ด้วยบุคลิกอันแสนเฉิ่มเชยของ "ปลอบขวัญ" ครูสาววัยยี่สิบสี่ปี ทำให้หญิงสาวผู้ไม่เคยมีเรื่องสามีและลูกอยู่ในสมองแม้แต่น้อย แต่เพียงคืนเดียวที่เธอตัดสินใจออกไปเที่ยวผับตามคำชวนของเพื่อนสาว จู่ๆ ก็ถูก "อุ้ม" ไปขังยังคฤหาสน์หลังใหญ่เพื่อเป็นเจ้าสาวของผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า แถม "ได้สามีอย่างไม่เต็มใจ" ไม่ทันข้ามคืน คนที่ไม่คิดจะมีลูกผัวอย่างเธอ ก็กลายเป็น "คุณยายยังสาว" เสียแล้วนี่มันเกิดเรื่องประหลาดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ เมื่อ "รชานนท์ อัศววินันทร์" นักธุรกิจหนุ่มผู้มีอิทธิพลและความอำมหิตรู้ว่าปลอมขวัญไม่ได้มีดีแค่ไหวพริบและความฉลาด แต่ยัง "แสบ" ตาใสๆ แม้จะไม่ชอบมีเมียแบบตกกระไดพลอยโจนสักเท่าไร แต่เพื่อไม่ให้เสียการปกครอง เขาก็ต้องใช้สัญชาตญาณความหื่นในตัวกำราบเธอเสียให้ระทวยตั้งแต่วันแรก จะได้รู้ว่า ‘ของแรงจริง’ แค่ทีเดียวก็ ‘ติด’ แล้วไม่มีวันปล่อยให้ลูกเมียอยู่ห่างเตียงแม้แต่คืนเดียว ......... “ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า” นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ประกบหมับที่ขอบหูของเขาก่อนจะบิดเต็มแรง “โอ๊ย ! ” ชายหนุ่มอุทาน เหลือบตามองเธออย่างโมโห ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าขึ้นสูง แล้วงับติ่งหูเธอ เลียไล้เบาๆ ครั้งแรกเธอจั๊กจี้ แต่นาทีต่อมากลับเริ่มเคลิบเคลิ้ม ลมหายใจอุ่นจัดเป่ารดพวงแก้มนุ่ม พร้อมเสียงกระซิบที่ทำเอาเธอสะท้านไปทั้งตัว “ว่าไงแมวพยศ คุณจะทำร้ายผมตรงไหนอีก คุณทำตรงไหน ผมก็จะทำคุณตรงนั้น”
“แม่มณี แม่มณีจ๋า” เสียงบุรุษแว่วหวานเพรียกหานางอันเป็นที่รักผ่านทางกระจกฉลุลายโบราณซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างโลกปัจจุบันและอดีต
“คุณหลวงเจ้าคะ” หญิงสาวแสนสวยก้าวผ่านกระจกสู่อดีตกาลสมัยรัชกาลที่ห้า เพื่อไปหาเนื้อคู่ข้ามภพ
ภาพในละครตัดลงเพียงเท่านั้น แล้วมีโฆษณาคั่น ระหว่างนี้ปราจีนซึ่งนั่งกินข้าวโพดคั่วอยู่บนพื้นปูเสื่อน้ำมันหน้าจอโทรทัศน์ใหญ่ได้หันมาคุยฟุ้งกับเพื่อนสาวซึ่งนั่งตรวจการบ้านนักเรียนไปพลางๆ อยู่บนโซฟา
“แกว่าไหมขวัญ คุณหลวงนี่ล้อหล่อเนอะ ทำยังไงฉันถึงจะได้ย้อนเวลากลับไปเจอผู้ชายหล่อคลาสสิกแบบนี้บ้าง”
“ไร้สาระ” ปลอบขวัญเบ้ปาก ขณะตวัดปลายปากกาขีดเครื่องหมายถูกผิดลงบนกระดาษด้วยความชำนาญ ปากก็พูด “หนังแบบนี้ก็ช่างมีคนดูอยู่ได้เนอะ จะเป็นไปได้ยังไงกันที่จะมีคนสามารถเจาะเวลาไปหาอดีตได้”
“ก็นี่มันละครนี่ยะ เขาให้ดูเพื่อความบันเทิง แกจะมาซีเรียสถามหาความเป็นจริงเป็นเท็จไปทำไม” ปราจีนค้อน
“ฉันไม่ชอบดูละครน้ำเน่า น่าขำจริงๆ อดีตกับปัจจุบันจะมาเชื่อมต่อกันได้ยังไง”
“งั้นแกก็อยู่ในโลกความเป็นจริงที่แสนน่าเบื่อไปเถอะย่ะยัยขวัญ วันๆ เอาแต่สอนหนังสือ รบกับเด็กซนๆ ทะเลาะกับผู้ปกครองบางคนที่เลี้ยงลูกหลานยังกับไข่ในหิน ผัวแกก็ไม่มี ลูกก็ไม่มี แถมยังพกงานกลับมาทำต่อที่บ้านอีก”
“ไม่เห็นจะน่าเบื่อตรงไหน” หญิงสาววางปากกาในมือลง ลอยหน้าลอยตา “ไม่มีผัวสิดีจะได้ไม่มีภาระ อีกอย่างนะ แค่ดูแลลูกคนอื่นในโรงเรียน ฉันก็เหนื่อยพอแล้ว ไม่คิดจะมีลูกเป็นของตัวเองให้เหนื่อยเพิ่มหรอกย่ะ ชีวิตโสดแสนเสรี จะกินอะไร จะนอนเมื่อไหร่ หรือจะออกแรดกลางคืนก็ไม่มีใครว่า แกลองคิดดูสิว่าถ้าแต่งงานแล้วจะมีโอกาสแบบนี้เหรอ”
“ต๊าย!” ปราจีนห่อปาก ตาโต ยัดข้าวโพดเข้าปากทั้งกำมือ “เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ไม่อยากแต่งงานเพราะกลัวอดแรด ว่าแต่คืนนี้ไปแรดที่ไหนกันดีจ๊ะ ฉลองที่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์”
“ผับไง ดีไหม”
“ไม่กลัวเด็กนักเรียนเอาไปพูดถึงเหรอ”
“นอกเวลาราชการนี่จ๊ะ จะกลัวอะไร มีกฎหมายข้อไหนห้ามครูเที่ยวกลางคืนบ้างละ”
“อะ โอเค เดี๋ยวฉันดูละครจบก่อนแล้วจะกลับบ้าน ตอนดึกๆ สักห้าทุ่มจะมารับนะจ๊ะ”
บทสนทนายุติลงเพียงเท่านั้นเมื่อโฆษณาถูกตัด ละครของนักประพันธ์ยอดฝีมือกำลังโลดแล่นบนหน้าจอ พาให้ปราจีนเคลิบเคลิ้มเลิกให้ความสนใจเพื่อนไปเลย
ปลอบขวัญส่ายหน้า หยิบสมุดเล่มต่อไปมาตรวจ พลางเหลือบตามองโทรทัศน์เป็นระยะ อดคิดไม่ได้ว่า
‘หากการเดินทางข้ามกาลเวลามีจริง ฉันอยากรู้อนาคตมากกว่าอดีต แต่ก็อย่างว่านั่นละ... เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเพ้อฝันและไม่มีวันเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน!’
ช่วงดึกของคืนนี้ ปราจีนมารับปลอบขวัญตรงเวลาเป๊ะ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่นาทีเดียว
ปราจีนสวมเสื้อแขนกุด กระโปรงสั้นเพียงคืบ แต่งหน้าจัดจ้าน แต่กลับไม่อาจเทียบรัศมีเพื่อนสนิทที่สลัดคราบอาจารย์แล้วแปลงโฉมเป็น ‘ผีเสื้อราตรี’ ได้อย่างแนบเนียน...
เริ่มจากผมยาวที่ดัดลอนแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ใบหน้าปราศจากแว่นสายตา ตกแต่งรูปหน้าด้วยเครื่องสำอางโทนสีชมพู ริมฝีปากสีแดงเจิดจ้า สวมชุดเกาะอกอวดลำคอระหงและไหล่ลาดเนียน ตัวเสื้อรัดและเล็กจนขอบผ้าลอยอยู่เหนือสะดือเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบนวลเนียน กระโปรงสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยแต่ผ่าข้างอวดปลีขาเรียวสวย
สถานเริงรมย์คึกคัก นักท่องราตรีดื่ม กิน เต้น อย่างเมามันส์ ปลอบขวัญโยกตัวตามจังหวะดนตรี มือหนึ่งถือแก้วเหล้า ส่วนอีกมือโบกสะบัด
ปราจีนปวดปัสสาวะ ระหว่างไปห้องน้ำ เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมสูทสีดำ มีผู้ติดตามกล้ามโตเดินตามสองคน
เธอนึกขำ มาเที่ยวผับ แต่ใส่สูทเต็มยศ ยังกับมาเฟีย... แต่คงเป็นมาเฟียที่หล่อที่สุดในโลก
หลายต่อหลายคนหันไปมองชายหนุ่มผู้เดินนำหน้าคนติดตาม แน่นอนว่าลักษณะการแต่งกายของเขาอาจเป็นจุดเด่น แต่สิ่งที่เด่นสุดคือใบหน้าอันหล่อเหลา ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นคงยากที่จะละสายตาไปทางอื่นได้
แวบหนึ่งที่เขาปรายตามาทางเธอ เธอจึงส่งยิ้มให้ แล้วก็ต้องยิ้มเก้ออยู่อย่างนั้น เมื่อเขามองเมินไปทางอื่น เสมือนว่าเธอไร้ตัวตน “ผู้ชายอะไรหล่อแต่หยิ่ง น่าให้ไปเจอยัยขวัญจริงๆ รายนั้นเกลียดคนแบบนี้ที่สุด” ปราจีนบ่นก่อนจะเลิกให้ความสนใจบุรุษแปลกหน้าไว้เพียงเท่านั้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป จึงไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเพื่อนสาวกำลังเจอกับอะไร
“ว้าย!” ปลอบขวัญอุทานเมื่อเธอถอยหลังไปชนใครคนหนึ่งเข้าเต็มแรง แก้วเหล้าในมือกระฉอกเกือบหมด น้ำเมาราดรดอกเธอ และบางส่วนได้กระเซ็นใส่ชายคนที่เธอพลั้งไปชน
“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าเต็มตา
เธอเบิกตากว้างเมื่อสานสบนัยน์ตาคมกริบสีดำสนิทคู่นั้น เขาสูงมากทีเดียว... สูงจนเธอต้องแหงนคอตั้งบ่า แววตาเขานิ่งสงบพอๆ กับสีหน้าที่เฉยชา
ปลอบขวัญลนลานเอามือเช็ดน้ำแอลกอฮอล์ที่เปียกชุ่มเนินอกอย่างทุลักทุเล จู่ๆ ชายหนุ่มก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าหวานให้เธอ “เอ่อ... ขอบ ขอบคุณค่ะ” ปลอบขวัญรับผ้าด้วยท่าทางเงอะงะ ซับน้ำออกจนแห้ง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเสื้อเขาก็โดนน้ำกระเซ็นใส่เช่นกัน
เขายืนนิ่งขึง จนเธอใช้ผ้าแตะๆ เสื้อบริเวณอกของเขาจนพอใจแล้วนั่นละ เขาถึงได้ขยับตัวเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองอย่างเจื่อนๆ ส่งผ้าคืนให้
ดวงตาคู่คมสีดำสนิทหลุบลงมองผ้า แล้วหันไปพยักหน้าให้ชายหัวล้าน “โจ้ จัดการที”
“รับทราบครับ” โจ้ก้มศีรษะ รับผ้าจากหญิงสาวแล้วนำไปทิ้งถังขยะ
“ผ้ายังดีอยู่เลย ไม่น่าทิ้ง” ปลอบขวัญรำพึงอย่างเสียดายผ้าผืนน้อยทว่าปักลวดลายสวยงามผืนนั้น
“มันเป็นของผม ผมมีสิทธิ์ทิ้งไม่ใช่หรือครับ” เขาย้อนถาม และเธอก็เถียงไม่ออก ได้แต่ยืนคอแข็ง กำลังจะขอตัวไปให้ห่างผู้ชายน่ากลัวคนนี้ ทว่าเขากลับเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาเสียก่อน “ขอโทษนะครับ ผมคงต้องเชิญคุณไปที่หนึ่ง”
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!