‘หอมดอกซ่อนชู้’ หญิงสาวที่มีเพียงความสวยเป็นเสบียงติดตัว เมื่อความเหงาเปล่าเปลี่ยวเพราะสามีไม่อยู่ บวกกับความเร่าร้อนของหญิงชายที่บังเอิญเห็น เธอจึงถลำเข้าไปในดงดอกซ่อนชู้ จนไม่อาจถอนความต้องการอย่างมากล้นออกมาได้ ดอกไม้กลีบบอบบางจึงกลายเป็นดอกไม้ประจำบ้าน ให้ชายทุกคนเชยชม ‘ชู้! ใครล่ะอยากมี หรือคุณอยาก? แต่เชื่อเหอะถ้าคุณได้กลิ่นแล้วจะติดใจ ‘ดอกซ่อนชู้’ น่ะ มันหอมแรง!!’ ‘โลดแล่นไปในห้วงแห่งกลิ่นหอมรัญจวน’
กลิ่นอะไรบางอย่างที่โชยแผ่วมาตามลมทำให้ฝ่าเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ตัวบ้านถึงกับชะงัก ชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างสันทัดใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้ม ดวงตายาวรี จมูกโด่ง ริมฝีปากสีแดงสด คมคายตามแบบฉบับชายไทยเชื้อสายจีน หลับตาลงพร้อมแหงนใบหน้าขึ้นเพื่อสูดดมเอากลิ่นนั้นให้เข้าไปในปอดลึกๆ
‘หอม’ นั่นคือโสตสัมผัสที่รับรู้ได้ แต่หอมแบบนี้ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน หอมมาก หอมแรงและดูเหมือนว่าจะยิ่งแรงมากขึ้นๆ เมื่อเขาสูดดมความหอมนั้นจนเต็มปอด และทิศทางลมที่โชยมาก็บอกว่าต้นตอแห่งความหอมนั้นมาจาก ‘ห้องนอนของเขา’ และสิ่งที่แรกเห็นเมื่อเข้ามาในห้องนอนก็คือ
เธอที่นั่งหันหลังให้กับเขา แค่เห็นเบื้องหลัง เลือดลมในกายก็พลุ่งพล่านจนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนอยากจะเหวี่ยงเสื้อผ้าทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ความสวยงามนั้นก็สั่งให้เขาหยุดเพื่อชื่นชมความงามที่ร้างราไปนานกว่า 1 สัปดาห์
ผิวขาวนวลอมชมพูที่โผล่พ้นเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณต้นคองามระหงที่มีเรือนผมดำยาวสยายนั้นขมวดรวมไว้อย่างไม่ค่อยบรรจง คงเพียงเพราะต้องการจะตัดรำคาญหรือไม่ก็เพื่อขับไล่ความร้อนอบอ้าว หัวไหล่ลาดเนียนที่เปิดเผยผิวสวยให้เห็นเพราะเสื้อนั้นเป็นคอปาดเข้ารูป หรือจะเป็นต้นแขนเรียวเสลาขยับหยิบจับอะไรบางอย่างด้านหน้าที่ดูว่าเธอจะพิสมัยกับมันนัก อีกทั้งบั้นเอวคอดกิ่วจนเขาอยากจะทาบฝ่ามือลงและจับโยกให้คลายคิดถึง
ดวงตายาวรีสำรวจมองไล่ลงมาถึงสะโพกผายที่สร้างความหวั่นไหวให้กับเขาในทุกครั้งเมื่อมันสะบัดพลิ้วไปมาเหนือร่างกายของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเธอคนนี้ แม้เพียงด้านหลังก็ทำให้ผู้ชายทุกคนที่ได้มองคงไม่อาจจะถอนสายตาได้โดยง่าย และเขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ไม่ใช่แค่มอง แต่ได้ครอบครอง ทั้งตัว หัวใจ และใบหน้างดงามที่ค่อยๆ หันช้าๆ มองมา
“เฮียเล็ก!” เสียงหวานร้องขึ้นอย่างไม่คาดฝัน แววตาไหวระริกด้วยความดีใจ ก่อนจะทิ้งดอกไม้ในมือแล้วโผเรือนร่างเข้ามาให้คนที่ยืนกางแขนรอรับไว้นั้นสวมกอดด้วยความคิดถึง
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไรจ๊ะ ซ่อนคิดถึงเฮียที่สุดเลย” ซ่อนกลิ่นซุกซบใบหน้างดงามราวจันทร์วันเพ็ญกับอกแกร่งของสามีด้วยความคิดถึงที่สุด
“เฮียก็คิดถึงน้องซ่อน คิดถึงที่สุดเหมือนกัน” จมูกโด่งซุกไซ้ไปตามเรือนผมหอมกรุ่นของเมียสาว เมียที่ทำให้เขาร้อนรุ่มอยากจะกลับมาให้ถึงบ้านเร็วๆ แต่งานที่ต้องไปซื้อข้าวที่ต่างจังหวัดครั้งละนานๆ มันทำให้เขาโหยหาเรือนร่างนี้จนแทบจะลงแดงตาย
“ซ่อนก็คิดถึงเฮียจ้ะ คิดถึงที่สุดเลย” เสียงหวานเอ่ยตอบวางทาบฝ่ามือกับอกแกร่งของผัว ยังคงกอดรัดเขา เพราะโหยหาเหลือเกินความอบอุ่นนี้
“น้องซ่อนทำอะไรอยู่จ๊ะ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน หรือว่ารอเฮีย” ถามพร้อมสายตาซุกซนกวาดมองไปตามวงหน้าก่อนจะเรื่อยลงมาตามต้นคอระหงจนมาถึงหน้าอกอวบอิ่มที่พุ่งชูชันรอคอยให้เขาเอาหน้าลงคลุก
“ซ่อน... ก็รอเฮียแหละจ้ะ จำได้ว่าเฮียจะกลับวันนี้แต่ซ่อนก็ไม่รู้ว่าจะกี่โมงกี่ยามกัน ซ่อนก็เลยนั่งจัดแจกันดอกไม้ไปพลางๆ น่ะจ้ะ เผื่อเฮียมาจะได้รู้ว่าซ่อนรออยู่” ตอบคำถามทั้งที่ใบหน้านั้นเริ่มร้อนวูบวาบแดงระเรื่อจากสายตาของสามีที่แสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน
“น้องซ่อนเมียรักของเฮียน่ารักที่สุด แล้วนี่ดอกอะไรเหรอจ๊ะ หอมมาก แต่เฮียไม่รู้จัก” ดอกไม้สีขาวนวลเป็นก้านยาวคล้ายกล้วยไม้ แต่มีดอกคล้ายปีบ ดอกเล็กๆ น่าทะนุถนอมที่ร้อยเรียงกันเป็นช่อดอกนั้นมีสีชมพูระเรื่ออยู่ตรงปลาย
“อิอิ... ก็ดอก...”
ซ่อนกลิ่นขยับกายออกห่างเล็กน้อย นิ้วชี้จิ้มปลายคางของตัวเองราวกับจะบอกว่าดอกไม้นั้นคือตัวเธอ แต่หัวคิ้วเข้มๆ ของเสี่ยเล็กที่ขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจก็ทำให้ริมฝีปากต้องเบะน้อยๆ กึ่งยิ้มกึ่งเง้างอนก่อนจะเฉลย
“ก็ดอกซ่อนกลิ่นยังไงล่ะจ๊ะ”
“หือ... ดอกซ่อนกลิ่น หอมขนาดนี้เชียวเหรอ”
“จ้ะ หอมมาก และซ่อนก็ชอบมากด้วย”
“ใช่ เฮียเห็นด้วย หอมมาก และเฮียก็ชอบ หอม... หอมที่สุด”
จมูกโด่งซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นหอมที่ไม่รู้ว่ามาจากผิวกายเมียสาว หรือมาจากเจ้าช่อดอกสีขาวอมชมพูที่บางส่วนเสียบอยู่ในแจกันใบโต และบางส่วนยังทอดร่างแสดงความสวยงามของก้านดอกสีเขียวอ่อนอยู่บนโต๊ะไม้สักฝังมุกกันแน่ รู้แต่ว่ากลิ่นหอมแรงอย่างนี้มันทำให้เลือดลมของเขาฉีดพล่านดูจะร้อนรุ่มมากกว่าเดิม อยากพรมจูบ ลากริมฝีปากและจมูกไปทั่วทุกอณูผิวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อยากจะซึมซับเอาความหอมนี้ให้ชุ่มปอด อยากจะเคล้นคลึงเต้าอวบใหญ่ให้หายคิดถึง อยาก...
“อื้อ... เฮียก็ มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิจ๊ะ แล้วนี่เฮียกินข้าวกินปลามาหรือยัง ซ่อนจะได้ไปเตรียมให้” ถามเสียงสั่นบิดกายให้พ้นจากจมูกซุกไซ้และฝ่ามือที่ปะป่ายไปบนร่างเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ร้างราให้โหมขึ้น
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน