‘หอมดอกซ่อนชู้’ หญิงสาวที่มีเพียงความสวยเป็นเสบียงติดตัว เมื่อความเหงาเปล่าเปลี่ยวเพราะสามีไม่อยู่ บวกกับความเร่าร้อนของหญิงชายที่บังเอิญเห็น เธอจึงถลำเข้าไปในดงดอกซ่อนชู้ จนไม่อาจถอนความต้องการอย่างมากล้นออกมาได้ ดอกไม้กลีบบอบบางจึงกลายเป็นดอกไม้ประจำบ้าน ให้ชายทุกคนเชยชม ‘ชู้! ใครล่ะอยากมี หรือคุณอยาก? แต่เชื่อเหอะถ้าคุณได้กลิ่นแล้วจะติดใจ ‘ดอกซ่อนชู้’ น่ะ มันหอมแรง!!’ ‘โลดแล่นไปในห้วงแห่งกลิ่นหอมรัญจวน’
กลิ่นอะไรบางอย่างที่โชยแผ่วมาตามลมทำให้ฝ่าเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ตัวบ้านถึงกับชะงัก ชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างสันทัดใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้ม ดวงตายาวรี จมูกโด่ง ริมฝีปากสีแดงสด คมคายตามแบบฉบับชายไทยเชื้อสายจีน หลับตาลงพร้อมแหงนใบหน้าขึ้นเพื่อสูดดมเอากลิ่นนั้นให้เข้าไปในปอดลึกๆ
‘หอม’ นั่นคือโสตสัมผัสที่รับรู้ได้ แต่หอมแบบนี้ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน หอมมาก หอมแรงและดูเหมือนว่าจะยิ่งแรงมากขึ้นๆ เมื่อเขาสูดดมความหอมนั้นจนเต็มปอด และทิศทางลมที่โชยมาก็บอกว่าต้นตอแห่งความหอมนั้นมาจาก ‘ห้องนอนของเขา’ และสิ่งที่แรกเห็นเมื่อเข้ามาในห้องนอนก็คือ
เธอที่นั่งหันหลังให้กับเขา แค่เห็นเบื้องหลัง เลือดลมในกายก็พลุ่งพล่านจนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนอยากจะเหวี่ยงเสื้อผ้าทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ความสวยงามนั้นก็สั่งให้เขาหยุดเพื่อชื่นชมความงามที่ร้างราไปนานกว่า 1 สัปดาห์
ผิวขาวนวลอมชมพูที่โผล่พ้นเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณต้นคองามระหงที่มีเรือนผมดำยาวสยายนั้นขมวดรวมไว้อย่างไม่ค่อยบรรจง คงเพียงเพราะต้องการจะตัดรำคาญหรือไม่ก็เพื่อขับไล่ความร้อนอบอ้าว หัวไหล่ลาดเนียนที่เปิดเผยผิวสวยให้เห็นเพราะเสื้อนั้นเป็นคอปาดเข้ารูป หรือจะเป็นต้นแขนเรียวเสลาขยับหยิบจับอะไรบางอย่างด้านหน้าที่ดูว่าเธอจะพิสมัยกับมันนัก อีกทั้งบั้นเอวคอดกิ่วจนเขาอยากจะทาบฝ่ามือลงและจับโยกให้คลายคิดถึง
ดวงตายาวรีสำรวจมองไล่ลงมาถึงสะโพกผายที่สร้างความหวั่นไหวให้กับเขาในทุกครั้งเมื่อมันสะบัดพลิ้วไปมาเหนือร่างกายของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเธอคนนี้ แม้เพียงด้านหลังก็ทำให้ผู้ชายทุกคนที่ได้มองคงไม่อาจจะถอนสายตาได้โดยง่าย และเขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ไม่ใช่แค่มอง แต่ได้ครอบครอง ทั้งตัว หัวใจ และใบหน้างดงามที่ค่อยๆ หันช้าๆ มองมา
“เฮียเล็ก!” เสียงหวานร้องขึ้นอย่างไม่คาดฝัน แววตาไหวระริกด้วยความดีใจ ก่อนจะทิ้งดอกไม้ในมือแล้วโผเรือนร่างเข้ามาให้คนที่ยืนกางแขนรอรับไว้นั้นสวมกอดด้วยความคิดถึง
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไรจ๊ะ ซ่อนคิดถึงเฮียที่สุดเลย” ซ่อนกลิ่นซุกซบใบหน้างดงามราวจันทร์วันเพ็ญกับอกแกร่งของสามีด้วยความคิดถึงที่สุด
“เฮียก็คิดถึงน้องซ่อน คิดถึงที่สุดเหมือนกัน” จมูกโด่งซุกไซ้ไปตามเรือนผมหอมกรุ่นของเมียสาว เมียที่ทำให้เขาร้อนรุ่มอยากจะกลับมาให้ถึงบ้านเร็วๆ แต่งานที่ต้องไปซื้อข้าวที่ต่างจังหวัดครั้งละนานๆ มันทำให้เขาโหยหาเรือนร่างนี้จนแทบจะลงแดงตาย
“ซ่อนก็คิดถึงเฮียจ้ะ คิดถึงที่สุดเลย” เสียงหวานเอ่ยตอบวางทาบฝ่ามือกับอกแกร่งของผัว ยังคงกอดรัดเขา เพราะโหยหาเหลือเกินความอบอุ่นนี้
“น้องซ่อนทำอะไรอยู่จ๊ะ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน หรือว่ารอเฮีย” ถามพร้อมสายตาซุกซนกวาดมองไปตามวงหน้าก่อนจะเรื่อยลงมาตามต้นคอระหงจนมาถึงหน้าอกอวบอิ่มที่พุ่งชูชันรอคอยให้เขาเอาหน้าลงคลุก
“ซ่อน... ก็รอเฮียแหละจ้ะ จำได้ว่าเฮียจะกลับวันนี้แต่ซ่อนก็ไม่รู้ว่าจะกี่โมงกี่ยามกัน ซ่อนก็เลยนั่งจัดแจกันดอกไม้ไปพลางๆ น่ะจ้ะ เผื่อเฮียมาจะได้รู้ว่าซ่อนรออยู่” ตอบคำถามทั้งที่ใบหน้านั้นเริ่มร้อนวูบวาบแดงระเรื่อจากสายตาของสามีที่แสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน
“น้องซ่อนเมียรักของเฮียน่ารักที่สุด แล้วนี่ดอกอะไรเหรอจ๊ะ หอมมาก แต่เฮียไม่รู้จัก” ดอกไม้สีขาวนวลเป็นก้านยาวคล้ายกล้วยไม้ แต่มีดอกคล้ายปีบ ดอกเล็กๆ น่าทะนุถนอมที่ร้อยเรียงกันเป็นช่อดอกนั้นมีสีชมพูระเรื่ออยู่ตรงปลาย
“อิอิ... ก็ดอก...”
ซ่อนกลิ่นขยับกายออกห่างเล็กน้อย นิ้วชี้จิ้มปลายคางของตัวเองราวกับจะบอกว่าดอกไม้นั้นคือตัวเธอ แต่หัวคิ้วเข้มๆ ของเสี่ยเล็กที่ขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจก็ทำให้ริมฝีปากต้องเบะน้อยๆ กึ่งยิ้มกึ่งเง้างอนก่อนจะเฉลย
“ก็ดอกซ่อนกลิ่นยังไงล่ะจ๊ะ”
“หือ... ดอกซ่อนกลิ่น หอมขนาดนี้เชียวเหรอ”
“จ้ะ หอมมาก และซ่อนก็ชอบมากด้วย”
“ใช่ เฮียเห็นด้วย หอมมาก และเฮียก็ชอบ หอม... หอมที่สุด”
จมูกโด่งซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นหอมที่ไม่รู้ว่ามาจากผิวกายเมียสาว หรือมาจากเจ้าช่อดอกสีขาวอมชมพูที่บางส่วนเสียบอยู่ในแจกันใบโต และบางส่วนยังทอดร่างแสดงความสวยงามของก้านดอกสีเขียวอ่อนอยู่บนโต๊ะไม้สักฝังมุกกันแน่ รู้แต่ว่ากลิ่นหอมแรงอย่างนี้มันทำให้เลือดลมของเขาฉีดพล่านดูจะร้อนรุ่มมากกว่าเดิม อยากพรมจูบ ลากริมฝีปากและจมูกไปทั่วทุกอณูผิวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อยากจะซึมซับเอาความหอมนี้ให้ชุ่มปอด อยากจะเคล้นคลึงเต้าอวบใหญ่ให้หายคิดถึง อยาก...
“อื้อ... เฮียก็ มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิจ๊ะ แล้วนี่เฮียกินข้าวกินปลามาหรือยัง ซ่อนจะได้ไปเตรียมให้” ถามเสียงสั่นบิดกายให้พ้นจากจมูกซุกไซ้และฝ่ามือที่ปะป่ายไปบนร่างเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ร้างราให้โหมขึ้น
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน “คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม”
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
“อู้ว… ยังเป็นสีชมพูจริงๆ… ” เสี่ยรุตน์หมายถึงหัวนมที่ยังไม่เคยต้องมือและปากลิ้นของชายใดมาก่อน รีบกดริมฝีปากครอบดูดลนลานราวกับไม่เคยเจอมาก่อน “อื๊อออ… ” น้ำหวานพยายามข่มกลั้นเสียงร้อง ทว่ามันยิ่งทำให้เสี่ยรุตน์ชอบใจ กดใบหน้าซุกไซ้เต้าเนื้อพร้อมกับวนลิ้นรัดเลียรอบเม็ดทับทิมสีชมพู ชูชันขึ้นมาด้วยความสยิว กะซวกดูดลงมาถึงวงป้านลานหัวนมสีเนื้อ จ๊วบ… จ๊วบ… จ๊วบ… จ๊วบ… เสียงดูดเลียลนลาน ทำเอาเจ้าของเต้าเนื้อรู้สึกเสียวซ่าน สองขาสั่นเกร็งแทบยืนไม่ไม่อยู่
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…