แมทธิว ดีแลนผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นแกนโลก และโลกใบใหญ่นี่มักจะหมุนตามความต้องการของเขาด้วยสิ!! มหาเศรษฐีหนุ่มที่หล่อเหลาระดับพระเอกฮอลลีวูด มีผู้หญิงมากมายยินดีเดินขึ้นเตียงเขา เพียงแค่ชายหนุ่มขยิบตาให้ ชีวิตของแมทธิวไม่มีใครกล้าขัดใจ...แต่...ผู้หญิงคนหนึ่งกล้าแหกกฎเขา หล่อนทำตัวไม่ต่างอะไรกับนักตกทอง ทิพยอาภา เลียม เด็กกำพร้าที่ชายหนุ่มรับอุปการะไว้ เขาพลาด!! พลาดที่ไม่ได้ป้องกันตัว...หลังความสัมพันธ์ลึกซึ้งครั้งนั้น ชีวิตแสนสุขของเขาผกผันก็เพราะผู้หญิงคนเดียว... หล่อนจงใจให้กำเนิด ‘ลูกนอกสมรส’ หวังจะให้เขารับผิดชอบ แต่ไม่มีวัน...ที่เขาจะยอมก้มหัวให้หล่อน ลูก...แมทธิวจะรับ...แต่หล่อนเชิญไสหัวไป!! แต่ที่ทิพยอาภาต้องการ มันสวนทางกับความต้องการของแมทธิว สาวสุดอาภัพหลงรักบิดาของลูก หล่อนสะเออะไปหลงรักเขาเอง เธอตัดสินใจหลบหนี แต่ทิ้งสายเลือดในอกไว้ให้คนเป็นพ่อดูแล แมทธิวเดือดจัด เขาเหมือนถูกมัดมือชก...สัญญากับตัวเอง หากเจอหน้าหล่อน เขาจะบีบคอหล่อนให้ตายคามือ พอเอาเข้าจริงๆ เมื่อชายหนุ่มจอมโอหังรู้ความลับของหล่อนเขา เขาไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ แมทธิวลงทัณฑ์หญิงสาว ด้วยบทพิศวาสหวานฉ่ำแทน เขาตราตรึงหล่อนไว้ด้วยบทรักเร่าร้อน แทนที่จะบีบคอหล่อนให้ตายเหมือนที่เคยประกาศไว้...
บทที่1.ของขวัญจากพระเจ้า
1สัปดาห์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า...
แมทธิว ดีแลนทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลดังฝั่งอเมริกาเขานั่งหน้าตึงท่ามกลางญาติสนิทที่มารวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ เนื่องจากคนในปกครองของชายหนุ่ม ‘เด็กสาว’ ที่เขาอุปการะไว้ หายตัวไปแบบลึกลับ...มีเพียงกระดาษชิ้นเล็กๆ ทิ้งไว้กับ ทารก!! เพศหญิงอีกหนึ่งคน
ยัยผู้หญิงบ้า...งี่เง่าที่เขาโอบอุ้มหล่อนตามคำสั่งคุณย่า แต่หล่อนดันตลบหลังเขา...มีพฤติกรรมที่ไม่น่าอภัย
‘สำส่อน’ นิยามนี้เหมาะกับเด็กสาวใจแตกอย่าง ทิพยอาภา เลียม ที่สุด!!
“จาคอป...เอาเด็กนี่ไปยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะ...ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันจะออกให้เอง แต่อย่าเอา ‘เด็ก’ มาทิ้งไว้ใกล้ตาฉัน ฉันยังไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาทุกคน” เสียงของแมทธิวดุดัน จนไม่มีใครกล้าปริปากท้วง ความคั่งแค้นปะปนมาในกระแสเสียง จนคนได้ยินยังสะท้าน
การ์ดหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาไม่กล้ามองสบนัยน์ตาใสแจ๋วของเด็กน้อยที่นอนมองตาแป๋ว...แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ชะตาชีวิตเด็กคนนี้จะเป็นเยี่ยงไร...การ์ดหนุ่มยกตะกร้าใบใหญ่...ที่ถูกทำเป็นเหมือนอู่นอนของเด็กน้อยคนนี้ มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ห้อยไว้ที่หูตะกร้าลายมือเป็นระเบียนนั่น เขียนระบุชื่อแซ่ของเด็กน้อยที่หน้าตาน่ารักน่าชังคนนี้ว่า Angelina ‘Daughter of Matthew’ จาคอปมองสำรวจใบหน้าเล็กๆ ของเด็กทารกน้อยผิวขาวอ้วนจ้ำม่ำ สลับกับการเปรียบเทียบโครงหน้าของเจ้านาย เขาลงความเห็นแบบฟันธง!! เด็กน้อยในตะกร้ามีส่วน ‘คล้าย’ แมทธิวเจ้านายอยู่สามส่วน หนึ่งคือเรียวคิ้วเข้มๆ กับริมฝีปากหยักส่วนบนที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้านายหนุ่ม รวมถึงใบหูที่มีรอยหยักตรงกลาง...เหมือนกับว่า...เด็กน้อยนี่ ย่อส่วนแมทธิวออกมาเลย
“เออ...ดิฉันคิดว่า...” มาดามแพซี่เอ่ยท้วงเบาๆ แต่ก็ต้องรีบหุบปากฉับ เมื่อลูกเลี้ยงหนุ่มตวัดสายตาไม่พอใจมองผ่านมาที่นาง
“อย่ายุ่งเลยมาดาม เรื่องของแมทธิวให้เขาจัดการเองเถอะ” อาเธอร์ตบหลังมือภรรยาคนที่สองเบาๆ ท่านเป็นบิดาของแมทธิวก็จริง แต่สิทธิ์ขาดเป็นของแมทธิวเองท่านไม่ควรก้าวก่าย เมื่ออำนาจการปกครองจากมาดามจูเลียถูกส่งมอบให้แมทธิว แทนที่จะเป็นท่าน บุตรชายเป็นหลานรัก...เป็นที่โปรดปรานของมารดา แมทธิวมีความเป็นผู้นำสูง เขาถูกปลูกฝังจากมาดามจูเลียตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น
“แต่ว่า...” สาวใหญ่ทอดสายตามองเด็กน้อยนัยน์ตาใสแจ๋ว เด็กคนนั้นรู้อยู่ จนไม่แม้จะปริปากร้อง ใบหน้าเล็กๆ นั่นยังกับนางฟ้าตัวน้อยๆ หัวใจสาวใหญ่ที่อยากมีลูก แต่มีไม่ได้ถึงกับอ่อนยวบ!!
“เอาออกไป!!” เสียงตวาดก้องของแมทธิว ทำให้เด็กน้อยแผดเสียงร้องจ้า...เป็นครั้งแรก เพราะความตื่นตกใจ
“แอ๊ๆ” หนุ่มโสดตัวพ่อ ยกมือกุมขมับ!! เขาเกลียดเด็ก เกลียดเสียงร้องลั่นแบบนี้
“จาคอป!!” แมทธิวตะโกนซ้ำ จนการ์ดหนุ่มต้องรีบลนลาน เขาสอดมือลงไปในตะกร้า ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแบบทุลักทุเล
“ส่งเด็กมาให้ฉันจาคอป” แพซี่อดรนทนไม่ไหว ใบหน้าเล็กๆ นั่นแดงก่ำ มือเล็กกำจนแน่น หลับหู หลับตาส่งเสียงร้องดังลั่น นางกลัวว่าเด็กจะช็อกไปเสียก่อน จึงยื่นมือเข้าช่วย
สาวใหญ่อุ้มเด็กน้อยแนบอก...หล่อนโยกตัวเบาๆ มือเรียวบางตบอยู่ที่ก้นอูมๆ ของเด็กใต้กางเกงผ้าอ้อมที่เหมือนจะชุ่มน้ำ
“โอ๋ๆ ไม่ร้องค่ะ ไม่ร้องนะคะ” นางปลอบ “ให้ใครไปซื้อผ้าอ้อมมาหน่อยสิ เหมือนกางเกงจะแฉะก็เลยโยเย”
จาคอปมองไปที่ตะกร้าที่โอบอุ้มเด็กน้อยไว้ เขาเห็นกางเกงผ้าอ้อมของเด็กถูกซุกไว้มุมหนึ่งของตะกร้าจึงรีบฉวยมาส่งให้มาดามแพซี่
สาวใหญ่ยิ้มให้ เธอคอยๆ ประคองเด็กน้อยที่สงบลงวางบนโซฟาเนื้อนุ่ม พร้อมกับรีบถอดกางเกงของเด็กเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมเปียกๆ ทิ้งไป
“โอ๊ะโอ๋!! ผู้หญิงด้วยค่ะคุณ เอะ!” นางถอดกางเกงผ้าอ้อม แล้วจึงอุทานเสียงหลง...เมื่อมองเห็นสัญญาลักษณ์บางอย่างบนตัวเด็ก
มาดามแพซี่เงยหน้าขึ้นมองสามี เธอชี้ให้อาเธอร์มองปานรูปหยดน้ำ ตรงขาอ่อนของเด็กน้อย สัญญาลักษณ์คนในตระกูลดีแลน ที่สืบต่อกันมาเป็นทอดๆ เธอสบตาสามี พร้อมกับเหลียวไปมองแมทธิวที่กำลังยืนหน้าตึงอยู่กลางบ้าน
“ดิฉันไม่เห็นด้วยค่ะ ถ้าคุณจะเอาเด็กนี่ไปทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์” นางกล่าวเสียงแข็ง
เป็นครั้งแรกที่มาดามแพซี่ลุกขึ้นมาต่อต้านลูกเลี้ยง เพราะเห็นแก่เด็กตาดำที่อาจจะเป็นทายาทของแมทธิว
“ผมไม่ได้ขอความเห็นคุณนะมาดาม...ผมสั่ง” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเย็นชา
“ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีค่ะ ดิฉันจะเลี้ยงเด็กนี่เอง จนกว่าคุณท่านจะกลับมาเป็นคนตัดสินใจ”
หล่อนเชิดหน้าขึ้น เสหลบตาแมทธิว เมื่อชายหนุ่มเบิกตาโต นัยน์ตาเขาลุกวาบ มันเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ!!
“มาดาม?” อาเธอร์พยายามจะท้วง เขาไม่อยากให้บุตรชายยิ่งรู้สึกไม่มีกับภรรยาคนใหม่ไปมากกว่านี้
“คุณพี่คะ ครั้งนี้น้องยอมไม่ได้จริงๆ คุณพี่ก็เห็น” นางกล่าวกับสามีเสียงหนักๆ ไม่มีวันยอมให้สายเลือดของดีแลน ไปตกระกำลำบากที่อื่นเป็นเด็ดขาด!!
วันนี้น่าจะเป็นวันที่มีความสุข เมื่อนานๆ ครั้งที่สมาชิกของดีแลนจะอยู่พร้อมหน้า ที่ขาดก็แค่มาดามจูเลียคนเดียว ท่านเดินไปเซ็นสัญญาโปรเจ็กต์พันล้านที่อิตาลี แต่จะกลับมาก่อนวันขอบคุณพระเจ้าที่จะถึงนี้ อาเธอร์ถอนใจแรงๆ เขาหนักอกที่จะต้องงัดข้อกับบุตรชาย เมื่อเด็กน้อยนั่น!! มีรอยตราของดีแลน มันเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีที่สุด เพียงแต่เขาไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็กน้อยคนนี้ชัดๆ แค่นั้นเอง
“แมทพ่อว่า...รอให้คุณย่ากลับมาก่อนดีไหมลูก?”
อาเธอร์กล่าว เขามองสบตาบุตรชาย หนุ่มใหญ่เห็นความยุ่งยากในหน่วยตาแมทธิว ก่อนที่เขาจะมองตรงไปยังเด็กน้อยด้วยสายตานิ่งๆ แต่แปลความหมายไม่ออก
ชายหนุ่มเม้มปาก เขาหมุนตัวเดินจากไป ไม่มีคำตอบ แต่ท่านรู้... แมทธิวหาได้สมยอมเพียงแต่เขายังหาทางเลี่ยงไม่เจอ มีจาคอปเดินตามไปห่างๆ
“พูว์!! รอดแล้วจ้ะหนูน้อย...มาอยู่กับฉันนะ ฉันจะเลี้ยงหนูเอง”
มาดามแพซี่ถอนใจพรวด นางช้อนอุ้มเด็กน้อยผิวขาวปานสำลีขึ้นมาแนบอก
“แองเจิ้ล!!” จู่ ๆ นางก็โพล่งออกมาไม่มีปี่มีขลุย อาเธอร์มองไปรอบๆ เขาไม่เห็นนางฟ้าสักคน
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