“ผมไม่หย่า! ต่อให้คุณจะเกลียดผมไปจนวันตายยังไงผมก็ไม่หย่า” “ทำไมล่ะคะ คุณจะเก็บฉันเอาไว้ทำไมในเมื่อคุณไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้เลยสักวันเดียว! เป็นฉันเองที่ต้องทนอยู่กับคนใจร้ายที่ไม่เคยมีฉันอยู่ในสายตา ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาคุณรู้บ้างไหมคะวาฉันต้องเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหนที่ต้องฝืนทนอยู่กับคนไม่มีหัวใจอย่างคุณ อ๊ะ!!” คำต่อว่าที่รุนแรงทำให้ตรีภพเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป มือทั้งสองกระชากใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ก่อนจะกระแทกริมฝีปากเข้าหาอย่างรุนแรงแม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ทำเช่นนั้นได้ไม่นานเท่าไหร่ สุดท้ายเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขาอยู่ดี รสสัมผัสที่รุนแรงหยาบกระด้างค่อยๆ แผ่วเบาลงตามลำดับแต่พอได้เห็นหยดน้ำตาใสที่ไหลรินออกมาจากแก้มเนียนทุกๆ สิ่งถึงได้หยุดลงพร้อมๆ กับใบหน้าคมคายที่ผละตัวออกห่าง... “ผมขอโทษ ขอโทษที่ใจร้ายกับคุณมาตลอด แต่ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งได้ไหม ผมจะไม่มีวันทำให้คุณต้องเสียใจอีก”
ปฐมบท
เพล้ง!
เสียงบางสิ่งที่ตกกระทบพื้นในกลางดึกปลุกเอาคนตัวเล็กที่กำลังนอนขดตัวอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกสะดุ้งตื่นขึ้นก่อนจะรีบเดินมายังหน้าบ้านเพื่อต้อนรับการกลับมาของใครบางคน ใครที่มักจะกลับมาพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายเสมอ กระทั่งเมื่อเดินมาถึงรถยุโรปสีดำที่ในตอนนี้นั้นมีร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่ว่าคนนั้น ซึ่งตอนนี้กำลังเมาหนักจนแทบจะยืนด้วยตัวเองไม่ไหวจำต้องให้ลุงมั่น คนขับรถส่วนตัวช่วยพยุงเอาไว้อีกแรง เมื่อไล่ระดับสายตาต่ำลงไปหน่อย ก็พบกับเศษขวดเหล้าที่แตกกระจายไปทั่วพื้นไม่ไกลกันเท่าไหร่
“ดื่มหนักอีกแล้วหรือคะวันนี้” หนูเล็ก หรือรินลดา วิยาพรรณ ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวโกสน เจ้าของฟาร์มองุ่นแห่งใหญ่ในจังหวัดราชบุรี อีกทั้งยังเป็นอดีตนายหน้าขายที่มีชื่อเสียงซึ่งใครๆ ต่างก็รู้จัก แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวนั้นจะจากไปนานหลายปีแล้วก็ตามถามชายชราตรงหน้าเมื่อมาถึงก่อนจะเอื้อมมือไปรับสามี ที่ถูกต้องตามกฏหมายของตัวเองมาโอบเอาไว้ด้วยสองมือเล็กน่ารัก
“ครับคุณเล็ก วันนี้หนักกว่าทุกๆ วันเลย ไอ้ผมก็พยายามห้ามคุณภพตามที่คุณหนูเล็กสั่งเอาไว้แล้วนะครับ แต่คุณภพก็ยัง…” ไม่จำเป็นต้องตอบอะไรมากไปกว่านี้ เพราะใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้หัวรั้นและไม่ยอมฟังคำใครทั้งนั้นนอกเสียจากตัวของเขาเอง หรือหากจะพูดให้ถูกแล้วล่ะก็ นอกจากพ่อแม่ของเขาที่มาด่วนจากไปแล้วนั้นเห็นทีก็คงจะมีแต่ผู้เป็นย่าคนเดียวเท่านั้นที่เขายอมคำฟัง
ตรีภพ สุวงศ์ไพศาลกุล หลานชายคนโตของคุณหญิงสุรัตน์ เจ้าของโรงแรมหรูขนาดใหญ่ที่มีเครือแตกยอดออกไปอีกมากมายหลายแห่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโรงทอผ้าไหมขนาดใหญ่ เพราะกิจการมากมายของครอบครัวที่มีอยู่ส่งผลทำให้เขา ซึ่งเป็นหลานชายเพียงคนเดียวจำต้องแบกรับหน้าที่ดูแล จัดการสานต่อโดยมีผู้เป็นย่าซึ่งตอนนี้ได้วางมือจากธุรกิจไปแล้ว ปล่อยให้หลานชายเป็นผู้ดูแลต่อคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
ใครเลยจะไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่กวาดทำรายได้ให้แก่กิจการโรงแรมในเครือ สุวงศ์ไพศาลกุล มากที่สุดในประวัติการณ์ อีกทั้งเขายังเป็นคนหนุ่มยุคใหม่ที่มักจะมีทัศนคติในการทำงานที่เฉียบเหลียมและฉลาด ทุกอย่างที่รวมกันมันทำให้เขาประสบการณ์ความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ชีวิตที่แสนจะเพียบพร้อมแต่กลับมีบางสิ่งที่เขาอยากจะจำกัดทิ้ง บางสิ่งที่ช่างไม่มีค่าอะไรเลย นอกจากตัวถ่วงชีวิตที่เขาจำเป็นต้องรับเอาไว้อย่างคนไม่มีทางเลือก
เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มตันขึ้นเพียงแค่คำสัญญาในวงเหล้าจากพ่อของเขาและพ่อของเธอ รันภัทร อดีตคนรักผู้ซึ่งล่วงลับไปนานหลายปีแล้วว่าจะให้ลูกๆ ของพวกเขาแต่งงานกัน ซึ่งตามเดิมนั้นว่าที่เจ้าสาวของเขาก็คือรันภัทร วิยาพรรณ ผู้หญิงที่เขารักแต่กลับต้องมาโชคร้ายได้รับอุบัติเหตุรถคว่ำจนเสียชีวิตจากไปอย่างน่าเศร้า
รันภัทรเสียชีวิตไปก่อนหน้าที่จะถึงวันแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันเท่านั้น อุบัติเหตุในครั้งนั้นมันทำให้เจ้าสาวจำต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนน้องอย่างรินลดากะทันหัน และนั่นเองที่จุดเปลี่ยนของทุกๆ สิ่งนับตั้งแต่นั้นมา
รินลดาจำต้องทนอยู่กับคำครหาที่ว่า ‘เจ้าสาวที่ไม่ต้องการ’ มาตลอดนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะตรีภพรักเพียงแต่พี่สาวของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น และคงไม่มีวันที่เธอจะมาทดแทนคนรักของเขาได้เลย เขาจมปรักและทิ้งหัวใจของตัวเองเอาไว้กับอดีตที่แสนเศร้าโดยมีเธอคอยอยู่เคียงข้างด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นรักแรกของเธอและเจ้าตัวเองก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ แต่เขาก็ยังรักและคิดถึงแต่พี่สาวของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ความเจ็บปวดที่ต้องทนเห็นเขารักแต่เพียงพี่สาวของตัวเองมาตลอดเวลาที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันนั้นยังเจ็บปวดร้าวไม่เท่ากับการได้ครอบครองเขาเพียงแต่ในนาม ไม่มีเลยความรัก หรือแม้แต่เศษเสี้ยวหัวใจที่เขาจะมอบให้กันอย่างที่มันสมควรจะเป็น
จะมีก็เพียงความเกลียดชังเท่านั้นที่ยังคงอยู่ และจะอยู่ไปอีกนาน
“ลุงมั่นกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวทางนี้หนูเล็กจัดการต่อเอง ไม่ต้องห่วงนะคะ” หญิงสาวหยุดคิดเรื่องในอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกชั่วครู่พร้อมทั้งหันไปบอกชายชราพร้อมรอยหวานๆที่ใกล้จะเจือจางเต็มที
ใครหลายๆ คนต่างก็รู้ดีว่าตรีภพนั้นชิงชังเมียสาวคนนี้เสียยิ่งกว่าอะไรดี เขาไม่เคยสนใจใยดีอะไรนอกเสียจากยอมย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนกลางริมน้ำกับหล่อนตามลำพังเพราะไม่อาจขัดคำสั่งของผู้เป็นย่าที่เอ็นดูในตัวของหลานสะใภ้มากกว่าใครๆ
นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาทำให้ เขาไม่เคยพาเธอไปออกงาน ไม่เคยคิดจะแนะนำให้สังคมได้รับรู้ว่าในชีวิตของเขานั้นยังคงผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างกายในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย แม้แต่งานแต่งงานของเขาและเธอเขาก็กลับมาหายตัวไปอยู่ที่งานศพของคนรัก ผู้หญิงที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เขาก็ยังรักอยู่
แต่เธอก็ยังอดทนมาโดยตลอด เพียงเพราะเชื่อว่าสักวันเขาจะมองเห็นในความดีของเธอบ้างสักนิด อย่างน้อยเธอก็ทำเพื่อคำขอร้องครั้งสุดท้ายของพี่สาว ที่ได้ตายจากไปไกลที่ฝากเอาไว้ก่อนที่จะสิ้นใจในวันนั้นให้เป็นจริง…
‘รักภพแทนพี่ด้วยนะหนูเล็ก…ถ้าเป็นน้องสาวคนนี้ของพี่จะต้องทำให้คนที่พี่รักมีความสุขได้แน่ๆ’
หลังจากพยุงร่างที่กำลังเมาจนไร้สติของสามีที่มักจะเมากลับมาเช่นนี้เป็นประจำอยู่ทุกคืน ทั้งๆ ที่ก่อนออกไปทำงานนั้นยังสุขุมเยือกเย็นเสียจนใครๆ ต่างก็พากันหวาดกลัวไปตามๆ กัน แต่พอเหล้าเข้าปากเขาก็กลายเป็นอีกคนที่ต่างไปจากเดิม จะมีก็แต่เธอที่ต้องนอนรออยู่ที่โซฟาตัวเดิมเพื่อคอยช่วยพยุงเขาขึ้นมายังห้องนอน ห้องนอนที่ไม่ได้อบอุ่นอย่างที่เคยฝันเอาไว้เลย
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะลุงมั่นที่ช่วยหนูเล็กพาพี่ภพขึ้นมาส่งถึงห้องนอนแบบนี้ทุกคืน เลยพลอยทำให้ลุงต้องนอนดึกไปด้วยเลย หนูเล็กต้องขอโทษแทนพี่ภพด้วยนะคะ” เสียงหวานบอกไปตามที่รู้สึก ไม่ใช่แค่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่ต้องนอนน้อยเพราะต้องนั่งรอเขาอยู่แบบนี้ทุกคืน ยังมีลุงมั่นคนขับรถตรงหน้านี้ด้วยอีกคนที่ต้องรับผลกรรมนี้ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ทั้งๆ ที่เวลานี้น่าจะเป็นเวลาสำหรับพักผ่อนของลุงแกแล้วแท้ๆ แต่กลับต้องคอยขับรถรับส่งคนเอาแต่ใจตัวที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นิสัยเหล่านี้ของเขานั้นมันจะหมดไปเสียที
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
“เทียนไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้น” พลอยบุหลันตอบเสียงแผ่วก่อนจะพาตัวเองเดินหนีกลับมาที่ห้อง เพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะสายตา หรือสร้างความรำคาญให้กับเขาอีก หญิงสาวนั่งลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นสวดมนต์เหมือนทุกคืน ไม่นานก็ทิ้งตัวลงนอน และไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ “ฝันดีนะคะตัวเล็กของแม่…”
“ลูกศัตรูอย่างเธอที่โซฟานี่ก็พอมั้ง! เพราะว่าเตียงนั่นฉันเก็บเอาไว้ให้ เมีย ในอนาคตของฉัน!” เขาเน้นย้ำถึงคำว่า เมีย อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโยนคนที่เอาแต่นิ่งเงียบลงโซฟาอย่างไม่ออมมือนัก “โอ้ย! บุญเจ็บค่ะ…”
“กล้าดียังไงเที่ยวไปให้ท่าไอ้สารวัตรนั่น!” ชรัสตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่หล่อนทำลงไปในวันนี้มันหักหน้าเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอทำเรื่องพวกนี้ขณะที่ยังเป็นเมียเขาอยู่! “อินทำอย่างนั้นตอนไหนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”
“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"