การที่บังเอิญเห็นพ่อเพื่อนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ ทำให้ขวัญข้าวรู้สึกปั่นป่วนจนถึงกับต้องช่วย ตัวเอง แต่เขาดันมาเห็นเสียได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือ เธอกำลังครางเรียกชื่อเขา…
ร่างโปร่งบางสองร่างในชุดนักศึกษาตามแบบสมัยนิยมที่เป็นกระโปรงสั้นทรงเอผ่าข้าง เสื้อที่สวมใส่แม้จะไม่รัดจนติ้วแต่ก็พอดีตัวขับให้เห็นทรวดทรงองเอวที่ใครเห็นต่างก็ต้องเหลียวหลังกำลังเดินออกมาจากตึกเรียนด้วยกัน
หนึ่งในสองคนนั้นหน้าออกไปทางตะวันตกคือจมูกโด่ง ตาโตสีน้ำตาลอ่อน ผมยาวสีน้ำตาลทองถูกดัดเป็นลอนอ่อน เธอมีชื่อว่านาตาลี
ใช่แล้ว เธอเป็นสาวลูกครึ่งที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ฐานะทางบ้านนั้นเข้าขั้นมหาเศรษฐีเลยทีเดียว
ส่วนอีกคนที่เดินคู่มาด้วยกันก็สวยโดดเด่นไม่แพ้กัน เธอมีใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งธรรมชาติที่ไม่ผ่านการศัลยกรรม ตากลมโตสีนิล ผมของเธอนั้นเหยียดตรงยาวสลวยเป็นแพถึงกลางหลัง แต่ทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเธอคงไม่พ้นรูปร่างที่ผู้ชายเห็นต่างต้องเหลียวหลัง หรือผู้หญิงเห็นก็ต้องอิจฉา เรือนร่างผอมบางของเธอนั้นไม่ได้ผอมจนแห้ง แต่กลับมีหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ล้น เอวคอดกิ่ว และสะโพกผาย เรียกได้ว่าเธอมีสัดส่วนที่ยั่วใจชายได้อย่างแท้จริง เธอมีชื่อว่าขวัญข้าวหรือข้าว
ขวัญข้าวเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เฉกเช่นเด็กต่างจังหวัดคนอื่น ๆ บ้านของเธอมีฐานะปานกลาง แต่ด้วยความที่ขวัญข้าวเป็นเด็กสาวหน้าตาดีเธอจึงทำงานเป็นพริตตี้เพื่อหารายได้เสริม
ทั้งนาตาลีและขวัญข้าวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ตอนนี้ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นปีที่สามแล้ว ดังนั้นคงไม่ต้องบอกว่าพวกเธอนั้นสนิทสนมกันขนาดไหน
“ข้าววันนี้ดึกแล้วให้ฉันไปส่งนะ”
วันนี้ทั้งคู่มีเรียนชดเชยนอกเวลาจนเลิกดึก นาตาลีจึงเอ่ยบอกเพื่อนสาวขณะที่เดินออกมาจากตึกเรียนพร้อมกัน
“ไม่เป็นไรแนทฉันกลับเองได้ วันนี้เธอไม่ได้เอารถมาไม่ใช่หรือ”
ขวัญข้าวตอบกลับ แม้ทั้งคู่จะสนิทกันมากแต่เธอก็รู้สึกเกรงใจเพื่อนที่มักจะขับรถไปส่งเธอบ่อย ๆ
“ฉันไม่ได้เอารถมาแต่ว่าวันนี้แด๊ดจะมารับ เราไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยให้แด๊ดไปส่งเธอกลับห้องพัก”
นาตาลีวางแผนเสร็จสรรพ
“ไม่เอาหรอก ฉันเกรงใจแด๊ด”
ขวัญข้าวปฏิเสธ แต่ในใจกลับเต้นโครมครามยามที่เพื่อนสาวเอ่ยถึงผู้เป็นบิดา
“ฉันว่าแด๊ดเองก็คงเต็มใจอยู่เหมือนกัน”
นาตาลีบอกเพื่อนสาวพร้อมกับขยิบตาให้อย่างรู้ทัน
พูดยังไม่ทันจบเสียงมือถือของนาตาลีก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอดูชื่อคนโทรมาแล้วกดรับ
“ค่ะแด๊ด เลิกเรียนแล้วค่ะ เอ่อแด๊ดคะพอดียัยข้าวก็อยู่ด้วยกัน แนทเลยชวนกลับพร้อมกัน”
นาตาลีคุยต่ออีกสักพักจึงวางสาย
“ข้าวฉันบอกเธอแล้วว่าแด๊ดไม่ว่าอะไร”
นาตาลีหันไปบอกขวัญข้าว แล้วชวนกันเดินไปรอผู้เป็นบิดาที่
หน้าตึก
