ฉันเชื่อว่าคนเราต้องเคยเจอเรื่องที่บังเอิญไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่มันเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตากันแน่ที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับเขา "โซ่" เขาคือผู้ชายที่มีดีทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ และเขาก็เป็นนักดนตรีหนุ่มชื่อดังที่สาวๆเกือบครึ่งประเทศล้วนเทใจให้กับเขา แต่แจ็คพอตมันดันมาแตกที่ฉัน เมื่อฉันดันบังเอิญตื่นขึ้นมาบนเตียงของเขา พร้อมกับประโยคแรกที่เขาเอ่ยพูดกับฉันมาว่า.. "ตื่นแล้วเหรอ" เอ๊ะ ฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ยยยยยย!!!!! . . "ในเมื่อเธอก็ได้ลายเซ็นต์ของฉันไปแล้ว เธอช่วยลืมเรื่องวันนี้ไปให้หมดหน่อยได้ไหม"
“เฮ้อ”
“เป็นอะไรของมึงเนี่ย”
ปลาวาฬ หนึ่งในเพื่อนสนิทของฉันหันมาเอ่ยถามด้วยความสงสัย หลังจากที่มันได้ยินเสียงถอนหายใจของฉันเมื่อกี้
“กูหิว”
ฉันพึมพำตอบกลับไป และคำตอบของฉันทันก็ทำให้อีปลาวาฬมองหน้าฉันมาด้วยสายตาเอือมระอาทันที เพราะฉันเป็นพวกประเภทที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกิน เพราะนอกจากเรื่องกินแล้วในหัวของฉันมันก็ไม่มีเรื่องอื่นให้คิดอีกเลย อ่อ ลืมแนะนำตัวเองไปซะสนิท นารา คือชื่อของฉัน ส่วนชะนีที่ฉันพูดด้วยเมื่อกี้ก็คือเพื่อนสนิทของฉันเอง แต่ตอนนี้นอกจากพวกฉันสองคนยังมีอีกัสตุ๊ดที่ชอบทำตัวน่าหมั่นไส้และอีชีต้าร์ชะนีติดผัวนั่งรวมอยู่ด้วย
ซึ่งตอนนี้พวกฉันกำลังนั่งรอเวลาเลิกเรียนกันอยู่น่ะ เพราะก่อนหน้านี้อาจารย์ประจำวิชาได้สั่งงานให้พวกฉันนั่งทำในคาบเรียนไปพลางๆ ในระหว่างที่อาจารย์ออกไปประชุมด่วน และตอนนี้ฉันก็ทำงานที่ว่านั่นเสร็จแล้วด้วย แต่จะลุกออกไปจากห้องเลยก็ไม่ได้ เพราะต้องรอส่งงานท้ายคาบพร้อมกับรอเช็กชื่อกับอาจารย์อีกที เพราะอย่างนั้นฉันเลยต้องมานั่งถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายอย่างที่เห็นนี่แหละ นอกจากฉันจะเบื่อแล้ว ตอนนี้ฉันก็เริ่มหิวแล้วด้วย เฮ้อ ฉันหิวจนแทบจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย เมื่อไหร่อาจารย์จะประชุมเสร็จเนี่ย
“นอกจากเรื่องกิน มึงเคยคิดถึงเรื่องอื่นบ้างไหมวะอีนารา”
ก็เพราะว่าฉันชอบกินนี่น่า จะให้นึกถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องอาหารละก็ ฉันนึกไม่ออกหรอก เพราะหัวสมองที่แสนว่าเปล่าของฉันมันได้อุทิศให้กับเรื่องอาหารการกินไปหมดแล้ว อ่อ ฉันบอกไปหรือยังนะว่าตอนนี้พวกฉันเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่แล้ว ใช่ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่พวกฉันจะอยู่ในชุดนักศึกษากันยังไงล่ะ จะว่าไปเวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะเผลอแป๊บเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว เฮ้อ ฉันรู้สึกว่าฉันยังใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยไม่คุ้มเลย เพราะยังเหลือโรงอาหารอีกตั้งหลายคณะที่ฉันยังไม่มีโอกาสได้ไปบุก สงสัยฉันคงต้องเร่งมือเก็บแต้มแล้วล่ะ
“ไม่อะ”
“เฮ้อ ยอมใจมึงจริงๆ”
“วันนี้แวะไปกินข้าวที่ตึกคณะแพทย์ดีไหม กูได้ยินข่าวว่าที่นั่นมีร้านข้าวแกงอร่อยๆ อยู่ด้วย”
“ทำไมต้องถ่อไปกินไกลถึงคณะแพทย์ด้วยวะ ข้าวมันก็เหมือนๆ กันไม่ใช่เหรอ โรงอาหารใต้ตึกคณะเราก็มีร้านข้าวอร่อยๆ เปิดอยู่ตั้งเยอะ”
“ก็กูเบื่อร้านข้าวแถวนี้แล้วอะ และอีกอย่างกูยังไม่เคยไปลองกินข้าวที่นั่นเลย พากูไปกินสักครั้งเถอะนะ”
เรื่องอื่นฉันยอมได้ แต่เรื่องกินฉันพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นต่อให้ฉันต้องลงไปนั่งคุกเข่าอ้อนวอนฉันก็จะทำ
“เฮ้อ ให้ตายสิ เออๆ ไปก็ไป”
“เยส”
ฉันอมยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจทันทีหลังจากที่อีปลาวาฬมันรับปากว่าจะพาฉันไปกินข้าวที่ตึกคณะแพทย์ อ่า อยากรู้จังว่ามันจะอร่อยอย่างที่ฉันได้ยืนข่าวลือมาหรือเปล่า อืม ฉันจะเลือกกินอะไรดีนะ แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้วสิ
(สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ เปิดประเด็นข่าวแซ่บ รายการที่จะพาคุณผู้ชมมานั่งเม้าท์ เกี่ยวกับข่าวสารในวงการบันเทิงต่างๆ ด้วยประเด็นสุดฮอต และเผ็ดร้อนในทุกกระแสข่าว และในวันนี้แขกรับเชิญที่ได้มาเยี่ยมชมรายการของเราก็คือวงดนตรีสุดฮอตที่กุมหัวใจหญิงสาวเกือบทั่วทั้งประเทศ ขอต้อนรับสมาชิกวง ไดอาโทนิค (Diatonic) ค่ะ)
แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังนึกถึงเมนูอาหารที่ฉันจะกินหลังจากที่เลิกเรียนอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงพูดของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา และที่มาของเสียงดังกล่าวมันก็ดังมาจากโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของอีกัสนั่นเอง อีกัสมันกำลังดูอะไรของมันอยู่กันนะ เล่นเปิดซะเสียงดังขนาดนั้นมันจงใจเรียกร้องความสนใจให้ตัวเองอยู่หรือไง และแน่นอนว่ามันได้ผล เพราะตอนนี้มันสามารถดึงความสนใจจากฉันไปได้แล้วหนึ่งคน
(สวัสดีครับพวกเราวงไดอาโทนิคครับ)
“อ๊าย หล่อมากเลยทูลหัวของบ่าว”
เสียงของอีกัสกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาเมื่อมีเสียงผู้ชายมากกว่าหนึ่งคนดังออกมาจากโทรศัพท์ของมัน มันเลยทำให้ฉันชะโงกหน้าไปดูที่หน้าจอโทรศัพท์ของอีกัสด้วยความสนใจก็เห็นว่าตอนนี้อีกัสมันกำลังนั่งดูรายการบันเทิงรายการหนึ่งอยู่
“ใครวะ”
ฉันเอ่ยถามมันออกไปด้วยความสงสัยเพราะผู้ชายที่เป็นแขกรับเชิญในรายการที่อีกัสกำลังดูอยู่ตอนนี้มันดูคุ้นหน้าคุ้นตายังไงก็ไม่รู้สิ เหมือนฉันเคยเห็นแต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นจากที่ไหน
“พวกพี่ๆ วงไดอาโทนิคไง”
“อ่อ วงนี้นี่เอง”
วงไดอาโทนิค เป็นวงดนตรีที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นพวกประเภทที่ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องกิน แต่ฉันก็เคยเห็นผลงานของพวกเขาผ่านหูผ่านตามาบ้างเพราะวงนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงมานานแล้ว และอีกัสเพื่อนของฉันคนนี้ก็เป็นแฟนคลับตัวยงของพวกเขาด้วย ฉันจึงได้ยินอีกัสมันพูดถึงบ่อยๆ ก็ว่าทำไมเมื่อกี้ฉันถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขา
“มึงอย่าพึ่งมารบกวนเวลาเสพความสุขของกูตอนนี้เด็ดขาด กูกำลังตั้งใจดูสุดหล่อของกูอยู่ เข้าใจไหม”
อีกัสเอ่ยกับฉันเพียงแค่นั้นก่อนที่มันจะหันไปเพ่งความสนใจที่หน้าจอโทรศัพท์ของมันต่อ ส่วนฉันนั้นก็ทำได้แค่มองหน้าอีกัสด้วยสายตาเอือมระอาเพราะเพื่อนของฉันคนนี้ไม่เคยสนใจเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องผู้ชาย เรียกง่ายๆ ก็คือ อีกัสมันบ้าผู้ชายน่ะ ยิ่งเฉพาะผู้ชายหล่อๆ มันยิ่งบ้าจนแทบคลั่งเลยล่ะ
(ยินดีด้วยนะคะสำหรับเพลงใหม่ที่พึ่งปล่อยออกมา เรียกได้ว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดีกันเลยทีเดียว รู้สึกยังไงบ้างคะกับกระแสตอบรับในครั้งนี้)
(ตอนแรกก็รู้สึกกังวลมากครับ เพราะเพลงที่พวกเราพึ่งปล่อยออกมานั้นถือว่าเป็นแนวเพลงใหม่ที่วงของพวกเราไม่เคยทำมาก่อน แต่กระแสตอบรับออกมาดีกว่าที่คาดไว้แบบนี้ พวกผมดีใจมากเลยครับ)
(เพลงเพราะมากเลยค่ะ ดิฉันเปิดฟังวันละสิบรอบเลย)
(ขอบคุณครับ)
(เอ่อ..จะว่าไปดิฉันได้ยินมาว่าเพลงที่พึ่งปล่อยออกมาครั้งนี้คุณโซ่เป็นคนแต่งเนื้อร้องและทำนองเองใช่ไหมคะ และแนวเพลงก็เป็นเพลงรักแบบนี้ไม่ทราบว่าคุณโซ่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหรอคะ)
(จู่ๆ มันก็ผุดขึ้นมาในหัวครับ)
(ดิฉันนึกว่าคุณโซ่แต่งออกมาจากชีวิตจริงซะอีก เล่นเอาซะดิฉันอินไปกับเพลงเลยค่ะ อ่อ คุณโซ่มีความคิดเห็นยังไงบ้างคะที่น้องพิมนางเอกเอ็มวีเพลงใหม่ของวงไดอาโทนิคให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าคุณโซ่เป็นผู้ชายที่ตรงตามสเปกของเธอ)
(เธอไม่ใช่คนแรกที่บอกแบบนี้ครับ เพราะแฟนคลับผมเกือบครึ่งหนึ่งก็เคยบอกไว้แบบนี้เหมือนกัน)
ฉันถึงกับเบะปากของตัวเองด้วยความรู้สึกหมั่นไส้กับความมั่นใจของคนที่พูดประโยคเมื่อกี้ขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้สนใจกับสิ่งที่อีกัสกำลังดูอยู่ตอนนี้ก็เถอะ แต่มันเล่นซะเปิดเสียงดังแบบนั้นมันเลยเลี่ยงไม่ได้ที่ฉันจะได้ยิน
(แหม่ คุณโซ่เล่นพูดออกมาแบบนี้น้องพิมได้ยินคงเสียใจแย่เลยนะคะ)
(เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันครับ เธอคงไม่เสียใจกับเรื่องแค่นี้หรอกครับ)
(ฮ่าๆ ค่ะ เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นสุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ทางบ้านบ้างคะ)
(พวกเราวงไดอาโทนิคขอฝากผลงานเพลงใหม่และคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ด้วยนะครับ แล้วเจอกันครับ)
(ค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณวงไดอาโทนิคที่มาเป็นแขกรับเชิญในวันนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่อาทิตย์หน้าค่ะ)
“พี่โซ่โซแบดมากเลย สมน้ำหน้าอีนังน้องพิม โดนแหกหน้ากลางรายการเลยไหมล่ะ”
ฉันไม่เข้าใจอีกัสเลยจริงๆ จากที่ฉันฟังบทสัมภาษณ์เมื่อกี้ฉันว่าผู้ชายที่ชื่อว่าโซ่อะไรนั่นเป็นผู้ชายที่นิสัยเสียเอามากๆ เลยนะ เพราะคนดีๆ ที่ไหนเขาจะให้สัมภาษณ์แบบนั้นกันละ ต่อให้เขาดังมาจากไหนก็เถอะ แต่เขาจะน่าพูดรักษาน้ำใจคนอื่นบ้าง ไม่ใช่พูดไม่ถนอมน้ำใจคนอื่นไปแบบนั้น เฮ้อ ผู้ชายที่มีความมั่นใจแบบผิดๆ แบบนี้ฉันละเกลียดที่สุดเลย
“มึงชอบไปได้ไง ผู้ชายนิสัยแบบนั้น”
“ก็พี่เขาหล่อ”
เออเนอะ ฉันลืมไปซะสนิทว่าเพื่อนฉันมันไม่สนใจอะไรนอกจากความหล่อของผู้ชาย
“ว่าแต่ช่วงนี้มึงว่างไหมอีนารา”
“ถามทำไม”
“กูจะชวนมึงไปดูคอนเสิร์ตวงไดอาโซนิคเป็นเพื่อนกู”
หืม แล้วทำไมมันต้องชวนฉันด้วย
“ทำไมต้องเป็นกู”
“ก็ชะนีคนอื่นติดผัวหมดยกเว้นมึงคนเดียวที่ยังโสดแถมยังทำตัวว่างอีก กูถึงได้เลือกมึงยังไงล่ะ”
อ้าว ฉันโสดฉันว่างแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ฉันต้องไปคอนเสิร์ตเป็นเพื่อนมันด้วยเนี่ย ไม่เอาหรอก ฉันไม่ไป
“กูไม่ไป มึงไปคนเดียวเถอะ”
ฉันปฏิเสธมันไปแบบไร้เยื่อใยเพราะไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ไปคอนเสิร์ตบ้าๆ นั่นกับมันเด็ดขาด ให้ตายยังไงก็ไม่ไป
“กูเลี้ยงเค้กหน้ามออาทิตย์หนึ่ง”
หือ เค้กเหรอ
“มึงไม่สนใจข้อเสนอกูสักนิดเหรออีนารา”
“...”
“อาทิตย์หนึ่งเลยนะที่มึงจะได้กินเค้กฟรีๆ แบบไม่เสียตัง”
“วันไหน”
“พรุ่งนี้”
“ดิล”
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะ เพื่อนรัก”
ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันตัดสินใจมาทำงานที่นี่มันจะทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ "รามสูร" หรือว่า "พี่ราม" เขาคือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันต้องเปลี่ยนไป ผู้ชายเอือยเฉื่อยที่มาพร้อมกับใบหน้าไร้อารมณ์ที่มาพร้อมกับข้อเสนอให้ฉัน "แอรีส" ไปเป็นหมอนข้างให้เขา เพราะความอวดดีทำให้ฉันต้องยอมรับต่อชะตากรรมนั้น แต่ใครจะไปรู้ละว่าการเป็นหมอนข้างของผู้ชายที่ชื่อว่ารามสูรคนนั้นมันจะเปลืองตัวมากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีฉันก็ตกเป็นของเขาโดยไม่มีเงื่อนไขซะแล้ว “พะ พี่ราม” “ใช่ นั่นคือชื่อของผัวเธอ จำไว้ว่าต่อจากนี้ไปเธอคือเมียฉัน และอย่าได้ริไปให้ไอ้เหี้ยนั่นกอดหรือจูบเธออีก ไม่งั้นเอาให้ตายแน่”
ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!
ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ไอรัก เธอเป็นสาวสวยวัย19ปีที่หุ่นอวบสมส่วนผิวขาวน่ารัก ทว่าเธอถูกเก็บมาเลี้ยงในครอบครัวร่ำรวยที่มีพี่ชายต่างพ่อต่างแม่ถึงสี่คน แล้วเหล่าพี่ชายวัยกลัดมันจะทนความสวยของน้องสาวที่โตขึ้นทุกวันๆจนไม่ล่วงเกินเธอได้หรือ? ในบ้านบ้านหลังใหญ่นี้มีอยู่เจ็ดคนคือไอรักน้องสาวคนเล็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ไออุ่นพี่ชายคนโต ไอเย็นพี่ชายคนรอง ไอคิวพี่ชายคนที่สามไอน้ำพี่ชายคนสุดท้อง และพ่อกับแม่ ไออุ่นเป็นพี่คนโตอายุ27และทำงานในบริษัทของพ่อ เขาอบอุ่น เป็นผู้นำและรักน้องๆ และหล่อเข้มสูงใหญ่ล่ำสันผิวสีแทน ไอเย็นอายุยี่25เขาเป็นคนใจเย็นสุขุม เงียบ ๆ นิ่งๆ และหล่อคมผิวขาวผอมสูง ไอคิวเรียนอยู่มหาลัยปี4เป็นหนุ่มแว่นหน้าหล่อตี๋มาดเด็กเรียนที่ฉลาดและชื่อดังในมหาลัย ไอน้ำเรียนอยู่ปี2เขาเป็นนักกีฬารักบี้ประจำมหาลัยที่ร่าเริงผิวขาวและหล่อล่ำกล้ามใหญ่ มีสาวมาติดพันเขาเยอะเอาเรื่อง ส่วนไอรักน้องสาวคนสวยเรียนอยู่มหาลัยปี1 เธอมีใบหน้าสวยรูปไข่ผิวขาว สูง160และอวบอิ่มสมส่วนไปทุกจุด
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
เพราะ One night stand ครั้งนั้น... ทำให้นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัยสามสิบห้า ต้องมาหลงเสน่ห์เด็กสาววัยยี่สิบเอ็ดอย่างเธอ!! "ไหนคุณบอกว่าเรื่องระหว่างเราเป็นแค่ one night stand ไงคะ" "แล้วถ้าผมไม่ได้อยากให้มันจบลงแค่นั้นล่ะ" "คะ?" "มาอยู่กับผม รับรองว่า คุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้" "ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย" "เพราะไม่ว่ายังไง คุณก็ไม่มีทางหนีผมพ้นหรอก..." "นี่คุณ!" "บอกว่าให้เรียกพี่ภามไง หรือถ้าไม่ถนัดเรียกที่รัก ก็ได้ แต่ถ้ายาวไปเรียกผัว เฉยๆก็ได้เหมือนกัน"
เทกันแล้วจะกลับมาเยกันอีกทำไม! นาชาเจ็บแล้วจำอย่าหวังว่าจะมาฟันเธอได้ง่าย ๆ อีก ทิ้งกันเก่งนักอย่ามาเสียดายคลานกลับมาเป็นหมาหวงก้างก็แล้วกัน ด้วยความจำเป็นนาชาจึงต้องขายตัวให้เควิล หลังจากนั้นเธอกับเขาบังเอิญพบกันในฐานะคนกันเอง เขาดีกับเธอจนทำให้เธอหลงรักและเข้าใจว่าเขาก็รักเธอ แต่วันหนึ่งเขากลับเทเธอไปอย่างไม่ไยดี หลังเสียใจอย่างหนักวันหนึ่งเขาก็กลับมาและทนไม่ได้ที่เห็นเธอกับเพื่อนสนิทของเขากำลังจะคบกัน!