“ก็พลอยเอกละครนี่นา” ดุจพลอยกล่าวอย่างไร้สามัญสำนึก “เสี้ยวเพชรไม่น่าจะเอะใจ ผมคิดว่านะ” วิชญ์กล่าวด้วยเสียงคำรามต่ำกว่าเดิม “แหมพี่วิชญ์ก็...รู้ใจดุจพลอยจังค่ะ” ดุจพลอยเอ่ยเสียงกระเส่ายามเมื่อวิชญ์แทรกแก่นกำยำเข้าสู่ช่องทางสวรรค์ของเธอ มือหนาลากไล้หน้าท้องแบนราบของดุจพลอยนางแบบสาวอย่างกระหาย เวลานี้วิชญ์ถูกความกำหนัดครอบครองเสียแล้ว ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ คนไหน ขาวโพลนขนาดนี้มาก่อน ในใจของวิชญ์เต้นระรัวไม่เป็นส่ำ เขาแอบหลงรักดุจพลอยมาก่อนที่จะเข้าพิธีหมั้นหมายกับเสี้ยวเพชร เวลานั้นดุจพลอยยังคงเป็นสาวแรกรุ่น เธอมักชอบใส่กระโปรงสั้นและทอดสายตามองมายังเขาเสมอ วิชญ์รู้ดีว่าดุจพลอยเพียงแค่อยากบริหารเสน่ห์ทว่าเขาที่เป็นผู้ชายทั้งแท่งมีหรือจะไม่อยากได้เธอสักวัน และวันนี้ก็เป็นวันที่เขาสมปรารถนาสักที… ++++++++++++++++ ...นี่สิที่เธอต้องการ...เธอได้กินวิชญ์คู่หมั้นของเสี้ยวเพชร ญาติผู้พี่ที่ดุจพลอยรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเป็นที่สุด เสี้ยวเพชรคงกระอักหากรู้ว่าคนที่เธอจะแต่งงานด้วย ปรารถนาน้องสาวไม่แท้ของตนเองมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อดุจพลอยเพียงคนเดียว
บทนำ
“หันไปข้างหลังอีกครับ...คุณดุจพลอย” เสียงทุ้มเอ่ยขณะหมุนซูมกล้องตัวใหญ่ในมือของช่างภาพประจำบริษัทประดุจฝันกรุ๊ป
ตรงหน้าของชายหนุ่มคือนางแบบสาวหน้าสวยที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในขณะนี้…เขาอดตื่นเต้นไม่ได้
ดาราสาวขยับดวงหน้าคมเฉี่ยวไปด้านหลังเล็กน้อย ดุจพลอยเชิดหน้าขึ้นให้มากกว่าเดิม
“ขออีกภาพครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วหันไปกดรัวชัตเตอร์อย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับ...เสร็จแล้วครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแล้วปรบมือเพื่อดึงสติหญิงสาวจากภวังค์
ดุจพลอยอดกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงลำคอไม่ได้ยามเมื่อหญิงสาวลอบมองแผงอกกำยำของปติพัฒน์ ช่างภาพหนุ่มวัยละอ่อนผ่านเสื้อสีขาวบางเบาของชายหนุ่ม
“ค่ะ” ดุจพลอยกล่าวพลางลุกเดินออกไปห้องสตูดิโออย่างรวดเร็วเพื่อปกปิดความต้องการส่วนลึกที่ซุกซ่อนในจิตใจของหญิงสาว
“พลอย” เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของนางแบบสาว
ดุจพลอยชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก หญิงสาวหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเจ้าของต้นเสียงทันที
เบื้องหน้าของนางแบบสาวหน้าสวยเป็นสตรีรูปร่างสูงเพรียว หญิงสาวมัดผมหางม้าเกล้าสูง
ดวงหน้าหวานของ ‘เสี้ยวเพชร’ ประทินโฉมไปด้วยเครื่องสำอางแต่พองาม กระนั้นหรือดุจพลอยยังคงเห็นเครื่องหน้าเด่นชัดของลูกพี่ลูกน้องชัดในห้องแต่งตัว
“เพชร...พลอยบอกพี่แล้วไงว่าให้เรียกว่าดุจพลอย” เสียงหวานแหลมตวาดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
มือเรียวของดุจพลอยยกขึ้นกอดอกอย่างรวดเร็ว นางแบบสาว
เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างถือตัว
“ได้ค่ะ...คุณดุจพลอย” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้นเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม
“มีอะไร” ดุจพลอยเอ่ยถามเสียงห้วน หญิงสาวยกนิ้วมือมากรีดกรายขึ้นอย่างไม่ยี่หระต่อเสี้ยวเพชร ซีอีโอสาวที่ยืนเผชิญหน้ากับเธออยู่
“กี่รอบแล้วที่เธองาบช่างภาพฉันไปกิน” เสี้ยวเพชรเอ่ยพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างข่มแรงโทสะที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อในตัวของเธอ
“เอ...ก็ไม่รู้สินะ” ดุจพลอยเอ่ยขึ้นแล้วยกไม้ยกมือขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจในคำพูดของเสี้ยวเพชร ประธานบริษัทประดุจฝันกรุ๊ป
ทว่ายังไม่ทันที่ดุจพลอยจะได้นับเลขต่อหน้าซีอีโอสาว เสี้ยวเพชรก็ชิงขัดเธอขึ้นมาก่อน
“เจ็ดคน” เสี้ยวเพชรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มกว่าเดิม
“เหรอคะ แล้วถ้านับทั้งเดือนละคะ” ดุจพลอยย้อนถามเสียงหยัน ๆ
“ถ้านับทั้งเดือนก็คงจะเกินสิบคน” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้นด้วยเสียงไม่สบอารมณ์มากนัก
“แล้วมันไปหนักอะไรเธอไม่ทราบ คุณหนูเสี้ยวเพชร ท่านประธานบริษัทในเครือประดุจฝันล่ะคะ” ดุจพลอยเอ่ยถามเสียงเขียวท้ายประโยคดุจพลอยประชดประชันกว่าเดิม
เบื้องหน้าของเสี้ยวเพชรคือดุจพลอย นางแบบสาวแถวหน้าระดับประเทศที่แม่ของเธอ ‘เอื้อมดารา’ ได้ส่งเสียเลี้ยงดูเด็กสาวมาตั้งแต่ยังแบเบาะ
ดุจพลอยเป็นลูกของน้องสาวของแม่ของเสี้ยวเพชรที่ประสบอุบัติเหตุไปตั้งแต่ดุจพลอยและเสี้ยวเพชรยังเป็นเด็ก
น้าวาดนิลได้ฝากฝังให้แม่เอื้อมดาราของเสี้ยวเพชรให้ช่วยดูแลดุจพลอยทั้งยังฝากให้เสี้ยวเพชรเรียกเด็กสาวที่เธอมักมองว่าใบหน้าของดุจพลอยเหมือนตุ๊กตาแมวมากกว่าที่จะเป็นน้องสาวของเธอ
นับแต่นั้นมาเสี้ยวเพชรจึงมีน้องสาวที่ไม่มีส่วนใดบนใบหน้าที่เหมือนเธอเลย กระนั้นเสี้ยวเพชรยังคงต้องดูแลดุจพลอยราวกับเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเธอ
เสี้ยวเพชรคงประคบระหงมดุจพลอยมากเกินไป ดุจพลอยถึงกลายเป็นน้องสาวที่ไม่มีหัวใจรักใครให้ใครได้แบบนี้
“เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งเกินไปแล้วมั้งพลอย” เสี้ยวเพชรเอ่ยด้วยแรงโทสะที่ใกล้จะระเบิด
“ฉันชื่อดุจพลอย” นางแบบสาวเอ่ยราวกับว่าเสี้ยวเพชรเป็นเพียงคนใช้ของเธอ
“ฉันรู้ค่ะ...คุณดุจพลอย แต่ดิฉันเป็นเจ้าของแบรนด์ที่จ้างเธอมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับบริษัทประดุจฝัน เพราะฉะนั้นคุณดุจพลอยควรรู้จักหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ของตนเองและชื่อเสียงของประดุจฝันกรุ๊ปได้แล้ว เธอน่ะหัดโตซะบ้าง” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด
“ฉันโตแล้ว” ดุจพลอยเอ่ยตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ดิฉันทราบ แต่คุณดุจพลอยคงไม่ทราบว่าถ้าหากคุณดุจพลอยทำให้ประดุจฝันกรุ๊ปเสียหายด้วยการกินไม่เลือก เธอต้องชดใช้ให้กับประดุจฝันกรุ๊ปค่ะ” ท้ายประโยคเสี้ยวเพชรเอ่ยเสียงเข้ม
“ชดใช้...” ดุจพลอยทวนคำพูดของเสี้ยวเพชรอย่างงุนงง
“เธอยังจำสัญญาได้ใช่ไหม” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้นด้วยมาดนางหงส์ที่เหนือชั้นกว่า
“กรี๊ดๆ” ดุจพลอยหวีดร้องสุดเสียงแล้วลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่ตรงนั้น
“พลอย” เสี้ยวเพชรเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
ความกรุ่นโกรธเมื่อครู่มลายหายไปในทันทียามเมื่อเห็นน้องสาวที่ไม่มีส่วนไหนเหมือนเธอกรีดร้องลงไปแดดิ้นอยู่ที่พื้น
เสี้ยวเพชรถลาไปประคองศีรษะของดุจพลอยไว้ได้ทันท่วงทีก่อนศีรษะของดุจพลอยจะดิ่งกระแทกกับพื้นด้านล่าง
“พลอย...พลอย” เสียงหวานของเสี้ยวเพชรร้องเรียกดุจพลอยด้วยความตื่นตระหนก
“....”
ไร้ซึ่งคำตอบจากดุจพลอย ซีอีโอสาวตัดสินใจเขย่าเรียกลูกพี่ลูกน้องของตนอย่างแรงที่เวลานี้สลบไป
“เพชร” เสียงหนึ่งดังขึ้นดึงความสนใจของเสี้ยวเพชรให้หันขวับไปทันที
“วิชญ์” เสี้ยวเพชรเอ่ยด้วยหยาดน้ำใสที่ไหลอาบแก้มสองข้าง
“คุณดุจพลอยเป็นอะไร” ว่าที่เจ้าบ่าวหนุ่มเอ่ยถามเสี้ยวเพชรทันควัน
“พลอย...เอ่อคุณดุจพลอยเป็นลมค่ะ” เสี้ยวเพชรเอ่ยตอบอ้อมแอ้ม
“งั้นผมจะไปตามรถพยาบาลให้” วิชญ์เอ่ยแล้วทำท่าจะลุกออกไป
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้นขณะที่ซีอีโอสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่
“เพชรว่าเราพาคุณดุจพลอยกลับไปที่บ้านเธอก่อนดีกว่า” เสี้ยวเพชรเอ่ยขึ้น
“ พอดีเพชรตกใจไปหน่อยค่ะ” เสี้ยวเพชรเอ่ยแล้วปาดน้ำตาเพื่อเรียกสติของตนเองกลับมา
“ครับ…เดี๋ยววิชญ์ไปส่งคุณดุจพลอยเองครับ เพชรยังมีงานที่บริษัทต่อไม่ใช่เหรอครับ” วิชญ์เอ่ยขึ้นพลางช้อนร่างอรชรของดุจพลอยขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกไปทันที ท่ามกลางความตระหนกของเสี้ยวเพชร ท่านประธานบริษัทสาว
+++
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