จากนั้นไม่นานรถยุโรปสีดำคันหรูได้เคลื่อนเข้ามาจอด คนขับลดกระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าของชายชาวต่างชาติที่หล่อเหลาคมคาย
“เธอไปนั่งข้างหน้ากับแด๊ดนะข้าว”
นาตาลีบอกเพื่อนแล้วเปิดประตูด้านหลังเข้าไปนั่งทันทีโดยไม่รั้งรอใด ๆ ทั้งนั้น
ขวัญข้าวยืนจับต้นจนปลายไม่ถูก อยากจะไปนั่งด้านหลังกับเพื่อนก็ทำไม่ได้เพราะจะเป็นการไม่ให้เกียรติบิดาของเพื่อน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเปิดประตูรถด้านข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งคู่กับเขา
“สวัสดีค่ะแด๊ด”
เธอเอ่ยทักทายคนขับรถสุดหล่อพร้อมยกมือไหว้อย่างสวยงาม แม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่งต่างชาติแต่เธอก็เลือกที่จะทำความเคารพเขาอย่างนี้
เธอเรียกเขาว่าแด๊ดเหมือนกับเพื่อนของเธอซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมระหว่างกันในระดับหนึ่ง เนื่องจากเธอกับนาตาลีเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน จึงได้มีโอกาสพบปะกับเขาบ่อย ๆ
“สวัสดีข้าว” เขารับแล้วขับรถออกไป
ระหว่างทางโชคดีที่มีนาตาลีคอยชวนคุยอยู่ตลอด ทำให้บรรยากาศในรถไม่เงียบจนเกินไป และลดความประหม่าของขวัญข้าวได้บางส่วน จะไม่ให้เธอประหม่าได้อย่างไรในเมื่อเธอรู้ตัวดีว่าเธอแอบชอบพ่อของเพื่อนเธอคนนี้ และเธอเองก็คิดว่านาตาลีน่าจะพอรู้ความในใจของเธออยู่เหมือนกัน จึงมักหาทางให้เธอกับพ่อของตัวเองได้พบปะ หรือทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ
มันอาจจะแปลกที่ลูกแท้ ๆ ของตัวเองกลับมีความยินดีให้พ่อตัวเองลงเอยกับเพื่อนตัวเอง แต่สำหรับนาตาลี การที่ได้เพื่อนสาวคนสนิทมาเป็นแม่เลี้ยงของตัวเองยังดีเสียกว่าที่พ่อของเธอจะไปคว้าเอาแม่ผู้หญิงพวกนั้นที่พ่อของเธอควงไม่ซ้ำหน้า แถมแม่พวกนั้นยังดีแต่จะจับพ่อของเธอก็แค่นั้น
ส่วนแม่ของนาตาลีนั้นได้แยกทางกับพ่อของเธอตั้งแต่สมัยเธอเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นเธอจำได้ว่าพวกท่านทะเลาะกันทุกวัน สุดท้ายจึงตัดสินใจแยกทางกันแล้วให้เธอเลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่เธอเลือกที่จะอยู่กับพ่อของเธอ ดังนั้นมันไม่ผิดถ้าพ่อของเธอจะเปิดใจรับใครสักคน แต่ที่เธอหนักใจเพราะดูเหมือนพ่อของเธอจะไม่ใช่แค่เปิดใจรับใครสักคน เพราะเขาทำตัวเป็นหนุ่มเอื้ออาทรสำหรับสาว ๆ ทุกคน แต่ยังดีที่พ่อของเธอนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับแม่พวกนั้น
พอล วิลเลียม เป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสามปีชาวฝรั่งเศสแท้ ที่ถ้าไม่บอกอายุจริงจะนึกว่าเขาอายุเพียงสามสิบกว่า ๆ เท่านั้น เขาทำธุรกิจตัวแทนนำเข้าไวน์รายใหญ่ของประเทศ ดังนั้นเรื่องฐานะของเขาจึงไม่ต้องพูดถึง ความเนื้อหอมของเขาเรียกได้ว่าติดอันดับคาสซาโนว่าของวงการธุรกิจเลยก็ว่าได้ เขาเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบของสวย ๆ
งาม ๆ และเรียกได้ว่าตอนนี้เขาก็ไม่มีพันธะอะไรแล้ว ดังนั้นถ้าใครเสนอมาเขาเพียงแค่สนองตอบกลับเท่านั้น จะทำให้พวกเธอเสียใจได้อย่างไรกันล่ะ
ขณะที่ขับรถอยู่ พอลต้องคอยบอกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับเส้นทางตรงหน้า แต่ใจของเขากลับมักจะบอกให้ออกนอกลู่นอกทางไปหาเพื่อนของลูกสาวที่นั่งอยู่คู่กันอยู่ตลอดเวลา
