“อิ๋ว…ทำเพื่อทุกคนค่ะ ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่พี่เกื้อกำลังเข้าใจผิด” คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก่อนจะแสยะยิ้มเพราะไม่เชื่อว่านั่นมันจะเป็นความจริง อันที่จริงเขาเองก็มีส่วนผิดที่ไม่เสนอทางเลือกอื่นเพราะอยากจะเอาคืนรสิกาที่มองไม่นานก็รู้ว่าไม่ค่อยจะชอบน้องสาวต่างมารดาเท่าไหร่ มันคงสนุกพิลึกถ้าเธอกลับมาแล้วพบว่าทุกสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอตอนนี้ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของริ้วแพรไปแล้ว สิ่งที่คงได้เห็นน่าจะหนีไม่พ้นฉากตบตีกันเองของสองพี่น้องแน่ “งั้นคืนนี้ถ้าฉันจะเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นผัว…เธอก็ไม่ว่าอะไรใช่ไหม” คำถามนั้นทำให้คนหน้าแดงหน้าแดงหนักมากกว่าเก่า ริ้วแพรยอมรับว่ากลัวเกื้อคุณในตอนนี้มากกว่าตอนเขาทำหน้าดุใส่กันเสียอีก “พะ…พี่เกื้อ…”
ปฐมบท
ปัง!
“ว่าไงครับ! มีใครจะบอกผมได้บ้างว่าเรื่องบ้าๆ นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง!” เสียงกัมนาทที่ดังขึ้นกึกก้องไปทั่วบ้านทำให้คุณวสุและคุณประทีปสามีหน้าเสีย ไม่กล้าพอที่จะบอกความจริงที่เกิดขึ้นให้แก่เขา ผู้ซึ่งเป็นเจ้าบ่าว ทั้งยังเป็นบุตรชายของเจ้าหนี้รายใหญ่ของครอบครัว
“ใจเย็นๆ ก่อนนะจ๊ะตาเกื้อ แม่ว่าบางทีอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้” นางวสุเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว ในใจนึกโกรธบุตรสาวจนนึกอยากจะตัดแม่ตัดลูกที่กล้าทำเรื่องเสื่อมเสีย ซ้ำตอนนี้ยังหนีออกจากบ้านไปกับผู้ชายที่นางเองก็ยังไม่รู้เลยว่ารสิกาไปชอบพอกับฝ่ายนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
กว่าจะรู้เรื่องก็วันนี้…วันที่รสิกาหนีงานแต่งโดยทิ้งเพียงจดหมายเอาไว้ให้ดูต่างหน้า จุดหมายที่บอกให้รู้ว่าเธอไม่ต้องการแต่งงานกับเกื้อคุณ ที่ต้องทนเป็นแฟนกับเขาก็เพราะคิดว่ารักเขาแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เนื้อหาในนั้นเมื่อเจ้าบ่าวได้อ่านก็เอาแต่นิ่งเงียบ
ก่อนจะระเบิดอารมณ์ใส่พ่อแม่ฝ่ายหญิงอย่างไม่คิดไว้หน้ากัน
เกื้อคุณไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขารักและหวังจะใช้ชีวิตคู่ด้วยจะกล้าหักหลังกันถึงเพียงนี้ เธอไม่เพียงแต่หนีไป ยังทิ้งงานแต่งงานที่ใกล้เข้ามาให้คนข้างหลังต้องมานั่งเครียดหาวิธีแก้ปัญหากัน
“เข้าใจผิดเหรอครับ! ตรงไหนครับที่มันทำให้ผมเข้าใจผิด!” ในเมื่อเนื้อหาในจดหมายมันก็เด่นชัดอยู่แล้ว อีกทั้งลายมือก็ไม่ใช่ของใครนอกจากเจ้าตัว ไม่มีทางที่เรื่องบ้าๆ พวกนี้มันจะเกิดขึ้นเพียงเพราะความเข้าใจผิด รสิกาหนีตามผู้ชายอื่นไปแล้วจริงๆ เธอหนีไปโดยทิ้งเพียงไอ้จดหมายบ้านี่ ให้เขาและพ่อกับแม่เธอได้ดูมันต่างหน้า
“เอาเป็นว่าพ่อต้องขอโทษแทนยัยภาด้วยนะตาเกื้อ ตอนนี้เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงกับงานแต่งงานกันดี” คุณประทีปเอ่ยขึ้นพร้อมหันไปมองบุตรสาวคนเล็กที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านพร้อมขนมเค้กจากร้าน ที่อีกฝ่ายมักจะติดมือเอากลับมาให้ทุกคนลองทาน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะคุณพ่อ” ริ้วแพร เอ่ยถามบิดาเมื่อเห็นสีหน้าของท่านดูเคร่งเครียดผิดปกติ ไม่เพียงแต่พ่อของเธอเท่านั้น ไม่ว่าจะแม่เลี้ยง หรือเขาคนนั้นที่กำลังจะขึ้นแท่นมาเป็นพี่เขยของเธอก็ดูเครียดกันไปหมด มันยิ่งสร้างความสงสัยให้จนตัดสินใจเอ่ยถาม
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก! ขึ้นห้องไปยัยอิ๋ว!” คุณวสุตอบลูกเลี้ยงเสียงแข็ง ไม่มีเลยสักครั้งที่คิดจะพูดดีทำดีด้วยเพราะเกลียดชังริ้วแพรมาตั้งแต่วันแรกที่เห็น โชคดีหน่อยที่พ่อของนังเด็กนี่หลงนางจนแทบโงหัวไม่ขึ้น นางเลยมีสิทธิ์ชี้ขาดในหลายๆ เรื่องที่ทุกคนในบ้านไม่กล้าขัด
“ค่ะ คุณน้า”
หญิงสาวตอบรับเบาๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงทำทีจะเดินขึ้นห้องตามคำสั่งของคนที่ตอนนี้มีอำนาจเหนือทุกๆ คนในบ้าน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาไปไหน เสียงเข้มของเขาคนนั้นก็ดังขึ้นเรียกเธอไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว!” เกื้อคุณเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหาน้องสาวของคนรัก ผู้หญิงที่มีนัยน์ตาแสนเศร้า แถมยังชอบมองเขาอยู่บ่อยๆ
“พี่เกื้อมีอะไรกับอิ๋วเหรอคะ” ริ้วแพรเอ่ยถามแต่กลับก้มหน้านิ่ง ด้วยรู้ดีว่าถ้าเผลอเงยหน้าสบตาเขามันจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในเวลาแบบนี้ เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็จะแต่งงานกับพี่สาวเธอและกลายมาเป็นพี่เขยของเธอไปในที่สุด มันคงไม่ดีเท่าไหร่หากเธอเผลอมองเขา ด้วยสายตาชื่นชอบเหมือนที่เคยแอบมองมาตลอด
เธอแอบชอบคนรักของพี่สาว แต่ก็ทำได้แค่นั้นเพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีวันจะมาชอบเธอ อีกทั้งเขายังเป็นคนรักของพี่ คนต้องห้ามที่ห้ามแตะต้องไม่ว่าจะรักแค่ไหน สุดท้ายก็ทำเพียงได้แต่มองอยู่ห่างๆอยู่ดี
“ผมรู้แล้วครับว่าเราจะจัดการปัญหานี้ด้วยวิธีไหน!” เกื้อคุณไม่ตอบคำถามหญิงสาว เลือกจะหันไปหาพ่อและแม่เลี้ยงของเธอแทน
ในเมื่อรสิกากล้าหักหน้าเขาด้วยการหนีตามผู้ชายอื่นไปก่อนวันงาน เขาก็จะเอาน้องสาวของเธอคนนี้มาเข้าพิธีแต่งงานกับเขาแทน
ริ้วแพรต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดแทนพี่สาวของเธอ!!
งานแต่งงาน…
คงเป็นวันหนึ่งในชีวิตที่ผู้หญิงทุกคนต่างฝันถึง สำหรับริ้วแพรเธอก็เคยมีความฝันว่าสักวันจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักและเขาก็รักเธอเช่นกัน แต่แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนความฝันที่ว่าก็ต้องดับสลายเพราะคำสั่งฟ้าฟาด ของคนที่กำลังยืนเคียงคู่อยู่ข้างๆ กันในขณะนี้
คนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวยืนคู่กับเธอที่กำลังสวมชุดเจ้าสาว ชุดที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของรสิกาพี่สาวที่ตอนนี้หนีออกจากบ้านไป ทิ้งภาระหน้าที่อันหนักอึ้งนี้ให้เธอเป็นคนที่ต้องสานต่อมันแทน
เกื้อคุณยื่นข้อเสนออันน่าประหลาดมาให้ในวันนั้นว่าถ้าหากไม่ได้เธอมาเป็นเจ้าสาวแทนเจ้าสาวตัวจริงของเขาก็จะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น เขาจะล้มเลิกทุกอย่างรวมไปถึงหนี้สินจำนวนหลายล้านบาทที่ได้มอบให้ทางครอบครัวเธอมาเป็นค่าสินสอดเพื่อนำไปใช้หนี้ที่พ่อของเธอถูกเพื่อนสนิทโกงไป นั่นยังไม่รวมหนี้สินเก่าที่พ่อและแม่เขายกให้ก่อนหน้าเพราะเห็นว่าครอบครัวเธอและครอบครัวเขากำลังจะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน เขาจะยกเลิกและทวงคืนทุกอย่างหากไม่ได้ตามที่ต้องการ!
เพราะแบบนั้นเธอถึงได้มายืนอยู่ที่นี่วันนี้ฐานะเจ้าสาวของเขา
“ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม! อยากให้คนในงานนินทาเอารึไงว่าฉันแต่งงานกับซากศพ!” น้ำเสียงหงุดหงิดของเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อเหลามากกว่าวันไหนๆ ยังคงดังมาให้ได้ยินติดต่อกันหลายนาที
“อิ๋วขอโทษค่ะ” ริ้วแพรรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะฝืนยิ้มแสร้งมีความสุขกับงานแต่งจอมปลอมที่ถูกจัดขึ้นตามกำหนด แต่เจ้าสาวกลับถูกเปลี่ยนตัวเป็นเธอแทนที่จะเป็นพี่สาวที่หายตัวไปเพื่อไม่ให้สองครอบครัวต้องเสียหน้า มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความรัก ไม่ใช่เลย
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
“เทียนไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้น” พลอยบุหลันตอบเสียงแผ่วก่อนจะพาตัวเองเดินหนีกลับมาที่ห้อง เพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะสายตา หรือสร้างความรำคาญให้กับเขาอีก หญิงสาวนั่งลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นสวดมนต์เหมือนทุกคืน ไม่นานก็ทิ้งตัวลงนอน และไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ “ฝันดีนะคะตัวเล็กของแม่…”
“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“กล้าดียังไงเที่ยวไปให้ท่าไอ้สารวัตรนั่น!” ชรัสตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่หล่อนทำลงไปในวันนี้มันหักหน้าเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอทำเรื่องพวกนี้ขณะที่ยังเป็นเมียเขาอยู่! “อินทำอย่างนั้นตอนไหนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”
“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"