หนึ่งนั้นหนุ่มหล่อลากไส้ เซร์คิโอ คุณานันท์ อะลอนโซ ที่ร้ายกาจยิ่งกว่ามัจจุราชจากขุมนรก ส่วนอีกหนึ่งก็คือ แก้วกัลยา สาวน้อยงามสะพรั่งที่ต้องยอมแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นยิ่งกว่าจอมมารในสายตาของตนเพราะไม่มีทางเลือก และเมื่อทั้งคู่ต้องมาห่ำหั่นกันด้วยเล่ห์เหลี่ยมเพื่อทำให้เป้าหมายของตัวเองสำเร็จ อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อแรงดึงดูดระหว่างกันนั้นช่างมีอำนาจแรงกล้าซะเหลือเกิน... “แก้วต้องการคุณค่ะ อยากเป็นเมียของคุณ...” หญิงสาวพยายามสะกดความหวั่นเกรงที่กำลังเอ่อล้นท่วมท้นหัวใจให้จมดิ่งลงไปสู่ซอกลึกในหัวอกสุดกำลัง ก่อนจะร้องสั่งตัวเองให้เข้มแข็ง และอย่าแยแสกับกระแสอารมณ์เดือดดาลที่เซร์คิโอกำลังใช้มันมาฟาดฟันหล่อนอย่างไร้ความปรานี “บนเตียงของคุณ...” ชี้นิ้วเรียวขาวสะอาดสั่นๆ ตรงไปยังเตียงกว้าง และหล่อนก็ได้ยินเสียงคนตัวโตสบถในลำคอรัวเร็วเป็นภาษาที่ตัวเองไม่เข้าใจเลยสักนิด ก่อนที่เขาจะจ้องหน้าหล่อนเขม็ง ส่งกระแสความเหี้ยมโหดพุ่งเข้าใส่หน้าของหล่อนอย่างอำมหิตอย่างต่อเนื่อง “บนเตียงของฉัน? มากไปหน่อยไหมแม่คุณ...” ทั้งสายตาและคำพูดเต็มไปด้วยความคุกคาม แต่กระนั้นมันก็ยังไม่มีผลต่อแก้วกัลยามากเท่ากับเรือนกายแข็งแกร่งที่แนบชิดเข้ามาหา “ฉันบอกคุณแม่ไปแล้วไงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉันอยากจะมีเซ็กซ์ด้วย หรือว่าคุณแม่ไม่ได้บอกเธอล่ะ” ความอับอายแล่นจากลำคอขึ้นมาสู่พวงแก้มจนมันแดงเทือก “เอ่อ บอกค่ะ แต่... คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันไม่ใช่แบบที่คุณชอบ ในเมื่อ...” ความอดสูทำให้หญิงสาวต้องหยุดพูดชั่วขณะ “ในเมื่ออะไรไม่ทราบ?” ทั้งๆ ที่ระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขากับหล่อนก็ยังคงเท่าเดิม แต่ทำไมนะ ทำไมหล่อนถึงรู้สึกว่าริมฝีปากหยักสวยของเซร์คิโอมันอยู่ใกล้เกินไปนะ รู้สึกว่ามันเคลื่อนลงต่ำมาหาในทุกๆ ครั้งที่หล่อนหายใจเชียวแหละ “เอ่อ ในเมื่อ... คุณยังไม่เคยลอง” หัวใจสั่นสะท้าน ทั้งหวาดกลัว ทั้งตื่นตระหนกจนสมองแทบจะหยุดทำงานเอาซะดื้อๆ กับเสียงหัวเราะแสนอำมหิตที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของคู่สนทนา “หน้าด้าน!” ผรุสวาทจากผู้ชายตรงหน้าทำให้แก้วกัลยาถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เจ็บเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่ก็ต้องกัดฟันเล่นตามบทบาทที่ถูกวางไว้ต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก “แก้วทำเพื่อคุณยังไงล่ะคะ” “ร่านเพื่อฉันอย่างนั้นหรือ” “ค่ะ...” รับคำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ภายในอกจนมิด ขณะกัดฟันปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกจนครบทุกเม็ด สาบเสื้อแยกออกจากกันจนเห็นบราเซียลูกไม้สีขาวที่โอบอุ้มเต้างามขนาดใหญ่เอาไว้เต็มๆ ตา และสาวน้อยก็ทำให้ชายหนุ่มตาค้างเมื่อเจ้าหล่อนกล้าพอที่จะปลดบราเซียร์ทิ้งไปข้างตัว เผยเต้างามอวบใหญ่ที่ปลายถันประดับด้วยอัญมณีสีกุหลาบที่น่าดูดน่าอมด้วยปากแก่สายตา
บทที่ 1
กรุงมาดริด, ราชอาณาจักรสเปน
พาลาทิน่า อะลอนโซ คฤหาสน์หรูหราที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกและดีไซเนอร์ฝีมือระดับโลก ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินสูงในทำเลอันเงียบสงบที่รายล้อมด้วยธรรมชาติของกรุงมาดริดด้วยเนื้อที่กว่า 250 เอเคอร์ และเพราะอยู่บนเนินสูงจึงทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของตัวเมืองเบื้องล่างได้ชนิดสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
คฤหาสน์ราคาหมื่นล้านเศษแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินอ่อนราคาแพงระยับนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหลังไม่เว้นแม้กระทั่งทางเดิน ขณะที่ด้านในได้รับการออกแบบและตกแต่งเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายส์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้ความรู้สึกทั้งหรูหรา และงามสง่าจนคนที่ได้มีโอกาสเข้ามาเยือนอดทึ่งกับความสมบูรณ์แบบที่เจ้าของรังสรรค์ขึ้นมามิได้ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ได้รับเชิญให้เข้ามาในพาลาทิน่า อะลอนโซแห่งนี้ก็ตาม
ภายในพาลาทิน่า อะลอนโซจุสิ่งอำนวยความสะดวกจากทั่วโลกเอาไว้มากมาย เช่น ห้องนอนที่มีทั้งห้องน้ำและห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ภายใน ห้องนิรภัย สระว่ายน้ำในร่ม ห้องอบซาวน่า สปา ห้องฟิตเนส ไนต์คลับหรู ห้องจัดเลี้ยง ห้องชมภาพยนตร์ที่มีทั้งแบบส่วนตัวและแบบที่สามารถจุผู้ชมได้เกือบร้อยคน ลานโบว์ลิ่ง ระเบียงขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ห้องสมุดขนาดยักษ์ที่บรรจุหนังสือทุกประเภทอยู่ภายใน
ขณะที่ด้านนอกรอบๆ สิ่งก่อสร้างราคาแพงระยับแห่งนี้ยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามไดร์ฟกอล์ฟ สนามเทนนิส บ้านพักรับรองแขก ที่พักส่วนตัวสำหรับคนใช้ โรงจอดรถที่สามารถจอดรถได้มากกว่า 100 คัน สวนสวยเล่นระดับตั้งอยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกขนาดใหญ่ซึ่งเจ้าของผู้ร่ำรวยจำลองมันขึ้นมาได้เสมือนจริงจนน่าอัศจรรย์ใจ ขณะที่รอบๆ ตัวคฤหาสน์ยังเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่โอบล้อมพื้นที่คฤหาสน์เอาไว้อย่างร่มรื่น แต่ที่น่าทึ่งสุดๆ ของคฤหาสน์หลังนี้ก็คือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่กินเนื้อที่กว่า 20 เอเคอร์แห่งนี้ต่างหาก เพราะกลไกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบกรองน้ำหรือแม้แต่ระบบปรับอุณหภูมิน้ำต่างถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
และหากไม่นับเพนท์เฮ้าส์สุดหรูจำนวนร้อยกว่าแห่งทั่วโลกแล้วละก็ สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยมของ เซร์คิโอ อะลอนโซ คุณานันท์ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนทายาทเพียงคนเดียวของ คาร์โลส กับ กัญญิกา อะลอนโซ อิเกลเซียส เลยทีเดียว
เซร์คิโอ อะลอนโซ คุณานันท์ หนุ่มลูกครึ่งเลือดผสมระหว่างสแปนิชและไทยอยู่ในตัว ถูกจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บว่าเป็นผู้ชายที่หยิ่งผยองและเข้าถึงยากที่สุดในโลก แต่กระนั้นเขาก็ยังติดโผผู้ชายที่ทรงอำนาจต่อหัวใจของ สาวๆ ทั่วโลกมากที่สุดด้วยเช่นกัน
อาจจะเป็นเพราะเรือนกายกำยำสมบูรณ์ด้วยความสูงหกฟุตสี่นิ้ว ผิวกายสีทองอร่าม ริมฝีปากหยักลึกสีสดที่เต็มไปด้วยความเยาะหยันตลอดเวลา หรืออาจเป็นเพราะนัยน์ตาคมกริบสีน้ำเงินจัดที่อยู่เหนือจมูกโด่งเป็นสันงามแบบผู้ดีของเขาก็เป็นไปได้ที่ทำให้ชายหนุ่มโดดเด่น น่าหลงใหล และเป็นที่หมายปองของสตรีชั้นสูงทั่วโลก
ในสายตาของคู่แข่ง เซร์คิโอได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายที่อำมหิตไม่แพ้บิดาของตนเองหรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ชายหนุ่มบดขยี้คู่แข่งจนไร้ทางรอด จากนั้นก็ขุดหลุมลึกและเขี่ยให้ผู้เป็นปฏิปักษ์ตกลงไปอย่างเลือดเย็น คำว่าเมตตาปรานีไม่เคยถูกบรรจุอยู่ในสมองอันชาญฉลาดระดับบิลเกตต์ของเขาพอๆ กับคำว่าพ่ายแพ้นั่นแหละ แต่สำหรับในสายตาของหญิงสาวแล้ว เซร์คิโอ อะลอนโซ คุณานันท์ คือเทพบุตรจากชั้นฟ้าผู้มีทั้งความอำมหิต เซ็กซี่และเร่าร้อนผสมผสานกันอย่างลงตัวน่าลิ้มลองสักครั้งหนึ่งในชีวิตยิ่งนัก
แต่พวกหล่อนทั้งหลายล้วนต้องผิดหวังกันเป็นทิวแถว เพราะเซร์คิโอเลือกผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงด้วยอย่างพิถีพิถัน เจ้าหล่อนต้องเร่าร้อน เซ็กซี่ และไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสา กว่าแม่คุณทั้งหลายจะถูกเรียกขึ้นเตียงของเขาได้นั้น พวกหล่อนจะต้องผ่านขั้นตอนมากมายเสียก่อน ตั้งแต่ตรวจสอบประวัติ ตรวจร่างกาย ไปจนถึงการตรวจภายในจากสูตินรีแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และจากนั้นก็นั่งรอนอนรอจนกว่าจะถึงคิวของตัวเอง...
และแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าตัวให้กับพวกผู้หญิงที่มาบริการตนเองบนเตียงเป็นจำนวนมาก แต่เซร์คิโอก็ไม่เคยคิดจะหยุดสัญชาตญาณนักล่าของตนเองเอาไว้ที่สตรีคนไหน แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนมีความสามารถพอที่จะผูกมัดร่างกายและจิตใจของเขาเอาไว้ได้ แค่คืนเดียวทุกอย่างก็จบลงพร้อมๆ กับเงินจำนวนมากมายหลายหมื่นยูโรที่เขายินดีจะจ่ายให้กับความพึงพอใจระยะสั้นนี้
ริมฝีปากหยักลึกสีสดของเซร์คิโอยกโค้งขึ้นน้อยๆ เป็นรอยยิ้มดูแคลน เมื่อนึกถึงเส้นสายของความดีใจจนเนื้อเต้นที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของผู้หญิงเหล่านั้น พวกหล่อนก็มีค่าไม่ต่างจากสินค้าราคาแพงที่เขายอมจ่ายเพื่อให้ได้ความพึงพอใจสูงสุดเท่านั้นเอง
ชายหนุ่มผละจากระเบียงขนาดใหญ่หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องกระจกซึ่งเป็นมุมโปรดของตัวเอง เพราะมันมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเบื้องล่างได้แบบพาโนราม่า กายใหญ่ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มราคาแพงระยับสีทองอร่ามไม่ต่างจากสีผิวของตัวเองนัก แล้วถอนใจออกมาด้วยความเคร่งเครียดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อนึกถึงเด็กสาวที่ชื่อแก้วกัลยา เชาว์อารีรักษ์ สาวน้อยวัยเพียง 20 ปีที่มารดาบังคับให้เขายอมรับเจ้าหล่อนเป็นเจ้าสาวในอนาคตของตนเอง
เขาไม่ชอบ ไม่พอใจ และขัดใจเป็นอย่างมาก แก้วกัลยานั้นเด็กเกินไป หล่อนอ่อนหวาน และดูใสซื่อ ไม่มีทางที่เจ้าหล่อนจะรองรับอารมณ์ที่เรียกว่าเข้าขั้นดิบเถื่อนของเขาได้อย่างแน่นอน หล่อนอาจจะสลบตั้งแต่ยกแรกบนเตียงของเขาก็เป็นได้
ก็แน่นอนละ เซร์คิโอเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก เขาดุเดือด หนักหน่วง และไม่เคยยั้งมือกับคู่นอนเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นผู้หญิงทุกคนที่เขาเลือกขึ้นเตียงจึงต้องเป็นสาวที่มีประสบการณ์ทางเพศสูง เร่าร้อน และชื่นชอบเซ็กส์เถื่อนๆ เฉกเช่นเดียวกับเขา ซึ่งจากที่มองแก้วกัลยาขาดคุณสมบัติเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง
แต่เขาก็ปฏิเสธมารดาไม่ได้...!
ชายหนุ่มถอนใจออกมาอีกครั้ง เมื่อภาพดวงหน้านวลอ่อนใสของแก้วกัลยาผุดขึ้นมาในสมองซ้ำอีกครั้ง ใบหน้ารูปไข่ขาวสะอาดตา ถูกตกแต่งด้วยคิ้วโก่งเรียวงาม ดวงตาสีดำขลับหวานซึ้ง จมูกโด่งเชิดน้อยๆ บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นซ่อนความดื้อดึงเอาไว้มากมายแค่ไหน แต่ที่ดึงดูดสายตาของเขามากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นกลีบปากสีแดงสดดุจสตรอว์เบอร์รีสุกที่แย้มเผยอมองเขาอย่างลืมตัวคู่นั้น
มันอิ่มเต็ม และคงจะหอมหวานน่าดูหากเขาได้ขยี้ด้วยริมฝีปากของตัวเองลงไป
แค่ความคิดนี้แวบขึ้นมาในสมอง เลือดในกายของเซร์คิโอก็เดือดพล่าน ร้อนฉ่า แถมที่ซอกขาก็ยังอึดอัดปวดร้าวจนน่าตกใจ ชายหนุ่มก้มหน้ายอมรับโดยดุษณีเลยว่าแก้วกัลยานั้นสวยสดหยดย้อยไปทั้งเนื้อทั้งตัว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รังเกียจรังงอน ออกจะพอใจด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่สามารถจะรับหญิงสาวมาเคียงกายในตำแหน่งภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้
คำว่า ‘ชีวิตคู่’ ไม่เคยบรรจุอยู่ในสมองของเขามาก่อน และเขาก็จะไม่เริ่มต้นคิดถึงมันเพียงเพราะถูกบังคับจากมารดาอย่างแน่นอน แก้วกัลยาไม่มีทางที่จะทำอย่างที่ตั้งใจไว้สำเร็จ เพราะเขาไม่เคยมีความคิดที่จะลากแม่สาวน้อยแสนบอบบางคนนี้ขึ้นเตียงแม้แต่นิดเดียว
เสียงกระดิ่งหน้าเรือนกระจกสั่นเบาๆ ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกเมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อให้สัญญาณ ปรากฏร่างของโรเบิร์ตข้ารับใช้ผู้ภักดีก้าวเข้ามาหยุดอยู่กลางห้อง
นัยน์ตาสีน้ำเงินจัดเหลือบขึ้นจ้องหน้าคนสนิทนิ่ง ก่อนที่ริมฝีปากหยักลึกสีสดจะเอื้อนเอ่ยคำพูดออกไป
“เธอมาแล้วใช่ไหม?”
“ครับนายน้อย คุณแก้วกัลยาเดินทางมาถึงแล้วครับ”
คำตอบแสนสุภาพของคนสนิทยิ่งตอกย้ำความเคร่งเครียดลงบนใบหน้าหล่อกระชากลมหายใจของเซร์คิโอให้มากขึ้นหลายเท่าตัว ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ยกมือขึ้นเสยผมเส้นเล็กที่หล่นลงมาเกะกะใบหน้าด้วยความรำคาญ แววตาสีน้ำเงินจัดมืดดำจนอ่านความรู้สึกใดๆ ไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
“ให้เธอไปพักที่เรือนรับรองแขกนอกตึกใหญ่”
“เอ่อ... แต่นายหญิงสั่งให้คุณแก้วกัลยาพักห้องเดียวกับนายน้อยครับ”
โรเบิร์ตหลุบตาลงต่ำเพราะรู้ดีว่าคำพูดของตัวเองจะต้องทำให้เซร์คิโอเดือดดาลมากแค่ไหน และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อร่างสูงใหญ่แสนสมบูรณ์แบบลุกพรวดขึ้นยืนพร้อมกับจ้องเขาตาขุ่นขวาง บ่งบอกว่าอารมณ์ที่อยู่ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังปะทุยิ่งกว่าภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิดมากมายแค่ไหน
“ฉันยังยืนยันคำสั่งเดิม พาแก้วกัลยาไปพักที่เรือนรับรองแขกนอกตึกใหญ่” ทุกคำพูดถูกเค้นออกมาจากไรฟันขาวสะอาดที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบของหนุ่มหล่อติดอันดับต้นๆ ของโลกอย่างเซร์คิโอ อะลอนโซ คุณานันท์
“แต่ว่า...”
“ฉันไม่ชอบคำว่าแต่... ออกไปทำตามคำสั่งของฉันเสีย ร็อบ”
“ครับ นายน้อย” ไม่มีทางอื่นให้เลือกอีก นอกจากก้มหน้าทำตามคำสั่งของผู้ครอบครองพาลาทิน่า อะลอนโซเพียงอย่างเดียว
“ฉันไม่ใช่หมูให้เธอจับได้ง่ายๆ หรอกแก้วกัลยา”
โรเบิร์ตข้ารับใช้ผู้จงรักภักดีเดินออกไปแล้ว เซร์คิโอที่ยืนอยู่จึงเค้นเสียงคำรามออกมาจากลำคอ ก่อนจะพาเรือนกายทรงพละกำลังของตัวเองออกไปจากเรือนกระจกมุ่งหน้ากลับสู่ห้องนอนของตัวเองทันที
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...