ความรักเหรอ... มันก็ไม่มีอยู่จริงเหมือนกับคำว่าครอบครัวนั่นแหละ
ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานหรูอย่างไร้จุดหมาย
ตอนนี้เขาอายุย่างเข้าสู่เลขสี่มาสิบสองวันแล้ว แต่ในหัวของเขาก็ยังคงว่างเปล่า ชีวิตในทุกวันคือการทำงาน ส่วนค่ำคืนก็คือการหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
เขาสนุกกับการมีเซ็กซ์โดยไร้การผูกมัด เงินในกระเป๋าจบปัญหากวนใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างที่เขาถูกคู่นอนตามตื้อ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขามีเลขาฯ คู่ใจผู้ที่จะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นจนไม่กลับมาตอแยกับเขาอีก
เรือนร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรขยับเดินกลับมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวโต
หลังจากที่บิดาตายคานมปลอมของนางแบบชุดชั้นในไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เขาก็รับช่วงต่อจากท่านดูแลธุรกิจน้ำมัน และพัฒนาจนมันรุ่งเรืองจนไม่มีคู่แข่งใดๆ กล้าเทียบเคียง
ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งงาน และความรื่นเริงในยามค่ำคืน แต่ทำไมนะ เขาถึงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางสิ่ง
มันไม่ใช่คำว่าครอบครัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่มันคือ...
ลูก...
ใช่แล้วล่ะ ชีวิตของเขายังขาดอีกหนึ่งสิ่งนั้นก็คือลูกที่จะมาสืบทอดธุรกิจทั้งหมด
ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบขมับอยู่ชั่วครู่ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และสามารถคิดหาทางออกให้กับตัวเองได้
เขาคิดเรื่องการมีลูกมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีลูกสักคน แต่สิ่งที่ยากและยังหาทางออกไม่ได้นั่นก็คือ เขาจะไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมพอจะเป็นแม่พันธุ์ให้กับตัวเองได้จากที่ไหนกัน
ผู้หญิงที่จะยอมรับเงื่อนไขร้ายๆ ทุกอย่างจากเขา และยอมจากไปเมื่อคลอดลูกน้อยให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เพศที่ในหัวคิดถึงแต่เงิน
กรามแกร่งที่มีไรหนวดจางๆ ขับกันแน่น ก่อนที่ดวงตาสีสนิมน่าเกรงขามจะเลื่อนไปมองที่บานประตูห้องทำงานที่กำลังถูกเคาะเบาๆ
“เข้ามา”
น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้คนฟังไม่กล้าที่จะปฏิเสธความต้องการได้เลย
“แพรเข้ามาเตือนท่านประธานน่ะค่ะว่าอีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาประชุมผู้ถือหุ้นแล้วค่ะ”
ชมพูแพรหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี ทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร แค่มองตาหล่อนก็พร้อมจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง หล่อนเพียบพร้อม สมบูรณ์ แต่โคตรเชย
ใช่ โคตรเชย
ชมพูแพรแต่งตัวได้เชยระเบิด จนบางครั้งเขาอดคิดไม่ได้ว่าบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ของตัวเองคือโบสถ์ หรือไม่ก็วัดวาอาราม
เขาเคยทวงติงหลายครั้ง แต่ชมพูแพรแย้งกลับมาด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาต้องหุบปากและเลิกยุ่งวุ่นวายกับการแต่งตัวของหล่อนอีก
‘แพรใช้สมองทำงานรับใช้ท่านประธานมาเกือบห้าปี มีงานไหนไหมคะที่แพรทำได้ไม่ยอดเยี่ยม’
เขาจำได้ว่าตัวเองส่ายหน้าไปมา เพราะนึกไม่ออกเลยว่าชมพูแพรเคยทำงานไม่ดีตอนไหน
‘ก็ในเมื่อแพรทำงานได้ดีทุกอย่าง ถูกใจท่านประธานทุกอย่าง ดังนั้นการแต่งกายของแพรก็ไม่จำเป็นต้องตามสมัยนิยม หรือเปิดเผยเนื้อตัวเหมือนกับสาวๆ สมัยนี้ได้ใช่ไหมคะ’
ซึ่งแน่นอนว่าเขาตอบว่า ‘ใช่’ และก็ไม่ก้าวก่ายการแต่งตัวที่เฉิ่มเชยของชมพูแพรอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“โอเค”
ชมพูแพรมองใบหน้าหล่อจัดยิ่งกว่าเทพบุตรของนายจ้างผ่านแว่นหนา เก็บรายละเอียดของเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบอย่างฉกฉวยโอกาส และไม่ต้องการให้อองเดรเห็น
เขาจะรู้ไม่ได้ว่าเลขาฯ เฉิ่มที่ตัวเองยกย่องว่าทำงานยอดเยี่ยมตกหลุมรักเขาจังเบ่อเร่อมาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำงานที่นี่
เกือบห้าปีแล้วสินะที่หล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจเอาไว้ใต้แว่นหนา เจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น และก็เจ็บปวดเสมอที่รู้อยู่เต็มอกว่าอองเดรไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาของผู้ชายคนหนึ่งเลย
ในสายตาของอองเดร หล่อนก็แค่เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ ทำงานยอดเยี่ยม แค่นี้... ใช่แล้วล่ะ สำหรับเขาแล้วหล่อนก็เป็นได้แค่นี้จริงๆ
ชมพูแพรระบายยิ้มปั้นแต่งเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์โศกในหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด เพราะอองเดรไม่เคยสงสัยเลย
“งั้นแพรขอตัวออกไปเตรียมเอกสารประชุมต่อนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำพูดของท่านประธานสุดหล่อ ทำให้เท้าขาวสะอาดในรองเท้าส้นเตี้ยสีดำชะงักกึก หล่อนหันกลับมาจ้องมองผู้เป็นนายจ้างอีกครั้ง