คุณหมอราม + หนูวุ้นหวาน อาจเพราะพรหมลิขิตบันดาลให้ชิดใกล้ ความชิดใกล้เป็นบ่อเกิดแห่งเสน่หา แรงเสน่หาเป็นเหตุให้หวั่นไหว ความหวั่นไหวขับเคลื่อนให้เกิดแรงดึงดูด กว่าจะรู้ตัวก็ยากจะยับยั้ง ถลำลึกไปแล้วทั้งใจกาย หวามวาบ ซาบซ่าน กระสันใคร่ ให้ต้องร่ำรัก คราแล้วคราเล่า EX “ สอนวุ้นหน่อยนะคะ พี่ราม ” สุดท้าย เธอก็พูดมันออกไปแล้ว ! เขายืนนิ่ง ปล่อยให้เธอได้จ้องมองหัวไหล่แข็งแรงที่มีรอยสักงามงด แผ่นหลังกว้างอันอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม เอวสอบเพรียวสู่สะโพกแน่นหนั่น และช่วงขายาวแข็งแรงทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ หันกลับมา เธอเบนสายตาไปยังท่อนลำที่บัดนี้มันเหยียดขยายจนใหญ่ยาวกว่าเมื่อครู่ ทั้งอวบอ้วนและแข็งชันจนแทบจะขนานไปกับลอนกล้ามที่หน้าท้องแข็งแรงนั่น เส้นเอ็นรัดร้อยจนปูดโปนไปทั่วลิ่มลำดูน่าเกรงขาม แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ใจกลางกล้ามเนื้อเร้นลับตรงกลางระหว่างขาเต้นตุบ ๆ อย่าบ้าคลั่ง ให้ตายเถอะ ! “ พี่รามงั้นเหรอ ? ” เขาแสร้งถามทั้งที่ได้ยินเต็มสองหูก่อนสาวเท้ากลับเข้ามาหา ทุกย่างก้าวมันทำให้ลมหายใจของเธอติดขัด “ ค่ะ พี่ราม ” “ อะไรที่เธอต้องการ วุ้นหวาน ” “ วุ้นอยากให้พี่รามสอน ” “ สอนเรื่องอะไร ” เขาแสร้งถามทั้งที่รู้อยู่เต็มอก “ สอนเรื่องฉากเลิฟซีนค่ะ ” “ แน่ใจแล้วเหรอ ” “ แน่ใจที่สุด ” “ แต่มันผิดนะ ผิดกับคนรักของเธอ ” “ วุ้นไม่สนค่ะ สอนวุ้นเถอะนะคะพี่รามขา ได้โปรด ” รามเหยียดยิ้ม ในที่สุดเขาก็ชนะ ! เขาสาวเท้าเข้าไปยืนแนบชิด ยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นประคองใบหน้าหวานเอาไว้ “ วุ้นต้องการพี่ ไม่อยากให้พี่ไปไหน ” เด็กสาวพึมพำ ดวงตากลมหวานที่ประสานมานั้นเว้าวอนจนรามแทบหลอมละลาย “ พี่คิดถึงวุ้น ” เขาว่าอยู่แนบชิดริมฝีปากอิ่มก่อนจะขยับไปพรมจูบที่หน้าผาก สองพวงแก้ม แล้วเลื่อนไปทั่วลำคอระหง สองมือของเด็กสาวเกาะกอดไหล่แกร่งไว้แน่นเพื่อเป็นการประคองตัวเองไม่ให้กองลงไปกับพื้น ก็ตอนนี้เรี่ยวแรงเธอเหือดหาย อ่อนละลายไปหมดกับลมหายใจและสัมผัสนั้น หลับตาพริ้มละเลียดกับริมฝีปากอุ่นชื้นที่เม้มดูดเบา ๆ ไปถ้วนทั่ว นี่แหละสิ่งที่เธอโหยหา และอยากให้เขาเติมเต็มเธอจนถึงขั้นสุดท้าย !
“ อย่าวุ่นวาย อย่าจุ้นจ้าน อย่าเพ่นพ่าน คุณรามท่านเป็นคนเงียบ ๆ สุขุม ชอบความสงบ ถ้าแกอยากมีที่ซุกหัวนอนก็จงรู้จักสงบเสงี่ยมและอยู่ในที่ของตัวเอง วุ้นหวาน ”
นี่คือคำสั่งของป้าจันดีผู้เข้มงวด ผู้เป็นป้าของวุ้นหวาน พี่สาวของแม่ที่เป็นญาติคนสุดท้ายที่เธอจะพึ่งพาได้หลังจากแม่เสียไปด้วยโรคมะเร็งมดลูก ส่วนพ่อนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอไม่เคยเห็นเขาตั้งแต่จำความได้ มีแต่ชาวบ้านร้านตลาดที่เขา ร่ำลือกันให้เข้าหูว่าแม่ของเธอท้องไม่มีพ่อตอนที่ไปเรียนในเมือง ดังนั้นป่วยการที่จะไปคาดคั้นว่าพ่อเป็นใครเพราะมันคงเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไรนักแม่จึงไม่เคยปริปากเล่าถึงเรื่องพ่อให้เธอฟัง แต่แม่ก็เลี้ยงเธอมาอย่างดีเท่าที่แม่ค้าขายขนมหวานในตลาดจะทำได้
ป้าจันดีนั้นอายุห่างกับแม่ของเธอถึงสิบห้าปี และป้าได้เสียสละที่จะไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อไปทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของเศรษฐีท่านหนึ่งแล้วส่งเงินมาให้น้องสาวคนเดียวของป้าก็คือแม่ของวุ้นหวานได้ร่ำเรียน ดังนั้นป้าจึงผิดหวังมากที่แม่ตั้งท้องขณะกำลังเรียนอยู่
ปกติแล้วป้าจะกลับไปเยี่ยมบ้านทุกปี แต่หลังจากที่ยายเสียไปเมื่อห้าปีก่อน วุ้นหวานก็ไม่เคยเห็นหน้าป้าอีกเลย แม่บอกว่าป้าว่าคงจะโกรธแม่มากแต่ก็ยังโอนเงินเข้าบัญชีของแม่ทุกปีคราวละหนึ่งหมื่นบาททุกปี วุ้นหวานคิดว่าป้าก็คงรักและห่วงแม่กับเธอ แต่เพราะทิฐิจึงไม่อยากมาพบหน้า
ป้าจันดีเป็นคนเข้มงวด แต่ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยและคำพูดดุดันนั้น วุ้นหวานรู้ดีว่าท่านคงจะเป็นห่วงด้วยเธอก็กำลังแตกเนื้อสาว พึ่งจะจบมัธยมศึกษาปีที่หกด้วยวัยสิบแปดขวบปีที่กำลังสาวสะพรั่ง หลังจากงานศพแม่ ป้าก็สั่งให้เธอเก็บกระเป๋าเพื่อไปอยู่กับป้าที่บ้านของเจ้านายในเมืองหลวงด้วย
แม้จะไม่อยากไป แต่วุ้นหวานจะทำอย่างไรได้ บ้านที่เธออยู่กับแม่นั้นก็เป็นบ้านเช่า อีกทั้งพอแม่จากไปเธอก็ต้อง อยู่เพียงลำพังจะหาความปลอดภัยที่ไหนได้ ตัวเธอเองนับได้ว่าเป็นเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและอวบอัด ผู้ชายในหมู่บ้านที่เธออยู่แม้จะบ้านนอกคอกนาแต่ก็มีทั้งขี้ยาและขี้เมา มักจะจ้องมองเธอด้วยสายตาหื่นกามเสมอ อยู่ที่นั่นไม่ปลอดภัยแน่นอน
“ วุ้นจะทำตัวดี ๆ จ้ะ ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะ สัญญาว่าจะไม่ทำให้ป้าต้องเดือดร้อน ”
เด็กสาวพนมมือขึ้นกระพุ่มไหว้และจ้องมองมาด้วยสายตาใสซื่อ แววตาแข็ง ๆ ของป้าจันดีจึงอ่อนแสงลงบ้าง
“ เออ คิดได้อย่างนั้นก็ดี แล้วคิดหาว่าจะทำยังไงต่อไป จบมอหกแล้วไม่ใช่รึ ”
“ วุ้นอยากจะเรียนต่อจ้ะป้า ”
“ เฮ้ย ๆ แกอย่ามาคิดนะว่าฉันจะมีปัญญาส่งแกเรียนต่อหมาลัยน่ะ ”
“ มหาวิทยาลัยจ้ะป้า ” วุ้นหวานแก้ให้
“ จะอะไรก็ช่างเถอะ ฉันจะเรียกของฉันแบบนี้ เพราะลำพังเงินเดือนคนใช้ของฉันมันก็แค่พอยาไส้ ฉันไม่มีลูกเต้าก็ต้องเก็บหอมรอมริบเอาไว้เมื่อแก่เฒ่าเผื่อจะเจ็บป่วย ”
นางจันดีบอกแบบนี้ทั้งที่เงินเก็บของนางก็เหลือเฟือ ลึก ๆ ในใจนั้นนางก็อยากให้หลานสาวมีความรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพดี ๆ จะได้สุขสบาย แต่อีกใจก็ไม่อยากให้หลานสาวออกไปเรียนด้วยว่ากลัวจะซ้ำรอยน้องสาว ผู้เป็นแม่ของวุ้นหวานนั่นเอง
“ วุ้นรู้ดีจ้ะ ตอนนี้ก็กำลังหาวิธีที่จะหาเงินส่งตัวเองเรียน วุ้นเขียนนิยายขายอยู่ในเว็บไซต์ก็พอได้อยู่เดือนละสองสามพันและจะเก็บไว้สมัครเรียนมหาวิทยาลัยเปิด ”
ป้านิ่งไปนานก่อนตอบกลับมา
“ ตามใจ แต่ถ้าจะไปนอนข้างนอกป้าไม่อนุญาต มาอยู่กับป้าก็ต้องเชื่อฟังป้า ”
“ จ้ะป้า วุ้นไม่ไปอยู่ที่อื่นหรอก มหาวิทยาลัยเปิดก็แค่อ่านหนังสืออยู่ที่บ้านแล้วไปสอบเท่านั้นจ้ะ ป้าไม่ต้องห่วง ” ผู้เป็นหลานสาวตอบ
ถึงแม้จะเกิดมาท่ามกลางความขาดแคลนแต่วุ้นหวานก็เป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน ไม่ได้เก่งมากมายแต่จัดได้ว่าเรียนดีไม่เคยนอกลู่นอกทาง
เธอเติบโตประสาเด็กสาววัยรุ่นและมีความรักโดยคบหากับกานต์ เด็กหนุ่มอายุเท่ากันในโรงเรียนเดียวกัน เขาเป็นเด็กที่ทั้งเรียนดีและกิจกรรมเด่น เป็นประธานนักเรียน กานต์เกิดมาในครอบครัวข้าราชการที่พ่อเป็นนายอำเภอแม่เป็นครู เขาเข้ามาจีบวุ้นหวานและคบหากันโดยไม่สนความแตกต่างของทั้งคู่
แต่ทางเดินก็เหมือนจะเป็นเส้นขนานเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก กานต์สอบติดคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยที่ตนต้องการ ขณะที่วุ้นหวานเองไม่มีปัญญาที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพราะปัญหาทางด้านการเงิน กระนั้นกานต์ก็ยังยืนยันว่าเขารักเธอและยังคงติดต่อกันทางโทรศัพท์เสมอ
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"