ราฟาเอล ฟาน เดอร์ซาร์มอบเงินก้อนโตให้นางบำเรอที่ปลดระวางก่อนกำหนด ไม่ต้องการรับรู้ว่าเธอต้องการตามติดก้นเขาเหมือนกับผู้หญิงที่ผ่านมา ทว่าเมื่อเจอกันอีกครั้งเธอกลับมีลูกชายตัวโตเคียงข้าง 'เวอร์จิ้น' ที่ผ่านมาเธอต้มเขาเสียเปื่อย ชายหนุ่มไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเสียหน้า การขอของแถมจากอดีตนางบำเรอจึงเริ่มต้นขึ้น โดยไม่คำนึงถึงใครหน้าไหน (ก็เขามันจอมวายร้าย)
“ฉันจะกลับแล้ว คงไม่ได้มาสักพักนะ” ราฟาเอลกระชับเสื้อสูทก้าวเดินออกจากห้องนอนภายในคอนโดมิเนียมหรู
“คุณคะหนูนามีเรื่องจะบอกค่ะ” หน้าประตูห้องน้ำร่างบางทว่าอวบอิ่มในส่วนที่ผู้ชายต้องการถูกพันไว้หลวมๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนสีขาว
ร่างสูงหันกลับมา เลิกคิ้วคมเข้มขึ้นอย่างสงสัย “มีอะไรล่ะ ฉันกำลังรีบ ทำไมไม่พูดตั้งแต่เมื่อคืน”
หญิงสาวลังเลเรื่องที่จะบอกเขา สองมือเผลอกำผ้าขนหนูแน่น “คุณขับรถดีๆ นะคะ” เธอจำใจเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน
ราฟาเอลรู้สึกแปลกใจ หากไม่มีเวลาเข้าไปซักถาม ได้แต่ก้าวเดินออกจากห้องไม่หันกลับมาอีก ชายหนุ่มจึงไม่ทันได้เห็นน้ำตาที่เอ่อตากลมใสของคนข้างหลัง
เพียงพลอยอยากบอกชายหนุ่มตั้งแต่หลายวันก่อน ตั้งแต่เมื่อคืน แต่เวลาที่ราฟาเอลมาหากัน เขาแทบไม่ให้เธอได้พักผ่อน ไม่มีการพูดคุยเช่นคู่รัก เขาเอาแต่โรมรันรุกเร้า เสมือนตายอดตายอยากมาจากไหน จนเธอไม่อาจปริปากบอก…เรื่องการตั้งท้องที่ทำให้ไม่สบายใจจึงเป็นความลับอยู่อย่างนี้
หลายวันก่อนตื่นตอนเช้าเพียงพลอย รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หน้ามืด จึงไปหาหมอเพราะเกี่ยวกับอาการเจ็บไข้ เธอไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ หากเป็นอะไรไปคนที่เป็นห่วงจะเป็นยังไงหญิงสาวไม่อยากจะคิดถึงข้อนี้ ราฟาเอลเองก็คงรำคาญหากมาเจอเธอนอนซม ไม่สามารถดูแลเขาได้
“คุณตั้งท้องได้หกสัปดาห์ครับ ยินดีด้วย” นั่นคือคำตอบของการเจ็บป่วย เพียงพลอยตะลึงตกใจเมื่อได้ยิน เธอรับฟังคำแนะนำของหมอด้วยใจเลื่อนลอย ก่อนจะเดินจากห้องตรวจครุ่นคิดจะทำยังไงดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันเตรียมใจ
ก่อนจะมาอยู่ใต้ปีกแห่งเสน่หาของชายหนุ่ม เพียงพลอยยังจำได้ถึงข้อตกลง
“ป้องกันตัวเองอย่าให้ท้องล่ะ ไม่ทำตามสัญญาเมื่อไหร่จะถือว่าเธอหวังสูง ทุกอย่างที่เคยได้ ก็อาจจะไม่เหมือนเดิม”
“ค่ะ” เธอรับคำง่ายดาย เพราะตอนนั้น ยังไงก็ได้ ขอให้ได้เงินที่ต้องการมาก่อน อย่างอื่นไม่มีเวลาคิด
“ดี เมื่อเข้าใจเอาเช็คไป เก็บข้าวของมาอยู่ที่นี่ได้เลย สัญญาหนึ่งปีอาจจะเปลี่ยนแปลง เพราะฉันมันคนที่ขี้เบื่อ แต่ไม่ต้องห่วง จะอยู่จะไป รับรองเธอจะได้เงินคุ้มเชียวละ”
