ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!
2 เดือนที่แล้ว
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงประตูของร้านสะดวกซื้อถูกเปิดออกมาโดยชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าดุดันแต่หล่อเหลาปานเทพบุตร พร้อมกับร่างกายกำยำของเขาเต็มไปด้วยรอยสักมากมายจนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับผิวให้เห็น แต่มันก็ไม่ทำให้ความฮอตในตัวเขาลดลงไปแม้แต่น้อย แต่มันกลับทำให้เขาดูหล่อเข้มไปอีกแบบ
ซ่าๆ ๆ
บรรยากาศตอนนี้ไม่ได้ดีเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำที่ก่อตัวขึ้นมาจนทำให้เกิดหยดน้ำที่ไหลลงมาจากฟากฟ้าจนพื้นที่บริเวณนี้ขาวโพลนไปหมดแทบมองไม่เห็นรูปร่างของสิ่งปลูกสร้างเลย
ฟูวว
ชายหนุ่มรูปงามพ่นควันบุหรี่สีเทาหม่นออกมาจากปากด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบพร้อมกับมองดูสายฝนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
พรึบ!
แต่ในตอนนั้นเองจู่ๆ ก็มีหญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามายืนขนานข้างกับชายหนุ่มรูปงามนั่นเพื่อหาที่หลบกำบังฝนในตอนนี้ เนื่องจากเวลานี้ฝนกำลังตกหนักจนไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้
“อ่า ทำไมมาตกตอนนี้นะ”
ริมฝีปากเล็กๆ ของเธอบ่นพึมพำออกมาพร้อมกับใช้มือของเธอขยี้ผมที่เปียกชื้นของเธอเพื่อสลัดเอาหยดน้ำที่เกาะอยู่บนผมของเธอออกด้วยท่าทางสบายๆ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาสีขาวตัวบางเมื่อถูกกับน้ำฝนมันเลยทำให้เสื้อที่เธอใส่อยู่นั้นมันแนบเนื้อจนทำให้เห็นอะไรๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อของเธอ
ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอใช้หางตามองไปที่เธอด้วยสายตาว่างเปล่าที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์อื่นออกมาให้เห็นเลย และไม่มีใครรู้ว่าเขาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่
จึกๆ
ชายหนุ่มใช้นิ้วของตัวเองจิ้มไปที่แขนของหญิงสาวเบาๆ แต่มันทำให้คนที่ถูกจิ้มอยู่นั้นสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยสายตาตื่นกลัว
“มะ มีอะไรคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่น แต่ที่เสียงเธอสั่นไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกหนาวหลังจากที่เธอตากฝนมา แต่สั่นเพราะรู้สึกกลัวคนตรงหน้าต่างหาก เพราะคนที่สะกิดเธอเมื่อกี้ตามตัวของเขามีแต่รอยสักเต็มไปหมดและอีกอย่างใบหน้าของเขายังดูโหดมากจนทำให้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาตรงๆ เลยทำให้ไม่รู้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้รูปงามแค่ไหน
“เสื้อเธอ”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำให้หญิงสาวที่กำลังฟังเขาพูดอยู่ขมวดคิ้วออกมาด้วยความมึนงงเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังสื่อเลยสักนิด
“คะ”
“มันเปียก”
“...”
“เห็นเสื้อใน”
“O_O”
หญิงสาวตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนที่จะก้มมองสภาพของตัวเองตามที่ชายหนุ่มบอก ก่อนที่จะยกมือของตัวเองขึ้นมาปิดหน้าอกไว้ด้วยความรวดเร็ว แล้วเธอก็ก้มหน้างุดด้วยความอายที่ดันมาเกิดเรื่องน่าอายแบบนี้ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ และอีกอย่างผู้ชายคนนี้ยังดูน่ากลัวมากอีกด้วย
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์สั่งจากกระเป๋าใบเล็กของหญิงสาวดังขึ้นเลยทำให้เธอเปลี่ยนความสนใจมาที่กระเป๋าของเธอแทน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็ปรากฏเบอร์โทรที่เธอคุ้นเคยเป็นคนโทรเข้ามา แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวก็กดรับสายทันที
“ค่ะเจ๊”
หญิงสาวกรอกเสียงหวานของเธอไปตามสายหลังจากที่เธอกดรับโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(ลมอยู่ไหน)
เสียงของหญิงวัยกลางคนที่ดังออกมาจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูร้อนรนจนทำให้หญิงสาวที่ฟังอยู่รู้สึกแปลกไปด้วย
“ลมติดฝนอยู่ค่ะ”
หญิงสาวบอกพร้อมกับมองดูหยาดฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้าด้วยใบหน้าที่แสดงความเบื่อหน่ายออกมาอย่าเห็นได้ชัด เพราะสภาพอากาศย่ำแย่มันเลยทำให้เธอเดินทางไปทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม
(ลมรีบมาที่ร้านได้ไหม พอดีสามีเจ๊รถชน ไม่มีใครเฝ้าร้านเลย)
ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลอย่างมาก เลยทำให้หญิงสาวร่างเล็กพลอยเป็นกังวลไปด้วย
“ได้ค่ะ เดี๋ยวลมจะรีบไป”
(ขอบใจมากนะลม)
“ไม่เป็นไรค่ะ”
แล้วหญิงสาวก็กดวางสายไปก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ของเธอไว้ในกระเป๋าอย่างมิดชิด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจวิ่งออกไปกลางสายฝนที่กำลังกระหน่ำตกอยู่อย่างไม่กลัวเปียก เพราะเธอมีเรื่องสำคัญที่ต้องรีบไปทำ เลยทำให้หญิงสาวตัดสินใจวิ่งออกไปทั้งอย่างนั้น
ชายหนุ่มรูปงามที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย จนร่างของเธอค่อยๆ หายไปจากสายตาของเขา แต่ชายหนุ่มก็ยังคงมองไปทางนั้นอยู่ดี
“ลม สินะ”
ชายหนุ่มพึมพำออกมาก่อนที่จะเหยียดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกครั้ง
ปัจจุบัน
“ไอ้นาวา มึงนี่เอาแต่จ้องแต่โทรศัพท์แม่งทั้งวัน กูอยากรู้จริงๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจกว่าพวกกูอยู่ในนั้นกันแน่”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับชะโงกหน้าของตัวเองไปมองดูโทรศัพท์ของชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขาอย่างไม่วางตา
“เสือก”
ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของใบหน้าดุดันเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยสนใจอะไรพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางหวงแหนจากสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังชะโงกหน้ามามองของของเขาอยู่
“ชิ ทำเป็นหวง นี่เพื่อนนะ”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับยื่นริมฝีปากล่างของเขาออกมาด้วยท่าทางเง้างอด
“อืม เพื่อน แล้วไง”
ชายหนุ่มเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนไม่สนใจท่าทีของชายหนุ่มอีกคนเลยว่าเขากำลังน้อยใจอะไรเขาอยู่
“มึงนี่เย็นชากับกูตลอด บอกเลยว่าเทวางอน”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะบัดหน้าไปอีกทาง
“...”
“มึงก็อย่าไปกวนมันมาก เดี๋ยวมันก็เล่นมึงเข้าสักวันหรอก”
ชายหนุ่มอีกคนผู้เป็นเจ้าของใบหน้าราวเทพพระบุตรแต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเอือมระอากับท่าทีจองชายหนุ่มอีกคน
“อืม กูก็ว่างั้น”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อน่ารักเอ่ยเสริม
“พวกมึงรุมกู ชิ กูงอนพวกมึงแล้ว”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อทะเล้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเง้างอดอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาเลยว่าจะแสดงท่าทีอะไรออกมา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองพวกเขาจริงๆ และท่าทีแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มหล้อทะเล้นมักจะทำให้เห็นแทบทุกวันจนเป็นนิสัยไปแล้ว
ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันตัดสินใจมาทำงานที่นี่มันจะทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ "รามสูร" หรือว่า "พี่ราม" เขาคือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันต้องเปลี่ยนไป ผู้ชายเอือยเฉื่อยที่มาพร้อมกับใบหน้าไร้อารมณ์ที่มาพร้อมกับข้อเสนอให้ฉัน "แอรีส" ไปเป็นหมอนข้างให้เขา เพราะความอวดดีทำให้ฉันต้องยอมรับต่อชะตากรรมนั้น แต่ใครจะไปรู้ละว่าการเป็นหมอนข้างของผู้ชายที่ชื่อว่ารามสูรคนนั้นมันจะเปลืองตัวมากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีฉันก็ตกเป็นของเขาโดยไม่มีเงื่อนไขซะแล้ว “พะ พี่ราม” “ใช่ นั่นคือชื่อของผัวเธอ จำไว้ว่าต่อจากนี้ไปเธอคือเมียฉัน และอย่าได้ริไปให้ไอ้เหี้ยนั่นกอดหรือจูบเธออีก ไม่งั้นเอาให้ตายแน่”
ชีวิตของนักศึกษาปีสี่ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างฉัน "สายลม" ก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่ชีวิตของฉันต้องวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อฉันเจอกับไอ้โหดหน้านิ่งนั่น "นาวา" ผู้ชายที่มาพร้อมกับรอยสักเต็มตัว เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทำไมเหมือนยิ่งฉันหนีเขา ผลักไสเขา เขายิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ใครก็ได้เอาไอ้เถื่อนนี่ไปจากชีวิตฉันที "ฉันเป็นคนทานง่าย เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมากหรอก เอาแต่ใจนิดหน่อย ไม่ชอบให้ใครขัด" "...." "และตอนนี้ฉันก็โสดด้วย ส่วนเรื่องซิงเสียไปตั้งแต่มอสามแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหมฉันยินดีบอกนะ" WHAT!!!
ฉันเชื่อว่าคนเราต้องเคยเจอเรื่องที่บังเอิญไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่มันเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตากันแน่ที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับเขา "โซ่" เขาคือผู้ชายที่มีดีทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ และเขาก็เป็นนักดนตรีหนุ่มชื่อดังที่สาวๆเกือบครึ่งประเทศล้วนเทใจให้กับเขา แต่แจ็คพอตมันดันมาแตกที่ฉัน เมื่อฉันดันบังเอิญตื่นขึ้นมาบนเตียงของเขา พร้อมกับประโยคแรกที่เขาเอ่ยพูดกับฉันมาว่า.. "ตื่นแล้วเหรอ" เอ๊ะ ฉันมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ยยยยยย!!!!! . . "ในเมื่อเธอก็ได้ลายเซ็นต์ของฉันไปแล้ว เธอช่วยลืมเรื่องวันนี้ไปให้หมดหน่อยได้ไหม"
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"