ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / สามีตีตรา

เกี่ยวกับ

สารบัญ

กี่ครั้งกี่หน ก็แพ้ก็พ่าย ผู้ชายไม่เคยซื่อสัตย์ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ รูปโฉม กะรัต เทพทัต ไม่อาจนำมาทระนงได้ กี่คราที่ต้องแก้มือใหม่ ถูกตราหน้า ประณามว่าสามผัว มิหนำซ้ำหนสุดท้าย เมื่อเขาตายจากไปมิได้จบกันแค่นั้น แต่ สายน้ำผึ้ง เพื่อนสนิท คบกันมา 12 ปี กลับกลายเป็นเพื่อนสนิท คิดคด อุ้มท้องเยาะเย้ยว่าเป็นเมียหลวง ส่วนเธอคือเมียน้อย กะรัต ผู้แสนฉลาดเลิศล้ำ เฝ้าตรวจสอบปัญหาชีวิตแล้วพลันคิดได้ เธอไม่เคยจับผู้ชายคนไหน ตีตรา ขึ้นทะเบียน เป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย ครานี้ เห็นทีจะต้องให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ พิศุทธิ์ หนุ่มผู้ดี ผู้เกิดมาเป็นอภิชาตบุตรเกินหน้าพ่อแม่ เธอพบว่าเขาเหมาะสมยิ่งอนิจจา... กะรัต เธอมองข้ามสิ่งสำคัญของการครองเรือน เธอลืมความรักแล้วเธอจะรู้ว่าหนนี้ ผู้ชายหรือเธอกันแน่ที่ผิด การตีตราด้วยทะเบียน มันเป็นยันต์ป้องกันชีวิตคู่แตกร้าวได้หรือไม่

บทที่ 1 กะรัต

แดดกำลังแผดจ้าอยู่เหนือท้องทะเลกว้างใหญ่ไพศาล แสงอันจ้านั้นแม้จะมีแว่นสีดำปกป้องดวงตาอยู่ชั้นหนึ่งแล้ว แต่มันก็ยังร้อนแรงจนหล่อนต้องยกมือป้องหน้า ยามที่จะมองผ่านขึ้นไปสู่ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มปราศจากเมฆ

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า นี่คือกลางเดือนธันวาคม

ลมหนาวไม่มีเลย สายลมที่พัดแรงหอบเอาความอบอ้าวมาเสียมากกว่า แล้วกะรัตก็หงุดหงิดเสียเหลือเกิน

“ร้อนเหลือใจ...นวล...นวล” หล่อนส่งเสียงเรียก ค่อนข้างจะกราดเกรี้ยวบอกให้รู้ถึงความเจ้าอารมณ์ ผู้ถูกเรียกวิ่งหัวซุนมายืนประสานมืออยู่ตรงหน้า ท่าทางโงนเงนไปตามจังหวะของเรือที่โยกไปมา

“ไปบอกให้เอาเรือกลับเข้าฝั่งเลยแล้วกัน”

“ไม่อาบแดดแล้วหรือคะ”

“ฉันสั่งแกนะ ไม่ได้ให้แกมาย้อนถามฉัน”

กะรัตเคยพิสมัยแดดเป็นนักหนา เพราะหล่อนมีผิวขาวจัด ขาวจนหล่อนลงความเห็นว่าออกจะขาวเกินไปสักหน่อย แล้วหล่อนก็อยากให้ผิวตัวเองเข้มขึ้น...ถึงขนาดลงทุนมานอนอาบแดดอยู่เป็นกิจวัตร หล่อนมีเรือส่วนตัว...เงินเป็นสิ่งหาง่ายสำหรับหล่อน

เพราะหล่อนเกิดมาเป็นหลานสาวเศรษฐีใหญ่ติดอันดับ ตาของหล่อนเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับสิ่งทอระดับเจ้าพ่อ...

หล่อนนั้นเกิดมาบนกองเงินกองทองก็ว่าได้

วันนี้หล่อนรู้สึกไม่สบายใจโดยไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะหันทางไหนก็ให้ขวางตาไปเสียหมด

แล้วก็ไม่อยากนอนนิ่งๆ มองดูฟ้า ดูนก แล้วก็ดูน้ำทะเลอีก นอกจากกลับเข้าฝั่ง หาเรื่องเพลิดเพลินใจอย่างอื่นให้ความร้อนรุ่มอึดอัดภายในใจบรรเทาไปบ้าง

เรือกำลังจะเข้าจอดเทียบท่า...กะรัตเอาเรือมาจอดที่อู่ ที่นี่เป็นอู่เรือใหม่เอี่ยมระดับเศรษฐี พวกชาวต่างประเทศที่นิยมการแล่นเรือ...ก็พอใจที่ประเทศไทยมีท่าจอดเรือที่ดี และเป็นส่วนตัวไม่มีคนนอกเข้าไปปะปน

กะรัตก็เหมือนบรรดาคนมีเงินอีกมากมาย ที่ทนความเอะอะของคนจนไม่ได้

หล่อนลุกขึ้นมานั่ง พอคลายเส้นสายของเสื้ออาบน้ำออกก็มองเห็นรอยขาวบนผิวเนื้อ ที่ ทำให้หล่อนพอใจมานิดหนึ่ง เพราะเท่ากับว่าผิวส่วนอื่นของหล่อนได้คล้ำลงไปสมใจแล้ว...ก็น่าจะคล้ำ หล่อนบอกตัวเอง เอาเรือออกมาจอดลอยลำอยู่เกือบครึ่งวันเข้าไปแล้ว

นวลเอาเสื้อคลุมของหล่อนมาให้ หญิงสาวลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมทับไปบนชุดอาบน้ำที่มีเพียงสองชิ้น ดูเหมือนหล่อนเปลือยเปล่า...ปราศจากการรัดรึงของเสื้อผ้าอาภรณ์

กะรัตอายุยี่สิบห้า เข้าเบญจเพสพอดี หล่อนสูงเพียงร้อยหกสิบเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นข้อบกพร่องอีก...ลูกสาวคนอื่นๆ ของพ่อแม่ล้วนแล้วแต่สูงเพรียว มีหล่อนเป็นเหมือนไผ่แหกกออยู่คนเดียว แต่ก็ดูกลมกลึงสมส่วน โดยเฉพาะส่วนสะโพกและส่วนขาที่กะรัตก็ไม่ได้หลงตัวเอง ว่าหล่อนมีสองสิ่งสวยมากบนเรือนกาย

หล่อนก็ยังอยากสูงกว่านี้...โดยไม่ต้องพึ่งรองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้วที่สวมอยู่เป็นประจำ

ตอนนี้หล่อนเดินไปเท้าเปล่า ขึ้นจากเรือด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงเชื่อมั่นในตัวเอง รถยนต์ของหล่อนจอดรถรออยู่แล้ว เพื่อพาไปส่งที่บ้านพักตากอากาศ หล่อนไม่ได้วอกแวก...ไม่ได้เหลือบตาไปทางไหนแม้จะมีผู้คนที่รู้จัก แต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจจะทายทัก

คนขับเปิดประตูให้ หญิงสาวผลุบเข้าไปโดยเร็ว ประตูปิดลงอย่างนุ่มนวล แล้วคนขับก็วิ่งเหยาะๆ อ้อมมาเปิดประตูตอนหน้าเข้าประจำตำแหน่งของเขาพาหล่อนพ้นมาจากที่นั่น

กะรัตลงมาจากรถมือเปล่าเท้าเปล่า ข้าวของทั้งหมดนั้นสาวใช้ประจำตัวของหล่อนเป็นคนหอบลงมาจากที่นั่งตอนหน้า

กระซิบนินทากับคนขับรถ โดยมองดูว่ากะรัตเดินไปห่างมากแล้ว

“วันนี้คุณกั้งอารมณ์ไม่ค่อยจะดีหงุดหงิดตลอด ไปเตือนพวกข้างล่างให้ระวังกันเอาไว้หน่อยดีกว่า เกิดผิดหูผิดตาขึ้นมา จะซวยบรรลัยโลก”

แล้วตัวหล่อนก็ต้องกระวีกระวาดตามเข้าไป เผื่อนายสาวจะเรียกใช้สอย

กะรัตเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องพัก บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพ่อแม่ที่ปลูกสร้างอยู่ในที่ดิน ของตา และมีห้องส่วนตัวสำหรับลูกสาวทุกคน ห้องของหล่อนนั้นต่อเติมออกไปอีกเพราะกะรัตพิสมัยท้องทะเลจับใจ ด้านหนึ่งของห้องเป็นบานกระจกใส มองออกไปเห็นท้องทะเลที่งดงามเหมือนผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินมีเลื่อมพรายในตัวของมันเองระยิบระยับ

หล่อนปลดเสื้อคลุมออกไปก่อน แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปลดเอาเสื้อและกางเกงในสองชิ้นออกจากกาย...ทำให้นวลที่เดินตามหลังมาลอบกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะเคยเห็นออกบ่อยจนชินตากับการที่กะรัตจะเดินโทงๆ ไม่ใส่เสื้อผ้าไปทั่วทั้งห้อง เพราะถือว่ามิดชิดดีพอ

หากนางเป็นผู้ชาย ก็คงหลงรักกะรัตนักหนาเพราะดูเถอะขนาดผู้หญิงก็ยังอดใจเต้นตึ้กตั้กเสียมิได้

หุ่นเนี้ยบ แล้วผิวพรรณก็ชวนกิน แม้ตอนนี้จะคล้ำออกเป็นสีแดงๆ เหมือนกุ้งเผาไปทั้งตัวแล้วก็เถอะ

กะรัตลงไปนั่งในอ่างน้ำแล้ว หล่อนเปิดน้ำจนเต็มอ่าง น้ำเย็นเฉียบแช่ตัวอยู่ในนั้น

นวลเพียงแต่เดินตามมารูดผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำให้ เผื่อสาวคนใช้คนอื่นจะตาม เข้ามาเสิร์ฟของว่างจะได้ไม่เห็นอุจาดตา...เรื่องนี้กะรัตเองหละหลวม แต่เป็นคำสั่งของคุณนายพวงหยกแม่ของกะรัตที่ทนกับความ ‘ง่าย’ ของกะรัตลูกสาวคนกลางไม่เคยได้

“นวล...”

เสียงเรียกมาจากหลังม่าน เมื่อกำลังเดินเก็บเสื้อผ้าที่กะรัตถอดโยนๆ ทิ้งเอาไว้

“ขา...”

ยังเข้าไปไม่ได้ทันใจ แต่หล่อนก็ส่งเสียงขานรับเอาไว้ก่อน

“ไปดูพวกข้างล่างที...บ่ายนี้มีอะไรกินมั่ง หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว”

ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าอารมณ์ของกะรัตยังไม่ราบรื่นส่งเสียงตอบเข้าไปว่า

“จะไปดูเดี๋ยวนี้ค่ะ”

หล่อนวางมือจากเสื้อผ้า เผ่นออกไปก่อน และอีกสักครู่ก็เป็นคนเข็นรถตัวเตี้ยๆ เข้ามาเอง บนรถนั้นวางถาดของว่างซึ่งเป็นน้ำชากับขนมปังฝรั่ง...

เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้กะรัตแหวกม่านออกดู แล้วพอเห็น...สีหน้าของหล่อนก็บึ้งตึงจนนวลขยาดแทบจะเผ่นออกไปตั้งหลักนอกห้อง

“พวกแกนี่ท่าทางจะทำให้หน้าฉันเป็นคุกกี้ กี่วันๆ ก็มีแต่ขนมนี่ กินเข้าไปแล้วติดคอตายโหง...”

“คุณกั้งอยากจะรับอะไรละคะ”

“ฉันอยากจะฉีกเนื้อพวกแกออกมากินน่ะสิ” หล่อนตาขุ่น ยังดีที่กะรัตเป็นหญิงสาวที่จัด ว่าสวย ไม่อย่างนั้นเวลาทำหน้าตูมๆ คงจะดูไม่ได้อย่างมาก

“แกเอากลับไปพ้นๆ หน้าฉันเลย ไม่งั้น...ฉันจะเอายัดปากแก”

นวลลนลานเข็นรถออกไป

“แกไปบอกคนขับรถให้เอารถออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากินดีกว่า ฉันอยากกินเนื้อเปื่อยอร่อยๆ กับลูกชิ้นเอ็น...หาซื้อให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นอย่าเสนอหน้ากลับมาให้เห็น”

พอลงไปบอกสมหวัง...ซึ่งเป็นคนขับรถ เขาก็ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่

“เอาอีกแล้ว มีอย่างนี้จะกินอย่างโน้น”

“ยังดี แค่อยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มีขายถมเถไป ดูร้านดีๆ ที่น่ากินหน่อยแล้วกัน”

“ก็ไหนว่าจะเลิกกินเนื้อวัว...”

“ของอร่อยจะเลิกเสียทำไม ไปเร็วๆ น่าพี่หวังอารมณ์ยิ่งกำลังปั่นป่วน ผสมกับโมโหหิวเข้าด้วย จะยิ่งไปกันใหญ่ ไม่อยากเห็นลุกมาอาละวาดถล่มห้องทลาย คุณนายทางกรุงเทพฯ รู้เข้า เอ็ดลูกสาวไม่ได้ ก็จะมาโดนพวกเรานี่แหละ”

พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นวลเลยวิ่งหัวซุนกลับเข้ามาโดยเร็วเพื่อรับสาย

แล้วก็ได้ยินเสียงละล่ำละลักของคุณนายพวงหยก

“แกเรอะ...คุณกั้งอยู่ไหม”

“อยู่ค่ะ”

“ไปบอกเขามารับสายเร็วๆ เลย”

“ค่ะ”

หล่อนบรรจงวางโทรศัพท์ เพราะรู้ว่าหากเกิดเสียงกระแทกกระทั้น กลับไปกรุงเทพฯ ก็คงไม่แคล้วโดนด่า แล้วคุณนายพวงหยกก็ถนัดด่าควบทีละสองภาษาพร้อมๆ กันเสียด้วย

“คุณกั้งคะ คุณนายโทร.มา...บอกให้คุณรีบไปรับสาย” ไม่ได้เข้ามาเรียกนายสาวด้วยมือเปล่า แต่ถือเสื้อคลุมติดมือมาด้วย กะรัตแหวกผ้าม่านออกมาทำสีหน้าเบื่อ ๆ เมื่อได้ยินชื่อมารดา หล่อนลุกพรวดขึ้นยืน แล้วนวลก็รีบเข้าไปส่งเสื้อคลุมให้ หล่อนรับไปสวมแล้วค่อยลุกออกมาจากอ่างอย่างเชื่องช้า เหมือนอาการยุรยาตร

“เร็วๆ เถอะค่ะ คุณกั้ง”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY