“โธ่... คุณแม่ละก็ อย่าพูดเรื่องตายสิครับผมใจคอไม่ดีเลย จะรีบมี ไปทำไมกันละครับ บางคนแต่งงานตอนอายุสี่สิบห้าสิบยังมีเลย”
“ตอนนั้นแม่คงไม่อยู่เห็นหน้าลูกของแกแล้วล่ะ”
“คุณแม่สุขภาพแข็งแรง ต้องอยู่กับผมไปอีกนานๆ เชื่อผมสิครับ”
“จะไปรู้เรอะ คนเราเกิดแก่เจ็บตายมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ”
“ทำไมคุณแม่อยากอุ้มหลานนักล่ะครับ ผมไม่เห็นจะชอบเด็กเลย”
“ถ้าแม่มีลูกชายหรือลูกสาวคนอื่นๆ ไม่ได้มีแกคนเดียว แม่คงไม่สนใจหรอกว่าแกจะไปหัวหกก้นขวิดที่ไหน”
“แล้วทำไมคุณแม่ไม่มีลูกหลายๆ คนล่ะครับ”
“ก็ไม่มีเด็กที่ไหนมาแย่งเราเกิดไง” คุณหญิงปรานีค้อนลูกชายหัวแก้ว หัวแหวน สิงหลถึงกับหัวเราะในประโยคของมารดา แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีก น้ำอิง ซึ่งเป็นเด็กสาวในบ้านก็ค่อยๆ เดินน้อมตัวอย่างสุภาพเรียบร้อยเข้ามาเสิร์ฟน้ำเย็นๆ ให้ลูกชายเจ้าของบ้าน
สิงหลแตะลิ้นเลียริมฝีปากไปมาอย่างเผลอไผล เมื่อได้เห็นเด็กสาวหน้าตาผุดผ่อง เขาไม่ค่อยได้เจอเธอ เพราะเขาอยู่ไม่ค่อยติดบ้าน ส่วนใหญ่เขาจะนอนที่คอนโดฯ ส่วนตัวเสียมากกว่า ได้เห็นกันอีกครั้งทำให้เขาถึงกับ ตกตะลึงไปเลย
เด็กสาวค่อยๆ ย่อตัวและเดินจากไปเมื่อเสิร์ฟน้ำเรียบร้อยแล้ว
เพียะ!!!
เสียงฝ่ามือของมารดาที่ฟาดเข้ามาบนต้นแขนทำให้สิงหลสะดุ้ง หลุดจากภวังค์ความคิด
“มองจนสุดตาเลยนะ อย่ายุ่งกับเด็กของแม่เชียว”
“แหม... หวงเสียด้วยนะครับนี่ ไม่ค่อยได้เจอ โตเป็นสาวขนาดนี้แล้วเหรอครับ” จำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอขี้แย ชอบงอแงให้เขาอุ้ม จะพูดก็พูดเถอะ ตอนเด็กๆ เขาเอ็นดูแม่เด็กปากแดงแก้มใสนัก เลยชอบซื้อตุ๊กตากับชุดน่ารักๆ ให้เธอเป็นของขวัญเมื่อเจอหน้ากัน
“น้ำอิงเป็นเด็กดีเรียบร้อยและขยัน กิริยามารยาทก็น่ารักน่าเอ็นดูแถมหัวดีและตั้งใจเรียนอีก ไม่เหมาะกับเสือสิงห์กระทิงแรดแบบเราหรอก”
“คุณแม่เอาสักอย่างสิครับ ยัดเยียดให้ผมเป็นทั้งเสือ ทั้งสิงห์ ทั้งกระทิงแล้วก็แรดเลยเหรอครับ”
“ก็เรามันแรด”
“เขาใช้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ”
คุณหญิงปรานีค้อนบุตรชายเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขายกน้ำสีแปลกตา ขึ้นดื่ม ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยชม
“น้ำอะไรครับคุณแม่ แปลกดี เย็นชื่นใจ อร่อยมากเชียวครับ”
“น้ำสมุนไพรจ้ะ น้ำอิงเขาทำเอาไว้ต้อนรับแขก มีแต่คนเอ่ยชมทั้งนั้น”
คนพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำให้สิงหลรับรู้ไปโดยปริยายว่ามารดาของเขาปลื้มเด็กในบ้านเอามากๆ
“เด็กของคุณแม่เก่งไปเสียทุกอย่างเลยนะครับ นี่ผมไม่ค่อยเจอเธอ เจออีกทีโตเป็นสาวแล้ว”
“ห้ามยุ่งเด็ดขาด”
“โธ่... คุณแม่ห่วงลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเองเหรอครับ”
“แล้วเรามันน่าห่วงที่ไหนล่ะ เราเป็นผู้ชาย ส่วนน้ำอิงเป็นผู้หญิง ถ้าจะให้แม่ห่วงน่ะ คงจะห่วงว่าเราจะไปทำผู้หญิงที่ไหนน้ำตาเช็ดหัวเข่าหรือท้องโย้ นี่แหละ เจ้าชู้นัก ไม่รู้ไปเอาความเจ้าชู้มาจากไหน”
“ผมไม่ทำใครท้องโย้หรอกครับ ป้องกันทุกครั้ง”
“บัดสีนัก ดูสิ พูดได้หน้าตาเฉย”
“แล้วไม่ดีเหรอครับ ผมรู้จักป้องกัน”
“จ้ะ พ่อเจ้าประคุณทูนหัว”
“ก็ลูกสาวเพื่อนๆ คุณแม่ที่แนะนำให้ผมรู้จัก แต่ละคนอยากจะฟันผมแล้วทิ้งทั้งนั้นนี่ครับ”
“ไม่ใช่เราหรอกหรือ จะไปฟันเขาแล้วทิ้ง พูดเสียโอเวอร์”
“เย็นนี้มีอะไรอร่อยๆ กินบ้างครับ” สิงหลเปลี่ยนเรื่อง ออดอ้อนมารดาขยับไปหนุนตักท่านแทบจะทันที
“ทำตัวเหมือนเด็กๆ ถามถึงอาหารเย็นแบบนี้ คืนนี้จะค้างที่บ้านเหรอ”
คุณหญิงปรานีเอ่ยถามบุตรชายคนเดียว
“ครับ คิดถึงคุณแม่น่ะครับ ไม่ได้นอนบ้านนานแล้ว”
“รู้ด้วยเหรอ นี่ถ้าเรามีหลานให้แม่ แม่ก็คงไม่เหงา มีลูกก็เหมือนไม่มีลูก ไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย”
“ผมต้องทำงานนี่ครับ”
“ทำงานหรือทำอะไรกันแน่ แต่เอาเถอะ เราโตแล้ว แม่ไม่เคยบังคับ เดี๋ยวแม่จะสั่งให้ในครัวทำของโปรดให้กิน”
“ขอบคุณครับ” เขาหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอน
คุณหญิงปรานีมองตามไป ก่อนจะยิ้มอย่างรักใคร่ลูกชายคนเดียว
สิงหลขึ้นมาถึงห้องนอนก็เปิดม่านรับแสงสว่างเข้ามาในห้อง ร่างสูงหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าต่าง เมื่อเห็นเด็กสาวที่นำน้ำมาเสิร์ฟให้เขากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ เธอชะงักมือ รู้สึกว่ามีคนแอบมองเลยเงยขึ้นมาดู
เธอสบประสานสายตากับเขาอย่างจัง น้ำอิงตกประหม่า บัวรดน้ำ หล่นร่วงลงจากมืออย่างตกใจ ทำให้สิงหลอดจะยิ้มขำออกมาเสียไม่ได้