รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น
รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น
รัชวินทร์ แอนเดอร์สัน นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมผู้ประสบความสำเร็จและร่ำรวยมหาศาล กำลังขับรถจี๊ปคันโตมุ่งหน้าไปยังบ้านสวนของผู้เป็นยายเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวในต่างจังหวัด ตอนนี้เป็นช่วงแห่งการพักร้อนมาราธอนของเขา หลังจากทำงานอย่างหนักมาหลายปี จนกิจการทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาจึงอยากพักเงียบๆ เพื่อเลียแผลใจ จากการถูกทรยศหักหลัง เมื่อแฟนสาวที่คบหาดูใจกัน นอกใจไปมีผู้ชายคนอื่น
ความที่อยากขับรถเองและแวะซื้อของระหว่างทางเนื่องจากไม่ได้พักร้อนมานานแล้ว เขาจึงไม่มีคนขับรถให้ต้องวุ่นวาย ขับไปพักไป แวะดูข้าวของมากมายระหว่างทาง ซึ่งเขาไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว น้องชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ช่วยกันบริหารงานเป็นผู้สนับสนุนให้เขาพักร้อนได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
รถจี๊ปแล่นเข้ามาในอาณาเขตอันร่มรื่นของหมู่บ้านเล็กๆ ในต่างจังหวัด เขาฮัมเพลงไปพร้อมๆ กับการมองทัศนียภาพรอบข้างที่เขียวขจี ซึ่งหาชมได้ยากยิ่ง พยายามสลัดเรื่องราวเจ็บปวดในชีวิตทิ้งไปโดยสิ้น แม้เขาจะบอกใครๆ ว่าไม่เป็นอะไร แต่ความเจ็บลึกในอกที่ฝังรากลึกเนื่องจากแผลเหวอะหวะ ก็ยากยิ่งที่จะลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย เขาเป็นคนมีชีวิตมีจิตใจ ไม่ใช่หุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก ที่จะทำอะไรตามคำสั่ง เพราะทุกอย่างที่ทำ เขาทำมันด้วยใจ
เขายังจำได้ดีถึงคำพูดของน้องชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเอ่ยเตือนสติและเชื่อมั่นว่าเขาจะผ่านมันไปได้ด้วยดี
‘สักวันนายจะเจอผู้หญิงที่ดี ที่เหมาะสมคู่ควรจะอยู่เคียงข้างนาย ฉันเชื่อแบบนั้น’
เดรก... เป็นน้องชายที่เติบโตมาพร้อมๆ กับเขาในขณะอยู่เมืองนอก อายุห่างกันปีเดียว ปีนี้เขาอายุ 27 เดรก อายุ 26 และเขายังมีน้องชายร่วมสายเลือดอีกคนคือชัชวินทร์ อายุ 25 ปี
อี๊ด!!! เอี๊ยด!!!
เสียงเบรกรถกะทันหันของรัชวินทร์เบียดกับถนนแข็งๆ ที่เป็นหินบดหยาบ ซึ่งเป็นทางทอดตัวไปในหมู่บ้าน ชายหนุ่มรีบลงไปดูหน้ารถทันทีเพราะเมื่อครู่เขามัวแต่มองวิวด้านนอก และคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่ทันเห็นว่ามีผู้หญิงเดินตัดหน้ารถออกมาจากข้างทาง
“เป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงติดจะกังวลเอ่ยถามก่อนจะรีบเข้าไปดูบาดแผลตามเนื้อตัวของคนที่ล้มลงไปหน้ารถยนต์ แก้วกัลยาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะตอบว่าไม่เป็นไร แต่เธอก็ต้องอ้าปากค้าง ก่อนจะก้มหน้างุด
รัชวินทร์เองก็อึ้งไปเช่นเดียวกันเมื่อได้สบสายตาหวานหยดของคนตรงหน้า เขาค่อยๆ เชยคางเธอขึ้นมองดวงหน้างามอีกครั้งด้วยความตกตะลึง
“นางไม้หรือเปล่านี่ แต่เอ่อ... หน้าเธอคุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” คนถามเสียงเหมือนละเมอ เรียกสติให้แก้วกัลยาอีกครั้ง เธอกะพริบตาปริบๆ เพราะตัวเองก็เอาแต่มองเขาค้าง
“ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ” เธอเบี่ยงหน้าหนีจากมือหนาที่เชยคางเอาไว้อย่างนุ่มนวล ก่อนจะพยายามลุกขึ้น เขาจึงรีบประคองเอาไว้
“ขอตัวก่อนนะคะ” นึกน้อยใจวูบขึ้นมาในอกเมื่อเขาจำเธอไม่ได้ อยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“อ้าวคุณ อย่าเพิ่งไปสิ คุณอยู่ในหมู่บ้านนี้เหรอครับ” รัชวินทร์ตะโกนถาม เมื่อเห็นร่างนุ่มนิ่มรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับเกาหัวไปมาเพราะเธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“เอาน่า ยังไงก็อยู่ที่นี่ เขาคงหาเธอเจอ ในเมื่อหมู่บ้านเล็กๆ ที่นี่มีกันอยู่ไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นเอง แต่หน้าคุ้นมาก เหมือน!!! บ้าเอ๊ย เพ้อแล้วแก คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง”
เขาคงคิดมากไปเอง ไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง รัชวินทร์เดินไปขึ้นรถก่อนจะขับไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึงบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ หลายปีแล้วที่ไม่ได้กลับมาเยี่ยมผู้เป็นตาและยายเลย คงตั้งแต่ที่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ และทำงานอย่างเต็มตัว ไหนต้องรับช่วงต่อกิจการจากปู่และย่าที่โน่นอีก
เหตุผลสำคัญอีกข้อคือเมื่อหลายปีก่อน ตากับยายเอ่ยเรื่องที่จะให้เขาแต่งงานกับเด็กในอุปการะของท่าน ซึ่งเขาไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบนั้นเลยสักนิด แม้จะยอมรับว่าเธอน่ารัก แต่เขาก็ค้านและปฏิเสธหัวชนฝา เพราะอยากที่จะเลือกด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดของมารดาหลายปี
นอกเหนือจากที่ตอนนี้เขาอยากกลับมาพักผ่อนที่นี่อย่างสงบ ตัดขาดจากความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง ส่วนเรื่องการคลุมถุงชนเมื่อหลายปีก่อน คิดว่าพวกท่านคงจะลืมมันไปแล้ว หรือไม่ก็เข้าใจดีว่าเขาไม่ปรารถนาให้มันเป็นเช่นนั้น หรือป่านนี้เด็กนั่นคงจะมีคนรักและแต่งงานไปแล้วก็ได้ เพราะหลังจากเขาไปอยู่เมืองนอกกับปู่ย่า ก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเจ้าหล่อนให้เขาได้ระคายหูอีกเลย
ตอนที่เขาคิดว่าจะไม่กลับมาเมืองไทยอีก มีแต่บิดามารดาเท่านั้นที่หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนตาและยาย เขาเคยสงสัยว่าเหตุใดมารดาจึงไม่รับท่านทั้งสองไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ต้องอัตคัดแบบนี้ แต่คำตอบที่ได้รับทำให้เขาไร้เหตุผลอันใดมาคัดค้านอีก เมื่อพวกท่านต้องการอยู่กับธรรมชาติ และผูกพันกับบ้านเก่าที่นี่มาก ตั้งแต่คุณตาจีบคุณยายใหม่ๆ และทั้งสองก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกันนับแต่นั้นมา
นี่เป็นรอบหลายปีที่เขาทำงานอย่างหนัก และสนุกกับงานที่ทำ จนเรียกว่าบ้างาน ถ้าไม่เพราะบิดามารดาอยากกลับมาอยู่บ้านสวน เขาคงยังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้
การมาเยี่ยมคุณตาและคุณยายก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะท่านบ่นคิดถึงเขาอยู่บ่อยๆ อยากเห็นหน้าเขานอกจากจดหมายที่เขาส่งมาหาพวกท่านด้วยความคิดถึง พวกท่านมักตัดพ้อไปในจดหมาย เขาเองรู้สึกผิดจึงส่งของขวัญมาให้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองทุกครั้งที่มีโอกาส และไม่เคยพลาดการตอบจดหมายของพวกท่านเลย
ตากับยายของเขายึดถือความสันโดษและชอบอยู่อย่างสงบกับธรรมชาติ ท่านนิยมวิธีการส่งความคิดถึงทางจดหมายเหมือนรุ่นที่พวกท่านจีบกันเมื่อครั้งยังหนุ่มสาว เพราะให้ความละเมียดละไมในการใส่อารมณ์ความรู้สึกอย่างสละสลวยไปตามเนื้อความที่ซาบซึ้งและห่วงหาอาทรส่งถึงกัน
บิดาและมารดาของเขาส่งคนมาดูแลพวกท่านอย่างใกล้ชิด เรียกว่าไว้ใจได้ วางใจได้เลยทีเดียว ส่วนปู่กับย่าของเขานั้นเป็นคู่รักที่รักกันมาก ถึงจะอายุมากแล้วก็ยังชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลก แตกต่างจากคุณยาและคุณยายเพราะพวกท่านรักความสงบ
คุณปู่กับคุณย่าของเขานั้นชอบทำอะไรเหมือนวัยรุ่น ออกจะเป็นแนวฮาๆ และตลกเสียด้วยซ้ำ พวกท่านยังไปดูหนังด้วยกัน ฟังเพลงมุ้งมิ้งกันสองคน ว่ายน้ำกัน ขับเรือ หรือไม่ก็เดินออกกำลังกายด้วยกัน มันเป็นภาพชินตาที่เขาเห็นบ่อยๆ เมื่อติดต่อกันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน
อากาศเย็นสบายที่กระทบมาโดนตัวของเขาทำให้ชายหนุ่มหลับตาแล้วยกมือขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มที่ บรรยากาศแบบนี้นี่เอง บิดามารดาจึงอยากมาพักผ่อนที่นี่ เขาเองอยากจะอยู่ที่นี่ให้นานเหลือเกิน เพราะภาระงานที่สะสางเสร็จสิ้น และไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แถมยังมีน้องชายช่วยดูแลให้อีกแรง ทุกอย่างก็ขับเคลื่อนไปตามที่วางเอาไว้ อีกอย่างเพราะเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ทันสมัย ไปไหนมาไหนก็ทำงานได้ แค่มีอุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์พกพา พ่วงท้ายด้วยอินเตอร์เน็ตแค่นี้ก็สะดวกสบายหายห่วง ไม่ว่าจะนอนพักผ่อนอยู่ส่วนไหนของโลก ก็ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ตาราร์ด” เสียงอ่อนโยนเอื้อเอ็นดูของผู้เป็นยายทำให้รัชวินทร์ลดมือลงและลืมตามองเบื้องหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่านกำลังยืนยิ้มอยู่ที่บันไดบ้านหลังใหญ่
“คุณยาย” รัชวินทร์เดินเข้าไปสู่อ้อมกอดของคุณยายอย่างแสนคิดถึง ไม่เจอกันหลายปีคุณยายของเขายังแข็งแรงอยู่เลย อาจเพราะเป็นคนรักสุขภาพและอยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์แบบนี้ เลยดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงหลายปี
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด