ขอเพียงทำให้ข้าพึงพอใจ เจ้าจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา นางคือปีศาจราคะ ครั้งหนึ่งนางเคยเพียรพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นเทพเซียน ผ่านมาพันปีนางคิดว่าหนทางเป็นเซียนนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ นางมุ่งสู่วิถีมารกลายเป็นปีศาจอันดับหนึ่ง ล่อลวงผู้คนให้มัวเมาราคะ เสพสมสูบพลังวิญญาณ หากผู้ใดทำให้นางพึ่งพอใจ นางจะบันดาลในสิ่งที่ปรารถนา ด้วยเหตุนี้เทพเซียนจึงลงมาปราบมาร กักขังนางไว้ที่ภูผาเทียมเมฆา ร่างกายถูกกักขังแต่สามารถถอดดวงจิตสิงสู่มนุษย์ มนุษยกลุ่มหนึ่งบูชานาง ก่อตั้งพรรคลิขิตจันทรา คัดเลือกเด็กหญิงมาเพื่อเป็น ‘ร่างทรง’ ถวายแด่ปีศาจราคะ ชิงหรูมาอยู่ที่พรรคลิขิตจันทราตั้งแต่อายุสิบสอง นางไร้ความทรงจำ สิ่งที่นางจำได้คือลืมตาขึ้นมาโดยมีสตรีรายล้อม เด็กหญิงมากมายถูกส่งเข้ามาที่แห่งนี้ จนอายุสิบห้า เด็กหญิงวัยเยาว์เติบโตเป็นหญิงสาวแรกแย้ม ทั้งหมดถูกคัดเลือกจนเหลือเพียงห้าคน สุดท้ายนางคือผู้ที่ ‘ท่านประมุข’ เลือกใช้ร่างของนาง นางจึงเป็น ‘ร่างทรง’ ของปีศาจราคะ ตั้งแต่วันที่นางถูกเลือก ชิงหรูไม่อาจพูดได้อีกเลย มีเพียง ‘กวงหมิน’ บุรุษใบหน้าเรียบเฉยคอยดูแลรับใช้และเป็นคนปกป้องนาง ชิงหรูไม่รู้ที่มาที่ไปของกวงหมิน เหตุใดเขาจึงเข้าพรรคลิขิตจันทรา เหตุใดเขายอมเป็นทาสรับใช้ท่านประมุข และที่สำคัญนางไม่รู้ว่าท่านประมุขจะใช้ ‘ร่างกาย’ ของนางไปนานเพียงใด และเมื่อถึงจุดสิ้นสุด ชีวิตของนางจะเป็นอย่างไร นางได้แต่หวังว่าช่วงชีวิตสุดท้ายของนางจะไม่เลวร้ายจนเกินไป
“คุณชาย พอเถิดเจ้าค่ะ”
เสียงหวานครางกระเส่าปากร้องห้ามแต่ร่างกายกับบิดเร่ากับสัมผัสลึกล้ำที่นิ้วเรียวงามเคลื่อนไหวรวดเร็วในร่องกลีบบุบผางาม
จางลี่คือสาวใช้คนงามวัยสิบหกของคุณชายหวังหย่ง นางถูกขายทิ้งมาเป็นสาวใช้ตั้งแต่อายุสิบสอง ตั้งแต่มาอยู่บ้านเศรษฐีหวัง ก็ไม่เคยได้กลับบ้านเดิมอีกเลย เพราะบ้านเดิมยากจนค้นแค้น เมื่อครั้งที่มาถึงใหม่ๆ รูปร่างนางผอมจนน่าเวทนา เป็นคุณชายหวังหย่ง คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังที่แอบนำขนมของกินมาให้นางกินบ่อยๆ เด็กสาวจึงมอบใจทั้งใจให้ด้วยหวังว่าจะเป็นที่โปรดปรานในสักวัน ไม่คิดว่าขนมแต่ละวันที่เขานำมามอบให้นาง ครั้งละชิ้นสองชิ้นนั้น จะทำให้นางจงรักภักดีกับเขาถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยอมให้เขาล่วงล้ำกายสาว
“ลี่เอ๋อร์” เขาเรียกนางเสียงแหบพร่า ชักนิ้วเรียวยาวออกจากร่องรักที่ฉ่ำเยิ้ม สะโพกของนางขยับตามนิ้วของเขาอย่างอาลัย เขาเห็นสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยของนาง มุมปากจึงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มพลางโน้มหน้าลงไปใกล้ร่างที่อ่อนระทวยบนตั่ง
“เด็กดี เจ้าบอกสิว่ารู้สึกเช่นไร”
“บ่าว...บ่าว...”
จางลี่ได้แต่อ้ำอึ้ง เรื่องเช่นนี้จะพูดออกไปได้อย่างไร แค่นี้นางก็เขินอายเหลือเกินแล้ว เพราะคุณชายหยังหย่งเรียกนางมาให้ปรนนิบัติขณะอ่านตำรา แรกทีเดียวนางมีหน้าที่คอยอยู่รับใช้ นางมีหน้าที่รินน้ำชา ฝนหมึกหรือไปหยิบตำราตามแต่คุณชายสั่ง แต่นางไม่คิดเลยว่าวันนั้น นางเดินเข้ามาหยิบตำราให้คุณชายจะทำให้นางตกเป็นทาสบำเรอกามเช่นนี้ นางยังจดจำเหตุการณ์วันนั้นได้เป็นอย่างดี
คุณชายหวังหย่งให้นางมาหยิบตำราที่จะต้องอ่านเพื่อเตรียมสอบเป็นจงหงวน นางเดินเข้ามาหาในชั้นที่อัดแน่นด้วยตำราหลากหลาย คุณชายสอนนางอ่านเขียนเล็กๆ น้อยๆ นางจึงพออ่านตัวอักษรออกบ้าง ขณะที่นางก้มๆ เงยๆ หาตำราเล่มที่คุณชายต้องการ ร่างสูงโปรงก็เข้ามาแนบชิดด้านหลัง บ่นพึมพำที่นางหาตำราเล่มที่ต้องการไม่พบเสียที นางใจสั่นเพราะไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดเช่นนี้มาก่อน และยังเป็นคุณชายหวังหย่งที่นางปลาบปลื้มอยู่เป็นทุนเดิม นางกลับเงอะงะทำอะไรไม่ถูกยิ่งฝ่ามือของคุณชายวางบนสะโพกกลมกลึงของนาง เพียงแค่นี้นางก็แทบยืนไม่อยู่จึงได้แต่เอนตัวไปด้านหน้าพิงชั้นวางตำรา เพื่อขยับกายถอยห่างไม่แต่คิดว่าร่างของคุณชายจะตามติดมาบดเบียด มีบางสิ่งที่แข็งขืนดุนดันร่องก้นของนาง
“คุณชาย” นางร้องอย่างตกใจ
ข้าดีกับเจ้าหรือไม่ จางลี่” น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยถามพลางเลื่อนมือข้างหนึ่งโอบทรวงอกของนาง บีบเคล้นเบาๆ เหมือนวัดขนาดของทรวงทรงที่อยู่ใต้เสื้อผ้าที่นางสวม
“ดี...ดีเจ้าค่ะ” นางเริ่มหอบหายใจ มือข้างหนึ่งของคุณชายหวังหย่งบีบเคล้นหน้าอก อีกข้างขยำก้นของนาง
อืม น่าจะจริง” เขาพูดแล้วขบติ่งหูของนางเบาๆ “ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ เจ้าผอมมาก ดูสิ เพราะข้าแอบเอาของกินมาให้เจ้ากินทุกวัน ร่างกายจึงมีเนื้อมีหนังมากขึ้น”
"คุณชาย” จางลี่รู้สึกวาบหวิว ช่องท้องปั่นป่วนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง
“ปล่อยมือเถิดเจ้าค่ะ”
“ทำไมเล่า ข้าเลี้ยงดูเจ้ามา ก็ให้ตอบแทนบุญข้าหน่อยจะเป็นไร” มือเลื่อนมาปลดเสื้อผ้าของนางให้คลายออก เขานวดคลึงทรวงอกนุ่มนิ่มอย่างเพลิดเพลินสลับกับขยี้ปลายถัน
“อ๊า” จางลี่หลุดเสียงครางออกมา ถูกนวดคลึงจนหน้าอกเริ่มแข็งเป็นตุ่มไต
เป็นอย่างไร เจ้า...รู้สึกอย่างไร”
จางลี่เขินอายได้แต่ส่ายหน้าไปมา นางเป็นหญิงรับใช้ที่ถูกขาดขาย ไร้ญาติพี่น้อง หากเจ้านายพึ่งพอใจ ก็อาจขยับฐานะให้นางได้
หวังหย่งเห็นนางไม่พูดจึงเพิ่มแรงนวดคลึงทรวงอกของนาง อ่า..แต่ยังนวดก็ยิ่งเพลิดเพลิน มิน่าเล่า สหายของเขาจึงชอบไปหอนางโลมกันนัก แต่เขาเป็นบุรุษรักสะอาด จึงเลือกระบายความใคร่กับหญิงรับใช้ในบ้านแทน แต่ก่อนเข้าไม่ได้ใส่ใจจางลี่นัก แต่นับวันนางเติบโตและอวบอัดจนน่าลิ้มลอง เขาป้อนขนมของกินให้นางกินทุกวัน เช่นนี้แล้วเขาย่อมมีสิทธิ์ได้กลืนกินนางเช่นกัน
“เด็กดี เจ้าจะตอบข้าได้หรือยัง”
“สะ เสียว...เสียวเจ้าค่ะ” นางแทบจะร้องไห้ออกมา ร่างกายไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน รับรู้เพียงว่ากระโปรงถูกตลบขึ้นแล้วกางเกงชั้นในตัวน้อยก็ถูกเลื่อนลงมา
“คุณชาย” นางร้องเสียงหลงหันไปมอง แต่กลับถูกมือใหญ่กดท้ายทอยไว้ไม่ให้หันกลับมา นางเบิกตากว้างเมื่อมือของคุณชายลูบไล้กลีบบุปผาของนาง นางส่งเสียงครางอือราวคนละเมอจนกระทั้งนิ้วเรียวแหวกกลีบบุปผาแทรกเข้าไปในช่องรักที่ฉ่ำแฉะ
“อะไรกัน เจ้าเปียกชุ่มง่ายถึงเพียงนี้” หวังหย่งหัวเราะในลำคออย่างพอใจ แค่กระตุ้นนางเล็กน้อย ช่องรักของนางก็เปียกชุ่มแล้ว
“บ่าวไม่รู้เจ้าค่ะ อือ..อา...” นางครางอย่างห้ามใจไม่ได้ แรกทีเดียวคือความเจ็บต่อมาเมื่อเขาชักนิ้วออกแล้วดันกลับเข้าไปใหม่ เกิดสัมผัสแปลกประหลาด เสียวซ่านไปทั่วร่าง อ่อนไหวจนร่างกายอ่อนระทวย
“ดีแล้ว” เขาชักนิ้วเข้าออกรัวเร็ว ปล่อยมือจากท้ายทอยของนางมาบีบเคล้นทรวกอกเต่งตึง “แท่งหยกของข้าจะได้มุดเข้าช่องรักของเจ้าโดยง่าย”
“อะไรนะเจ้าคะ” นางถามเสียงแผ่ว อึดใจต่อมานางจึงได้คำตอบเมื่อแท่งหยกร้อนระอุของคุณชายหวังหย่งแทรกเข้ามาในร่างกายของนาง
“อ๊า” ครั้งนี้เจ็บกว่าใช้นิ้วยิ่งนัก นางร้องครางสะบัดหน้าไปมาด้วยเสียวซ่าน “คุณชาย บ่าวเจ็บ”
“เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น” เขาครางในลำคอ “แน่นเหลือเกิน ยังไม่มีผู้ใดแตะต้องเจ้าสินะ”
“บ่าว....โอ้ววว คุณชาย ท่าน...ท่าน...ลึกเกินไปแล้ว ข้า..จุกเหลือเกิน”
จางลี่ร้องออกมา ไม่แน่ใจว่าตนเองชอบหรือไม่ คุณชายดึงสะโพกของนางแล้วโยกสะโพกเข้าใส่ ร่างของนางโยกไปมาตามแรงกระแทกกระทั่น จากที่เจ็บกลายเป็นเสียวซ่าน นางซูดปากเผ็ดร้อน สองมือจับชั้นวางตำราแน่นเผื่อพยุงตัวรับแรงกระแทก ดอกไม้สาวน้ำหวานหลั่งออกมามาก การเคลื่อนไหวของแท่งหยกจึงเข้าและออกได้อย่างสะดวก
“คุณชาย ช้าลงหน่อย บ่าว บ่าวไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
“ช้าได้อย่างไร” เขาครางกระเส่าโยกเอวอัดใส่ไม่ละความเร็วลงสักนิด “ช่องรักของเจ้าโอบรัดแท่งหยกข้าถึงเพียงนี้ ซี๊ดดด เสียวยิ่งนัก ข้าจะกระทุ้งเจ้าให้หายอยาก”
“โอ๊วว คุณชาย” จางลี่ร้องเสียงหลงเมื่อขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นแล้วท่อนแขนของคุณชายก็สอดมายกขาของนางค้างไว้ “เสียวเหลือเกิน บ่าว บ่าวจะไม่ไหวแล้ว...อือ อร๊ายยย”
หวังหย่งได้ยินเสียงหวีดร้องของหญิงรับใช้ ช่องรักของนางบีบรัดแท่งหยกของเขาอย่างรุนแรง นางเสร็จสมไปแล้ว เขาแหงนหน้าครางแล้วเร่งความเร็วขึ้นอีก เร็วอีก แรงอีก เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเคล้าเสียงครางกระเส่า จนกระทั้งหวังหย่งรู้ว่าตนเองใกล้จะปลดปล่อยน้ำรักออกมาแล้วจึงรีบชักแท่งหยกออกมา ร่างของจางลี่ไร้เรี่ยวแรงทรงตัว เพียงหวังหย่งปล่อยมือจากนาง ร่างของนางก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“อ้าปาก”
จางลี่ยังมึนงงอยู่แต่ก็อ้าปากตามที่คุณชายสั่ง แล้วแท่งหยกก็ถูกส่งเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว
“อย่ากัด” เขาขู่ไว้ก่อน “อย่าฟันของเจ้าถูกแท่งหยกของข้า อา.. ใช่แล้ว อ้าปากไว้ ซี๊ด ปากของเจ้าก็ทำข้าเสียวซ่านถึงเพียงนี้
จางลี่แทบตาเหลือกเมื่อแท่งหยกเคลื่อนไหวในโพรงปาก สองมือของหวังหมิ่นจับศีรษะของนางไว้เพื่อรับการอัดสะโพกเข้าใส่ปากนาง จนกระทั้งเขากระแทกอัดแท่งหยกเข้าในโพรงปากนุ่มแล้วไม่ชักกลับ ปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นใส่ปากของนาง นางสำลักอยากจะคายออกแต่ทำไม่ได้เพราะแท่งหยกของคุณชายยังกระตุกในปากของนางจนมันนิ่งสงบแล้ว หวังหย่งจึงยอมถอนแท่งหยกออกจากปากของนาง มือใหญ่ยื่นมาลูบแก้มนวลเบาๆ
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น