ความบังเอิญทำให้เธอเหงา และความเศร้าทำให้เธอพลีกายยั่วยวนเด็กหนุ่ม ม.ปลาย ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้เธอตั้งครรภ์ สถานการณ์กดดันหลายอย่างทำให้เธออุ้มท้องหนีไปอยู่ที่อื่น 7 ปีผ่านไป เธอได้พบเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มอ่อนเดียงสาอีกต่อไป ทว่าเป็นผู้ชายเต็มตัวที่มีความแค้นฝังอยู่ในหัว โทษทัณฑ์ที่เธอเปิดซิงเขาแล้วหนีไป คือเธอต้องอยู่กับเขาตราบจนนิรันดร์ !
ปรียานุชหมุนซ้ายหันขวาอยู่หน้ากระจกบานโต เธอสวมชุดเดรส กระโปรงสั้นอัดจีบเหนือเข่า สม็อกหลัง เนื้อผ้าสีชมพูสดใส ผมยาวเป็นลอนคลื่นมัดรวบไว้ด้านหลัง ทำให้เธอดูราวกับสาวน้อยอายุ 17 ทั้งๆ ที่อายุ 22 ปีแล้ว
หลังจากแต่งตัวเสร็จก็เข้าครัวเพื่อหาน้ำดื่มก่อนออกไปข้างนอกกับมารดาบุญธรรม แต่กลับเจอใครคนหนึ่งยืนอยู่หน้าตู้เย็น เขาหันมามองเธอ เธอก็มองเขา
ตาต่อตาประสานกัน…
โอ้โห เขาหล่อใช่ย่อยเลยล่ะ คิ้วเข้ม ผิวขาว ตาคม ขนตายาว ปากแดง น่าจะไปเป็นดาราหรือนายแบบได้เลย อันที่จริงเขาก็ถูกสเปคเธออยู่หรอกนะ
เสียอย่างเดียว…เขายังเรียนไม่จบ
เห็นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เป็นชุดนักเรียนมัธยมปลาย ชายเสื้อพ้นออกมานอกขอบกางเกง มีชื่อสีน้ำเงินปักที่อกว่า ‘รเมศ ประสิทธิ์โยธิน’
คงเป็นเพื่อนของภาคภูมิล่ะมั้ง เห็นว่าวันนี้จะพาเพื่อนมาทำรายงานที่บ้าน แต่เพิ่งจะรู้แฮะว่าน้องชายต่างสายเลือดของเธอมีเพื่อนหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ด้วย
“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้เธอ ดวงตาคมพราวระยับ “เป็นพี่สาวของไอ้ภูมิใช่ไหม”
หญิงสาวกระพริบตาปริบๆ เพื่อขับไล่ความคิดวุ่นวายออกจากสมอง
“ใช่จ้ะ มาทำรายงานกันเหรอ”
“ครับ” เขาขยับถอยออกมา ในขณะที่เธอเดินไปเปิดตู้เย็น ก้มหาขวดน้ำ ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าสายตาคมกริบจ้องมองเธอจากทางด้านหลัง แล้วหยุดนิ่งอยู่ที่สะโพกกลมมน และขาอ่อนขาวสวย
เธอหยิบขวดน้ำมาเปิดฝาแล้วดื่ม จากนั้นเก็บเข้าที่เดิม หันขวับกลับมาอีกทีก็ชนเข้ากับแผงอกกว้างของเด็กหนุ่ม ม.ปลาย
“อุ๊ย ! ”
แขนแข็งแรงกอดรัดเอวเธอไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ ก่อนที่ริมฝีปากสีแดงสวยจะยกยิ้ม
“ไม่ระวังเลยนะครับพี่”
ให้ตายสิ ทำไมเธอต้องหัวใจเต้นแรงด้วย เขายังเด็กอยู่นะ อายุเพิ่งจะ 17 หรือไม่ก็ 18 เองมั้ง
รีบผลักเขาออก ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ” จากนั้นก็เดินแกมวิ่งออกจากห้องครัวไป ถึงห้องโถงเห็นภาคภูมินั่งล้อมวงกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคน สีหน้าเคร่งเครียด
“อ้าวพี่เปรี้ยว จะไปแล้วเหรอ เห็นคุณแม่ออกไปรอที่รถแล้วนะ”
“อืม จะไปแล้ว จะเอาอะไรหรือเปล่า ขากลับจะแวะซื้อให้”
“ไม่ล่ะครับ คืนนี้เพื่อนๆ ของผมจะค้างคืนกันที่นี่นะ”
“นอนห้องภูมิเหรอ”
“ครับ นอนรวมกันหมดนี่แหละ งานยังเหลืออีกเยอะ”
“ตั้งใจทำเข้าล่ะ” หญิงสาวยิ้มให้ ก่อนจะออกจากบ้านไป วารินทร์สตาร์ทเครื่องรถยนต์คันกลางเก่ากลางใหม่รออยู่ก่อนแล้ว เธอรีบขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
“ขอโทษนะคะที่เปรี้ยวมาช้า”
“จะไปเจอว่าที่เจ้าบ่าวก็ต้องแต่งตัวนานหน่อยเป็นธรรมดา แม่เข้าใจ”
คำว่า ‘ว่าที่เจ้าบ่าว’ ทำให้เธอใจหาย ในวันนี้วารินทร์ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมจะพาเธอไปรู้จักกับดนัย ลูกชายของเพื่อนสนิท เพื่อจะได้แต่งงานกันในอนาคต
แน่นอนว่าเธอไม่ชอบให้คลุมถุงชนเลยสักนิด แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ตั้งแต่เล็กจนโต เธอต้องอยู่ในกรอบที่วารินทร์ขีดให้ ไม่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองปรารถนา
เธอเป็นเด็กกำพร้าที่สมชัยรับมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม สมชัยรักเธอมาก ต่างจากวารินทร์ แม้จะไม่ได้ใจร้ายกับเธอ แต่ก็ห่างเหินไม่ค่อยให้ความสนใจเธอสักเท่าไหร่นัก ทว่าช่างโชคร้ายนัก สมชัยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อ 10 ปีก่อน
ยังดีที่วารินทร์ไม่คิดทิ้งขว้าง ยังส่งเสียเธอเรียนจนจบระดับชั้นปวส. ถึงจะไม่เคยให้อ้อมกอดและความอบอุ่น แต่ก็ทำหน้าที่แม่บุญธรรมที่ดีในระดับหนึ่ง
จนตอนนี้เธอได้ทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่บริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชีวิตเรียบง่าย ได้เงินเดือนมาก็ให้วารินทร์ครึ่งหนึ่ง ไว้ใช้ส่วนตัวครึ่งหนึ่ง
เธอมีน้องชายวัย 17 ปี อยู่ชั้น ม.6 ชื่อภาคภูมิ เป็นลูกที่แท้จริงของสมชัยกับวารินทร์ เด็กหนุ่มไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเธอเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่เคยกลั่นแกล้งให้เธอต้องเจ็บช้ำอะไร
เธอคิดว่าจะเก็บเงินสักก้อนแล้วแยกไปอยู่ที่อื่น แต่ยังไม่ทันจะได้เก็บเงินด้วยซ้ำ วารินทร์ก็บอกว่าเธอจะต้องแต่งงานกับดนัย...ผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า
วันนี้ต้องไปดูตัวกันเป็นครั้งแรก นอกจากจะไม่ตื่นเต้นแล้ว เธอยังเบื่อหน่ายอีกต่างหาก แต่ไม่กล้าขัดใจวารินทร์
พอมาถึงร้านอาหารชื่อดัง เธอก็ได้เจอดนัย ซึ่งเป็นคู่หมาย กับ ดรุณี ซึ่งเป็นแม่ของดนัย นั่งรออยู่ก่อนแล้ว บนโต๊ะมีอาหารดีๆ หลายอย่าง แต่เธอไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ดรุณี ก่อนทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม ส่วนดนัยก็ยกมือไหว้วารินทร์แล้วกวาดตามองเธอทั้งตัวด้วย แววตาประหลาด ทำให้เธอไม่ค่อยพอใจนัก
“นี่น่ะเหรอคุณแม่ คนที่ผมต้องแต่งงานด้วย”
“ใช่จ้ะ”
ดนัยเบ้ปาก “หน้าตาก็น่ารักอยู่หรอก แต่นมเล็กไป ผมชอบ ไซส์ 38 หรือไม่ต่ำกว่า 36”
หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ด ไม่ใช่เขินนะ แต่โกรธ “ถึงคุณดนัยจะฟันเหยิน หน้าสั้น ตัวเตี้ย ดั้งหัก ไม่ใช่สเปค แต่ดิฉันก็รับได้ค่ะ”
คราวนี้ชายหนุ่มตาวาวเลยทีเดียวที่โดนจี้ปมด้อยตัวเอง
“ถ้าแต่งงานกัน ผมจะให้เงินไปทำนม นมเล็กๆ แบบนี้ไม่ชอบ”
“ฐานะคุณดี มีเงินเยอะ เราก็ไปทำทั้งคู่เลยล่ะกันค่ะ ดิฉันทำนม คุณทำหน้า”
“เอ้าๆ ทะเลาะกันเสียแล้ว เพิ่งเจอกันไม่ทันไรเอง” วารินทร์รีบปรามก่อนที่จะบานปลายไปมากกว่านี้
ตลอดระยะเวลาที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน ดนัยมักแขวะเธอทุกครั้งที่มีโอกาส เหมือนถือไพ่เหนือกว่า อะไรก็ไม่แย่เท่าสายตาที่มองเหมือนเธอเป็นปลิงที่จ้องจะไปสูบเขา
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"
มุกตาภาลูกนอกสมรสที่พ่อไม่ยอมรับ อุบัติเหตุค่ำคืนหนึ่งทำให้เธอตั้งครรภ์ สาวน้อยตัดสินใจไปหาพ่อของลูกเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใคร สำคัญไปกว่านั้นไม่อยากให้แม่เสียใจ ทว่าความหวังเดียวพังภินท์ กลายเป็นเงินที่พ่อของลูกคิดทำทานให้เธอ เงินมาพร้อมคำพูดดูถูกดูแคลนทำให้หัวใจแทบหยุดเต้นในบัดดล น้ำตาไที่ไหลรินแห้งเหือดหายเพราะช็อก เธอหันหลังให้พ่อเลี้ยงมรุเดช กุมหน้าท้องต้องการขอกำลังใจเดินจากมา หนทางข้างหน้าจะยอมรับชะตากรรมนี้เพียงคนเดียว 'ลูก' เธอไม่อาจทำลายแต่เธอจะลืมเขาให้หมดหัวใจ ผู้ชายที่เป็นรักแรกซึ่งได้มอบราคีร้ายให้เธอ คิดเสียว่าไม่เคยเหยียบย่างมาที่นี่และขอลาเขาชั่วชีวิต ตามที่เขาต้องการ
เมื่อจอมมารชินซาง ราชาปีศาจองค์ปัจจุบัน ปิดผนึกพระเนตรสีเลือดไปชั่วกาลนานเพราะผิดหวังจากความรัก จะไม่เปิดผนึกพระเนตรของพระองค์อีกต่อไป หากพระเนตรสีเลือดของพระองค์จะเปิดผนึกขึ้นมาได้อีกครั้ง นั้นหมายถึงนางคือคู่ชะตาที่ถูกเลือกให้เป็นราชินีของพระองค์ จวบจนกระทั่งเฉินวาวา สตรีในยุคอนาคตพลัดหลงเข้ามา ในสถานที่ซึ่งจอมมารหนุ่มกำลังหลับใหล เธอทำให้พระองค์เปิดพระเนตรสีเลือดขึ้นมาได้อีกครั้ง และเฉินวาวาทำให้พระองค์พลิกผืนแผ่นดินไปทั่วทุกแคว้นตามหาโฉมงาม เพื่อครองคู่ตราบสิ้นภพสิ้นชาติไปด้วยกัน
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หนิงเหยา นักพฤกษศาสตร์รุ่นใหม่ที่ชอบทดลองพืชพันธุ์ใหม่ๆ ได้ทะลุมิติไปเป็นพระชายาอ๋องที่เขาคิดฆ่าตั้งแต่ขึ้นเกี้ยวส่งเจ้าสาว นางจึงพยายามเอาตัวรอดโดยการไม่ยุ่งเกี่ยวปลูกผักทดลองไปเรื่อย แต่ทำไมเขาถึงได้ชอบมายุ่งกับนางนักไม่เข้าใจ!!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"