เพราะเงื่อนไขของบุพการี ‘ทรรศิกา’ จำต้องไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกคอกนา เป็นเวลาหนึ่งเดือน และที่นั่นเองเธอก็ได้พบกับ ‘เขา’ หนุ่มหล่อคมเข้ม ที่มีทั้งความเถื่อนและอ่อนโยนจนเริ่มทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว เพราะคิดว่าเป็นคุณหนูจากเมืองกรุงประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้ ‘อคิราภ์’ รู้สึกไม่ชอบ ‘ทรรศิกา’ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า แต่ตัวจริงที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดิน ทำเอาหัวใจเขาถึงกับหวั่นไหว นานวันยิ่งใกล้ชิดเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้มาเป็น เจ้าหัวใจในแดนเถื่อน แห่งนี้ แต่ทว่าเขาจะทำอย่างไร เมื่อสาวเจ้ากลับมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้ว “วันหลังเวลาขอของจากผู้ใหญ่หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิ...เอ้า เอาไปไม่เห็นน่าพิศวาสตรงไหนไซส์อนุบาลซะขนาดนั้น” หลังจากแกล้งจนพอใจ มือหนาจึงวางเสื้อชั้นในตัวน้อยพาดลงบนบ่าของหญิงสาว ที่ยืนหน้าตูมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจคนที่ยืนตัวสั่น เพราะโกรธและอายที่โดนดูถูก “อะ...ไอ้บ้า! ไซส์อนุบาลบ้านคุณนะสิคัพบี จำไว้เลยนะ...โธ่เอ๊ย! ตัวเองเหมือนกับหนอนใบชาล่ะสิถึงได้มาว่าคนอื่นทุเรศ” มือหนาที่กำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอว เปลี่ยนมายืนถอนหายใจหนักๆ เอากับเขาสิยัยคุณหนูผู้ไม่รู้จักแพ้ เดี๋ยวได้รู้สึก ชายหนุ่มคิดอย่าหมั่นเขี้ยว “ดูถูกใช่ไหม หนอนใบชาใช่ไหม...ได้...อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตา”
1
คฤหาสน์หลังใหญ่ราคาร่วมสิบล้านตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเนื้อที่หลายสิบไร่ ภายนอกถูกล้อมด้วยรั้วอัลลอยราคาแพง ส่วนภายในบริเวณสวนหน้าบ้านและรอบๆ ถูกปกคลุมด้วยผืนหญ้าเขียวขจีที่ตัดตกแต่งไว้อย่างดี ต้นไม้ดอกไม้สวยงามนานาพันธุ์ ที่ปลูกไว้แข่งกันเบ่งบานรับแสงรุ่งอรุณของยามเช้า สร้างความร่มรื่นและบรรยากาศที่สดชื่นให้กับผู้อาศัยได้ไม่น้อย
ถึงภายนอกคฤหาสน์หลังงามนี้จะมีบรรยากาศดีสักเพียงไหน แต่ภายในกลับมีบรรยากาศที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เมื่อนายทัดเทพคนเป็นพ่อยังทำการตกลงกับลูกสาวสุดที่รักอย่างทรรศิกาไม่ได้
“คุณพ่อคะ ทำไมคุณพ่อต้องห้ามศิด้วย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ศิโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็กๆ” ทรรศิกาบอกเสียงเง้างอดพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างไม่พอใจ
บิดามักจะเคารพในการตัดสินใจของเธอเสมอ ไม่ถึงกับตามใจแต่จะดูที่เหตุและผลมากกว่าว่าสมควรหรือไม่ ทุกครั้งก็เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนที่ผ่านมา
เมื่อเธอจะขอไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ บิดากลับไม่เห็นด้วยและค้านหัวชนฝา ทั้งที่คิดว่าเหตุผลที่เธอมีให้นั้นมีน้ำหนักมากพอที่จะได้รับการอนุญาต
“ทำไมเรียนที่เมืองไทยกับเมืองนอกมันต่างกันตรงไหน หรือเป็นเพราะไอ้...ไอ้หมอนั่น มันมาเกลี้ยกล่อมศิให้ไปกับมันใช่ไหม” นายทัดเทพเอ่ยถึงเพื่อนชายคนปัจจุบันของลูกสาวอย่างไม่ชอบใจ
“คุณพ่อ! ศิบอกกี่ครั้งแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ธร ศิอยากไปเอง อยากไปหาประสบการณ์และฝึกภาษาให้เก่งกว่านี้ มันไม่เกี่ยวกับพี่ธรอย่างที่พ่อว่าสักหน่อย” หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่าย เมื่อต้องมาอธิบายเรื่องเดิมซ้ำๆ ซากๆ
“ศิ...ฟังนะลูก ลูกยังไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอ การไปเรียนต่อครั้งนี้อาจมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่ก็เป็นได้ พ่อไม่เชื่อหรอกว่าเสือผู้หญิงอย่างนายธรจะยอมถอดเขี้ยวเล็บเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว”
นายทัดเทพพยายามสกัดกั้นอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลให้เย็นลง พร้อมกับยกเหตุผลต่างๆ นานา มาอ้าง เผื่อจะทำให้ลูกสาวตาสว่างขึ้นมาบ้าง แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อทรรศิกาพูดแก้ต่างให้แฟนหนุ่มทุกข้อกล่าวหา
“พ่อคะ พี่ธรเขาทั้งหล่อและรวย มันก็มีบ้างที่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา แต่เชื่อเถอะค่ะว่าพี่ธรเขาไม่ได้สนใจ เพราะศิคบกับพี่เขามานาน รู้จักนิสัยพี่เขาดี”
“เฮ้อ...ยัยศิเอ๊ย ลูกจะรู้ไหมว่าเสือมันกำลังล่อลูกกวางน้อยเข้าถ้ำ ทุกอย่างที่แสดงออกมาล้วนเป็นการสร้างภาพทั้งนั้น ถ้าไปอยู่ที่โน่นไม่มีใครคอยดูแล เสือร้ายตัวนั้นก็จะเผยธาตุแท้ออกมา” คำคาดการณ์ของบิดาทำให้ทรรศิกาถึงกับนิ่งเงียบ
เธอเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นเป็นอย่างดี และที่พ่อของเธอพูดมาก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะเมื่อหลายวันก่อนเธอได้พูดคุยเรื่องที่พักกับแฟนหนุ่ม ว่าเธอต้องการแยกกันอยู่คนละที่ แต่เดชาธรกลับไม่คิดอย่างนั้นเขาต้องการพักที่เดียวกัน และซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือต้องเป็นห้องพักเดียวกันด้วย ซึ่งเธอก็ได้ตอบปฏิเสธไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ชายหนุ่มดูจะไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ แต่เธอก็เชื่อว่าเดชาธรคงมีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอ ที่จะไม่ทำอะไรเกินเลยหากเธอไม่เต็มใจ
“พ่อคะ ศิโตแล้วดูแลตัวเองได้ ศิสัญญานะคะว่าจะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ อันเป็นที่รักของลูกคนนี้เสียใจ และจะไม่ทำให้วงศ์ตระกูลของเราต้องเสื่อมเสีย” หญิงสาวย้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะหันไปหากองหนุน ที่เชื่อว่าถ้าคนคนนี้ได้เอ่ยปากขึ้น ไม่มีใครในบ้านกล้าขัด แม้แต่คนที่เป็นประมุขของบ้านอย่างพ่อของเธอ
“คุณแม่ขา...ช่วยพูดกับคุณพ่อให้ศิหน่อยสิคะ นะๆ ศิอยากไปจริงๆ ด้วยเกียรติหัวหน้าเนตรนารีคนนี้ ขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี อยู่ในกฎในระเบียบไม่นอกลู่นอกทางโดยเด็ดขาด และจะหอบใบปริญญามาฝากคุณพ่อกับคุณแม่ให้ได้ภายในสองปี” ได้ฟังคำออดอ้อนของลูกสาว นางศวิตาจึงวางหนังสือในมือลง ก่อนจะหันมายิ้ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะมนได้รูปที่ปกคลุมไปด้วยผมดำยาวสลวยของลูกสาวอย่างเอ็นดู นางนั่งฟังสองพ่อลูกเถียงกันไปมานานนับชั่วโมง ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองหักล้างกันไม่ลง นางซึ่งเป็นคนกลางจึงลำบากใจอยู่ไม่น้อย คนหนึ่งก็สามี ส่วนอีกคนก็ลูกสาว
“จะไปไหน เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “แต่มิ้นไม่มี ปล่อยค่ะ มิ้นจะกลับไปทำงาน” หญิงสาวพยายามบิดข้อมือให้หลุดพ้นจากการบีบรัดของมือใหญ่ แต่ก็ไม่สำเร็จยิ่งเธอขัดขืนมือนั้นก็ยิ่งรัดแน่นจนรู้สึกเจ็บ “อย่าหวังว่าจะได้กลับ ถ้าวันนี้เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง” บอกแล้วก็เหวี่ยงร่างบางให้กลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม “เรามีเรื่องต้องคุยกันด้วยเหรอคะ” มินรญาถามแล้วยิ้มเยาะ คำพูดเมื่อวันนั้นยังทิ่งแทงใจจนวันนี้ แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าใส่ใจ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ จนกลายเป็นประชดด้วยการยอมคบกับภูมิน “คบกับไอ้หมอนั่นเมื่อไหร่” คูเปอร์ที่ยืนอยู่หันมาถามเสียงเข้ม และเมื่อหญิงสาวยังเงียบ ชายหนุ่มเลยตะคอกใส่อีกครั้ง “ตอบ!" “สามวันที่แล้ว” มินรญาที่เริ่มจะกลัวใจของคนตรงหน้ารีบตอบทันที บอกตรงๆ สมัยก่อนตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยเห็นชายหนุ่มในโหมดนี้เลยสักครั้ง ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงดูน่ากลัวจนน่าวิ่งหนี “คบกันแค่สามวันแต่มันกล้าขอแต่งงานมันหมายความว่าไง” คูเปอร์ถามเสียงลอดไรฟัน พร้อมกับโน้มตัวเอาแขนทั้งสองข้างไปค้ำที่พนักโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มินรญาได้โดยกักตัวเอาไว้แล้ว “แล้วพี่คู้ปจะสนใจไปทำไมคะ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” มินรญาเน้นเสียงหนักในท้ายประโยคอย่างต้องการย้ำสถานะของตัวเอง “เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน” คูเปอร์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาหยามเหยียด ไม่เท่านั้นมันยังตามมาด้วยคำพูดที่เสียดแทงใจ “แม้แต่คนที่นอนด้วยกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมาแล้วยังพูดออกมาได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” “มิ้นไม่เคยเปลี่ยน มีแต่พี่นั่นแหละที่เปลี่ยน มิ้นผิดเหรอที่พยายามจะไม่สนใจคนที่ไม่เคยคิดอะไรกับตัวเองมากกว่าคนรู้จัก แม้จะนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง” มินรญาตะโกนใส่หน้ารัวเป็นพร้อมกับผลักอกอีกฝ่ายอย่างฉุนเฉียว “แล้วทำไมต้องแต่งงานกับมันด้วย” “มิ้นจะได้ออกไปจากชีวิตคนใจร้ายอย่างพี่ไงคะ ลืมให้หมดลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่ารักผู้ชายใจร้ายอย่างพี่...อุ๊บ...” เสียงตะคอกเมื่อครู่ถึงกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อชายหนุ่มฉกวูบเปิดปากด้วยปาก และมันก็เป็นวิธีที่ได้ผลมากเลยทีเดียว เมื่อทั้งสองคนต่างรู้สึกว่าอาการฉุนเฉียวรุนแรงเมื่อครู่ค่อยๆ จากหายและมันก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความวาบหวามทราบซ่านรัญจวนใจ “อย่าคิดแม้แต่จะออกไปจากชีวิตพี่” คูเปอร์บอกเสียงนุ่มทุ้มกว่าเดิมพลางประคองใบหน้านวลที่แดงปลั่ง ก่อนจะเอียงหน้าก้มลงไปบดจูบกัดเม้มริมฝีปากอิ่มนั้นอีกครั้ง คราวนี้อารมณ์กรุ่นโกรธได้มลายหายไปจนสิ้น ความหอมหวานที่ห่างหายไปไม่กี่วันกลับทำให้คูเปอร์ที่คะนึงหาอยากจะสูบจะกลืนกินเก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ไม่ให้ใครหน้าไหนเห็นหรือชื่นชมมันนอกจากตัวเขา
จู่ๆ ก็มีเงินห้าหมื่นมานอนอยู่ในบัญชีของ'กัญชรส'สาวห้าวบ้านิยายที่ตกงานแถมยังถังแตก แน่นอนเธอกดมันมาปลดหนี้ให้ตัวเองแต่ปัญหาก็ดันมาเกิดเมื่อหนุ่มหล่อเจ้าของเงินอย่าง'อิงครัต'มาทวงเงินที่โอนผิดนั้นคืน +++++++++ “แต่ว่า...ตอนนี้ฉันยังตกงานอยู่เลย เรื่องเงินสามหมื่นที่ว่าจะคืน...ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ” ชายหนุ่มเริ่มชักสีหน้า แววจะไม่ได้เงินส่วนนี้คืนเห็นอยู่รำไร จะยกให้เลยก็ใช่ที่ เพราะเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยมากจากไหน เงินสามหมื่นกว่าจะได้มามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ “นานแค่ไหน” “ก็จนกว่าฉันจะได้งานน่ะค่ะ” และในชั่วขณะนั้นเอง หางตาของกัญชรสก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานติดอยู่ตรงหน้าอู่ ซึ่งมันก็ทำให้นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที “หรือไม่อย่างนั้นคุณก็รับฉันเข้าทำงานที่นี่เลยสิคะ อู่ของคุณเปิดรับอยู่ไม่ใช่เหรอนั่นฉันเห็น” นิ้วเรียวชี้ไปที่กระดาษปิดประกาศ ที่เพิ่งจะถูกนำมาติดเมื่อเช้านี้เอง ด้านอิงครัตรีบหันขวับไปมองตามแล้วก็ต้องร้องเสียงหลง “เฮ๊ย! ไม่ได้ คุณเดินเข้าไปอ่านตำแหน่งที่ผมเปิดรับชัดๆ หรือยัง อู่ผมไม่ได้เปิดรับพนักงานบัญชี พนักงานทำเอกสาร หรือว่าแม่บ้านนะ” “มันไม่ได้ไกลมาก ตัวหนังสือก็ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มซะขนาดนั้น และที่สำคัญสายตาฉันดีพอ นั่งอยู่ตรงนี้ฉันก็อ่านออกว่าคุณรับสมัครผู้ช่วยช่าง” “นั่นไง คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า คุณเป็นผู้หญิงสมัครไม่ได้หรอก ไปหางานอย่างอื่นทำดีกว่า เรื่องเงินผมรอได้” อิงครัตแนะนำอย่างใจกว้าง ตอนนี้รู้สึกเห็นใจผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าไม่น้อย ที่คงจะอยากได้งานเพื่อเอาเงินมาคืนเขามาก จนต้องออกปากขอทำงานผู้ช่วยช่าง ที่เป็นงานของคนที่ต้องเรียนด้านนี้มาหรือไม่ก็ชื่นชอบอยากหาประสบการณ์ ซึ่งก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเพื่อลดความกดดัน เขาจึงไม่อยากเร่งรัดเรื่องเงินที่หญิงสาวเอาไปใช้ แต่ดูเหมือนความหวังดีของเขาจะถูกปฏิเสธ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น อิงครัตแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้กับความดื้อดึงของหญิงสาวมาดทอมบอยคนนี้ ให้รู้แล้วรู้รอดไป “ไม่ค่ะ! ฉันยังยืนยันที่จะสมัครเป็นผู้ช่วยช่างที่อู่ของคุณ”
ณิชานันท์คือครูอนุบาลที่โสดและโสดมานาน นานจนเธอเองก็งงว่าทำไมถึงโสดมาจนทุกวันนี้ ทั้งที่ก็สวยและรวยมากอยู่นะ แต่จู่ๆ โชคชะตาก็เล่นตลก ส่งลูกศิษย์ตัวน้อยมาทาบทามว่า "ครูมาเป็นแฟนกับพ่อหนูไหมคะ" +++++++ "อะไร ตัวแค่นี้คิดจะเป็นแม่สื่อเหรอเรา" "แม่สื่อ?" เด็กน้อยเอียงหน้ามองพ่อ "คิวปิด" พอบอกแบบนี้เด็กน้อยก็ตาเป็นประกายพยักหน้าหงึกหงัก เพราะเคยเห็นในการ์ตูนและรู้ว่ามันถือลูกศรยิงให้คนรักกัน "อ้อ ก็หนูชอบครูณิชานี่คะ" "แล้วครูคนอื่นล่ะ" "ก็ชอบ แต่น้อยกว่าครูณิชาค่ะ" "ทำไมกันนะ" ตุลาชวนลูกสาวคุยไปเรื่อยอย่างที่ชอบทำเป็นปกติอยู่แล้ว จริงๆ เรื่องครูณิชาก็บ่นให้เขาฟังตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ไปแล้วหนึ่งรอบ "เพราะครูณิชาตลก สวย ใจดี เหมือนนางฟ้าเลยค่ะ" "ขนาดนั้นเลย" "ค่ะขนาดนั้นเลย หนูอยากได้" หนูน้อยกอดอกเอียงหน้ามองพ่อพร้อมกับทำแก้มป่องๆ "อยากได้อะไรครับ" "อยากได้คุณครูณิชามาเป็นแม่ค่ะ"
ร้อยรัก ผู้เชื่อมั่นในรัก แต่ไฉนเลยกลับถูกโชคชะตากลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป คนที่คิดว่าใช่ กลับไม่ใช่ สุดท้ายยังต้องเข้าพิธีวิวาห์กับน้องชายของเจ้าบ่าว! +++++++++ ‘นี่คุณมานอนบนนี้ตั้งแต่เมื่อไร’ ร้อยรัก ถามเสียงห้วนแล้วก้มสำรวจตัวเองตามสัญชาตญาณ ‘ก็ตั้งแต่เมื่อคืนนั่นแหละครับ’ ‘ฉะ...ฉันนึกว่าคุณจะนอนข้างล่างเสียอีก’ คีรินทร์ หัวเราะขำ แล้วตอบกลับตรงๆ ‘ฝันไปเถอะ เหนื่อยจะตายมีที่นอนนุ่มๆ จะไปนอนที่พื้นเพื่อ...’ ‘ก็...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และคิดว่าคุณจะเป็นสุภาพบุรุษกว่านี้เสียอีก’ ‘ตื่นจากมโนได้แล้วคุณ คนที่แต่งงานกับคุณไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยน แสนดี และเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่ต้องการหรอกนะ มีแต่ผม...ผู้ชายที่สันดานไม่ดีคนนี้แหละ’
“อย่ามาทำเป็นเล่นตัว ได้เวลาทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว” ไมก้าห์ตามไปนั่งคร่อมร่างบางที่ตอนนี้มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกเขาตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวแล้ว “นะ…หน้าที่บ้าบออะไรจะมาทำกันตอนนี้ คุณต้องการกาแฟเพิ่ม ปล่อยฉันสิเดี๋ยวจะไปชงให้ค่ะ” ไออุ่นพยายามพูดคุยอย่างใจเย็น ทั้งที่มาอีหรอบนี้หรือจะต้องการดื่มกาแฟ “ไม่ได้จะกินกาแฟ” “งั้นคุณจะเอาอะไร นี่มันดึกแล้ว จะใช้อะไรฉันก็รอพรุ่งนี้เซ่!” เธอตะโกนสุดเสียงดิ้นสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากการควบคุมของมือใหญ่ของไมก้าห์ได้ “หน้าที่กลางคืนก็ต้องทำกลางคืนสิ” ไม่พูดเปล่าไมก้าห์ยังก้มลงไปสูดกลิ่นสาวจากซอกคอหอมกรุ่นอย่างพอใจ แม้รูปร่างจะห่างไกลจากสเปกของเขาแต่กลิ่นเนื้อสาวนี้ถูกใจเขาอย่างประหลาด ดูท่ากลิ่นหอมอ่อนๆ ดูจะถูกจริตเขามากกว่ากลิ่นฉุนๆ ของน้ำหอมยี่ห้อดัง “ไม่ ไม่ มันไม่ใช่แบบนี้” ไออุ่นที่ขนลุกซู่บอกเสียงสะอื้น แต่ไมก้าห์ไม่คิดจะสน ผู้หญิงที่ชอบทำตัวอ่อนประสบการณ์เรียกร้องความใจแบบนี้เขาเจอมาเยอะแล้ว ร้อยทั้งร้อยเครื่องร้อนเต็มที่พวกเธอเหล่านั้นก็กลายร่างเป็นแม่เสือสาวพราวสวาททั้งนั้น “แบบนี้แหละถูกต้องที่สุดแล้ว” ตอบเสียงอู้อี้ ก่อนจะลากไล้ปลายจมูกและริมฝีปากไปทั่วลำคอขาวผ่อง ก่อนจะไล้ขึ้นมายังแก้มใสที่…เปียกชื่นน้ำตา และนั่นทำให้ไมก้าห์ที่กำลังเมากับกลิ่นกายสาวถึงนิ่ง แล้วค่อยๆ ยันตัวขึ้น “อย่ามาเรียกร้องความสนใจด้วยน้ำตา” เขาคำรามอย่างไม่สบอารมณ์ ให้ตาย เขาเกลียดที่สุดคือน้ำตาของผู้หญิง “ก็คุณกำลังจะข่มขื่นฉัน ฉันต้องดีใจหรือไง” ตะคอกกลับเสียงสะอื้น “ข่มขื่นเหรอ พูดให้ถูกมันคือหน้าที่ของเธอต่างหาก”
“ไปเสม็ด” เกวิลนทวนคำเสียงตื่นแล้วรีบถามต่อ “ไปกลับหรือค้างคืน” “ค้างคืน” ชมพูนุชตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง นั่นทำให้เกวลินตาโต เดินเข้าไปจับต้นแขนของชมพูนุชเพื่อให้อีกฝ่ายมองหน้าของเธอ “นี่อย่าบอกนะว่าเธอกับแทน...” “แล้วถ้าใช้เธอจะทำไม” ชมพูนุชถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่คนฟังกลับนิ่งไม่ได้ “เธอก็รู้ว่าแทนคือผู้ชายที่ฉันรัก แล้วเธอจะยัง...” พูดยังไม่ทันจบชมพูนุชก็พูดแทรกขึ้นทันควัน “ยังกล้าพูดเหรอว่าแทนคือผู้ชายที่เธอรัก ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาจากหาผู้ชายอีกคน และอีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าสงสารเขาก็เอาไว้เอง ตอนนี้ฉันเอาเขาไว้แล้วเธอจะมาทวงคืนอีกทำไม”
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา