/0/4786/coverbig.jpg?v=cafedad332189ab41b083664223cdc61)
โนแอล ซิกแกทรีซ์ แพทย์ชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังอุษาคเนย์ในศตวรรษที่สิบเจ็ดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะแพทย์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอโยธยาจนกระทั่งเรื่องประหลาดเกิดขึ้นในพระนคร
‘สำหรับไพ่ทาโรต์Death คนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันมีความหมายไม่ดีนักเพราะเกี่ยวข้องกับความตาย แต่ทว่าความหมายของมันนั้นสื่อถึงการสิ้นสุดบางอย่างโดยมีการเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง’
คำทำนายนี้แม้เขาจะไม่ได้เชื่อถือมันนักแต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาในตอนนี้อยู่ไม่น้อย หันมองไปยังอีกฟากสายน้ำที่ไหลอย่างสงบนิ่งนั้นพบกับเปลวเพลิงเผาไหม้บ้านเรือนผู้คนต่างแตกตื่นชุลมุนวุ่นวาย หมอดูผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมาพูดเรื่องนั้นก่อนที่ยมฑูตขี่ม้าบนไพ่จะปรากฏตัวมาต่อหน้าเขา
ภาพนหัวถูกตัดวูบไปเขาตื่นขึ้นมาบนพื้นหลังจากที่เผลอหลับไปกับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย มันเป็นความฝันที่ฝันซ้ำๆ มาตั้งแต่พบหมอดูไพ่ทาโรต์ที่ฝรั่งเศสครั้งล่าสุดซึ่งเขาไม่เคยเชื่อมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ตุบ!
“ฮ่าๆๆ พลาดท่าแล้ว” เสียงของเด็กน้อยคนหนึ่งแต่งชุดเปลือยท่อนบนแตกต่างจากเขาได้หยอกล้อกับเขาในตอนนั้นนำเอาแท่งไม้ในมือของตนแทงใส่เขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีทำให้หัวของเขาเหวี่ยงไปชนกับกองกระดานชนวนที่ถูกกระแทกจนล่วงตกลงมาบนพื้นบ้างหล่นลงมาโดนหัวเขาจนมึนไปหมด
ร่างสูงสมส่วนตามแบบฉบับของชาวตะวันตก ผิวสีขาวคล้ำและแห้งคล้ายว่าไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก เสื้อผ้านั้นแตกต่างจากเด็กน้อยที่เปลือยท่อนบนเพราะเขาสวมเสื้อผ้าแบบชาวตะวันตกที่แม้จะดูโทรมเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาหากแต่มีเค้าลางแห่งความเจ็บปวดอยู่บนนั้น รูปหน้ารีของเขาดูซูบผอมเล็กน้อยนัยน์ตาสีอำพันที่รับกับกรอบตาทรงอัลมอนด์ทำให้เขาเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่
“เกิดอะไรขึ้นรึ อ้ายจันทร์” เขาในตอนนี้มึนงงไปหมดเขาหันไปเห็นเด็กน้อยจึงพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงที่ไม่คล่องนัก
“น้าเธียรบอกให้มาปลุกหมอน่ะสิ คงมีเรื่องให้หมอช่วยอีก” จันทร์รีบพูดกับเขา
“น้าเธียร…อ้อ!” โนแอลพยายามที่จะนึกภาพของคนคนนั้นแต่ถึงอย่างไรความจำของเขาก็ไม่ได้ดีนักทั้งยังเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยอีกเขาเองก็มาอยู่ที่นี่ได้เพียงสัปดาห์เดียวเขาใช้เวลาหลายวินาทีจนอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นมา
โนแอลเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้วนึกออกทันทีผมสีดำของเขาถูกจัดอย่างดีหน้าตาเองก็ดีชนิดที่ว่าคงมีหญิงสาวติดพันมากนักร่างสูงคล้ายชาวตะวันตก เธียรเป็นบุตรชายของขุนนางในหมู่บ้านแห่งนี้โดยเจ้าตัวเองก็รับราชการเช่นกันเขาเองก็ไม่ได้รู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายดีเนื่องจากว่าตอนได้ยินชื่อตำแหน่งแล้วรู้สึกมึนหัวกับภาษาต่างถิ่นแต่อย่างไรเจ้าตัวก็ดูไม่ได้สนใจตำแหน่งและชอบมีเรื่องกับผู้อื่นแต่ลึกๆ แล้วเป็นคนดีและเพราะพูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้างเจ้าตัวก็เป็นล่ามที่ดีทีเดียว
“นี่ลืมกันแล้วรึหมอ…เอาเถอะ มีเรื่องอยากจะให้ช่วยหน่อยคงไม่เป็นการเสียเพลาหมอนักหรอก แล้วอ้ายจันทร์น้าบอกให้มาตามหมอทำไมห้องเละแบบนี้เจ้าจันทร์เดี๋ยวโบยเสียหรอก” เธียรบ่นออกมาในขณะที่เด็กน้อยรีบวิ่งออกไปทันทีก่อนที่จะโดนดุไปมากกว่านี้
“มีเรื่อง…? ”
“เรื่องนี้พิลึกนัก เมื่อเช้าเขามาขอความช่วยเหลือเรือนบอกว่าพบศพของไพร่ในเรือนพระยาหทัยญพินาศคล้ายมิได้ตายโดยปกตินักคล้ายถูกใครบางคนฆ่าตาย” เธียรรีบลากเขาลงเรือไปออกจากหมู่บ้านล่องสู่แม่น้ำเจ้าพระยายังคงสงบนิ่งพระนครเองก็เหมือนกับครั้งแรกที่โนแอลเห็นมัน
“แล้วฆาตกร ถูกจับแล้ว” เขากำลังพูดต่อแต่อีกฝ่ายเองก็ทำได้เพียงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ยังลอยนวล”
“แต่เรายื่นมือไปยุ่งเกี่ยวจะดีเหรอ ไม่แน่อาจจะเกิดอันตรายก็ได้ พวกพี่เป็นขุนนางเป็นที่รู้จักมากกว่าคนทั่วไปทั้งยังมีครอบครัว…ให้ข้าไปเองอาจจะสะดวกกว่า อ้างว่าเป็นหมอที่จ้างมาไม่ได้เกี่ยวข้อง” เขาตอบกลับไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายไม่เอาด้วย
“ที่พูดไปเองก่อนหน้านี่ข้าขอย้อนเถอะ หากว่าครอบครัวหมอรู้เข้า…”
“ข้าไม่มีครอบครัว” เป็นอันสิ้นสุดการโต้เถียงเธียรเพียงแค่นิ่งพักหนึ่งแต่สำหรับโนแอลภาพในตอนมาที่นี่กลับเข้ามาในหัวย้อนนึกถึงตอนที่เขามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก
“แล้วกลามัวร์ ถึงจะเกิดเรื่องโชคร้ายแต่หากเขามองลงมาพบว่าหมอเป็นอันตราย…” เธียรถามออกมาคล้ายยิ่งย้ำภาพความทรงจำของเขาให้ชัดเจนมากขึ้น
“พวกเราพบกันที่โบสถ์เขาบอกว่าข้าเป็นน้องชายเพราะข้าโดนรังแกจากนักบวชคนอื่น แต่หลังจากถูกผู้คนในหมู่บ้านขับไล่เพราะเราไม่รับศาสนาเขาก็ได้พบรักกับไวเคานท์เตสผู้หนึ่งแต่เพราะฐานะที่แตกต่างจึงมิอาจรักกันเมื่อโดนจับได้จึงจำต้องหนีมาที่นี่เพราะอาจจะถูกฆ่าจากที่พวกเราไร้ศาสนา แท้จริงไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันหรือไม่” เขาตอบกลับอีกฝ่ายไปในตอนนั้นพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันมาตลอดแม้ในใจลึกๆ พ่อแม่ของเด็กกำพร้าทั้งคู่อาจไม่ใช่คนเดียวกันไม่มีสิ่งใดเชื่อมถึงกันเลย
ย้อนกลับไปตอนนั้นเรือที่เขาสัญจรกำลังแล่นเข้ามาเรื่อยๆ นั้นได้ปะทะกับเรืออีกลำหนึ่งถูกโจมตีจนเรือแตกผู้คนบนเรือบ้างเสียชีวิตบ้างบาดเจ็บแตกต่างกันไป โนแอลแบกร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดของพี่ชายตนขึ้นมาจากน้ำเขาพยายามที่จะรักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้โดยไม่แม้แต่จะสนใจว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตน ภาพที่โจรสลัดบนเรือถือปืนเดินเข้ามาหาเขานั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดกลัวใดๆ
“ฟื้นสิ กลามัวร์…” เขาในตอนนั้นรู้ดีว่าพี่ชายของตนตายไปแล้วแต่เขายังอยากจะพยายามรักษาต่อไปเผื่อว่าอีกฝ่ายจะฟื้นขึ้นมาในตอนนั้นร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาช่วยเขา ชายหนุ่มชาวสยามที่กำลังทุบตีโจรสลัดเหล่านั้นด้วยศิลปะป้องกันตัวที่มีเฉพาะตนก่อนที่อีกฝ่ายจะลากเอาเขาออกไปจากตรงนั้น
“รีบหนีได้แล้ว มากับพวกเรา” คนคนนั้นเอ่ยออกมาแต่ตอนนั้นเขากลับมิได้มีความตั้งใจมากพอที่จะมีชีวิตต่อ
“ทิ้งข้าไว้แล้วรีบไป” เขาพูดออกไปแบบนั้นพยายามเข้าไปหาร่างของพี่ชายที่สิ้นลมหายใจอยู่ตรงหน้าแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ในการลากคอเขาและพาหนีมาสำเร็จ
ตอนนั้นเขาถึงได้รู้จักอีกฝ่ายเธียรได้พาเขากลับมายังที่เรือนของบิดาตน หรือนี่จะเป็นการสิ้นสุดที่แท้จริงสำหรับการเริ่มต้นใหม่นี้เขาต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้คือการสิ้นสุดที่แท้จริงที่ไม่อาจยอมรับได้ น้ำตาที่ไหลอย่างเชื่องช้าทำให้นึกขุ่นข้องใจ เขาควรเริ่มต้นใหม่จริงๆหรือตายให้มันจบๆไปเสียที
“อย่าหันกลับไปมอง…” เสียงของเธียรตอนนั้นกล่าวกับเขาไม่คิดว่าเธียรจะเป็นบุตรชายของขุนนางที่ติดต่อกับพี่ชายของเขาไว้ตั้งแต่แรกทำให้การที่เขามาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องเหมาะสม
เขาเสียใจที่กลามัวร์จากไปและยึดติดกับเหตุการณ์ที่เขาไม่อาจช่วยกลามัวร์ได้เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างว่างเปล่าเป็นแพทย์ประจำตัวขุนนางทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เธียรและจันทร์ได้เข้าช่วยเขาไว้จากความรู้สึกย่ำแย่ที่เกิดขึ้นเขาจึงมีแรงที่จะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้
ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขานั้นมันยากเย็นที่จะผ่านมันไปจนมาถึงตอนนี้ที่เขาเริ่มชินชากับสถานที่แห่งนี้ไม่คิดว่าตนนั้นจะอยู่มาได้เนิ่นนานเช่นนี้ถึงอย่างไรในตอนนี้คงช่วยไม่ได้อีกแล้วเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของเขาเอง
“ขอโทษนะหมอ ไม่น่าพูดเลย” อีกฝ่ายในตอนนี้ตกใจกับสีหน้าของเขาอยู่มากไม่นึกว่าเขาจะพลั้งปากพูดออกไปลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกแย่กับเรื่องนี้มากเพียงใด
“ถึงแล้วนี่ใกล้กว่าที่ข้าคิด” โนแอลทำเป็นเปลี่ยนเรื่องถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้คิดเรื่องที่อีกฝ่ายเถียงกับเขาเมื่อครู่นักอย่างน้อยก็โดนตัดเบี้ยอย่างมากก็หางานใหม่ทำ แต่มาคิดดูเขายังไม่ชินชากับมาตราวัดบนแผนที่เรือนของพระยาหทัยญพินาศหรือกระทั่งแผนที่เดินทางของคนที่นี่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักคิดดูแล้วแม่น้ำเจ้าพระยาก็ดูสวยดีอยู่เหมือนกันเหม่อชมวิวสักพักก็รีบตามขึ้นเรือนไปไม่อยากให้อีกฝ่ายรอนาน
บนเรือนของพระยาหทัยญพินาศเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของเด็กสาวคนหนึ่งดังออกมา ไพรินทร์เด็กสาวอายุเพียงสิบสี่ปีที่นอนอยู่บนเตียงนี้รับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางงอย่างที่ใกล้เข้ามาคล้ายมองเห็นสัญลักษณ์แห่งความตายมาจากแขกของบิดาที่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ มาจากทั้งสองคนนั้น
ภาพความทรงจำที่เด็กหญิงได้เห็นนั้นรู้ว่าหากบอกพวกเขาไปจะนำพวกเขาไปสู่ความตายในเวลาต่อมาทำได้เพียงอยู่เงียบๆ ในห้องแม้วิญญาณที่มีเพียงเด็กสาวมองเห็นนี้ทำให้รู้สึกหวาดกลัว พวกมันตามหลอกหลอนนางอยู่แบบนั้นแม้ว่าบิดาจะเป็นห่วงแต่หากเล่าไปก็กลัวเพียงเขาอาจจะวิปลาสไปกับนางด้วย
แต่เด็กสาวเผลอตัวกรีดร้องไปแล้วผู้คนคงแห่กันมาที่นี่และถูกประณามว่าวิปลาสอีก สุดท้ายพวกเขาก็อาจจะตายโดยที่นางช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกับบ่าวที่น่าสงสารคนนั้น ตั้งแต่นางเห็นปีศาจที่ฆ่าบ่าวผู้นั้นนางกลับมองเห็นวิญญาณและความตายของผู้อื่นอยู่ไม่ขาดแม้บิดาจะให้หมอผีมาทำพิธีก็ไม่อาจช่วยได้รู้เพียงแต่ว่านางอาจจะวิปลาสก็ได้
“คนเหล่านั้นจักโดนปีศาจฆ่าตาย ปีศาจอยู่ที่นี่ขี่ม้าไปทั่วพระนครแล้วผู้คนจักต้องตายเป็นแน่” ไพรินทร์กล่าวออกมาด้วยท่าทางสั่นกลัวในตอนนั้นรอเพียงอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาประณามนางจากนั้นก็เป็นไปตามโชคชะตา
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
"ที่รัก ฉันจะชดใช้ให้เธอด้วยทั้งชีวิตของฉัน แต่งงานใหม่กันน๊า!" หลินเอินเอิน "คุณไม่รู้สึกอายเขาบ้างเหรอที่ตามง้อฉันทุกวัน! คุณเป็นหมารึไง!" ป๋อมู่หาน "ที่รัก ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ และเพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น!" หลินเอินเอินหัวเราะ เธอเป็นทั้งทนายชื่อดัง หมออัจฉริยะสากล และแฮ็กเกอร์ระดับแนวหน้า ทำไมเธอต้องแต่งงานใหม่กับไอ้ผู้ชายหมาๆ นั่นละ ช่างน่าขันจริง ๆ "ไม่มีวันแต่งงานใหม่หรอก ใสหัวไปไกลๆ ซะ!"
แม่บ้านอย่างฉัน.. มีสามีก็เหมือนไม่มี.. เพราะเขาเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ.. ปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างตลอด.. จนฉันเริ่มจะทนไม่ไหว... แต่แล้ว.. เราทั้งสองก็ค้นพบทางออกอย่างไม่คาดฝัน..
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน