ลัคณาต้องทำหน้าที่แฟนจำเป็นให้กับ จอมทัพ รุ่นพี่สุดหล่อ สาวกรี๊ดของมหาวิทยาลัย มันเป็นความไม่ตั้งใจแต่เธอ ตกหลุมรักเขาจริง ๆ ส่วนเขาล่ะจะรู้หรือเปล่าว่าเธออยากเป็นของเขาสุดหัวใจ
ลัคณาต้องทำหน้าที่แฟนจำเป็นให้กับ จอมทัพ รุ่นพี่สุดหล่อ สาวกรี๊ดของมหาวิทยาลัย มันเป็นความไม่ตั้งใจแต่เธอ ตกหลุมรักเขาจริง ๆ ส่วนเขาล่ะจะรู้หรือเปล่าว่าเธออยากเป็นของเขาสุดหัวใจ
“นี่เมื่อไหร่หล่อนจะเลิกใส่แว่นสวมกระโปรงยาวอย่างนี้ซะที่นะยัยลัคกี้ รู้ไหมว่ายิ่งนับวันฉันก็เหมือนเดินกับป้าในมหาวิทยาลัยเข้าไปทุกที แล้วนี่อะไรยะ มาเที่ยวทั้งทีหล่อนต้องหัดใส่คอนแท็คเลนส์ซะบ้างนะ”
อัญชัญบ่นกระปอดกระแปดขณะนั่งจิบไวน์ในผับแห่งหนึ่งที่หล่อนเคยมาอยู่เป็นประจำ และครั้งนี้หล่อนไม่ได้มาคนเดียวแต่ยังกระเตงเพื่อนสนิทอย่าง ลัคณา ซึ่งหล่อนเรียกติดปากว่าลัคกี้ สาวหน้าใสเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยปีหนึ่งที่กำลังมองลอดผ่านแว่นตาแล้วยิ้มแหย ๆ กับคำติเตือนของอัญชัญซึ่งหล่อนถือว่าไม่ได้ทำให้เจ็บอกเจ็บใจ ตรงข้ามหล่อนชินเสียแล้วกับนิสัยของเพื่อนสนิทที่ยอมคบกับสาวเรียบร้อยแต่หัวใจว้าวุ่นอย่างเธอ เธอไม่สะทกสะท้านกับคำพูดประชดประชันนั้นสักนิดแถมยังตอบกลับด้วยเสียงหวานใส
“ป้าที่ไหน นี่พวกเราพึ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งเองนะ ดูพูดเข้าซี ฉันก็ใส่แว่นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะอัญ”
“ไม่เห็นน่ารักเล้ยให้ตายเถอะ เปลี่ยนเป็นสาวสวยบ้างซียะ หน้าตาหล่อนก็ออกจะน่ารักแต่ชอบทำตัวเป็นป้า วัน ๆ อ่านแต่หนังสือ แล้วนี่ฉันชวนหล่อนมาเที่ยวนะยะ นี่มันผับไม่ใช่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ต้องปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาซะบ้าง ไม่ใช่ทำเจี๋ยมเจี้ยม แบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะมาจีบล่ะยะหล่อน”
“ที่มานี่อัญแค่อยากจะมายั่วผู้ชาย?”
“โอ๊ย! ชู่ว!...เบา ๆ หน่อยซี นั่นน่ะมันจุดประสงค์หลัก จุดประสงค์รองแค่มาอวดความสวยเท่านั้น”
ลัคนาเบ้ปากแต่เธอไม่เคยโกรธเพื่อนสนิทเวลาถูกลัคณาตอกกลับมาอย่างซื่อใส แค่ส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาแต่แล้วสายตาของหล่อนกลับกวาดไปเห็นอะไรบางอย่างที่จุดความสนใจ
“เฮ้ย! ลัคกี้...หล่อนดูนั่น”
“อะไร...ผู้ชายเหรอ?”
“เอ๊า...นังลัคกี้นี่...เออ...ก็ผู้ชายนะสิยะ แต่ที่มันน่าสนใจมากกว่านั้นก็เพราะว่านั่นน่ะเป็นรุ่นพี่ปี่สี่คณะวิศวะที่อยู่ทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยไง...อืม???”
“อะไร...เธอมองหาอะไร?”
ลัคณาถามเพราะเห็นเพื่อนสนิททำท่าเมียงมองไปยังกลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้บาร์เครื่องดื่มท่ามกลางแสงไฟและเสียงเพลงที่เปิดคลอไปด้วย ผับแห่งนี้ไม่เน้นเสียงดังสนั่นและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกคนมีสตางค์แถมหน้าตาดี ลัคณาทำท่าครุ่นคิดเหมือนหล่อนกำลังมองหาอะไรบางอย่างในกลุ่มคนกลุ่มนั้นอย่างจริงจังก่อนจะตอบลัคณากลับไปว่า
“ฉันกำลังมองหารุ่นพี่คนหนึ่งอยู่ ปกติเขาจะมากับกลุ่มนี้นะ อืม...แต่คืนนี้ฉันไม่ยักเห็นเขามาด้วยแฮะ”
“ใครเหรอ?”
“ก็พี่จอมทัพ สุดหล่อสาวกรี๊ดทั้งมหาวิทยาลัยคนนั้นนะซี”
“พี่จอมทัพ...นักฟุตบอลประจำมหาลัยคนนั้นน่ะเหรอ”
ลัคณาทำท่านึกได้ ก็จะไม่ให้เธอนึกออกอย่างรวดเร็วได้อย่างไรในเมื่อคนที่อัญชัญกล่าวถึงคือคนเดียวกับรุ่นพี่ที่เธอแอบปลื้มเขาอยู่ ลัคณาจดจำได้แม่นมั่นว่าจอมทัพหน้าตาเป็นอย่างไร หล่อเหลาและสมาร์ทขนาดไหนและที่สำคัญไม่มีสาวคนไหนในมหาวิทยาลัยไม่รู้จักรุ่นพี่ชื่อดังคนนี้ ขณะนั้นอัญชัฯก็พูดต่อพร้อมทำหน้าฝันหวาน
“อืม...พี่จอมทัพนะทั้งหล่อเข้ม เรียนเก่งกีฬาเด่น ผู้ชายอะไรจะเพอร์เฟ็คปานนี้ พูดแล้วก็ยังอดที่จะคิดไม่ได้เลยว่าถ้าฉันได้เป็นแฟนของเขาแล้วมันจะเป็นยังไง”
“เธอชอบคนหน้าตาแบบนั้นเหรออัญชัญ แต่จะว่าไปเขาก็หน้าตาดีอยู่นะ”
“จะไม่ให้ฉันหลงใหลเขาได้ยังไง ก็เขาน่ะเป็นลูกครึ่งหลายเสี้ยว ทั้งเกาหลีไทยอเมริกัน นี่เขาดังขนาดนี้ผู้หญิงทั้งมหาลัยฝันถึงกันทั้งนั้นสงสัยมีแต่หล่อนคนเดียวมั้งลัคกี้ที่ไม่เคยฝันถึงผู้ชายคนไหนเลยน่ะ”
อัญชัญกระแนะกระแหนแต่ลัคณากลับส่ายหน้าแล้วตั้งใจจิบไวน์ซึ่งสำหรับเธอแล้วรสชาติมันปะแล่ม ๆ ต่อ ปกติเธอไม่เคยลองของพวกนี้แต่เพราะขัดใจเพื่อนสนิทไม่ได้เลยต้องมาเที่ยวผับเป็นเพื่อนอัญชัญเพราะกลัวว่าหล่อนจะเหงา
ลัคณาเป็นสาวน้อยที่มาจากต่างจังหวัด ครอบครัวของหล่อนอยู่ในระดับปานกลาง พื้นเพก็ไม่ได้เป็นคนโก้หรูและมีนิสัยชอบเก็บตัวเงียบ ๆ ทั้งที่หน้าตาของเธอสะสวยเข้าขั้นดาวมหาวิทยาลัยแต่เธอกลับไม่ยอมเข้าประกวดประขันช่วงชิงตำแหน่งกับใครเพราะความขี้อายเลยเป็นสาวแว่นชอบเข้าห้องสมุดอยู่เป็นประจำมากกว่าจะเดินนวยนาดแต่งตัวอวดความมีฐานะแข่งกับเพื่อนคนอื่น ดูแล้วเหมือนว่าจะน่าเบื่อด้วยซ้ำแต่ด้วยนิสัยไม่ขัดคอใครและพูดจาไม่กระโชกโฮกฮากทำให้คบเป็นเพื่อนสนิทกับอัญชัญที่ชอบส่งเสียงดังและชอบทำให้หนุ่ม ๆ สนใจแม้หน้าตาจะสวยน้อยกว่าลัคณาอยู่มากโข
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
เขาเป็นถึงมาเฟียใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเขาทั้งโหดทั้งเถื่อนแต่ทำไมเขากลับยังซิง เขารักแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาโดยตลอดแต่พอมาเจอเธอทำไมเขาถึงกลับหวั่นไหวได้ล่ะ หรือเขาจะเป็นผู้ชายหลายใจหรือรักใครไม่เป็น?
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด