รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว
‘มาลารัตน์’ ยืนอยู่ในห้องตำแหน่งของระเบียงห้องนอน จุดนี้ทำให้หล่อนเห็นรถยนต์คันหรูที่พา ‘โอฬาร’ สามีของหล่อนจากไป เขากำลังจะบินไปอังกฤษเพื่อดูงานวิจัย และเพื่อเยี่ยมเยือนลูกสาวของเรา
โอฬารแก่กว่าหล่อน 3 ปี เขาเป็นนักวิจัยทางการแพทย์ หล่อนกับเขาคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เขาหน้าตาหล่อ รูปร่างสูงใหญ่ ฐานะทางบ้านดี เพราะมีพ่อเป็นนายแพทย์ มีแม่เป็นผู้ดีเก่า และน้องอีกสองคนก็เรียนแพทย์เช่นกัน แต่เขากลับไม่อยากเป็นแพทย์เหมือนอย่างที่ครอบครัวอยากให้เป็น เขาบอกว่าที่บ้านมี 3 หมอก็พอแล้ว ขอเขาเรียนอะไรที่ตื่นเต้นดีกว่า
หล่อนกับเขาคบกันหลายปี จนเขาเรียนจบปริญญาโท จะไปต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ เขาขอให้หล่อนแต่งงานกับเขาและบินไปต่อปริญญาโทด้วยกัน หล่อนไม่ขัด และพ่อแม่เขากับพ่อแม่หล่อนก็เห็นด้วย นั่นล่ะชีวิตแต่งงานของหล่อนจึงเริ่มขึ้น
หล่อนกับเขาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนานนับสิบปี เรามีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ขณะนี้เรียนอยู่ที่อังกฤษทั้งคู่ ทุกเดือนหล่อนจะต้องบินไปเยี่ยมลูก เว้นแต่ครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะคุณแม่ของโอฬารเส้นเลือดในสมองแตก จนท่านเป็นอัมพาตทั้งตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย หล่อนในฐานะที่เป็นสะใภ้ใหญ่ก็ควรต้องดูแล ซึ่งหล่อนเองก็เต็มใจ เพราะไม่อยากจะเดินทางร่วมกับโอฬารสักเท่าไร
ไรฟันขบริมฝีปากจนเจ็บเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้หล่อนทุกข์ ด้วยฐานะทางสังคม และทุกสิ่งทุกอย่างดีหมด คนภายนอกที่มองเข้ามาก็คงคิดว่าครอบครัวหล่อนช่างสมบูรณ์แบบ หล่อนอยู่ในครอบครัวแพทย์ ร่ำรวยมากเพราะมีธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ทำกำไรต่อปีมหาศาล จนหล่อนไม่ต้องทำงานอะไร แค่อยู่บ้านเป็นแม่บ้านก็พอ มีสามีที่ดี มีลูกที่ได้ดังใจ เรียนเก่งเหมือนทางฝั่งพ่อเขา แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตรักของหล่อนมันล่มจม
และไม่ใช่เพิ่งล่ม แต่มันล่มนานแล้ว ล่มตั้งแต่เข้าหอคืนแรก หล่อนผิดเอง
ใช่.. ผิดที่ตัวหล่อนเอง หล่อนควรจะทดลอง ‘ของ’ ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงาน
ไม่ควรทำตัวเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องที่รอคอยให้เจ้าบ่าวอุ้มเข้าเรือนหอ เพื่อมีเซ็กซ์กันในวันนั้น หล่อนควร ‘อ่อย’ ให้เขาเอาหล่อนตั้งแต่เพิ่งเริ่มคบกัน หรือไม่อย่างช้าที่สุดก็เมื่อได้กำหนดแต่งงานแล้ว ไม่ควรรอเลย เพราะการรอคอยอย่างคาดหวัง แต่แล้วกลับได้รับความผิดหวังสุดๆ มันช่างน่าสมเพช
ใช่.. หล่อนสมเพชตัวเองที่สุด ที่คิดว่า ‘โอฬาร’ จะโอฬารสมชื่อ สมร่างกายสูงใหญ่ของเขา แต่หล่อนคิดผิดถนัดที่คิดว่าคนที่ชื่อนี้จะต้องมีดุ้นที่ยาวใหญ่และแข็งแกร่งมาก
โฆษณาชวนเชื่อชัดๆ เพราะสิ่งที่สอดใส่สู่ความฉ่ำชื้นของหล่อน ‘2 นิ้ว’ ขนาดแค่นิ้วชี้กับนิ้วกลางของหล่อนแนบชิดกันเท่านั้น ทั้งที่หล่อนเคยเจอแต่ 3 นิ้วขึ้น แต่หล่อนต้องออกแอคติ้งว่า... เจ็บ เสียว ซาบซ่าน สะท้าน และเสแสร้งสุดๆ ที่ทำว่าตัวเอง ‘เสร็จ’ ทำเป็นตอดรัดรอบดุ้นของเขา ทั้งๆ ที่หล่อนต้องเข้าห้องน้ำมาแหย่ตัวเองจนเสร็จไป 2 รอบ
นับตั้งแต่วันนั้นชีวิตหล่อนก็เหมือนจะครึ่งๆ กลางๆ โอฬารก็เหมือนคนหนุ่มทั่วไป มีเซ็กซ์ได้ตลอดเวลา แต่เขาแทบไม่เคยทำให้หล่อนเสร็จ นอกจากเขาจะเลียให้หล่อนก่อน แต่นั่นก็นานมาแล้ว นานจนหล่อนจำไม่ได้ว่าก่อนหรือหลังจากหล่อนตั้งท้องลูกสาวคนที่ 2
เพราะเขาเรียนหนัก และงานวิจัยที่ได้รับมอบหมายก็สำคัญมาก โอฬารจึงทุ่มเทเต็มที่ แม้ทุกครั้งที่กลับมาบ้านจะมีเซ็กซ์กับหล่อน แต่ก็แค่สอดใส่ ปลดเปลื้องให้มันจบๆ ไป หนักสุดคือเขานอนแล้วให้หล่อนขึ้นขย่ม นั่นคือถ้าหล่อนอยากเสร็จหล่อนต้องทำเอง
‘สารเลวสิ้นดี’ นั่นก็แค่ความคิดในใจ ใครจะกล้าพูดออกไปแบบนั้น เพราะหล่อนต้องคีฟลุคเป็นหญิงสาวเพียบพร้อมต่อไป
แต่ยิ่งนานวัน หล่อนก็ยิ่งอยากเลิกกับเขา แต่ไม่รู้ว่าจะบอกพ่อแม่เขาและพ่อแม่หล่อนว่าอย่างไร และลูกอีกล่ะ
หล่อนจะอธิบายได้ยังไงว่า...
พ่อของลูกทำไม่เก่ง
พ่อของลูกเห็นแก่ตัวไม่ยอมเล้าโลมให้แม่
พ่อของลูกทำแม่ไม่เสร็จ
สิ่งที่หล่อนทำได้ก็คือ พยายามคิดหักล้างว่าโอฬารให้ความสุขหล่อนในเรื่องนี้ไม่ได้ แต่อย่างอื่นเขาไม่เคยบกพร่อง ทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อนต้องการ เขาไม่เคยไม่ปรนเปรอ และเขาก็เป็นสามีที่ดีไม่เคยนอกใจหล่อน แค่นั้นก็น่าจะชดเชยสิ่งที่ขาดหายได้
แต่นั่นก็แค่สิ่งปลอบใจตัวเอง เพราะหล่อนโหยหาเหลือเกิน ร่างกายนี้มีเลือดเนื้อ มีความต้องการอย่างบ้าคลั่ง ล้นปริ่มจนแทบจะแตกกระจาย ยิ่งนานวันสิ่งที่ไม่ได้ ก็ยิ่งทับถมและสร้างความอัดอั้นให้หล่อนมากยิ่งขึ้น จนตอนนี้ไม่ว่าหล่อนจะเดินผ่านผู้ชายคนไหน อยู่ใกล้ใคร หล่อนอดคิดไม่ได้เลยว่า ‘ดุ้น’ ที่ซุกซ่อนอยู่นั้น ‘ขนาด’ แค่ไหนกัน จะทำให้หล่อนถึงจุดสุดยอดได้แค่สอดใส่หรือเปล่า
เพราะ... สัดส่วน สูง ต่ำ ดำ ขาว บ่งบอกไม่ได้เลยว่าดุ้นจะขนาดไหน
ที่หล่อนรู้ก็เพราะก่อนจะแต่งงานกับโอฬาร หล่อนลองมาหมดแล้ว
มันเริ่มตั้งแต่หล่อนแตกเนื้อสาว เพราะหล่อนมีเลือดยุโรปอยู่กึ่งหนึ่ง ด้วยพ่อของหล่อนเป็นลูกครึ่ง หล่อนจึงเป็นลูกเสี้ยว ดังนั้นแค่หล่อนเริ่มแตกเนื้อสาว รูปร่างของหล่อนก็เทียบเท่าสาวโตเต็มวัย เรียกได้ว่าหุ่นของหล่อนเตะตาผู้ชายทุกคนที่เฉียดใกล้ อกหล่อนใหญ่เกินตัว เอวคอด สะโพกผาย และความสูงเกินมาตรฐานหญิงไทย ไม่แปลกที่ไม่ว่าโรงเรียนจะมีงานพิธีใดๆ หล่อนก็มักได้รับเลือก
ทั้งถือป้าย เชิญรางวัล เป็นเชียร์รีดเดอร์ เป็นดรัมเมเยอร์ ทุกอย่างหล่อนได้เป็นหมด แต่หล่อนก็ไม่รู้ตัวเลยว่าภายใต้ภาพลักษณ์เด็กเรียน กิริยามารยาทเรียบร้อยสุดๆ จนทุกคนเอ่ยชม แต่ในใจของหล่อนทำไม ‘ร่าน’
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
'นิยายสยองขวัญสั่นสวาท' ระหว่างแม่หมอสุดแซ่บกับลูกค้าหนุ่มสุดล่ำ ‘ขวัญยิหวา’ หมอผีสาวสุดแซ่บ ดีกรีนักศึกษาปริญญาโท รับหน้าที่หมอผีต่อจากพ่อ คอยดูแลปัดเป่าไม่ได้พวกผีร้ายหนีนรกขึ้นมารบกวนชาวบ้าน ‘ไตรทศ’ นายแพทย์หนุ่มรูปงาม ไม่เคยคิดจะเชื่อเรื่องไร้สาระ แต่เพราะน้องสาวคนเดียวป่วยหาสาเหตุไม่ได้ เขาจึงต้องมาขอร้องให้หล่อนช่วย แต่!! ผู้หญิงหน้าตาดีระดับนางงามดันเลี้ยงหนุ่มกล้ามล่ำไว้เต็มบ้าน นั่นจะให้เขาเชื่อถือหล่อนได้เหรอ แล้วนี่มันตำหนักแม่หมอหรือว่าฮาเร็มกันแน่ และยังมีเรื่องร้อนๆ ซ่อนสวาทอีก 2 เรื่อง คือ เล่นของ(ใหญ่) และ สาปสังวาส จะพาคุณไปเพลิดเพลินกับเรื่องเสียวสยอง
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ “เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!”
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"