หากมงกุฎการันตีความงาม 100 เวที ไม่ได้ช่วยให้เธอก้าวกระโดดได้เท่ากับ ‘มงกุฎร้อยน้ำ’ ที่เธอได้มา เพราะแค่รีดน้ำให้ถูกคนถูกที่ แค่นั้นงานที่ต้องการก็ใส่พานมาให้ ตราบใดที่ความสาวและความสวยยังมีติดกาย ตราบใดที่ปากบนและปากล่างยังทำหน้าที่ได้ดี เมื่อนั้นความสำเร็จก็ไม่หนีไปไหน
‘โตขึ้นหนูจะเป็นนางงาม’ ความใฝ่ฝันที่ต้องไปให้ถึง แม้หนทางจะโรยรายด้วยกรวดหินและขวากหนามขวางกั้น หรือต้องแลกด้วยหยาดหยดของเม็ดเหงื่อ กี่น้ำ กี่ครั้ง กี่หน เธอก็ไม่หวั่น เพราะนั่นคือ ‘คุณค่า’ ที่เธอคู่ควร
เสียงดนตรีในจังหวะสนุกสนานดังกระหึ่มทั่วห้องแกรนด์บอลลูมของโรงแรมระดับห้าดาว ท่วงทำนองที่เร่งเร้าเพื่อปลุกความตื่นตัวให้กับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน โดยเฉพาะแขกสุภาพบุรุษที่ยังมีความต้องการอันมากล้นนั้นดูจะตื่นตา ตื่นใจ และตื่นตัวมากเป็นพิเศษ
ทุกสายตาจับจ้องไปยังเวทีที่ประดับประดาไปด้วยแสง สี และเสียงอย่างอลังการงานสร้าง ด้วยในค่ำคืนนี้เป็นการประกวดเลือกเฟ้นสาวงามเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไปประชันความสวยงามในเวทีระดับโลก
ทั้งแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน บรรดาบริษัทห้างร้านที่เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ ศิลปิน ดารา นักร้องและนายแบบนางแบบที่ได้รับเชิญก็ล้วนแต่เป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทยทั้งสิ้น
แต่ผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคงไม่พ้นเป็นหัวใจของงาน นั่นคือสาวงามทั้ง 30 คน โดยเฉพาะตัวเก็งที่สื่อต่างประโคมข่าวว่าอาจมีสิทธิ์ติด 1 ใน 3 หรืออาจได้เป็นขวัญใจสื่อสารมวลชน หรือเรียกเล่นๆ กันว่า ‘นางงามขึ้นกล้อง’ นั้นก็ย่อมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
ด้านบนเวทีเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจเมื่อสาวงามทั้งหมดต่างเดินเรียงแถวกันออกมาเพื่อให้คณะกรรมการและแขกผู้มาร่วมงานได้ยลโฉมพวกเธอพร้อมๆ กัน สาวงามทั้ง 30 คนอยู่ในชุดบิกินีรูปแบบเดียวกันแต่หลากสี ทุกชุดถูกออกแบบให้เปิดในจุดที่ควรเปิดและปิดในจุดที่ควรปิด
ใบหน้าสวยงามเพราะได้รับการแต่งแต้มอย่างประณีตเชิดขึ้นอย่างมั่นใจ อกอวบอิ่มแอ่นสูง โชว์สัญลักษณ์แห่งสตรีเพศเต็มที่ สะโพกผายส่ายไปมาบ่งบอกความมั่นใจ พร้อมช่วงขายาวสมส่วนก็วาดลวดลายตามจังหวะดนตรีอย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกสาวงามต่างคนต่างโพสท่าพรีเซนต์ตัวเองเต็มที่ เพราะหวังให้ตนเองดูโดดเด่นเจิดจรัสกว่าใคร ก่อนจะเดินเรียงแถวกันเข้าไปด้านหลังเวที เพื่อเดินออกมาอีกครั้งตามลำดับเลขที่ที่ได้รับ
จังหวะดนตรีจึงปรับเปลี่ยนเป็นช้าลงตามจังหวะจะโคนเพื่อให้เวลานางงามแต่ละหมายเลขได้ยักย้ายส่ายสะโพกออกมาโพสท่าให้คณะกรรมการได้ชื่นชมและให้คะแนนรูปร่าง โดยจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่บนเวทีจะทำหน้าที่บอกชื่อ-นามสกุล ประวัติคร่าวๆ และสัดส่วนของเธอเหล่านั้น
นางงามคนแล้วคนเล่าต่างผลัดกันออกไปโชว์สัดส่วน และเสียงปรบมือที่ได้รับก็หมายถึงบรรดาแฟนคลับที่ติดตาม หรือคะแนนนิยมที่พวกเธอได้รับ ซึ่งนั่นอาจมีผลต่อการให้คะแนนของคณะกรรมการไม่มากก็น้อย
ทว่าเมื่อนางงามหมายเลข 13 เคลื่อนย้ายส่ายสะโพกขึ้นไปอวดโฉมบนเวที เสียงปรบมือที่ว่าดังอยู่แล้วก็กลับดังกึกก้องมากขึ้น เพราะเธอคือหนึ่งในตัวเก็งของค่ำคืนนี้
‘นางสาวสุวรรณมาลี ศรีสุพรรณวิสุทธิ์ สัดส่วน 36-24-36 ส่วนสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม’
เรือนร่างงดงามประหนึ่งนาฬิกาทรายเยื้องย่างขึ้นสู่เวทีดุจนางพญา เธออยู่ในบิกินีสีแดงสดขับผิวสีน้ำผึ้งให้ยิ่งโดดเด่นมีออร่า ท่าเดินมั่นใจแต่เป็นธรรมชาติ ไม่เกร็งไม่ประหม่า เพราะไม่มีสิ่งใดน่ากลัวสำหรับเธออีกแล้ว ฉายา ‘นางงาม 100 มงกุฎ’ ที่สั่งสมมาตั้งแต่เริ่มแตกวัยสาวจนถึงวันนี้ เวทีนี้แหละคือเป้าหมาย เวทีสำหรับผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศ ซึ่งมงกุฎนี้ต้องได้ประดับบนศีรษะของเธอแน่
รอยยิ้มบาดจิตโปรยปราย ดวงตาสวยหวานตวัดซ้ายขวาอย่างมีจริต แม้แต่เพียงการกะพริบตาหนึ่งครั้ง เธอก็ทำมันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ จังหวะที่ขนตาหนางอนงามดุจปีกผีเสื้อสะบัดขึ้นลง นั่นคือเธอต้องได้หัวใจชายหลายๆ คนในที่แห่งนี้ และความมั่นใจอย่างที่สุดนั้นคือเธอจะได้สิ่งที่ต้องการในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อคณะกรรมการที่มีผู้ชายถึง 6 ใน 10 นั้นย่อมเทคะแนนให้กับเธออย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนคะแนนของคณะกรรมการผู้หญิงนั้น เธอก็จะใช้ความมั่นใจเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะเธอเรียนรู้ที่จะใช้จุดอ่อนและจุดแข็งของแต่ละคนให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะจุดที่แข็งมากและแข็งมากที่สุดของผู้ชายแต่ละคนนั้นเธอรู้ดีว่ามันอยู่ตรงไหน
สุวรรณมาลีปรายตาให้กับบุคคลที่เธอต้องการสื่อความหมาย เผยอริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับ นักการเมืองระดับประเทศ ผู้ที่คืนก่อนเข้ามาเก็บตัวนั้น เธอพาเขาไปทัวร์สวรรค์มานับครั้งไม่ถ้วน ชนิดที่ว่าตั้งแต่เป็นหนุ่มมาจนถึงวัยใกล้เกษียณ เขาคงไม่เคยได้รับความหฤหรรษ์นี้จากใครแน่ เพราะความตื่นเต้นและเสียงครวญครางไม่หยุดนั้นมันบอกเธอ
‘ท่านขา... ชอบมั้ยคะ อูย... ท่านขา... ซี้ด... ของท่านใหญ่จังเลย อูย... ท่านขา... ซี้ด... โอว... ท่านขา... หนูแน่น... อูย... ซี้ด...’
เสียงหวานๆ ของเธอเอ่ยถามคนที่อยู่ใต้ร่าง คนที่ครางเสียงต่ำราวกับพอใจในสิ่งที่เธอทำนักหนา คนที่รู้สึกลำพองตัวเองอย่างที่สุด เมื่อเธอบอกว่าของเขานั้น ‘ใหญ่’ ทั้งที่มันไม่ได้ครึ่งของที่เธอเคยเจอมาด้วยซ้ำ แต่กล้ามเนื้อน่าอัศจรรย์ใจที่สั่งได้ของเธอก็บีบรัดตัวตนของเขาอย่างแนบแน่น เพื่อให้คนใต้ร่างรู้สึกว่าท่อนเนื้อของเขาช่างสร้างความคับแน่นได้ใจเธอเสียเหลือเกิน
เธอเรียนรู้ที่จะใช้เสียงและถ้อยคำหวานๆ ปลุกเร้าอารมณ์ บางครั้งการไม่พูดความจริงออกไป หรือการใส่จริตเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจเรียกความสุขให้กับคู่นอนได้มากและเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่ดื่มกินน้ำหวานหยาดเยิ้มของเธออย่างเอร็ดอร่อย
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง