่าบอกใคร แต่เจ๊แหม่มกลับไม่ยอมไปกับแขกง่ายๆ นอกจากหล่อนพอใจเท่านั้น ส่วนเด็กที่ร้าน ถ้าจะกินกับแขกก็ต้องไปกินกันข้างนอก ที่ร้านของเจ๊แหม่มเป็นแค่สถานที่พบปะเท่านั้น ถูกใจก็ไปต่อกันเองไม่เกี่ยวกับหล่อน
“โถ... คุณหมออย่ามาแซวคนแก่เลยค่ะ เดี๋ยวถ้าแหม่มเล่นด้วย คุณหมอจะหนาวนะคะ”
“หนาวไม่กลัวครับ ผมกลัวว่าจะร้อนน่ะสิ ร้อนๆ ผมชอบนะ ยิ่งร้อนมากก็ยิ่งชอบมาก และชอบที่สุดก็คือร้อนแรง”
“มัวแต่แซวอยู่นั่นแหละ ไปเถอะค่ะ ป่านนี้คุณปัถย์กับคุณปูรณ์เมาแล้วมั้ง สั่งของเข้าไปตั้งเยอะ”
เจ๊แหม่มทำเป็นเอียงอายพร้อมดุนหลังไวทย์ให้เดินตรงไปยังห้องคาราโอเกะห้องใหญ่มุมในสุดซึ่งเป็นห้องประจำของเขากับก๊วนเพื่อนซึ่งจะมาใช้บริการทุกค่ำคืนวันศุกร์ แต่เขายังอดเกาะแกะเจ๊แหม่มไม่ได้ มือไม้ไม่อยู่สุขจึงโอบเอวเจ๊แหม่มไปพลางๆ เพราะเจ๊แหม่มตรงสเปคเขาพอดิบพอดี
เขาชอบสาวสูงวัยรู้งาน ไอ้ประเภทเด็กอ่อนอ้อนโลก เขาไม่ชอบเลยจริงๆ แต่โบราณว่าไว้ไม่ผิดเลย ‘เกลียดยังไงมักได้อย่างนั้น’ แต่… เขายังไม่ได้หล่อนสักครั้งเลยนะ และไม่คิดอยากจะได้ด้วย แม้ว่าหล่อนจะอ่อยสุดๆ ก็ตาม
“ปล่อยได้แล้วค่ะคุณหมอ ถึงแล้วไม่ต้องกลัวหลงแล้วค่ะ”
“หลงทางผมไม่กลัวหรอกครับ กลัวแต่จะหลงรักนะสิ”
“แหม... เวลาไปทำคลอดวัวปากหวานแบบนี้หรือเปล่าคะ”
“แบบนี้ไม่ได้หรอกครับ”
“ทำไมล่ะคะ”
“ก็กลัวแม่วัวจะหลงรักผมน่ะสิ”
“ว้าย! คุณหมอ พูดจาน่าตีนักเชียว”
เจ๊แหม่มทำทีเป็นตีฝ่ามือบนแผงอกของไวทย์ ซึ่งไวทย์ก็ไวสมชื่อคว้าฝ่ามือนั้นบีบเบาๆ ก่อนจะนำมาวางทาบบนหน้าอกของตัวเองในตำแหน่งเหนือหัวใจ ดวงตาคมเข้มหวานฉ่ำจ้องแม่ม่ายสาวสวยตรงหน้า สายตาสยบใจหญิงส่งออกไป หวังแค่เจ๊แหม่มจะใจอ่อนกับเขาสักที
“จะรอวันที่คุณแหม่มใจอ่อนนะครับ”
“แหม่มก็จะรอวันที่คุณหมอหัวใจว่างด้วยค่ะ”
“ตอนนี้ก็ว่างอยู่นะครับ”
“เชื่อก็ออกลูกเป็นวัวแล้วล่ะค่ะ”
“ก็ดีสิครับผมจะได้ทำคลอดให้”
“ว้าย! คุณหมออ่ะ แหม่มไม่พูดด้วยแล้ว ดีแต่หยอดคนแก่ไปวันวัน ระวังเถอะ ประเดี๋ยวได้กินหญ้าอ่อนๆ ขึ้นมาก็ลืมหญ้าแก่ที่นี่”
“ไม่…”
“อะอะ… อย่าบอกนะคะว่าไม่ชอบหญ้าอ่อน แหม่มฟังแบบนี้มาบ่อยครั้งจนเบื่อแล้วค่ะ แรกๆ ก็บอกแบบนี้ทุกคน พอได้กินครั้งเดียว ที่นี้ติดใจจนกินไม่เหลือ”
“ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ”
“ใช่สิคะ ไม่เชื่อคุณหมอก็ลองดู หรือจะพนันกับแหม่มล่ะ”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าของพนันน่าสนใจแค่ไหน”
“เอาเป็นอะไรดีนะ ตัวแหม่มดีไหมคะ ถ้าคุณหมอได้เคี้ยวหญ้าอ่อนแล้วไม่ติดใจ เชิญมารับหญ้าแก่ไปเคี้ยวได้เลย”
“ผมรับคำท้า”
“กลัวจัง”
เจ๊แหม่มหยอดคำโปรยเสน่ห์ ยิ้มเพียงนิดก่อนจะดุนหลังไวทย์เข้าไปในห้องคาราโอเกะ แต่เขาก็ยังไม่วายจะคว้ามือเจ๊แหม่มเอาไว้
“สัญญาต้องเป็นสัญญานะครับคุณแหม่ม”
“แน่นอนสิคะคุณหมอ แหม… ได้ผัวเป็นสัตวแพทย์ก็โก้ใช่หยอก ยังไงแหม่มจะรอคุณหมอมาทำให้ท้องก็แล้วกันนะคะ”
ไวทย์หยอกเย้ากับเจ๊แหม่มพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะปล่อยให้เจ๊แหม่มไปบริการลูกค้าคนอื่นต่อ และทันทีที่เขาเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับสายตาหยอกเย้า 2 คู่มองตรงมา
“อะอะ… เจ๊แหม่มน่ะของผม ห้ามพี่ปูรณ์แย่งผมเด็ดขาด เอ็งด้วยไอ้ปัถย์ห้ามแย่งข้าเด็ดขาด”
ไวทย์พูดดักคอเพราะสายตาของสองหนุ่มใหญ่ที่มองเจ๊แหม่ม ไม่ต่างจากเขาเลย ก็เพราะรสนิยมเดียวกันถึงได้คบกันเป็นเพื่อนยาวนาน และก็อยู่มาจน 30 ปลายๆ ก็ยังไม่มีใครคิดจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน เพราะถือคติว่า ‘ลูกต้องได้แม่ที่ดีที่สุด’
แต่ที่ไหนล่ะ ที่ว่าดีที่สุด ที่นี่ ที่โน่น หรือว่าที่บ้านของเขา คิดแล้วก็ถอนใจ ทรุดตัวลงนั่งในตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่ก็ต้องมาสะดุดเพราะเสียงทุ้มหยอกเย้า
“แหม… ทำเป็นหวงก้าง ไหนว่าที่บ้านมีหญ้าอ่อนไง จะมาสนอะไรก็หญ้าแก่แถวนี้”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
"หัวใจ ความรัก และภักดี เขาจะเลือกอย่างไหน" “ไอ้เพชรแกเอาไป นี่เมียแก!” หญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนมีร่องรอยฉีกขาด ถูกผลักเข้าไปในกระท่อมเก่าซอมซ่อของพัชระหรือทุกคนเรียกกันว่า เพชร ซึ่งเป็นเพียงช่างคนหนึ่งในไร่ชาของที่นี่ “คุณจันทร์นี่มันอะไรกันครับ” เจ้าของหนวดเคราครอบหน้าหันไปมองคนบนพื้นแล้วหันมาถามนางจันทร์นิล ด้านหลังก็มีลูกน้องของเจ้านายอีกสองคน “นังอ้อนมันร่านไง มันมาอ่อยผัวลูกสาวฉัน ไอ้เพชรฉันยกนังอ้อนให้แกจัดการ” นางจันทร์นิลชี้นิ้วใส่ลูกเมียน้อยของสามีอย่างจงเกลียดจงชัง “จัดการยังไงครับคุณจันทร์” พัชระได้ยินว่าคนที่ตนแอบรักถูกทำร้าย แววตาของเขาก็ประกายแข็งกร้าวขึ้นด้วยความโกรธ “ก็จัดการมันให้เป็นเมียแกซะ เดี๋ยวนี้เลย!” (เมียร้อนจำยอมรัก)
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี