สำหรับชมพูแพร... อองเดรคือเจ้าชายในฝัน และถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันเพียงแค่เอื้อมมือคว้า แต่ก็ไม่เคยสัมผัสถึงเขาได้เลยสักครั้ง จนกระทั่งเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้หล่อนต้องขึ้นเตียงมีความสัมพันธ์กับท่านประธานหล่อเหี้ยมแทนผู้หญิงที่ถูกอองเดรชี้นิ้วเลือก ทุกอย่างมันควรจบคงแค่ค่ำคืนเดียว แต่อองเดรกลับทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อท่านประธานหนุ่มมีคำสั่ง ให้หล่อนขึ้นเตียงกับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีกำหนดสิ้นสุด ตัวอย่างในเล่ม... “ผมไม่ชอบให้คู่นอนทำเหมือนลืมว่าเมื่อคืนผ่านอะไรมาบ้าง” เขากระซิบดุเดือดชิดปากอิ่มสั่นเทาของหล่อน ก่อนจะยัดนิ้วเข้ามาในปาก หล่อนไม่อยากจะดูดนิ้วใหญ่นั่นเลย แต่เขาก็ยัดเข้ามาจนสำเร็จ พร้อมกับชักเข้าออก จนหล่อนมีอารมณ์ร่วมต้องดูดนิ้วยาวไปด้วย “เมื่อคืน เราทำกันเยอะก็จริง แต่ผมไม่มั่นใจว่าลูกของผมจะมาเกิด” เขาพูดพร้อมกับชักนิ้วออกจากปากของหล่อน และเอามือไปขยำบั้นท้ายแทน หล่อนร้อนฉ่าไปทั้งร่องสาว หน้างามร้อนวูบวาบเมื่อถูกปลุกเร้าจนเสียสติ “แต่... เยอะขนาดนั้น น่าจะ... ไม่พลาดนะคะท่านประธาน” “ผมไม่ชอบอยู่กับความไม่มั่นใจ” “คะ?” เขากระเด้งหน้าขาเข้าหา ทำให้หล่อนรู้ว่าไอ้หนูของเขากำลังโต “ผมต้องการแน่ใจว่าคุณ... กำลังอุ้มท้องลูกของผมอยู่...” “เอ่อ... แพร... น่าจะท้องแล้วล่ะค่ะ อ๊ะ...” เขาสอดมือเข้ามาในกระโปรงของหล่อนและเอานิ้วจกเข้าไปในความเป็นหญิง มันหยาบคายมาก แต่หล่อนที่ร้อนฉ่าอยู่แล้วร่อนรับนิ้วซะงั้น “ผมต้องการให้ลูกของผมเกิดเร็วที่สุด ดังนั้นจะต้องไม่มีคำว่าผิดพลาดสำหรับผม” “ค่ะ อา... อ๊า... แพรทราบ... อ๊า... แต่ท่านประธานหยุดนิ้วก่อนได้ไหมคะ อ๊า... แพร... จะพูดไม่รู้เรื่อง... อ๊า... ซี๊ดดดด” เขาไม่หยุด แถมยังแทงลึกเข้าไปมากขึ้น จนหล่อนต้องถ่างขาออก เขาหัวเราะ สอดแขนใต้ข้อพับเท้าและยกขึ้นให้ขาเรียวเกี่ยวกับสะโพกแกร่ง จากนั้นก็แทงนิ้วเข้าออกถี่ๆ
อองเดร มาร์แต็ง นักธุรกิจผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากระดับโลก ชายหนุ่มคือหนุ่มหล่อในฝันที่สาวๆ ทุกคนล้วนแต่อยากได้มาครอบครอง แต่อองเดรไม่ใช่สมบัติของใครทั้งนั้น เพราะในหัวของเขาเกลียดคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่สุด
คำว่าครอบครัวไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สมองของเขามาก่อน และเขาก็แทบไม่รู้จักกับคำนี้เลย คงเพราะฝันร้ายในวัยเยาว์ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำนี้อีกเลย
บิดาของเขาร่ำรวย แต่ก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา เขาต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์เมื่อเห็นน้ำตาของมารดาไหลอาบแก้มทุกเมื่อเชื่อวัน จนกระทั่งวันที่มารดาจากโลกนี้ไป และทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่เอาไว้ในใจของเด็กสิบขวบเช่นเขา
ความรักเหรอ... มันก็ไม่มีอยู่จริงเหมือนกับคำว่าครอบครัวนั่นแหละ
ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานหรูอย่างไร้จุดหมาย
ตอนนี้เขาอายุย่างเข้าสู่เลขสี่มาสิบสองวันแล้ว แต่ในหัวของเขาก็ยังคงว่างเปล่า ชีวิตในทุกวันคือการทำงาน ส่วนค่ำคืนก็คือการหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
เขาสนุกกับการมีเซ็กซ์โดยไร้การผูกมัด เงินในกระเป๋าจบปัญหากวนใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างที่เขาถูกคู่นอนตามตื้อ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขามีเลขาฯ คู่ใจผู้ที่จะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นจนไม่กลับมาตอแยกับเขาอีก
เรือนร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรขยับเดินกลับมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวโต
หลังจากที่บิดาตายคานมปลอมของนางแบบชุดชั้นในไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เขาก็รับช่วงต่อจากท่านดูแลธุรกิจน้ำมัน และพัฒนาจนมันรุ่งเรืองจนไม่มีคู่แข่งใดๆ กล้าเทียบเคียง
ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งงาน และความรื่นเริงในยามค่ำคืน แต่ทำไมนะ เขาถึงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางสิ่ง
มันไม่ใช่คำว่าครอบครัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่มันคือ...
ลูก...
ใช่แล้วล่ะ ชีวิตของเขายังขาดอีกหนึ่งสิ่งนั้นก็คือลูกที่จะมาสืบทอดธุรกิจทั้งหมด
ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบขมับอยู่ชั่วครู่ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และสามารถคิดหาทางออกให้กับตัวเองได้
เขาคิดเรื่องการมีลูกมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีลูกสักคน แต่สิ่งที่ยากและยังหาทางออกไม่ได้นั่นก็คือ เขาจะไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมพอจะเป็นแม่พันธุ์ให้กับตัวเองได้จากที่ไหนกัน
ผู้หญิงที่จะยอมรับเงื่อนไขร้ายๆ ทุกอย่างจากเขา และยอมจากไปเมื่อคลอดลูกน้อยให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เพศที่ในหัวคิดถึงแต่เงิน
กรามแกร่งที่มีไรหนวดจางๆ ขับกันแน่น ก่อนที่ดวงตาสีสนิมน่าเกรงขามจะเลื่อนไปมองที่บานประตูห้องทำงานที่กำลังถูกเคาะเบาๆ
“เข้ามา”
น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้คนฟังไม่กล้าที่จะปฏิเสธความต้องการได้เลย
“แพรเข้ามาเตือนท่านประธานน่ะค่ะว่าอีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาประชุมผู้ถือหุ้นแล้วค่ะ”
ชมพูแพรหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี ทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร แค่มองตาหล่อนก็พร้อมจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง หล่อนเพียบพร้อม สมบูรณ์ แต่โคตรเชย
ใช่ โคตรเชย
ชมพูแพรแต่งตัวได้เชยระเบิด จนบางครั้งเขาอดคิดไม่ได้ว่าบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ของตัวเองคือโบสถ์ หรือไม่ก็วัดวาอาราม
เขาเคยทวงติงหลายครั้ง แต่ชมพูแพรแย้งกลับมาด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาต้องหุบปากและเลิกยุ่งวุ่นวายกับการแต่งตัวของหล่อนอีก
‘แพรใช้สมองทำงานรับใช้ท่านประธานมาเกือบห้าปี มีงานไหนไหมคะที่แพรทำได้ไม่ยอดเยี่ยม’
เขาจำได้ว่าตัวเองส่ายหน้าไปมา เพราะนึกไม่ออกเลยว่าชมพูแพรเคยทำงานไม่ดีตอนไหน
‘ก็ในเมื่อแพรทำงานได้ดีทุกอย่าง ถูกใจท่านประธานทุกอย่าง ดังนั้นการแต่งกายของแพรก็ไม่จำเป็นต้องตามสมัยนิยม หรือเปิดเผยเนื้อตัวเหมือนกับสาวๆ สมัยนี้ได้ใช่ไหมคะ’
ซึ่งแน่นอนว่าเขาตอบว่า ‘ใช่’ และก็ไม่ก้าวก่ายการแต่งตัวที่เฉิ่มเชยของชมพูแพรอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“โอเค”
ชมพูแพรมองใบหน้าหล่อจัดยิ่งกว่าเทพบุตรของนายจ้างผ่านแว่นหนา เก็บรายละเอียดของเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบอย่างฉกฉวยโอกาส และไม่ต้องการให้อองเดรเห็น
เขาจะรู้ไม่ได้ว่าเลขาฯ เฉิ่มที่ตัวเองยกย่องว่าทำงานยอดเยี่ยมตกหลุมรักเขาจังเบ่อเร่อมาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำงานที่นี่
เกือบห้าปีแล้วสินะที่หล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจเอาไว้ใต้แว่นหนา เจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น และก็เจ็บปวดเสมอที่รู้อยู่เต็มอกว่าอองเดรไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาของผู้ชายคนหนึ่งเลย
ในสายตาของอองเดร หล่อนก็แค่เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ ทำงานยอดเยี่ยม แค่นี้... ใช่แล้วล่ะ สำหรับเขาแล้วหล่อนก็เป็นได้แค่นี้จริงๆ
ชมพูแพรระบายยิ้มปั้นแต่งเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์โศกในหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด เพราะอองเดรไม่เคยสงสัยเลย
“งั้นแพรขอตัวออกไปเตรียมเอกสารประชุมต่อนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำพูดของท่านประธานสุดหล่อ ทำให้เท้าขาวสะอาดในรองเท้าส้นเตี้ยสีดำชะงักกึก หล่อนหันกลับมาจ้องมองผู้เป็นนายจ้างอีกครั้ง
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"