“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“คุณบุญสิตามาขอพบอีกแล้วครับนาย” คำบอกกล่าวนั้นแม้จะเรียกรอยยิ้มแก่คนที่เฝ้ารอเวลานี้มาตลอดหลายวันได้ในทันทีที่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้ ‘เขา’ ตอบอะไรกลับไป กระทั่งคนสนิทตัดสินใจเอ่ยขึ้นอีกครั้ง และหวังว่าครั้งนี้จะได้รับคำตอบจากผู้เป็นนายเพื่อที่ว่าเขา จะได้นำมันไปบอกต่อกับคนที่รออยู่ข้างล่างนั้นอีกที
“นายครับ…”
”บอกให้เธอกลับไป! วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์พบใคร” คำตอบเด็ดขาดที่ใครก็รู้กันดีว่าหากได้เอ่ยมันออกมาแล้วนั้น จะไม่มีใครหรืออะไรมาเปลี่ยนใจได้ทำให้คนฟังรู้สึกหนักใจไม่น้อย ด้วยเพราะคนที่กำลังนั่งรอผู้เป็นนายของเขาอย่างกระวนกระวายใจอยู่ด้านล่างของบ้านนั้นคิดถูกเรื่องที่ว่าเจ้านายของเขาไม่มีทางยอมลงไปเจอเธอง่ายๆ เมื่อคิดถูก ‘แขก’ ของเจ้านายจึงไหว้วานฝากถ้อยคำบางอย่างมาด้วย
“คุณบุญเธอยืนกรานว่าจะรอจนกว่านายจะยอมลงไปพบให้ได้ครับ” และแน่นอนว่าเมื่อจบคำพูดนั้น ดวงตาดุดันของอีกคนก็เปลี่ยนเป็นเข้มจัดแทบจะทันที ก่อนที่รอยยิ้มหยักจะเผยขึ้นจนเขารู้สึกเสียวสันหลัง เพราะรู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่รอยยิ้มนี้เผยขึ้น สิ่งที่จะตามหลังมาติดๆ นั้น แทบไม่ต่างอะไรจากคลื่นยักษ์ใต้น้ำเลยสักนิด!
“นั่นเป็นปัญหาของแกที่จะทำยังไงให้หล่อนไสหัวกลับไป! หรือถ้าทำไม่ได้ แกคงรู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไงต่อ!” คนถูกสั่งพยักหน้ารับอย่างจำนน ก่อนจะยอมตัดใจถอยออกมาจากห้องอย่างไม่มีทางเลือก
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ
“เป็นยังไงบ้างคะคุณบรรจง พี่…คุณดินเขายอมลงมาพบบุญรึเปล่าคะ” คำถามที่เต็มไปด้วยความหวังของคนที่รออยู่ทำให้บรรจงรู้สึกผิดไม่น้อยที่เขาไม่สามารถทำให้เจ้านายยอมลงมาพบเธอตามที่ขอได้ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเขามันก็แค่ลูกจ้างกินเงินเดือนคนหนึ่ง ไอ้ครั้นจะให้ไปบีบบังคับเจ้านายนั้นลืมไปได้เลย เขาไม่มีสิทธิ์ถึงขนาดนั้น
ถึงต่อให้มีเขาก็ไม่กล้าทำ
ด้วยกลัวว่าตัวเองอาจอยู่ไม่ถึงวันที่ลูกโต!
“ผมขอโทษครับคุณบุญ” คำตอบนั้นเรียกความผิดหวังแก่คนที่สู่อุตส่าห์เฝ้ารอที่จะพบ ‘เจ้าหนี้’ รายใหญ่ของครอบครัวทันทีเมื่อได้ยิน
“คุณบรรจงได้บอกเขารึเปล่าคะว่าบุญจะรอเขาอยู่ตรงนี้จนกว่าเขาจะยอมลงมาพบบุญ” กระนั้นเธอก็ไม่คิดยอมแพ้ เป็นตายร้ายดีอย่างไรวันนี้ก็ต้องพบกับเขาให้ได้ ต่อให้ต้องรอต่อไปทั้งวันก็ช่าง
“บอกครับ แต่ถ้าคุณบุญทำแบบนั้นจริงๆ ผมอาจถูกไล่ออก” คำพูดนั้นไม่เพียงแต่ทำให้คนฟังตกใจ แม้แต่เจ้าของคำพูดเองก็เริ่มชักหวั่นๆ บ้างแล้วเหมือนกันว่าการที่เขาให้ความช่วยเหลือหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ มันจะทำให้ชีวิตของเขาต้องพบกับความลำบากในไม่ช้า
เขามันใจร้าย!
บุญสิตาร้องประท้วงขึ้นกับตัวเองภายในใจ นึกอยากจะเกลียดคนใจร้ายข้างบนนั้นแต่ก็ทำไม่ลง ด้วยรู้ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากใคร ใครที่เปลี่ยนเขาให้ต้องกลายมาเป็นอีกคนที่เธอแทบไม่รู้จัก
“บุญขอโทษค่ะ แต่ว่าบุญมีความจำเป็นที่ต้องพบเขาให้ได้ คุณบรรจงช่วย…”
“ต่อให้พระเจ้าลงมาจุติที่นี่ก็ไม่มีใครหน้าไหนช่วยเธอได้ทั้งนั้น!” ทว่าก่อนที่จะได้ทันขอร้องอะไรออกไปเสียงเข้มขัดที่แสนคุ้นหูของใครบางคนกลับดังขึ้นขัดเข้าซะก่อน มันทำให้เธอยิ้มได้เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่นั้น เป็นคนเดียวกับคนที่ปล่อยให้เธอนั่งรอมาทั้งวัน
“แกจะไปไหนก็ไปไอ้จง!” คณิน รมณีย์เอ่ยขึ้นกับคนสนิทก่อนจะปรายตามองแม่ตัวดีที่ดูเหมือนวันนี้หล่อนจะมีความกล้ามากกว่าทุกครั้งที่เจอกัน ทว่าเขานั้นกลับไม่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของหล่อนเลยสักนิดเพราะรู้ดีแก่ใจว่าอะไรคือต้นเหตุของความกล้าเหล่านี้ของหล่อน
“ทำแบบนี้ทำไมคะ ไหนว่าเราตกลงกันว่า…”
“สามวัน! เท่าที่จำได้ฉันกับเธอตกลงกันแค่นั้น ฉันต่อเวลาในการใช้หนี้ให้กับครอบครัวของเธอมามากพอแล้วบุญสิตา! แล้วเธอยังจะมีหน้ามาเรียกร้องเอาอะไรอีก หรือคิดว่าการที่เธออุตส่าห์เอาตัวเข้าแลกมันจะเปลี่ยนอะไรได้” คำถามนั้นกัดกินใจคนฟังจนน้ำตาตก เพราะเขาทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอเสียไปสำหรับเขามันไม่ได้มีค่าอะไรเลย ต่างจากเธอที่ต้องสูญเสีย หมดสิ้นทุกสิ่งด้วยน้ำมือเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความสาวที่เสียให้เขาไปไม่มีความหมายสักนิด ไม่มีเลยจริงๆ
“ถ้าคุณยึดที่ดินกับบ้านบุญกับน้องจะไปอยู่ที่ไหนคะ” บ้านที่ตอนนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ และเธอจะทำทุกทางเพื่อรักษามันไว้ด้วยชีวิต ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกแค่ไหนเธอจะโต้กลับสุดแรงเช่นกัน
“นั่นดูเหมือนจะเป็นปัญหาของพวกเธอ ไม่ใช่ฉัน!” คำตอบนั้นให้ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก็ไม่ผิด มันทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าคนใจร้ายตรงหน้าคนนี้ จะเป็นคนเดียวกับพี่ดินที่แสนใจดีเมื่อสี่ปีก่อน
มันคือสี่ปีที่เธอมีความสุขที่สุดจนนึกอยากจะหยุดเวลานั้นไว้ ก่อนที่ทุกๆ อย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อพ่อของเธอทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกับครอบครัวของเขา แม้เธอเองจะเคยอ้อนวอนขอร้องให้ท่านหยุดแต่ก็ไม่เกิดผล สุดท้ายสองครอบครัวที่เคยไปมาหาสู่กันก็กลายเป็นศัตรูกัน
และที่แย่กว่านั้น…
ยังปิดฉากสถานะคู่หมั้นระหว่างเธอกับเขาให้จบลงพร้อมๆ กัน
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
“เทียนไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้น” พลอยบุหลันตอบเสียงแผ่วก่อนจะพาตัวเองเดินหนีกลับมาที่ห้อง เพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะสายตา หรือสร้างความรำคาญให้กับเขาอีก หญิงสาวนั่งลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นสวดมนต์เหมือนทุกคืน ไม่นานก็ทิ้งตัวลงนอน และไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ “ฝันดีนะคะตัวเล็กของแม่…”
“กล้าดียังไงเที่ยวไปให้ท่าไอ้สารวัตรนั่น!” ชรัสตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่หล่อนทำลงไปในวันนี้มันหักหน้าเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอทำเรื่องพวกนี้ขณะที่ยังเป็นเมียเขาอยู่! “อินทำอย่างนั้นตอนไหนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”
“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด
“ผมไม่หย่า! ต่อให้คุณจะเกลียดผมไปจนวันตายยังไงผมก็ไม่หย่า” “ทำไมล่ะคะ คุณจะเก็บฉันเอาไว้ทำไมในเมื่อคุณไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้เลยสักวันเดียว! เป็นฉันเองที่ต้องทนอยู่กับคนใจร้ายที่ไม่เคยมีฉันอยู่ในสายตา ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาคุณรู้บ้างไหมคะวาฉันต้องเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหนที่ต้องฝืนทนอยู่กับคนไม่มีหัวใจอย่างคุณ อ๊ะ!!” คำต่อว่าที่รุนแรงทำให้ตรีภพเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป มือทั้งสองกระชากใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ก่อนจะกระแทกริมฝีปากเข้าหาอย่างรุนแรงแม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ทำเช่นนั้นได้ไม่นานเท่าไหร่ สุดท้ายเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขาอยู่ดี รสสัมผัสที่รุนแรงหยาบกระด้างค่อยๆ แผ่วเบาลงตามลำดับแต่พอได้เห็นหยดน้ำตาใสที่ไหลรินออกมาจากแก้มเนียนทุกๆ สิ่งถึงได้หยุดลงพร้อมๆ กับใบหน้าคมคายที่ผละตัวออกห่าง... “ผมขอโทษ ขอโทษที่ใจร้ายกับคุณมาตลอด แต่ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งได้ไหม ผมจะไม่มีวันทำให้คุณต้องเสียใจอีก”
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY