การแก้ปัญหามีมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการแต่งงานก็ได้ ไม่ใช่หรือ เขาบอกเธอด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู และนั่นคือคำตอบของเหตุผลทั้งหมดที่เขาแต่งงานกับเธอ
การแก้ปัญหามีมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการแต่งงานก็ได้ ไม่ใช่หรือ เขาบอกเธอด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู และนั่นคือคำตอบของเหตุผลทั้งหมดที่เขาแต่งงานกับเธอ
หนึ่งฤทัย นุชาบริรักษ์ หญิงสาววัยยี่สิบสอง มองบรรยากาศของบ้านสวนคุณยายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ เธอย้ายตามคุณยายเยื้อน อารยสกุลเดช กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของท่านที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่คุณตาได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน
บิดามารดาของเธอนั้นเสียชีวิตนานแล้วตั้งแต่เธอยังเล็กๆ เธอจึงอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยายมาตลอด
“อุ๊ย!” หนึ่งฤทัยอุทานเมื่อมีลูกบอลกระเด็นมาโดนตัวเธอ พอหันไปก็เห็นเด็กชายตัวน้อยกำลังยืนตาแป๋วอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษครับ” เด็กน้อยรีบเอ่ยขอโทษ วิ่งเข้ามาเก็บลูกบอลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะสะดุดหกล้มด้วยความซุ่มซ่าม
“โอ๊ย!” หลังจากเสียงร้อง เด็กชายกิต ธาดานรจักรวัยแปดขวบก็เบะปากทำท่าจะร้องไห้ นั่นทำให้หนึ่งฤทัยต้องรีบเข้าไปหาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในทันที
“จับกบได้กี่ตัวจ๊ะ” ประโยคนั้นทำให้กิตเงียบกริบ มองหน้าของพี่สาวคนสวยตาปริบๆ
“กบเหรอครับ”
“ใช่จ้ะ ก็เมื่อกี้เราจับกบไง ได้กี่ตัวเอ่ย” เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยไม่ร้องไห้อีก หนึ่งฤทัยจึงชวนอีกฝ่ายคุยต่อในทันที
“ไม่... ไม่ได้สักตัวเลยครับ” เด็กน้อยตอบอย่างแสนซื่อ กะพริบตาปริบๆ มองพี่สาวคนสวยตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ไหนพี่ดูหัวเข่าหน่อยสิจ๊ะ” เธอก้มลงไปมองเข่าของเด็กน้อย ปรากฏว่ามีแผลและมีเลือดไหลซึมออกมา จำได้ว่าตอนเด็กๆ นั้น เธอหกล้มแบบนี้ก็ร้องไห้โยเย กิตตรงหน้าถือว่าเข้มแข็งมากกว่าเธอมากที่ทนความเจ็บปวดได้ ไม่เอาแต่ร้องไห้แบบเธอ แม้ว่าคุณตาคุณยายจะเบี่ยงเบนความสนใจเช่นไรก็ไม่เป็นผล เธอยิ้มเมื่อนึกถึงประโยคบอกเล่าของคุณยายที่เล่าให้เธอฟังว่าเมื่อตอนสมัยเด็กนั้นเธอขี้แยเพียงใด
“เจ็บจังเลยครับ”
“เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะ”
“ทำแผลแล้วจะเจ็บไหมครับ”
“ทำแผลแล้วจะหายเจ็บจ้ะ”
“จริงๆ เหรอครับ อย่าหลอกผมนะ”
“ไม่หลอกจ้ะ”
“กิต อยู่นี่เองลูก เป็นอะไรหรือเปล่า” ภีมพัฒน์ ธาดานรจักร เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวน้อยกำลังอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายมาอยู่ เขาพอทราบข่าวคราวอยู่บ้างแล้ว
“คุณพ่อ” เด็กชายตัวน้อยรีบลุกและวิ่งไปหาบิดาโดยเร็ว ก่อนจะกอดคอหนาของบิดาเอาไว้ ออดอ้อนบอกว่าเจ็บเข่า
“เจ็บเข่าจังครับ”
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพ่อใส่ยาให้”
“แต่พี่สาวคนสวยบอกว่าจะใส่ยาให้” เด็กชายรีบเอ่ยบอกหันไปมองหนึ่งฤทัยที่ยืนมองสองพ่อลูกอยู่เงียบๆ เธอยิ้มให้เพื่อนบ้านหนุ่ม ในขณะที่ภีมพัฒน์เองก็ยิ้มตอบกลับไป หัวใจของเขากระตุกวูบเมื่อได้สบสายตาหวานละมุนของหญิงสาวตรงหน้า
“อย่าไปรบกวนพี่เขาสิครับ” ภีมพัฒน์รีบปรามบุตรชาย นั่นทำให้เด็กน้อยหน้าม่อยไปในทันที
“ไม่ได้เหรอครับ” เสียงอ่อยเอ่ยถาม พลางมองพี่สาวคนสวยที่เข้ามาช่วยเหลือเอาไว้ตาละห้อย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันบอกเขาไปแล้วว่าจะทำแผลให้ เดี๋ยวฉันทำแผลให้เองนะคะ” หนึ่งฤทัยยิ้มอย่างเป็นมิตรพลางเอ่ยบอกคนเป็นพ่อ
“อย่างนั้นก็ได้ครับ” เขาเห็นแววตาออดอ้อนของบุตรชายก็ใจอ่อนยวบ น่าแปลกที่กิตไม่ร้องเลยสักนิด ปกติแล้วเห็นเลือดหรือมีแผลต้องร้องไห้งอแงแล้วนั่นเอง
“คุณเพิ่งย้ายมาใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ ที่นี่เป็นบ้านเกิดของคุณยายน่ะค่ะ ฉันชื่อหนึ่งฤทัย เรียกหนึ่งก็ได้ค่ะ ฉันเป็นลูกคนเดียวน่ะค่ะเลยมีชื่อเล่นว่าหนึ่ง”
“ผมชื่อภีมพัฒน์ครับ เรียกภีมก็ได้” เขาแนะนำตัวเองบ้าง
“ผมชื่อน้องกิตครับ เรียกน้องกิตก็ได้” ประโยคของเด็กน้อยที่รีบแนะนำตัว ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองถึงกับหัวเราะออกมาในทันที
“น้องกิตเก่งมากเลยค่ะ ไม่ร้องเลย ทำแผลเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็หายนะคะ เพี้ยงๆ” เธอปิดแผลให้เด็กน้อยเสร็จก็เป่าให้เบาๆ พร้อมทั้งรอยยิ้มเอ็นดู
“ผมย้ายมาอยู่ที่นี่หลายปีแล้วครับ เห็นว่าบ้านของคุณหนึ่งปิดมาหลายปี” เขาอยู่เชียงใหม่มาตั้งแต่เกิด แต่ย้ายบ้านจากอำเภอหนึ่งมาอยู่อีกอำเภอหนึ่ง
“คุณยายย้ายไปอยู่กับคุณตาน่ะค่ะ พอคุณตาเสียก็คิดถึงบ้านเกิดตามประสาคนแก่ ท่านเลยพาหนึ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ”
“จริงนะครับ คนเราพอแก่ตัวไปก็มักจะคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง”
“หนึ่งอยู่กับคุณตาคุณยายตั้งแต่เด็กน่ะค่ะ คุณพ่อคุณแม่จากไปตั้งแต่หนึ่งยังแบเบาะ” เธอเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาได้ฟัง ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวพรรณผุดผ่อง คิ้วเรียวสวย ริมฝีปากเต็มอิ่ม จมูกโด่งงามและดวงตากลมโต รวมถึงรูปร่างบอบบางอรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมของเธอ ทำให้ภีมพัฒน์หัวใจกระตุก เขาตกหลุมรักเธออย่างไม่ทันตั้งตัว
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านเกิดนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยเหลือก็บอกได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ หนึ่งขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เธอพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มกระชากใจของเธอทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นแรง ยิ้มออกมาอย่างเผลอไผล
