อิ๋นจื่อเด็กสาวกำพร้าและไร้ความทรงจำที่ถูกซ่งเฉียงช่วยไว้ จากนั้นนางก็เติบโตในจวนซ่ง มีหน้าที่ดูแลรับใช้คุณชายใหญ่ซ่งเว่ยเหลียง นางได้รับความสนใจจากเขามากกว่าสาวใช้ในจวนทุกคน นางจึงอยู่ในจวนซ่งกึ่งสาวใช้ กึ่งเจ้านาย นิยายอีโรติก แนวจีนโบราณ ไม่อิงประวัติศาสตร์ มีบทบรรยายที่มีคำหยาบ ***โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ***
ตอนที่ 1 คุณชายใหญ่กับสาวใช้
เรือนอักษร
“อา คุณชาย แรงอีกเจ้าค่ะ แรงๆ อือ อา” เสียงหญิงสาวครวญครางเรียกร้องให้กระทำกับนางอย่างที่นางต้องการ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับๆ ต้นขาแกร่งกระแทกสะโพกขาวอวบนุ่มเด้งมือเหมือนก้อนเต้าหู้ เสียงฟาดก้นดังมาเป็นระยะผสานไปกับเสียงหอบและเสียงแหบพร่าของคนทั้งสองที่กำลังเริงสวาทกันอยู่
“ร่านนัก ขมิบอีก” แม้ออกคำสั่งแต่ก็ยังไม่หยุดกระเด้าสะโพกอัดกระแทกเนินเนื้ออวบอูมที่มีขนดกหนาปกคลุมดูเร้าอารมณ์ไม่น้อย
“คุณชาย อาซิ่วไม่ไหวแล้ว เร่งเลยเจ้าค่ะ อาซิ่วเสียวจะตายแล้ว อ่าส์ อา” สาวใช้นามอาซิ่วเรียกร้องเสียงสั่น หน้าอกอวบใหญ่กระเด้งกระดอนสะบัดแทบหลุดเหตุเพราะคุณชายของนางกระแทกแรงราวพายุคลั่งเพื่อทำเวลาไม่ให้ล่วงเลยไปนัก
“แพศยา เจ้าแอบหนีเจ้านายมาให้ข้าเอา อยากมากไม่ใช่หรือ อย่าเพิ่งรีบเสร็จสิ” พูดจบสองมือใหญ่ช่วยกันจับร่างอวบอิ่มขาวผ่องหันหน้ากลับมา อาซิ่วยกสะโพกขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงาน สองขาอ้ากว้างรอให้แท่งหยกอวบใหญ่เท่าแขนอัดทะลวงให้สาใจ
“เปียกยังกับฉี่แตก” เสียงคุณชายดังอยู่แค่เอื้อม เขาปาดน้ำเหนียวที่หว่างขานางแล้วยื่นไปตรงหน้าให้นางดูดเลียน้ำสวาทของตัวเอง สาวใช้อาซิ่วก็ดูดนิ้วเรียวยาวอย่างตะกละตะกลาม เสียงดูดนิ้วดังจ๊วบจ๊าบ กลิ่นน้ำคาวสวาทอร่อยจนนางอยากดื่มกินให้มากขึ้น แต่คุณชายของนางกลับถอนนิ้วกลับไปแหย่แยงลงในถ้ำสวาท ทั้งสามนิ้วรัวกระหน่ำอัดใส่ร่องรักของนางเสียงดังตับๆ
“คุณชายใหญ่ อ่าส์ อา ไม่ไหวๆ อาซิ่วจะแตกแล้ว อ่าส์ อูย อ๊ะ” เสียงอาซิ่วครวญครางไม่ได้ศัพท์ นางไหนเลยจะอดกลั้นได้ไหว ก็คุณชายใหญ่ของนางเป็นนักรักที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เรือนร่างสูงโปร่งค้อมตัวเล็กน้อย ใช้นิ้วสามนิ้วกะซวกแหย่ร่องสวาทของนางแบบไม่ลืมหูลืมตา
“คุณชายใหญ่ อา อ่าส์ เสร็จแล้ว แตกแล้ว อ๊ะ” เสียงนางครางดังมาก ร่างเกร็งกระตุกรุนแรงติดๆ กัน ในร่องหลืบบีบรัดสามนิ้วของคุณชายใหญ่รุนแรง มันมาพร้อมกับฉี่ที่แตกกระเซ็นฉีดพุ่งทำให้แขนและมือของคุณชายใหญ่เปียกเลอะไปหมด
“แพศยา! ถึงกับน้ำแตก ไม่กลัวข้าจะจัดการเจ้าหรือไง” คุณชายใหญ่หรือซ่งเว่ยเหลียงชักมือออกจากร่องเปียกแฉะ เขาปาดเช็ดมือและแขนที่เปียกกับชุดของอาซิ่วที่ถอดทิ้งไว้ด้านข้าง ตาคมกริบมองอาซิ่วอย่างไม่ชอบใจนักที่ทำให้ห้องหนังสือและโต๊ะทำงานเขาสกปรก แต่ตอนนี้เขายังมีอารมณ์จึงไม่อยากเอาเรื่องนาง ได้แต่กระชากนางลงจากโต๊ะของเขาแล้วผลักนางให้ลงไปนั่งคุกเข่า
มือหนึ่งบีบกรามนางให้อ้าปาก อีกมือหนึ่งจับแท่งหยกอวบใหญ่ยาวแปดชุ่น[1] เสยเข้าไปในปากนาง
สวบ!
อึก! อาซิ่วที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับตาเหลือก แม้นางจะเคยใช้ปากให้ซ่งเว่ยเหลียงมาหลายครั้ง แต่นางไม่เคยชินกับขนาดและความรุนแรงของเขาสักครั้ง คุณชายใหญ่ของนางภายนอกเป็นคุณชายสุภาพหล่อเหลา แต่จริงๆ แล้วเป็นคนอารมณ์ร้อนและรุนแรงยิ่ง
ซ่งเว่ยเหลียงเร่งขยับสะโพกแกร่ง อัดแท่งหยกเข้าปากสาวใช้ด้วยจังหวะรัวเร็ว แม้บางจังหวะจะครูดไปกับฟันของนางจนเจ็บแต่ก็ยังพอทำให้เขาสุขสมได้ “อ่าส์ ห่อปากรูดของข้าให้แรงๆ ดูดด้วย”
[1]1 ชุ่น เท่ากับ 1 นิ้ว
เสียงสั่งแหบพร่าสลับกับเสียงครางในลำคอพร้อมสะโพกที่ยังอัดกระแทกเข้าลึก ดังอึกๆ จนลำคออาซิ่วแทบทะลุ
“เร็ว! ดูดแรงๆ” เสียงสั่งเหมือนว่าจะเริ่มขัดใจแล้ว อาซิ่วเร่งดูดท่อนลำอวบใหญ่สุดชีวิตขณะที่หว่างขานางเริ่มมีน้ำคาวหลั่งไหลอีกระลอก นางไม่อาจบังคับน้ำเหนียวจากร่องหลืบของนางได้เลย พื้นที่นางนั่งอยู่เปียกลื่นไปแล้ว แต่นางยังบดเบียดสะโพกทั้งยังสอดสามนิ้วเข้าไปสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองไปด้วย เสียงมือที่ยกสูงและกระแทกลงร่องหลืบดังสวบๆ
“อ่าส์ อึก อุก อือ” นางยังมีเสียงครางออกมาไม่ขาดขณะที่แรงปากดูดกลืนน้ำใสๆ ที่หลั่งรินจากปลายยอดแท่งหยก น้ำลายเหนียวหยดลงบนยอดอกสีคล้ำนิดๆ เนื่องจากผ่านการใช้งานรุนแรงมานานหลายปี ทั้งอวบใหญ่แต่ก็หย่อนคล้อยเล็กน้อย
สองมือซ่งเว่ยเหลียงกดศีรษะอาซิ่วแนบกับต้นขาตน กระเด้าแรง ดังตับๆ ใบหน้าอาซิ่วแทบจะฝังเข้าไปยังหว่างขาเขา เพียงแต่เขายังไม่หนำใจจึงดันนางไปชนโต๊ะหนังสืออัดกระแทกสะโพกรัวเร็ว ความอุ่นลื่นในปากนางก็ไม่เลวเช่นกันแทบทำให้เขาหยุดหายใจ เร่งเร้าสะโพกทะลวงหนักๆ จนกายเกร็ง
“อ่า ดูดแรงๆ ตวัดลิ้นด้วย อูย อา แตก ข้าจะแตกแล้ว”
สวบๆ เขาอัดแท่งลำหยกเข้าปากสาวใช้จนตาเหลือกก่อนจะฉีดพ่นน้ำอุ่นร้อนพรวดๆ เข้าไปจนน้ำคาวสวาทสีขาวขุ่นล้นปากทะลักออกทางจมูก
ซ่งเว่ยเหลียงอัดกระแทกเน้นๆ อีกสองสามครั้งและชักท่อนอวบใหญ่ออก
“แคร่กๆ คุณชาย?” อาซิ่วสำลัก ส่งสายตาอ้อนวอนซ่งเว่ยเหลียง แต่อีกฝ่ายหันหลังให้นางเสียแล้ว นางยังอยากจะได้แท่งหยกของคุณชายอีก
อาซิ่วเลยเร่งสามนิ้วที่สอดอยู่ในร่องรัวเร็ว หมายจะเสร็จสมด้วยมือตัวเองอีกครั้ง นางนอนลงแบะอ้าสองขากว้าง มือหนึ่งขยำหน้าอกตัวเอง ทั้งยังโกยมันขึ้นมารัวลิ้นลงบนยอดสีคล้ำ เสียงครางเล็ดลอดออกมา
“อ่าส์ เสียว อือ คุณชาย เสียวจังเลย อ่าส์” อาซิ่วเร่งกระแทกนิ้วรัวๆ ดังสวบๆ ทั้งมือ ทั้งต้นขาและพื้นเหนียวเยิ้มแฉะเลอะเทอะ สองขาอ้ากว้าง สายตายังมองแผ่นหลังซ่งเว่ยเหลียง มองต้นขา มองสะโพก มองเอวสอบ แค่นี้นางก็เกิดอารมณ์แล้ว
“คุณชายๆ อาซิ่วจะแตกอีกแล้ว อ่าส์ อา อูยส์ คุณชาย อ๊ะ” อาซิ่วกระตุกเกร็งสุขสมลำตัวแอ่นโค้ง ฉีดพ่นฉี่อุ่นจัดออกมาอีกครั้งพร้อมเสียงครางดังลั่น
ซ่งเว่ยเหลียงหันกลับไปมองท่าทางร่านสวาทของสาวใช้ ภาพเช่นนี้เขาเห็นมาหลายครั้งแล้ว สาวใช้คนนี้ไม่เคยอิ่มเอม ว่างเมื่อไรเป็นต้องวิ่งไปหาที่ปลดปล่อย ครั้งนี้ก็เช่นกัน ยังดีที่วันนี้เขาอารมณ์ไม่เลวทีเดียวเลยยืนมองนางเสร็จสมเพราะตัวเองอย่างแช่มชื่นใจอยู่ได้
อาซิ่วนอนหมดแรงอ้าขากว้าง ขนดกหนากลางหว่างขาเปียกเปรอะยุ่งเหยิง นางค่อยๆ ชักสามนิ้วออกมาดูดเลีย สายตายังมองซ่งเว่ยเหลียงท่าทางยั่วยวนให้เขาเข้ามาอีก อีกมือยังนวดคลึงอกอวบใหญ่
“คุณชายจะเอาอีกหรือไม่เจ้าคะ” อาซิ่วยังไม่หมดอารมณ์ นางอุตส่าห์แอบหนีเจ้านายสาวเพื่อมาเล่นสวาทกับคุณชายใหญ่ คิดจะระเริงสวาทกันให้หนำใจ
ซ่งเว่ยเหลียงเห็นห้องของเขาเลอะเทอะทั้งยังมีกลิ่นฉี่ของนางเขาก็เริ่มจะไม่พอใจบ้างแล้ว เขามองไปที่เงารางๆ หน้าประตูห้อง
“เข้ามา!”
สิ้นเสียงเขาเงาร่างบอบบางนั้นผลักประตูเข้ามา ในอ้อมแขนมีอ่างทองแดงใส่น้ำพร้อมกับผ้าสะอาดหนึ่งผืน
หญิงสาวร่างเล็กผอมบางในชุดกระโปรงยาวรัดเอว สวมทับด้วยเสื้อคลุมเนื้อบางสีชมพู การแต่งตัวเช่นนี้ไม่ใช่การแต่งตัวของสาวใช้ แต่นางกลับทำงานดั่งสาวใช้
ซ่งเว่ยเหลียงกวาดตามองทั่วทั้งร่างหญิงสาวและยืนนิ่งอยู่ข้างตั่งนอนริมหน้าต่างที่แง้มออกเล็กน้อย หญิงสาวเดินมาข้างกายเขา วางอ่างทองแดงลง เอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดและเริ่มลงมือเช็ดตัวให้เขาอย่างละเอียดทุกซอกมุม ไม่เว้นพื้นที่ส่วนตัวกลางกายที่นอนแน่นิ่งสงบไปแล้ว
นางทำงานรวดเร็ว ทั้งละเอียดอ่อนและนุ่มนวล กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ โชยมาจากร่าง ตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงตอนนี้นางยังไม่พูดสักคำ ทั้งยังไม่มองไปทางอื่นพร่ำเพรื่อด้วย
เช็ดตัวให้เขาเสร็จก็ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้ เป็นชุดยาวปล่อยสบายตัวหลวมสำหรับอยู่บ้าน เขานั่งลงให้นางหวีผมให้ นิ้วเรียวเล็กถือหวีไม้ค่อยๆ บรรจงสางผมไปทีละนิดจนเสร็จ
ซ่งเว่ยเหลียงลุกขึ้น ชายตามองอาซิ่วที่ยังนอนระทวยกับน้ำนองเลอะเทอะแล้วก็เหยียดปาก
“เก็บกวาดห้องของข้า อย่าให้มีกลิ่น ไม่งั้นข้าขายเจ้าออกไปแน่ ถึงตอนนั้นจะมาร่ำร้องให้ข้าเห็นใจไม่ได้” พูดจบเขาเดินจากไปทันที
หญิงสาวร่างบอบบางเหลือบตามองอาซิ่วครั้งหนึ่งและก้มหน้าเดินตามหลังซ่งเว่ยเหลียงออกไปเงียบๆ
อาซิ่วได้สติ นางรีบลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าและเร่งลงมือทำความสะอาดห้องหนังสือของคุณชายใหญ่ นางยังไม่อยากถูกขายออกไป ทั้งยังอยากอยู่ปรนเปรอคุณชายใหญ่ตลอดไปด้วย เพราะฉะนั้นยามที่คุณชายใหญ่อารมณ์ดีนางค่อยยั่วยวน ยามที่เขาอารมณ์ไม่ดีค่อยเร่งก้มศีรษะปฏิบัติตัวดั่งสาวใช้เช่นเดิม
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"