ดาราวดีสูดซี้ดริมฝีปากเหมือนกำลังกินของเผ็ดอยู่นานเป็นครู่ กระทั่งความเสียวซ่านลามไหลเข้าไปในช่องท้อง ด้วยไร้ทางจะปัดป้องมือใหญ่ที่กดแผ่นหลังของเธอให้คว่ำหน้าเอาไว้ พีรวิทย์เป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก ต่อให้ดิ้นรนขัดขืนยังไงคงไม่เป็นผล “ไม่ต้องกลัว ลืมไปหรือเปล่าว่าเราแต่งงานกันแล้วนะ… จะเป็นไรไปล่ะ ถ้าผัวจะสำรวจร่างกายของเมียแบบนี้” เขาหาเหตุผลมาคัดค้านจนหญิงสาวใจอ่อน ยอมหลับตาปล่อยให้มือใหญ่ลูบล้วงเนินเนื้ออุ่นจัด กระทั่งลำนิ้วแกร่งของเขาชำแรกเข้าไปในกลีบเนื้อสาวซึ่งไร้ทางปัดป้อง “น้องดาวสวยเหลือเกิน… ไม่คิดว่าแก้ผ้าแล้วจะน่าฟัดอย่างนี้” เขารำพึงออกมาด้วยความพึงพอใจ ขณะลำนิ้วแกร่งกำลังเคลื่อนเข้าๆ ออกๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ในกลีบเนื้อสาวซึ่งขมิบตอดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ “เอาออกไปนะ… ดาวเจ็บ” หญิงสาวอุทธรณ์เสียงอ่อน ชายหนุ่มนึกในใจว่านี่แค่ไถถูแค่เพียงภายนอก เธอก็ยังเจ็บ แล้วถ้าเจ้าแก่นกายอลังการของเขาฝังเข้าไปในตัวเธอจนมิดล่ะ? “อันที่จริงเราผ่านคืนเข้าหอมาแล้วนะ… แต่พี่ยังไม่ได้เข้า ‘หอ’ น้องดาวเลยนะ แล้วในฐานะสามี พี่ก็มีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ไม่ใช่หรือ? ที่จะเข้า ‘หอ’ น้องดาว” เขาเริ่มอ้างสิทธิ์ขึนมาในทันที หลังจากปล่อยให้ตัวเองหลงโง่งมงายอยู่ตั้งนาน เพราะว่าในคืนเข้าหอเขาเลือกที่จะออกไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ปล่อยให้เจ้าสาวของตัวเองต้องนอนร้องไห้ ครุ่นคิดด้วยความน้อยใจไปต่างๆ นานาว่าอาจจะเป็นเพราะเธอไม่สวย ไม่เซ็กซี่พอจะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้
“วิวาห์บำเรอสวาท”
“อะไรนะครับคุณแม่… ”
พีรวิทย์ ชายหนุ่มใบหน้าคมคร้าม จมูกโด่งเป็นสันสวย คิ้วเข้มดกดำระบายแนวเป็นแพอยู่เหนือกรอบดวงตาคมประกาย ถึงกับตะลึง อ้าปากค้าง แทบสำลักกาแฟที่กำลังยกขึ้นดื่ม
“ผมหูฝาดไปใช่ไหมครับ”
เขารู้สึกตกใจ กับเรื่องที่เพิ่งได้ยินชัดเจนเต็มสองหู เริ่มโอดครวญขึ้นมาในทันที เมื่อคุณหญิงผกาผู้เป็นมารดา ยื่นคำขาดว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับ ‘ดาราวดี’ ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนรักคนสนิท พีรวิทย์จะถูกตัดขาดออกจากมรดกกองโตในทันที
“ก็อย่างที่แกได้ยินนั่นแหละ… ชัดเจนแล้วนี่ ไม่เห็นจะต้องแปลภาษาไทยให้เป็นภาษาไทยนี่นา”
ได้ทีคุณหญิงผกาลอยหน้าเอาจริง กล่าวออกมาอย่างนึกสะใจที่ได้เห็นลูกชายทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก คงตกใจแทบ
ช็อคละสิท่า
“นี่มันยุคไหนแล้วครับคุณแม่… ”
คนเป็นลูกชายส่ายหน้าพรืด นึกในใจว่ายุคสมัยนี้ยังมีการ ‘คลุมถุงชน’ ให้เห็นอยู่อีกหรือ? ให้ตายเถอะโรบิ้นให้ดับดิ้นเถอะ
โรเบิร์ต พีรวิทย์ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตน
“ไม่รู้แหละ… ฉันไม่สนใจว่ายุคไหนสมัยไหน เพราะถ้าแกยังขืนทำตัวเสเพล สัมมะเลเทเมา เละเทะไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย ทำตัวเป็นเพลย์บอยควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่อย่างนี้ ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะพลาดไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายตีนมาเป็นสะใภ้เข้าสักวัน… ถึงตอนนั้นนังแม่อย่างฉันคงอกแตกตายเสียก่อน”
คุณหญิงผกากอดอก เชิดหน้า ยกพัดขึ้นกระพือพรึ่บพรั่บ ไม่ยอมสบสายตาออดอ้อนของลูกชาย ตั้งใจว่าคราวนี้จะไม่ใจอ่อนเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา
“โธ่… จะให้แต่งงานทั้งที่ผมยังไม่เคยรู้จัก ยังไม่เคยเห็นหน้ายัยดาวอะไรนี่?”
พีรวิทย์รีบหาข้ออ้างพัลวัน หวังว่าเหตุผลของตนจะได้รับความเห็นใจจากมารดา
“แกเรียกให้มันถูกหน่อยตาพีร์ น้องเค้าชื่อ ‘ดาราวดี’ ชื่อเล่นว่า ‘ดาว’ เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ รับรองว่าคนนี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ดูท่าทางแล้วมีความเป็นกุลสตรี เป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างไม่ต้องสงสัย แกไม่รู้หรอกว่าแม่แอบเล็งเอาไว้ให้แกตั้งแต่หนูดาวยังเป็นเด็กๆ รอให้เรียนจบ คนนี้แหละ… เหมาะสมเหลือเกินที่จะมาเป็นสะใภ้ของตระกูล”
น้ำเสียงและแววตาของคุณหญิงผกาแสดงความชื่นชมในตัวว่าที่ลูกสะใภ้อย่างออกนอกหน้า ไม่สนใจลูกชายจอมดื้อรั้นที่กอดอก นิ่วหน้า นิ่งฟังแล้วแอบเบะริมฝีปาก ทั้งที่ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าหญิงสาวที่มารดากำลังเอ่ยถึงด้วยซ้ำ
“โห! ‘ดาราวดี’ ชื่อยังกะนางเอกลิเกแน่ะ”
คนปากจัดติติงสารพัด
“อุ๊ย! ไปว่าน้องได้ยังไง ปากหรือนั่น”
คุณหญิงเผลอฟาดต้นแขนลูกชายด้วยพัด
“แล้วคุณแม่มั่นใจได้ยังไงล่ะครับ ว่ายัยนางเอกลิเกคนนี้จะถูกสเปคผม แน่ใจนะว่าไม่อ้วน ดำ ล่ำ สั้น หรือไม่ก็เตี้ยเหมือนตอม่อทางด่วน แน่ใจนะครับว่าสะโพกไม่แฟ่บ หน้าอกไม่แบนแต๊ดแต๋เป็นไม้กระดาน”
คนช่างตำหนิติติงรีบย่นหน้าผาก ร้อนตัวจนต้องตีโพยตีพายออกมาเสียยืดยาว คุณหญิงผกาเหลือบไปเห็นแววของความหนักใจปรากฏขึ้นชัดเจนในดวงตาของลูกชาย
“เออน่ะ… อย่าเพิ่งพูดมาก เอาไว้เจอตัวจริงเสียก่อนแล้วค่อยบ่น” พูดจบก็ยกพัดขึ้นกระพือด้วยความเคยชิน
“แล้วแน่ใจนะครับ… ว่ายัยน้องดาวคนนี้จะเข้ากับผมได้”
พีรวิทย์อุทธรณ์เสียงอ่อน
“แหม… ห่วงเสียจริงนะ ที่ผ่านๆ มาฉันก็เห็นแก ‘เข้า’ กับสาวๆ ได้หมดทุกคน มาคราวนี้ทำเป็นบ่น… ชิ๊”
คุณหญิงเผอทำปากยื่นใส่ลูกชาย ด้วยรู้เห็นกิตติศัพท์ความเจ้าชู้และเรื่องราวกระฉ่อนฉาวมานาน มีหรือที่จะไม่รู้ว่าลูกชายของตัวเองเป็นเช่นไร
“โธ่… คุณหญิงแม่ใจร้ายยยย”
ชายหนุ่มโอดครวญ ลากเสียงยืดยาวจนฟังดูน่าสงสาร นึกในใจว่าถ้าโดนบังคับแถมยังยื่นคำขาดแบบนี้ แล้วเขาจะเอา ‘เมนี่’ หญิงสาวสุดเซ็กซี่ พริตตี้อวบอึ๋ม คู่ควง
คนปัจจุบันที่กำลังคบหากันไปไว้ที่ไหน ถ้าขืนต้องแต่งงานตามบัญชาของมารดา
“แม่มีทางเลือกให้แค่สองทาง… หนึ่งคือยอมแต่งงานเสียโดยดี สองคือโดนตัดออกจากกองมรดก”
คุณหญิงทำเสียงเข้ม ไม่มีวี่แววว่าล้อเล่นเลยสักนิด
“โห… คุณแม่ใจร้าย”
พีรวิทย์ยกมือขึ้นกุมขมับ นั่นเท่ากับบังคับกันเห็นๆ ไม่ให้โอกาสเขาได้เลือกเลยสักนิด
ธุระร้อนของมารดาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาทันที ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจู่ๆ จะต้องโดนบังคับให้แต่งงานแบบสายฟ้าผ่า กับผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ให้ตายสิพับผ่า!
แต่เอาเถอะ เพื่อเห็นแก่มรดกกองโตของตระกูล รวมๆ แล้วก็เฉียดหมื่นล้าน ในเมื่อคุณหญิงผกาผู้เป็นมารดาใช้แผนนี้กับตน เขาจะรับมือด้วยการ ‘ซ้อนแผน’
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่