ขวัญข้าวเป็นสาวสวยจัดที่สะดุดตาเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่ด้วยความที่เธอเป็นเด็กรุ่นลูก แถมยังเป็นเพื่อนสนิทกับลูกสาวของเขาอีก
ทำให้เขาต้องคอยเตือนตัวเองไว้ตลอดเวลาว่าอย่าทำตัวเป็นเฒ่าหัวงู เธอจะรู้หรือไม่ว่าขณะที่เธอนั่งอยู่นี้ กระโปรงของเธอนั้นได้ร่นขึ้นมาจนเผยให้เห็นต้นขานวลเนียนน่าสัมผัสของเธอหมดแล้ว
ให้ตายเถอะ! เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน หรือว่าเขาจะเป็นไอ้เฒ่าหัวงูเข้าแล้วจริง ๆ
หลังจากพาสองสาวไปดินเนอร์เสร็จแล้ว พอลได้พาขวัญข้าวไปส่งที่ห้องพักของเธอและรอจนแน่ใจแล้วว่าเธอเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัยจึงขับรถกลับออกมา และตอนนี้แม่ลูกสาวตัวดีของเขาได้ย้ายมานั่งด้านหน้าคู่กับเขาแล้ว
“อย่าคิดว่าแด๊ดไม่รู้นะว่าเราวางแผนอะไร” เขาคาดโทษลูกสาวอย่างรู้ทัน แต่มุมปากกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดี และนาตาลีก็เห็นมันแจ่มชัด ถ้าเป็นอย่างนี้ยัยข้าวคงมีความหวังละมั้ง เธอคิดว่าเธอรู้ว่าเพื่อนตนเองคิดอย่างไรกับตาแก่นี้ แต่เพื่อนเธอไม่เคยพูด และเธอก็ไม่เคยถาม จึงได้แต่คอยสังเกต แต่ถ้ามีโอกาสเธอก็ส่งเสริมนะ
พอลเห็นหน้าเจ้าเล่ห์ของลูกสาวก็ส่ายหัวทำไมเขาจะมองไม่ออกหรือเดาไม่ได้ว่าลูกสาวกำลังคิดหรือทำอะไรอยู่ แต่ก็สงสัยว่าทำไมนาตาลีถึงทำอย่างนี้เพราะนั่นเป็นเพื่อนของเธอ แถมยังคนละรุ่นกับเขาเลยด้วยซ้ำ
นาตาลีทำเพียงลอยหน้าลอยตาส่งยิ้มแล้วเอนหัวพิงต้นแขนแกร่งของผู้เป็นพ่ออย่างประจบประแจง
“โธ่แด๊ดคะ แนทไม่ได้มีแผนอะไรเสียหน่อย แด๊ดอย่าร้อนตัวสิ” เธอตอบกลับเขาอย่างรู้ทันเช่นกัน
คำพูดของลูกสาวทำให้พอลฉุกคิด นี่เขากำลังร้อนตัวหรือ แต่เขาก็ปัดออกไป เขาไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนลูกสาวหรอกน่า
“แด๊ดไม่ได้ร้อนตัว เราน่ะเป็นเด็กก็อย่าแก่แดดให้มันมากนัก” เขาว่า และสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะร่าของลูกสาว
“สวัสดีค่ะแด๊ด”
เธอเอ่ยทักทายคนขับรถสุดหล่อพร้อมยกมือไหว้อย่างสวยงาม แม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่งต่างชาติแต่เธอก็เลือกที่จะทำความเคารพเขาอย่างนี้
เธอเรียกเขาว่าแด๊ดเหมือนกับเพื่อนของเธอซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมระหว่างกันในระดับหนึ่ง เนื่องจากเธอกับนาตาลีเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน จึงได้มีโอกาสพบปะกับเขาบ่อย ๆ
“สวัสดีข้าว” เขารับแล้วขับรถออกไป
ระหว่างทางโชคดีที่มีนาตาลีคอยชวนคุยอยู่ตลอด ทำให้บรรยากาศในรถไม่เงียบจนเกินไป และลดความประหม่าของขวัญข้าวได้บางส่วน จะไม่ให้เธอประหม่าได้อย่างไรในเมื่อเธอรู้ตัวดีว่าเธอแอบชอบพ่อของเพื่อนเธอคนนี้ และเธอเองก็คิดว่านาตาลีน่าจะพอรู้ความในใจของเธออยู่เหมือนกัน จึงมักหาทางให้เธอกับพ่อของตัวเองได้พบปะ หรือทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ
มันอาจจะแปลกที่ลูกแท้ ๆ ของตัวเองกลับมีความยินดีให้พ่อตัวเองลงเอยกับเพื่อนตัวเอง แต่สำหรับนาตาลี การที่ได้เพื่อนสาวคนสนิทมาเป็นแม่เลี้ยงของตัวเองยังดีเสียกว่าที่พ่อของเธอจะไปคว้าเอาแม่ผู้หญิงพวกนั้นที่พ่อของเธอควงไม่ซ้ำหน้า แถมแม่พวกนั้นยังดีแต่จะจับพ่อของเธอก็แค่นั้น
ส่วนแม่ของนาตาลีนั้นได้แยกทางกับพ่อของเธอตั้งแต่สมัยเธอเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นเธอจำได้ว่าพวกท่านทะเลาะกันทุกวัน สุดท้ายจึงตัดสินใจแยกทางกันแล้วให้เธอเลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่เธอเลือกที่จะอยู่กับพ่อของเธอ ดังนั้นมันไม่ผิดถ้าพ่อของเธอจะเปิดใจรับใครสักคน แต่ที่เธอหนักใจเพราะดูเหมือนพ่อของเธอจะไม่ใช่แค่เปิดใจรับใครสักคน เพราะเขาทำตัวเป็นหนุ่มเอื้ออาทรสำหรับสาว ๆ ทุกคน แต่ยังดีที่พ่อของเธอนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับแม่พวกนั้น
พอล วิลเลียม เป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสามปีชาวฝรั่งเศสแท้ ที่ถ้าไม่บอกอายุจริงจะนึกว่าเขาอายุเพียงสามสิบกว่า ๆ เท่านั้น เขาทำธุรกิจตัวแทนนำเข้าไวน์รายใหญ่ของประเทศ ดังนั้นเรื่องฐานะของเขาจึงไม่ต้องพูดถึง ความเนื้อหอมของเขาเรียกได้ว่าติดอันดับคาสซาโนว่าของวงการธุรกิจเลยก็ว่าได้ เขาเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบของสวย ๆ
งาม ๆ และเรียกได้ว่าตอนนี้เขาก็ไม่มีพันธะอะไรแล้ว ดังนั้นถ้าใครเสนอมาเขาเพียงแค่สนองตอบกลับเท่านั้น จะทำให้พวกเธอเสียใจได้อย่างไรกันล่ะ
ขณะที่ขับรถอยู่ พอลต้องคอยบอกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับเส้นทางตรงหน้า แต่ใจของเขากลับมักจะบอกให้ออกนอกลู่นอกทางไปหาเพื่อนของลูกสาวที่นั่งอยู่คู่กันอยู่ตลอดเวลา
ขวัญข้าวเป็นสาวสวยจัดที่สะดุดตาเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่ด้วยความที่เธอเป็นเด็กรุ่นลูก แถมยังเป็นเพื่อนสนิทกับลูกสาวของเขาอีก
ทำให้เขาต้องคอยเตือนตัวเองไว้ตลอดเวลาว่าอย่าทำตัวเป็นเฒ่าหัวงู เธอจะรู้หรือไม่ว่าขณะที่เธอนั่งอยู่นี้ กระโปรงของเธอนั้นได้ร่นขึ้นมาจนเผยให้เห็นต้นขานวลเนียนน่าสัมผัสของเธอหมดแล้ว
ให้ตายเถอะ! เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน หรือว่าเขาจะเป็นไอ้เฒ่าหัวงูเข้าแล้วจริง ๆ
หลังจากพาสองสาวไปดินเนอร์เสร็จแล้ว พอลได้พาขวัญข้าวไปส่งที่ห้องพักของเธอและรอจนแน่ใจแล้วว่าเธอเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัยจึงขับรถกลับออกมา และตอนนี้แม่ลูกสาวตัวดีของเขาได้ย้ายมานั่งด้านหน้าคู่กับเขาแล้ว
“อย่าคิดว่าแด๊ดไม่รู้นะว่าเราวางแผนอะไร” เขาคาดโทษลูกสาวอย่างรู้ทัน แต่มุมปากกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดี และนาตาลีก็เห็นมันแจ่มชัด ถ้าเป็นอย่างนี้ยัยข้าวคงมีความหวังละมั้ง เธอคิดว่าเธอรู้ว่าเพื่อนตนเองคิดอย่างไรกับตาแก่นี้ แต่เพื่อนเธอไม่เคยพูด และเธอก็ไม่เคยถาม จึงได้แต่คอยสังเกต แต่ถ้ามีโอกาสเธอก็ส่งเสริมนะ
พอลเห็นหน้าเจ้าเล่ห์ของลูกสาวก็ส่ายหัวทำไมเขาจะมองไม่ออกหรือเดาไม่ได้ว่าลูกสาวกำลังคิดหรือทำอะไรอยู่ แต่ก็สงสัยว่าทำไมนาตาลีถึงทำอย่างนี้เพราะนั่นเป็นเพื่อนของเธอ แถมยังคนละรุ่นกับเขาเลยด้วยซ้ำ
นาตาลีทำเพียงลอยหน้าลอยตาส่งยิ้มแล้วเอนหัวพิงต้นแขนแกร่งของผู้เป็นพ่ออย่างประจบประแจง
“โธ่แด๊ดคะ แนทไม่ได้มีแผนอะไรเสียหน่อย แด๊ดอย่าร้อนตัวสิ” เธอตอบกลับเขาอย่างรู้ทันเช่นกัน
คำพูดของลูกสาวทำให้พอลฉุกคิด นี่เขากำลังร้อนตัวหรือ แต่เขาก็ปัดออกไป เขาไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนลูกสาวหรอกน่า
“แด๊ดไม่ได้ร้อนตัว เราน่ะเป็นเด็กก็อย่าแก่แดดให้มันมากนัก” เขาว่า และสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะร่าของลูกสาว
เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
เขาต้องกดเก็บความต้องการของตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเย็นชา เพียงเพื่อถูกเธอกระชากออกด้วยความเร่าร้อนเกินต้าน ยั่วรักนายบอดี้การ์ดจอมโหด เรื่องราวของลูกสาวมาเฟียกับบอดี้การ์ดมาดเข้มที่แสนจะเร้าใจ นอกจากปกป้องชีวิตแล้ว เซียวเฟิง ยังได้รับคำสั่งกระชับเป็นพิเศษให้ปกป้องพรหมจรรย์ของหญิงสาว แต่ทว่า เมริสา กลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ยิ่งทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพัง ระหว่างหน้าที่และความต้องการของตัวเอง เขาจะเลือกอะไร เพราะเธอแน่ใจอยู่แล้วว่าต้องการเขาแน่นอน
เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น เธอเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ที่สำคัญเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างเธอนั้นลูกเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นภาระกิจตามจีบแม่ของลูกจึงเริ่มขึ้น ‘กักหัวใจไว้ใกล้รัก’ เป็นเรื่องต่อจาก ‘กองหัวใจไว้ตรงรัก’ เขาเลขาฯ สายโหด เนื่องจากต้องช่วยเจ้านาย เขาจึงได้ทำลายผู้หญิงเลว ๆ คนหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ เขากลับมาพบภายหลังว่าเธอยังบริสุทธิ์ ผิดกับทาทางร่านร้ายที่เธอแสดงออกภายนอก และความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายด้วยน้ำมือเขาเอง เธอกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอถูกตัดขาดจากครอบครัว ทว่าวันหนึ่งกลับต้องมาเจอคนที่คิดว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนก็ไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว คนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อค้นพบความจริงบางอย่าง การตกหลุมรักจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาจึงเริ่มปฏิบัติการตามจีบแม่ของลูก เธอคิดว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ แต่ผิดแล้ว เขาต้องการทั้งแม่และลูก และจะกักหัวใจท้องสองไว้กับเขาตลอดไป
เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
ดวงใจของมาโปรด เขาคือคุณอาข้างบ้านและคนที่ยื่นมือมาช่วยเธอยามอ่อนแรง เธอ...เด็กสาวจอมซนที่หนีหายไปเสียนาน เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจะต้องกักเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ดวงใจอนันต์ เหมือนกามเทพเล่นตลกให้เธอต้องมาพัวพันกับคนที่แอบชอบ ทั้งที่รู้ว่าฐานะต่างกันเหลือเกิน แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับได้ที่ไหนล่ะ!
ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"