ทัดดาว สาวใช้ร่างเล็ก เธอมีรอยยิ้มแต้มติดหน้าตลอดเวลา เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี หน้าที่หลักของทัดดาวคือการทำความสะอาดคฤหาสน์ราโคยอันกว้างใหญ่ไพศาล ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแม่บ้านอาเรีย หญิงสาวเหินฟ้ามาทำงานไกลถึงประเทศสเปน ถิ่นกระทิงดุเพราะความจำเป็นบางอย่างบีบบังคับในหน้าที่อันต่ำต้อย ‘สาวใช้’ อีเกร์ ราโคยมาทาดอร์หนุ่มรูปงาม เขาเต็มไปด้วยพละกำลังและเป็นที่กล่าวขานทั่วทั้งสเปน ไม่ว่ากระทิงจะดุจะคลั่งมากมายขนาดไหน... ทุกสนามประลองกำลังหากชายหนุ่มลงสนาม เขาสามารถสยบฝูงกระทิงได้สำเร็จทุกครั้งไป ดวงตาคมดุปรายตามองใครแต่ละทีต้องถอยหลบไม่เป็นกระบวน เมื่อมันแฝงแววอำมหิต แต่กลับต้องมาตกบ่วงเสน่ห์นางบำเรอตัวน้อยที่ได้ครอบครองด้วยความบังเอิญแท้ๆ หล่อนเป็นแค่สาวใช้! ‘สาวใช้ในบ้าน’ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เขาจึงต้องปิดบังความลับอันนี้จากสายตาของทุกคน แต่…ดูเหมือนพระผู้เป็นเจ้ากำลังเล่นตลก ความลับไม่เคยมีอยู่บนโลกบิดๆ เบี้ยวๆ และเมื่อความจริงเปิดเผยอีเกร์ ปฏิเสธความรับผิดชอบแบบไม่คิด เรื่องราวความสัมพันธ์ลึกซึ้งของตัวเองกับทัดดาว ทำให้เธอถูกกระแสสังคมโจมตี จำเป็นต้องหลบซ่อน จากไปทั้งคราบน้ำตา แต่กลับมีสายเลือดแดนกระทิงดุติดท้องไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว... หลังจากนางบำเรอตัวเล็กหายออกไปจากวงจรชีวิตอารมณ์ของอีเกร์คุกรุ่นเหมือนกระทิงคลั่งเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน เขาไม่ยอมรับความจริงว่า...ภายในใจกำลังโหยหา อยากจะกกกอดร่างอวบอุ่นของทัดดาวแนบข้างทุกค่ำคืน ยามดึกต้องตกใจผวาตื่น ยามตื่นพร่ำรำพันละเมอหาเป็นเช่นนี้เรื่อยมานับตั้งแต่เธอหายออกไปจากชีวิต เขาจึงต้องบากหน้าหล่อๆ ดั้นด้นตามหา ‘นางบำเรอ’ กลับมาเคียงข้างเหมือนเดิม ไม่สนใจกระแสสังคมที่โหมกระหน่ำ ต่อต้านแม่ยอดรักถึงความไม่คู่ควร แต่กว่าที่ทัดดาวจะยอมให้ใจกลับคืนมา ลูกน้อยสายเลือดนักสู้ก็ถือกำเนิด ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนเป็นพ่อ เขายอมทำทุกอย่าง เพียงแค่อยากได้ยินคำว่า‘ให้อภัย’จากจอมใจ...
บทที่1.มาทาดอร์หนุ่มชื่อดังสะท้านโลก
เสียงเชียร์ดังกึกก้อง ทั่วทั้งสนามประลอง เมื่อกระทิงดุตัวใหญ่เจอมือเพชฌฆาตฝีมือฉกาจ อีเกร์ ราโคย ยอดมาทาดอร์ชื่อก้องโลก... หนุ่มจอมพลังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เขาปั่นหัวกระทิงวัยฉกรรจ์จนหัวหมุน เกมหลอกล่อไล่ต้อนกระทิงบ้าคลั่ง ด้วยผืนผ้าสีแดงสด มือสะบัดโบกผืนผ้าในมือจนกระทิงหนุ่มหัวหมุน มันพยายามไล่ขวิดหมายจะปลิดชีวิตไอ้หนุ่มหน้าหยกที่คิดลองดี
ตึกๆ ... เสียงฝีเท้าหนักๆ ของกระทิงหนุ่ม มันตะกุยดินก่อนจะโผวิ่งทะยานเข้าใส่อีเกร์ ประหนึ่งศรของธนูที่หลุดออกมาจากคันศร ฝีเท้ากุบกับควบเข้าใส่ ด้วยความรวดเร็วประ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลำตัวใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เขาใหญ่ยาวแหลม พยายามไล่ขวิดอีเกร์แบบดุดันและป่าเถื่อน
อีเกร์หลบได้อย่างสวยงามตลอด หลอกล่อจนกระทิงหนุ่มเหนื่อยหอบ มันพ่นล่มหายใจฟึดฟัดจนฝุ่นใต้จมูกบานๆ ฟุ้งกระจาย ก่อนจะกระโจนใส่มาทาดอร์จอมเจ้าเล่ห์แบบไม่คิดชีวิต ผู้ชมรอบสนามที่มาร่วมลุ้น พวกเขาครางเสียงแผ่วๆ ยามเขาแหลมคมเฉี่ยวหน้าคร้ามคมแค่เส้นด้ายกั้น หัวใจผู้ชมลุ้นระทึกตามลีลาของมาทาดอร์มือเพชฌฆาตยามใช้ล่อหลอกกระทิงหนุ่มดุดัน อีเกร์ยิ้มมุมปาก สายตาคมดุปรายตามองกระทิงจอมโหดที่หอบหายใจพะงาบๆ มันเหนื่อยสุดชีวิตในการไล่ล่าตัวเขาเอง เสียงเชียร์ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มหลบวิถีของเขาแหลมๆ ที่พุ่งเข้าใส่ได้ทัน ผืนผ้าสีแดงสะบัดโบกถูกกระทิงคลั่งขวิดจนขาดวิ่น แต่อีเกร์ไม่เป็นอะไรสักนิด...แม้แต่รอยขีดข่วน ชายหนุ่มถอยหลังเตรียมตั้งรับครั้งสุดท้าย เมื่อกระทิงหนุ่มควบฝีเท้าสุดชีวิตในการพุ่งชนเป้าหมายคือร่างกายกำยำของอีเกร์ ชายหนุ่มสะบัดผืนผ้าอีกครั้งและเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่ไยดี เมื่อคิดจะเผด็จศึกกับเจ้ากระทิงที่กำลังวิ่งห้อตะบึงเข้าใส่ สองขาแข็งแรงปักหลักมั่นตั้งท่าเตรียมรับโดยไม่หวั่นกลัว ดวงตาคมดุมองตรงไปแน่วแน่ เอื้อมมือจับเขาโค้งงอของกระทิงเพชฌฆาตก่อนจะบิดลำตัวกระโจนขึ้นไปนั่งบนหลังของมันด้วยความท่วงท่าสง่างาม
“เฮ้!” เสียงเฮโลดังลั่นสนาม เสียงปรบมือกึกก้องร่วมโห่ฮาไปกับอีเกร์ กระทิงบ้าคลั่งออกแรงสุดฤทธิ์ เพื่อสะบัดมนุษย์หน้าโง่ที่ริอ่านลองดี พละกำลังทั้งหมดถูกงัดออกมาใช้ ขาแข็งแรงวิ่งวนไปรอบๆ สนามแข่ง มันพยายามสะบัดอีเกร์ให้ร่วงลงมาจากหลังของมันให้ได้ ชายหนุ่มเกร็งลำตัวแน่นใช้ฝ่าเท้ากระทุ้งสีข้างกระทิงดุจอมโหดให้มันพลุ่งพล่านมากขึ้น มือๆ จับเขาโค้งงอบิดส่ายหน้าใหญ่โตของมันให้เกร็งแน่น จนจอมวายร้ายมองไม่เห็นทางข้างหน้า มันจึงวิ่งเข้าชนขอบกำแพงจังๆ ดังสนั่น โครม!
“เฮ้!” เสียงอุทานกึกก้องดังขึ้น พร้อมทั้งเสียงปรบมือให้กำลังใจ อีเกร์กระโจนลงจากหลังกระทิงใหญ่ได้ทันเวลา ก่อนที่มันจะทรุดลงบนพื้น ชุดมาทาดอร์สะท้อนแสงของพระอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับกลางสนาม กระทิงคลั่งนอนหอบมันเจ็บร้าวตลอดสีข้าง เพิ่มความแค้นเคืองมากยิ่งขึ้น ดวงตาดำใหญ่มองมนุษย์ตัวใหญ่เบื้องหน้าด้วยสายตาวาววับ สองขาหน้าตะกุยดินแรงๆ จนเศษดินกระจายฟุ้ง มันหยัดตัวยืนขึ้นวิ่งเข้าใส่อีเกร์เต็มแรง ชายหนุ่มกำลังรอจังหวะ ตาจ้องกระทิงคลั่งอย่างระแวดระวัง เขาแหลมคมยื่นเข้ามาหาชายหนุ่ม เขากระชากเข้าหาตัวบิดหักสุดแรงจนกระทิงใหญ่เสียหลักล้มตึงนอนหมอบ หอบหายใจพะงาบๆ ไม่ยอมลุกขึ้นมาอีก มันเจ็บร้าวไปตลอดแผงคอใหญ่จนไม่อยากลุกขึ้นมาต่อกรกับมนุษย์ที่มันปรามาสไว้ในตอนต้นอีก
“เย้!” เสียงเป่าปากโห่ร้องของฝูงชนที่รายล้อมอยู่รอบๆ สนามแข่งขัน พวกเขารวมแสดงความยินดีกับอีเกร์ในชัยชนะครั้งนี้ดังกระหึ่มรอบสนาม กระดาษแก้วหลากหลายสีสันถูกโปรยหว่านลงมาจากเบื้องบนเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับอีเกร์ ราโคยยอดมาทาดอร์เบอร์หนึ่งที่สามารถปราบพยศกระทิงคลั่งได้อย่างงดงามอีกครั้งหนึ่ง “อีเกร์ๆ ...” ชายหนุ่มยิ้มรับ เขาโบกมือทักทายแฟนคลับที่มาคอยให้กำลังใจ รอยยิ้มทรงเสน่ห์จ่ายแจกให้สาวๆ ที่เกาะติดขอบสนามอย่างไม่อั้น กระดุมเสื้อถูกปลดออกเพื่อระบายความร้อนจากภายใน เผยแผงอกหนั่นแน่นที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อทรงพลังกล้ามเป็นมัดๆ ให้สาวๆ ได้ชื่นชม...
“อา...” เสียงครางแผ่วๆ ดังลอดออกจากริมฝีปากสาวน้อยสาวใหญ่รอบขอบสนาม ยามได้ยลรูปลักษณ์ปานเทพบุตร “อพอลโล่” หนึ่งในเทพเจ้าในนิยายของกรีก เป็นเทพเจ้าหนุ่มที่ถูกกล่าวขานกันมานานแสนนาน อีเกร์ยิ้มกรุ้มกริ่มเขาเดินกลับเข้าที่พักฃ้าๆ เมื่อปิดฉากภารกิจได้อย่างงดงามเต็มความภาคภูมิ!
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้