แม้จะหวาดหวั่นมากมายแต่ต้องบอก เพราะลูกเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา บางทีราฟาเอลอาจจะเปลี่ยนใจเรื่องที่เคยคุยไว้ จะบอกเขาว่าไม่ได้ต้องการอะไร ไม่ได้หวังสูง ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความผิดพลาด แม้ต้องปวดใจเพียงใดก็แค่ทนเจ็บแบบเดิมๆ ก็เท่านั้นเอง
ติด ติด ติด
เสียงมือถือหน้าโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งตั้งปลุกไว้ดังขึ้น เพียงพลอยรีบเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว วันนี้สองมือรีบเร่งกว่าวันอื่น เพราะมีอีกเรื่องสำคัญที่รออยู่
ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
“ทำไมมาสแกนเวลาช้าล่ะหนูนา ไม่เห็นเคยมาสายสักวัน เคยพูดเสมอสายหักเงินนาทีละสองบาท บอกว่าเสียดาย ไม่มีทางได้หักของเธอ” โมลีหญิงสาวช่างคุยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเพียงพลอยชวนคุยอย่างเช่นทุกวัน
“แต่วันนี้ครึ่งชั่วโมงโดนหักครึ่งวัน” เพียงพลอยพูดเสริม ทำหน้าเสียดายสุดๆ
“แล้วไปไหนมา”
“ไปดูหลานมาจ๊ะ ” หน้าตาเศร้าสร้อยทำให้โมลี อยากตีปากตนเองที่ชวนเพื่อนคุยเรื่องเครียดตั้งแต่เช้า
เด็กชายศศิน ขณะนี้อายุได้เกือบสี่ขวบป่วยเป็นโรคหัวใจ นอนรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อ เพียงพลอยต้องรับภาระดูแลคนเดียวมาเกือบปี ตั้งแต่วันที่พี่สาวเสียชีวิตภาระที่มีอยู่ก็ยิ่งหนักอึ้ง จนแทบแบกรับไม่ไหว… ส่วนพ่อของหลานนั้นถึงยังมีชีวิตก็เหมือนตายจากศศินไปแล้ว เพราะฝ่ายนั้นไม่มีใครเคยมาดูดำดูดีแม้เพียงสักคน
“ทำงานเถอะ ทำงานจะได้ลืมเรื่องเครียดลงได้บ้าง” โมลีชวนเพื่อนไปยังห้องเก็บของ เพื่อเตรียมทำความสะอาดห้องพัก
“เธออยู่ชั้นเดียวกับเรา วันนี้โชคดีจังจะได้มีเพื่อนคุย” เพียงพลอยก้มมองแผ่นชาร์ตในมือ ดูจำนวนห้องพักที่ต้องทำความสะอาดในวันนี้
หลังจากนั้นสองสาวขึ้นลิฟต์พนักงานมุ่งสู่ชั้นที่หก
ราฟาเอล ฟาน เดอร์ซาร์ อายุสามสิบ หนุ่มหล่อเรือนร่างกำยำ ส่วนผสมระหว่างไทย เนเธอร์แลนด์ เขาก้าวเดินเข้าโรงแรมกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯ เพื่อหามารดาซึ่งเข้าพักที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน
“ไม่อยากพักเพนท์เฮาส์หนุ่มเจ้าสำราญหรอก ไม่อยากเป็นตัวขัดขวางความสุขใคร พักที่โรงแรมเดิมดีกว่า”
“มาดามครับ อะไรจะสุขใจเท่าได้เห็นหน้ามาดามล่ะ อย่ามาประชดผมเลยครับ” ราฟาเอลอ้อนมารดา เมื่อท่านเอ่ยรู้ทันเรื่องชีวิตส่วนตัวเสมือนเดินตามหลังเขาทุกวินาที แต่แม้เป็นเช่นนั้นข้อมูลท่านก็ยัดคงพลาด เพราะราฟาเอลไม่เคยพาสาวที่ไหนไปเพนท์เฮาส์ของตนมาก่อน “อย่ามาทำปากหวานเลยฟาน เก็บไว้ใช้กับผู้หญิงเถอะ… ถ้าไม่เป็นอย่างแม่ว่าป่านนี้คงมีหลานให้แม่อุ้มไปแล้วล่ะ”
ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงได้เห็นมารดาวัยห้าสิบกว่าค้อนแน่นอน ราฟาเอลอดขำไม่ได้ “เอาที่สบายใจแล้วกันครับ ผมรู้ว่าคุณแม่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาบ้านเกิดเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว เรื่องทายาทของผม เอาเป็นว่าผมจะไม่ขัดใจ คราวนี้จะยอมให้คุณแม่พาผมไปดูตัวนะครับ”
มารดาคงยิ้มกับโทรศัพท์แน่นอน ก่อนจะวางสายเขาไป
ก็อกๆๆ
เสียงประตูหน้าห้อง มาดามเดอร์ซาร์ เดินไปเปิดประตู “นึกว่าจะไม่มา ถ้าสายห้านาทีแม่ไม่รอแล้ว นัดคุณป้าศศิไว้ ไม่อยากให้เขารอ”
“สายได้ก็ดีสิครับ แต่หากทำอย่างนั้นมีหวังป๋าบ่นไม่ต่างสาวๆ แน่ ที่ไม่ดูแลคุณปาริชาติสุดที่รัก เมื่อคืนก็โทรมาฝากฝังตั้งหลายสาย” ปาริชาติยิ้ม ยิ้มปลื้มความห่วงใยที่สามีมีให้ แม้จะอยู่กินกันมาจนลูกโตขนาดนี้แล้ว ฝ่ายนั้นยังรักเธอไม่เสื่อมคลาย
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เป็นไงวันนี้พร้อมหรือยัง อย่ากลับคำละ อีกเรื่องที่สำคัญคือต้องเคลียร์เรื่องแม่สาวๆ ข้างกายให้หมด อย่าให้เหลือมากวนใจแม่ กวนสะใภ้แม่ได้”
“มาถึงก็เข้าเรื่องเลยนะครับ” ดวงตาคมเข้มกลอกไปมา เหมือนทุกครั้งที่มารดาคิดจะจับคู่ตน กับลูกสาวของเพื่อนท่าน
“เรื่องอะไรจะรอช้า เดี๋ยวคนบางคนลืมเรื่องที่คุยเมื่อคืนแม่ก็อดอุ้มหลานในปีนี้น่ะสิ” ปาริชาติเดินไปหยิบกระเป๋าถือ ไม่ลืมเรียกเด็กรับใช้ซึ่งกำลังเอาของจากกระเป๋าจัดใส่ตู้เสื้อผ้า
“ว้าว อะไรจะเร็วปานนั้นฮะ”
“แน่สิย่ะ ช้ากว่านี้น้ำยาลูกอาจจะหมดซะก่อน…ได้ข่าวว่าใช้เปลืองซะจริง”
“…”
“เถียงไม่ออกล่ะสิ พ่อเนื้อหอม” ปาริชาติยิ้มขำที่แกล้งลูกชายให้ใบ้กะทันหันได้
“ยอมแพ้แล้วครับ จะไม่บอกชื่อเสียงเรียงนามผู้หญิงที่คุณแม่อวดสรรพคุณผมไว้หน่อยเหรอครับ ไปถึงจะได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษถูกคน”
“สิตมน จำไว้ ‘ว่าที่’ ภรรยาลูกชื่อหนูมนจ้า”
เอาแล้ว ยอมเข้าหน่อย ไปไกลถึงขั้วโลกแล้ว ราฟาเอลเดินนำหน้ามารดาและเด็กรับใช้มุ่งไปยังลิฟต์ ก่อนจะนำไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่หน้าโรงแรม
มารดาซุบซิบบางอย่างกับคนรับใช้ตั้งแต่ออกจากห้อง ก่อนจะขึ้นรถก็ยังไม่หยุด ชายหนุ่มสงสัยหันมาซักถาม
“อะไรกันครับ คุยอะไรกัน ทำอย่างไม่เจอกันมาเป็นแรมปี ถ้าเป็นผมจะไม่ว่าสักคำ”
“แม่คุยเรื่องเด็กที่เคยเจอเครื่องเพชรแม่น่ะสิ มาคราวนี้ยังไม่เจอเลย แม่ซื้อของมาฝากเขาด้วย”
“ถามหน้าฟรอนท์สิครับ ไม่ต้องมานั่งสงสัยว่าจะเจอหรือเปล่า” ราฟาเอลแนะนำ เดินไปเปิดประตูให้มารดา
“อยากให้เขาตื่นเต้นที่เจอแม่น่ะสิ ให้นามบัตรไว้ก็ไม่เห็นติดต่อไปบ้าง คนมักน้อยอย่างนี้แม่ปลื้มจริงๆ”
“ใครบ้างไม่อยากได้ของฟรีครับ อย่าไว้ใจใครง่ายเกินไปเลย คราวก่อนที่เขาไม่เอาของเรา บางทีใช่ว่าเขาเป็นคนดี แต่เขาจะเอาของออกไปจากที่ทำงานได้ยังไง โรงแรมใหญ่โตขนาดนี้ต้องมีการตรวจกระเป๋าก่อนกลับบ้านอย่างแน่นอน”
“ขับรถไปเลย ไม่ได้ขอความคิดเห็น” ปาริชาติหน้าบึ้ง
“ผมพูดจริงก็งอนเสียนี่” ราฟาเอลมองมารดาทางกระจก หากก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะพูดไปมารดาก็ไม่มีทางเปลี่ยนความตั้งใจในเรื่องที่วางแผนไว้แล้ว
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
เพื่อช่วยชีวิตแฟนสาวของเขา มือขวาของหลินเทียนจึงพิการ แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้มาคือการทรยศของแฟนสาวและเพื่อนสนิทของเขา ขณะที่หลินเทียนกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับคนคนหนึ่งซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คนนั้นมีชื่อว่าหลิวอีเตา เป็นหมอในตำนาน หลินเทียนไม่เพียงแต่ได้กลายเป็นศิษย์ของแพทย์ผู้ไร้เทียมทานผู้นี้ แต่ยังได้รับมรดกอันมหาศาลจากดร.หลิวอีกด้วย จากนั้นเป็นต้นมา หลินเทียนโต้กลับทุกทาง กำจัดอุปสรรคต่าง ๆ จะกระทั่งไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
วามสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ทำให้เธอ...ท้องไม่มีพ่อ .................... “คูน...คุณ” ชมพลอยทรุดตัวนั่งใกล้ร่างหนาที่หันมองเธอด้วยสายตาแปลกใจ เธอทักทายเขาด้วยภาษาสากล “คูณนอนกับช้านม้าย ฉันซิงนะ” บุรุษที่ชมพลอยเข้าไปทักคือ ภาคินทร์ ภักดีธำรง หรือหมอธาม ในวัยสามสิบปีที่มาเรียนแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติมในประเทศเยอรมัน เขายังคงมองหน้าคนเสนอตัวให้ด้วยสายตาตกใจปนประหลาดใจ เขาพบเจอผู้หญิงที่ชวนไปหลับนอนหลายคน ทว่ากลับไม่มีใครสักคนที่บอกให้รู้ว่า ครองพรหมจรรย์ ในตอนนั้นภาคินทร์คิดว่า สาวสวยตรงหน้าเมาจึงพูดในเรื่องตรงกันข้ามกับการกระทำ ผู้หญิงบริสุทธิ์คงไม่ชวนผู้ชายหลับนอนด้วย “วันไนท์สแตนด์งาย...สนใจไหม” “ได้สิ” ภาคินทร์ยิ้มและตอบรับทันที อาจเป็นเพราะเขาถูกใจในความสวยงามบนใบหน้า ผิวขาวลออตา และรูปร่างที่น่าฟัดอย่าบอกใคร ภาคินทร์เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป กิเลสตัณหาเกิดขึ้นได้หากเจอคนถูกใจ
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย