ความจำเป็นบังคับ มันเลยทำให้จรสจันทร์ ตัดสินใจเป็น...นางบำเรอ เพราะการตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้เธอถูกมองอย่างไร้ค่า ความโหดเถื่อนของคนต่างถิ่น ที่เปี่ยมไปด้วยพลังดึงดูดทางเพศ สมญานามของเขา คือมัจจุราชจอมอหังกา เจ้าของเหมืองทอง ผู้ชายที่สอนให้เธอรู้จักความลับต่างเพศ ผู้ชายคนเดียวกันนี่แหละที่หยิบยื่นความอดสูให้เธอ เธอเป็นคนแปลกหน้าที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องยอมให้เขากดขี่ ถูกจองจำด้วยไฟปรารถนา ทุกค่ำคืนมีแต่ความทรมาน เธอเกือบตายเพราะรสเสน่หาที่คน คนนั้น ปรนเปรอให้
บทที่1.มัจจุราชแดนเถื่อน
เกอร์เตส กัสตาโวหนุ่มหล่อมาดเข้มเจ้าของเหมืองแร่ทองคำแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มวัย35ปี ดิ้นรนต่อสู้มาจากคนชั้นล่างของประเทศเม็กซิโก จนสามารถยืนผงาดขึ้นได้ โดยการเป็นเจ้าของเหมืองแร่ร้างที่เจ้าของขายให้ในราคาถูก หลังจากถลุงแร่สำคัญๆ ออกไปจนหมด โดยที่เขาไม่รู้ว่า...ลึกลงไปใต้ดินอีกนิดมีสายแร่ทองคำเหลืออยู่ มันเป็นความโชคดีโดยบังเอิญที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้คนสู้ชีวิตแบบเกอร์เตส
ดวงตาคมดุ ใบหน้าคมเข้ม ปลายจมูกโด่งเป็นสันกับเรือนกายกำยำทำให้ชีวิตหนุ่มของเกอร์เตสเต็มไปด้วยสีสัน เพราะมีผู้หญิงวนเวียนอยู่ใกล้ไม่ได้ขาด
วันหนึ่งขณะที่เกอร์เตสกลับจากการหาซื้ออาวุธ เพื่อมาเสริมการป้องกันเหมืองแร่ของตัวเอง สาเหตุเพราะมือดีย่องเข้ามาขโมยของในเหมือง ร่างขะมุกขะมอมของผู้หญิงสาวผู้หนึ่งนอนสลบอยู่ริมทาง เพราะความงามที่เขามองเห็น เกอร์เตสจึงหอบหิ้วหล่อนกลับเหมืองแร่ของตัวเองด้วย สาวสวยวงหน้าหวานพิสุทธิ์ รูปร่างอ้อนแอ้น ภัยร้ายอยู่รอบตัว หากเขาไม่ยื่นมือเขาช่วย หล่อนคงเหลือแค่ซาก
ในเมื่อสังคมเม็กซิโกไม่เคยใส่ใจคนที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ที่สำคัญชายหนุ่มชื่นชมผิวการขาวใสและกลิ่นหอมอ่อนๆ บนเรือนกายหญิงสิ้นสติ เขาหวังบางอย่างประสาชายโสด หากได้ครอบครองหล่อน คงเหมือนขึ้นสวรรค์ดีๆ นี่เอง
จรสจันทร์ ปัทมาพรฟื้นขึ้นมาหลังจากนอนหลับไปหลายชั่วโมง บนเตียงหนานุ่ม ในห้องนอนของใครก็ไม่รู้ ความกลัวคืบคลานเข้ามา เมื่อเหลือบซ้าย แลขวา ไม่คุ้นชินสักอย่าง เธอมองหาทางหนีทีไล่ เพราะมีคดีติดตัว เธอหนีออกมาจากซ่องโจร ถูกหลอกมาขายตัว ขายแรงงานห่างไกลบ้านเกิดเมืองนอนด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ เอกสารประจำตัวถูกยึดไว้ เมื่อเหยียบลงบนพื้นที่ประเทศเม็กซิโก ความเกรงกลัวเกาะกุมใจ ไม่รู้จะหาวิธีไหนย้อนกลับบ้านเกิดได้
กรี้ด!!!
หญิงสาวหวีดร้องเสียงดัง เมื่อเห็นร่างเกือบเปลือยของคนแปลกหน้ายืนจังก้าอยู่ตรงหน้า จรสจันทร์กระโดดลงจากเตียง เธอซุกตัวอยู่ข้างเตียง ตัวสั่นเทาปานลูกนกตกออกมาจากรัง น้ำตาอาบใบหน้า เมื่ออยู่ในดินแดนแปลกถิ่น แปลกที่อยู่ ไกลจากบ้านเกิดและกลัวจับใจ
“#@%!&%&!!!”
ภาษาสเปนรัวเร็วเสียงดังลั่น!! เกอร์เตสโวยวายลั่นห้อง เขาเปิดประตูดังปึงปัง!! ตะโกนร้องเรียกลูกน้องเสียงขรม “ใครให้เอายัยคนนี้มาไว้ที่ห้องกูวะ เอาไปที่อื่นเลย เสียเวลานอนชิปหาย ใครอยากได้ก็เอาเถอะกูยกให้ กูไม่ต้องการเด็กโว้ย...รำคาญ” ชายหนุ่มตะโกนปาวๆ ร้องรียกคนงานบริเวณหน้าบ้านพักอย่างอารมณ์เสีย แค่เด็กกะโปโลขะมุกขะมอมคนหนึ่ง ถึงแม้จะติดใจหล่อนอยู่ไม่น้อย แต่มาแหกปากแบบนี้ เขาไม่ปลื้ม
“ครับนาย...” ราเชษฐหนุ่มไทยที่มาขายแรงงานในต่างแดนรับคำ เขาเป็นคนเกือบสนิทของเจ้าของเหมืองแร่แห่งนี้ ภาษาอังกฤษพอพูดจารู้เรื่อง และพยายามหาโอกาสศึกษาภาษาสเปนเพิ่มขึ้น จนสามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างสบายๆ
“เธอๆ ออกมาเถอะ เจ้านายฉันกำลังโมโห อย่าไปยั่วให้เขาโกรธมากไปกว่านี้เลย เดี๋ยวจะเดือดร้อน” ภาษาไทยบ้านเกิดของตัวเองทำให้จรสจันทร์ดีใจสุดขีด เธอรีบมุดออกมาจากใต้เตียง หยุดร้องกรี้ดๆ
“พี่คนไทยหรือเปล่า???...ช่วยรสด้วย รสมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ รสอยากกลับบ้าน” จรสจันทร์ละล่ำละลักบอก ผู้ชายแปลกหน้าคนใหม่แต่เขาพูดภาษาเดียวกัน ราเชษฐถอนใจเฮือก...หนุ่มใหญ่มองใบหน้าหวานใสด้วยแววตาสงสาร แม้จะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่นคราบดิน แต่ก็ยังคงงดงามต้องตาใครๆ หลายคนในดินแดนเถื่อนห่างไกลความเจริญ
“พี่ช่วยเราไม่ได้หรอกนะ เราต้องช่วยตัวเองก่อน พี่ก็เป็นแค่ลูกจ้างเขาเหมือนกัน แต่ยินดีต้อนรับ คุณเกอร์เตสไม่ได้ใจร้ายไส้ระกำนักหรอก มีน้ำใจอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงปล่อยให้เราตายข้างถนนไปแล้วล่ะ ออกมาเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยพูดให้ ไปทำอีท่าไหนมาล่ะถึงได้ไปเป็นลมเป็นแร้งอยู่ข้างถนน เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไม่น่ามาทำงานไกลบ้านแบบนี้ พ่อแม่ไม่เป็นห่วงแย่แล้วรึ…”
“รสถูกหลอกมาน่ะพี่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่ในเม็กซิโกแล้ว จะหนีกลับก็ทำไม่ได้ทั้งพาสปอร์ต บัตรประชาชน เอกสารทางราชการโดนยึดไปหมด รสหนีออกมาจากขุมนรกนั้นได้ก็เป็นบุญที่สุดแล้ว ไม่อย่างนั้นรสคงได้ไปเป็นผู้หญิงขายตัวอยู่ที่ซ่องไหนซักแห่งในประเทศนี้แล้วแหละ” จรสจันทร์กล่าวเสียงสั่นเทา แววตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------