“คุณภีมยิ้มอะไรคะ”
“เอ่อ... เปล่าครับ ผมยิ้มไม่ได้เหรอครับ” เขาอุ้มบุตรชายตัวน้อย เดินมาส่งเธอที่บ้านจึงเอ่ยถามอย่างเก้อๆ
“ยิ้มได้ค่ะ แต่คุณยิ้มไม่หุบเลย ฉันก็เลยถามน่ะค่ะ” เธอยิ้มให้เขา ทำให้ภีมพัฒน์ยิ้มหนักกว่าเดิม
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือลูกชายของผมเอาไว้”
“ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกค่ะ น้องกิตแค่หกล้มเท่านั้นเอง”
“ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณมากๆ ครับ”
“คุณแม่ของน้องกิตล่ะคะ ไม่เห็นเลย” ประโยคของหญิงสาวทำให้กิตถึงกับหน้าม่อย นั่นจึงทำให้เธอกะพริบตาปริบๆ มองเด็กน้อยแล้วรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ผมอยู่กับน้องกิตสองคนครับ” ประโยคของภีมพัฒน์ทำให้หนึ่งฤทัยเริ่มเข้าใจ
“ขอโทษนะคะไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ผมอยากได้พี่หนึ่งเป็นคุณแม่จัง” จู่ๆ เด็กน้อยก็พูดทะลุกลางป้องออกมา ทำเอาหนึ่งฤทัยที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงกับอ้าปากค้าง
“ไม่เอาครับน้องกิต ไม่พูดแบบนั้นนะครับ”
“น้องกิตขอโทษครับ แต่น้องกิตอยากมีคุณแม่เหมือนคนอื่นบ้าง” คนพูดกอดคอหนาของบิดาอย่างออดอ้อน ทำหน้าม่อยเช่นเดิม นั่นทำให้หนึ่งฤทัยรู้สึกเอ็นดูและสงสารอยู่ไม่น้อย เธอไม่ได้รู้สึกโกรธเด็กน้อยเลยสักนิด
“คุณยายกำลังเตรียมอาหารน่ะค่ะ กลิ่นหอมเชียว หนึ่งออกมาเดินเล่นคงต้องไปช่วยคุณยายทำอาหารแล้วค่ะ” เธอพูดแล้วยิ้มให้เขา
“หอมจังเลยครับ” เด็กน้อยยังไม่อยากจากหนึ่งฤทัยไปเลยรีบพูดขึ้น
“วันนี้พี่หนึ่งทำอาหารเยอะแยะเลย มากินด้วยกันไหมคะ” ด้วยว่าสงสารสายตาเศร้าๆ ปนออดอ้อนนั้นทำให้เธอจำต้องเอ่ยปากชวน
“กินได้เหรอครับ” น้ำเสียงและท่าทีตื่นเต้นของเด็กน้อยทำให้หนึ่งฤทัยยิ้มเอ็นดูส่งไปให้
“กินได้สิครับ”
“ไม่รบกวนพี่หนึ่งสิครับ” ภีมรีบปรามเอาไว้
“รบกวนเหรอครับ” เด็กน้อยเอ่ยถามเสียงเศร้าอีกเช่นเคย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณภีม เราเป็นเพื่อนบ้านกัน หนึ่งขอเชิญคุณภีมกับน้องกิตมารับประทานอาหารเย็นด้วยกันนะคะ จะได้ทำความรู้จักกับคุณยายด้วย คุณยายของหนึ่งใจดีค่ะ ท่านชอบทำอาหารด้วยค่ะ” เธอยิ้มกว้างให้เขา รอยยิ้มสดใสและจริงใจของเธอทำให้ภีมพัฒน์ต้องเดินตามเข้าไปในบ้าน
“คุณยายขา วันนี้หนึ่งชวนเพื่อนบ้านของเรามากินข้าวด้วยนะคะ” ประโยคของหนึ่งฤทัยทำให้คุณยายสูงวัยท่าทางใจดีเดินออกมาจากห้องครัว ท่านดูกระฉับกระเฉงและยิ้มง่ายเหมือนหลานสาวคนเดียว
“ยินดีมากจ้ะ” คุณยายพูดด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ” สองพูดลูกพูดพร้อมกันก่อนจะยกมือไหว้หญิงชรา
“ไหว้พระเถอะจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“นี่คุณภีมพัฒน์ค่ะคุณยาย ส่วนนี่น้องกิตลูกของคุณภีมพัฒน์น่ะค่ะ” หนึ่งฤทัยถือโอกาสแนะนำให้คุณยายได้รู้จักสองพ่อลูก
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
“เธอคือเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการ แต่กลับเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้” แต่เมื่อเขายิ่งอยู่ใกล้เธอ เขากลับยิ่งอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ทว่าเธอไม่ใช่หมากให้เขาควบคุม เขาต่างหากที่จะถูกเธอควบคุมและยอมจำนนรักต่อเธอ
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
วังวนแห่งกามราคะ หากเผลอกายถลำใจ ก็ยากนักจะถอนตัว ยิ่งอยากหยุดกลับยิ่งโหยหาลุ่มหลง เพียงสบตา ก็เปียกแฉะร้อนฉ่าไปหมดแล้ว... ++++++++++++++++ EX 1 : “ พี่อาร์มขา ” “ ขา ” “ เราควรจบแค่นี้ หยุดมัน แล้วปล่อยเรไปเถอะนะคะ ” เธอวอนขอเขาอย่างหมดท่า แต่สุ้มเสียงกระเส่าสั่นกับร่างกายที่กำลังอ่อนระทวยมันขัดกับคำพูดเหลือเกิน เธอถูกรั้งเข้าสู่อ้อมอกกว้าง และถูกเขาซุกไซ้ไปทั่วซอกคอ ดมดอม ดูดเม้ม ขณะที่มือหนึ่งล้วงเข้าใต้ชายเสื้อ อีกข้างสอดซุกลงในขอบกระโปรง “ พี่อาร์ม ได้ยินที่เรพูดไหมคะ ” “ ได้ยินค่ะ ” “ ได้ยินแล้วทำไมไม่หยุด ” “ เรอยากให้พี่หยุดจริงเหรอ ” “ จริง... จริงสิคะ ” “ ถ้าอยากให้พี่หยุดจริง มือเรคงไม่กุมเป้ากางเกงพี่แน่นขนาดนี้หรอก ” ................................... EX 2 : เธอซ่านเสียวจนหูอื้อตาลายเมื่อถูกความแข็งแกร่งโอฬารทั้งสามทะลวงลึกทั้งรูหน้า รูหลัง และโพรงปาก ลีลากระทั้นบั้นเด้าที่ไม่มีใครยอมใคร เข้าสุด ออกสุด หนักแน่น ถาโถมจนไม่ได้หายใจหายคอ ส่งเธอสู่จุดหมายปลายทางนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่พวกเขาจะหลั่งในตัวเธอบ้าง เสียงคำรามลึกแหบห้าวประสานเมื่อพบกับความสุขสมอันร้อนเร่า น้ำใคร่ขาวขุ่นเอ่อล้นในทุกรูร่อง แต่ยัง พวกเขายังไม่พอ ราตรีบนรถทัวร์นี้ยังอีกยาวไกล คืนครบรอบแต่งงานทั้งที ต้องจัดของขวัญให้ภรรยาคนดีอย่างสาสม !
"เขาลือกันว่าคู่หมั้นของคุณฮั่วเป็นคนบ้านนอก ไม่มีการศึกษาและแถมยังหน้าตาขี้เหร่ซะอีก"เมื่อซูฉิงปรากฏตัวอยู่ ในงานเลี้ยง ทุกคนในงานล้วนตกตะลึงไปหมด! "พระเจ้า ขี้เหร่ซะทีไหน!" "ได้ข่าวว่าราชาภาพยนตร์เป็นน้องของเธอด้วย" "พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับแรกของโลกเลยนะ" "leo นักออกแบบหญิงที่ลึกลับคนนั้นก็คือเธอ!" เมื่อตัวจริงของเธอค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ทุกคนพากันตกตะลึงไปหมด แต่แล้วก็เป็นเป็นไง ฮั่วหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอสักหน่อย ในวันเดียวกัน ฮั่วซื่อ กรุ๊ปก็โพสต์ข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า"เราสองคนรักกันมาก และกำลังเตรียมจะแต่งงาน" คนภายนอก:"......!!!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด