“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“คุณบุญสิตามาขอพบอีกแล้วครับนาย” คำบอกกล่าวนั้นแม้จะเรียกรอยยิ้มแก่คนที่เฝ้ารอเวลานี้มาตลอดหลายวันได้ในทันทีที่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้ ‘เขา’ ตอบอะไรกลับไป กระทั่งคนสนิทตัดสินใจเอ่ยขึ้นอีกครั้ง และหวังว่าครั้งนี้จะได้รับคำตอบจากผู้เป็นนายเพื่อที่ว่าเขา จะได้นำมันไปบอกต่อกับคนที่รออยู่ข้างล่างนั้นอีกที
“นายครับ…”
”บอกให้เธอกลับไป! วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์พบใคร” คำตอบเด็ดขาดที่ใครก็รู้กันดีว่าหากได้เอ่ยมันออกมาแล้วนั้น จะไม่มีใครหรืออะไรมาเปลี่ยนใจได้ทำให้คนฟังรู้สึกหนักใจไม่น้อย ด้วยเพราะคนที่กำลังนั่งรอผู้เป็นนายของเขาอย่างกระวนกระวายใจอยู่ด้านล่างของบ้านนั้นคิดถูกเรื่องที่ว่าเจ้านายของเขาไม่มีทางยอมลงไปเจอเธอง่ายๆ เมื่อคิดถูก ‘แขก’ ของเจ้านายจึงไหว้วานฝากถ้อยคำบางอย่างมาด้วย
“คุณบุญเธอยืนกรานว่าจะรอจนกว่านายจะยอมลงไปพบให้ได้ครับ” และแน่นอนว่าเมื่อจบคำพูดนั้น ดวงตาดุดันของอีกคนก็เปลี่ยนเป็นเข้มจัดแทบจะทันที ก่อนที่รอยยิ้มหยักจะเผยขึ้นจนเขารู้สึกเสียวสันหลัง เพราะรู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่รอยยิ้มนี้เผยขึ้น สิ่งที่จะตามหลังมาติดๆ นั้น แทบไม่ต่างอะไรจากคลื่นยักษ์ใต้น้ำเลยสักนิด!
“นั่นเป็นปัญหาของแกที่จะทำยังไงให้หล่อนไสหัวกลับไป! หรือถ้าทำไม่ได้ แกคงรู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไงต่อ!” คนถูกสั่งพยักหน้ารับอย่างจำนน ก่อนจะยอมตัดใจถอยออกมาจากห้องอย่างไม่มีทางเลือก
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ
“เป็นยังไงบ้างคะคุณบรรจง พี่…คุณดินเขายอมลงมาพบบุญรึเปล่าคะ” คำถามที่เต็มไปด้วยความหวังของคนที่รออยู่ทำให้บรรจงรู้สึกผิดไม่น้อยที่เขาไม่สามารถทำให้เจ้านายยอมลงมาพบเธอตามที่ขอได้ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเขามันก็แค่ลูกจ้างกินเงินเดือนคนหนึ่ง ไอ้ครั้นจะให้ไปบีบบังคับเจ้านายนั้นลืมไปได้เลย เขาไม่มีสิทธิ์ถึงขนาดนั้น
ถึงต่อให้มีเขาก็ไม่กล้าทำ
ด้วยกลัวว่าตัวเองอาจอยู่ไม่ถึงวันที่ลูกโต!
“ผมขอโทษครับคุณบุญ” คำตอบนั้นเรียกความผิดหวังแก่คนที่สู่อุตส่าห์เฝ้ารอที่จะพบ ‘เจ้าหนี้’ รายใหญ่ของครอบครัวทันทีเมื่อได้ยิน
“คุณบรรจงได้บอกเขารึเปล่าคะว่าบุญจะรอเขาอยู่ตรงนี้จนกว่าเขาจะยอมลงมาพบบุญ” กระนั้นเธอก็ไม่คิดยอมแพ้ เป็นตายร้ายดีอย่างไรวันนี้ก็ต้องพบกับเขาให้ได้ ต่อให้ต้องรอต่อไปทั้งวันก็ช่าง
“บอกครับ แต่ถ้าคุณบุญทำแบบนั้นจริงๆ ผมอาจถูกไล่ออก” คำพูดนั้นไม่เพียงแต่ทำให้คนฟังตกใจ แม้แต่เจ้าของคำพูดเองก็เริ่มชักหวั่นๆ บ้างแล้วเหมือนกันว่าการที่เขาให้ความช่วยเหลือหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ มันจะทำให้ชีวิตของเขาต้องพบกับความลำบากในไม่ช้า
เขามันใจร้าย!
บุญสิตาร้องประท้วงขึ้นกับตัวเองภายในใจ นึกอยากจะเกลียดคนใจร้ายข้างบนนั้นแต่ก็ทำไม่ลง ด้วยรู้ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากใคร ใครที่เปลี่ยนเขาให้ต้องกลายมาเป็นอีกคนที่เธอแทบไม่รู้จัก
“บุญขอโทษค่ะ แต่ว่าบุญมีความจำเป็นที่ต้องพบเขาให้ได้ คุณบรรจงช่วย…”
“ต่อให้พระเจ้าลงมาจุติที่นี่ก็ไม่มีใครหน้าไหนช่วยเธอได้ทั้งนั้น!” ทว่าก่อนที่จะได้ทันขอร้องอะไรออกไปเสียงเข้มขัดที่แสนคุ้นหูของใครบางคนกลับดังขึ้นขัดเข้าซะก่อน มันทำให้เธอยิ้มได้เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่นั้น เป็นคนเดียวกับคนที่ปล่อยให้เธอนั่งรอมาทั้งวัน
“แกจะไปไหนก็ไปไอ้จง!” คณิน รมณีย์เอ่ยขึ้นกับคนสนิทก่อนจะปรายตามองแม่ตัวดีที่ดูเหมือนวันนี้หล่อนจะมีความกล้ามากกว่าทุกครั้งที่เจอกัน ทว่าเขานั้นกลับไม่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของหล่อนเลยสักนิดเพราะรู้ดีแก่ใจว่าอะไรคือต้นเหตุของความกล้าเหล่านี้ของหล่อน
“ทำแบบนี้ทำไมคะ ไหนว่าเราตกลงกันว่า…”
“สามวัน! เท่าที่จำได้ฉันกับเธอตกลงกันแค่นั้น ฉันต่อเวลาในการใช้หนี้ให้กับครอบครัวของเธอมามากพอแล้วบุญสิตา! แล้วเธอยังจะมีหน้ามาเรียกร้องเอาอะไรอีก หรือคิดว่าการที่เธออุตส่าห์เอาตัวเข้าแลกมันจะเปลี่ยนอะไรได้” คำถามนั้นกัดกินใจคนฟังจนน้ำตาตก เพราะเขาทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอเสียไปสำหรับเขามันไม่ได้มีค่าอะไรเลย ต่างจากเธอที่ต้องสูญเสีย หมดสิ้นทุกสิ่งด้วยน้ำมือเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความสาวที่เสียให้เขาไปไม่มีความหมายสักนิด ไม่มีเลยจริงๆ
“ถ้าคุณยึดที่ดินกับบ้านบุญกับน้องจะไปอยู่ที่ไหนคะ” บ้านที่ตอนนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ และเธอจะทำทุกทางเพื่อรักษามันไว้ด้วยชีวิต ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกแค่ไหนเธอจะโต้กลับสุดแรงเช่นกัน
“นั่นดูเหมือนจะเป็นปัญหาของพวกเธอ ไม่ใช่ฉัน!” คำตอบนั้นให้ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก็ไม่ผิด มันทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าคนใจร้ายตรงหน้าคนนี้ จะเป็นคนเดียวกับพี่ดินที่แสนใจดีเมื่อสี่ปีก่อน
มันคือสี่ปีที่เธอมีความสุขที่สุดจนนึกอยากจะหยุดเวลานั้นไว้ ก่อนที่ทุกๆ อย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อพ่อของเธอทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกับครอบครัวของเขา แม้เธอเองจะเคยอ้อนวอนขอร้องให้ท่านหยุดแต่ก็ไม่เกิดผล สุดท้ายสองครอบครัวที่เคยไปมาหาสู่กันก็กลายเป็นศัตรูกัน
และที่แย่กว่านั้น…
ยังปิดฉากสถานะคู่หมั้นระหว่างเธอกับเขาให้จบลงพร้อมๆ กัน
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
“เทียนไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้น” พลอยบุหลันตอบเสียงแผ่วก่อนจะพาตัวเองเดินหนีกลับมาที่ห้อง เพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะสายตา หรือสร้างความรำคาญให้กับเขาอีก หญิงสาวนั่งลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นสวดมนต์เหมือนทุกคืน ไม่นานก็ทิ้งตัวลงนอน และไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ “ฝันดีนะคะตัวเล็กของแม่…”
“กล้าดียังไงเที่ยวไปให้ท่าไอ้สารวัตรนั่น!” ชรัสตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่หล่อนทำลงไปในวันนี้มันหักหน้าเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอทำเรื่องพวกนี้ขณะที่ยังเป็นเมียเขาอยู่! “อินทำอย่างนั้นตอนไหนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”
“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด
“ผมไม่หย่า! ต่อให้คุณจะเกลียดผมไปจนวันตายยังไงผมก็ไม่หย่า” “ทำไมล่ะคะ คุณจะเก็บฉันเอาไว้ทำไมในเมื่อคุณไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้เลยสักวันเดียว! เป็นฉันเองที่ต้องทนอยู่กับคนใจร้ายที่ไม่เคยมีฉันอยู่ในสายตา ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาคุณรู้บ้างไหมคะวาฉันต้องเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหนที่ต้องฝืนทนอยู่กับคนไม่มีหัวใจอย่างคุณ อ๊ะ!!” คำต่อว่าที่รุนแรงทำให้ตรีภพเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป มือทั้งสองกระชากใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ก่อนจะกระแทกริมฝีปากเข้าหาอย่างรุนแรงแม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ทำเช่นนั้นได้ไม่นานเท่าไหร่ สุดท้ายเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขาอยู่ดี รสสัมผัสที่รุนแรงหยาบกระด้างค่อยๆ แผ่วเบาลงตามลำดับแต่พอได้เห็นหยดน้ำตาใสที่ไหลรินออกมาจากแก้มเนียนทุกๆ สิ่งถึงได้หยุดลงพร้อมๆ กับใบหน้าคมคายที่ผละตัวออกห่าง... “ผมขอโทษ ขอโทษที่ใจร้ายกับคุณมาตลอด แต่ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งได้ไหม ผมจะไม่มีวันทำให้คุณต้องเสียใจอีก”
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
รลิน หมอศัลยแพทย์ทั่วไป เธออายุ 27 แต่ความสามารถของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับโดยประจักษ์ เธอยังชำนาญด้านแพทย์แผนจีน เรื่องพิษ คนทั่วไปทั้งในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาลที่รู้จักเธอ รับรู้แค่เธอเป็นหมอลินที่ทั้งสวยและเก่ง แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้น เธอคือนักฆ่าขององค์กรใต้ดิน เธอต้องเรียนรู้และเข้าให้ถึงทุกอาชีพตามที่องค์กรสอน เมื่อได้ภารกิจต้องเข้าให้ถึงทุกบทบาท
© 2018-now MeghaBook
บนสุด