หลังจากบิดาฆ่าตัวตายในคฤหาสน์รวิภาส ไฟไหม้ห้องนอนของสองฝาแฝด ทำให้ปารัชกับปีย์วราต้องย้ายไปอยู่บ้านทนายความประจำตระกูลเพื่อความปลอดภัย เวลาผ่านไปจนปีย์วราแฝดผู้น้องเรียนจบจากต่างประเทศ พร้อมพยานและหลักฐานใหม่ ทำให้ต้องการรื้อคดีเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่บิดา จนคนใกล้ตัวเริ่มเผยธาตุแท้ออกมา สองฝาแฝดจะทำเช่นไร เมื่อความศรัทธาสลายไปกับแผนร้ายที่หมายเอาชีวิตของทั้งคู่
กรงมายา
บทที่1
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่สุดในชุมชนอันเป็นที่กล่าวขานถึงความโอฬารตระการตา ผู้คนสัญจรผ่านไปมาจะต้องเหลียวมองด้วยความชื่นชม ในรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว ทั้งตัวอาคารขนาดใหญ่และสวนสวยที่จัดแต่งได้อย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ เป็นจุดดึงดูดสายตาจุดที่สองของผู้มาเยือนและสัญจรผ่านไปมา รองจากป้ายหินอ่อนสีเทาเข้มขนาดใหญ่สลักอักษรสีทองคำว่า ‘รวิภาส’ ตรงซุ้มประตู
ถนนหน้าคฤหาสน์รวิภาสในคืนนี้คราคร่ำไปด้วยรถยนต์และผู้คนที่ต่างให้ความสนใจมองเข้าไปภายในรั้วบ้านซึ่งเป็นกำแพงสูงท่วมหัว จุดหมายคือรถยนต์หลายคันที่จอดอยู่หน้าอาคารร่วมสมัย ไฟสัญญาณพร้อมเสียงไซเรนหวีดร้องจากรถหน้าตัวตึกเรียกความสนใจจากคนภายนอกที่ถูกกันไม่ให้เข้าไปภายในอาณาบริเวณของคฤหาสน์รวิภาสได้เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับปีนกำแพงสูงอย่างไม่เกรงกลัวจะพลาดตกลงมาแข้งขาหัก เพียงเพื่อให้มองเข้าไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
ภายในห้องนอนใหญ่ของประมุขแห่งคฤหาสน์หลังงาม พลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต่างกำลังทำหน้าที่ของตนเองมือเป็นระวิง บุรุษและสตรีในชุดขาวสะอาดกำลังทำหน้าที่ยื้อชีวิตชายเจ้าของห้องวัยสี่สิบต้นๆ ซึ่งนอนจมกองเลือดที่ไหลจากขมับด้านขวาลงเปรอะเปื้อนปลอกหมอนสีเทาเข้ม และไหลซึมลงสู่ที่นอนซึ่งปูด้วยผ้าสีเทาเข้าชุดกันชื้นเป็นวงกว้าง มือที่ห้อยอยู่ข้างเตียงกำอาวุธปืนเอาไว้หลวมๆ
ใกล้ร่างเจ้าของคฤหาสน์ มีร่างหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบเศษๆ นอนหายใจรวยริน ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้าย มีเลือดไหลจากบาดแผลหลายแห่ง โดยเฉพาะรอยกระสุนตรงเหนือท้องน้อยที่เลือดไหลออกมามากที่สุด เขากำลังได้รับการช่วยชีวิตเบื้องต้นอยู่เช่นกัน
มุมห้องใกล้หน้าต่างที่ซึ่งมองเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ชัดเจน เด็กชายหญิงคู่หนึ่งนั่งกอดกันร่ำไห้เสียงสะอึกสะอื้นเป็นที่น่าเวทนาของคนที่พบเห็น แม้จะมีคนพยายามพาทั้งสองคนออกไปนอกห้องแต่ไม่เป็นผล ทั้งคู่ยังอยู่ในห้องที่พลุกพล่านและอึงมี่ไปด้วยเสียงพูดคุยผ่านเครื่องมือสื่อสาร เสียงสั่งการในการช่วยชีวิต และซุบซิบนินทาถึงสภาพของทั้งสองคนบนเตียง
“ใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ไหน ตายพร้อมอีตัวขณะเล่นรัก”
“ไม่มีทางรอดมาให้อายหรอก สาหัสขนาดนี้”
“คนที่อายน่ะ โน่น” คนพูดทำท่าบุ้ยใบ้ไปทางเด็กวัยสิบขวบทั้งสองคนที่นั่งกอดกันที่มุมห้อง แล้วรีบหลุบตาหันหน้าหนีเมื่อเห็นเด็กหญิงกำลังมองมาดวงตาแข็งกร้าว ก่อนจะสะกิดเพื่อนคุยให้รีบเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเล็กๆ ที่ตะโกนไล่หลังมา
“ไปให้พ้นเลยนะ เก็บเสื้อผ้าไปให้หมด ฉันไล่แกออก ไป” เด็กหญิงที่น้ำตานองหน้าตะโกนอย่างเหลืออด
“ทำอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านถึงขนาดไล่คนงานออก นี่คงคิดว่าคุณพ่อจะต้องตายแน่นอนล่ะสิ นังเด็กบ้า”
เสียงขุ่นเคืองดังใกล้จนเด็กหญิงวัยสิบขวบหันขวับมามอง จ้องตาคนพูดอย่างไม่กลัวเกรง อ้าปากจะตอกกลับแต่หนุ่มน้อยข้างๆ กระตุกแขนไว้ แล้วส่ายหน้าเตือน ก่อนทั้งสองจะหันไปมองที่เตียงกับเสียงที่บอกให้รู้ว่าหมดหวังกับการยื้อชีวิตของคนบนเตียงทั้งสองคนแล้ว
“คุณพ่อ!” ทั้งสองร้องอุทานขึ้นพร้อมกันก่อนจะโผลเข้าไปหาร่างของบิดา ที่นางพยาบาลและเจ้าหน้าที่ซึ่งหมดหวังให้การกู้ชีวิตกำลังถอยห่างออกมา
“คุณพี่ขา!” เสียงเล็กกรีดแหลมขึ้นจนแสบแก้วหู ขณะวิ่งไปผลักเด็กทั้งสองออกให้พ้นทาง แล้วซวนซบลงบนร่างไร้วิญญาณเกลือกใบหน้าลงไปร่ำไห้ฟูมฟาย
“ทำไมมาด่วนจากน้องไปแบบนี้ล่ะคะ ต่อไปน้องกับลูกจะอยู่ยังไง คุณพี่ คุณพี่ขาลืมตาขึ้นมาสิคะ น้องอยากบอกคุณพี่เหลือเกินว่าเรากำลังจะมีรวิภาสตัวน้อยมาวิ่งเล่นให้บ้านอบอุ่น กำลังมีทายาทมาสืบสกุล คุณพี่อยากมีลูกผู้ชายไม่ใช่หรือคะ น้องกำลังมีให้แล้วนี่ไงคะ คุณพี่ลุกขึ้นมาสิคะ ลืมตามามองสิคะ คุณพี่ขา”
ท่ามกลางเสียงฟูมฟายเจียนจะขาดใจนั้น หลายคนเกิดความสงสัยจนต้องหันมามองหน้า แล้วหันไปมองคนพูดที่กำลังพร่ำพรรณาวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กชายหญิงที่ถูกผลักออกมาเมื่อครู่ก็ยังงุนงงสงสัย สองคนเข้าไปใกล้ร่างบิดาอีกครั้ง ก่อนที่เด็กผู้หญิงจะเป็นคนกระชากเจ้าของร่างที่กำลังฟูมฟายอยู่ให้ถอยห่างออกมา เปิดทางให้เด็กชายเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของบิดาร่ำไห้สะอึกสะอื้น
แม้ไม่มีแผ่นดิน หากแต่เรายังไม่สิ้นลมหายใจ ถึงสิ้นชาติหากแต่รักของเรามิได้สิ้นลง บราลี เป็นบอดี้การ์ดมือใหม่ ที่ทำงานพลาดจนถูกไล่ออกจากงาน ในวันเดียวกันนั้น บ้านของเธอก็ถูกไฟไหม้ แม่ถูกไฟคลอกบาดเจ็บ พ่อตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก เมื่อเธอจะหันไปพึ่งแฟนหนุ่มที่รักกันมาหลายปี กลับพบเขากำลังคลุกวงในกับผู้ชายอีกคน!! เมื่อชีวิตมันบัดซบขนาดนี้ เธอจึงคิดฆ่าตัวตาย ... และทำจริง!! แต่ไม่ตาย มีคนมาช่วยไว้ ... พอรอดตายก็มีคนยื่นข้อเสนอแปลกประหลาด ... ให้เธอไปเป็นบอดี้การ์ดให้เจ้านาย แลกกับเงินมหาศาล และกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร บราลีกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน ก็ได้ข้ามเวลาย้อนอดีตไปซะแล้ว
เมื่อความรักที่มีมากเหลือล้น ไวกูณฐ์นั้นอยากแต่งงานเสียทันทีที่เดินทางกลับมาจากเรียนต่อ หากแต่ จิรัฐิติกาลกลับกลัวการใช้ชีวิตคู่จึงปฏิเสธไป แต่เพราะอุบัติเหตุที่บังเกิดขึ้นทำให้ไวกูณฐ์ตาบอด จิรัฐิติกาลจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขาในทันทีเพื่อเป็นการรับผิดชอบ เพราะการแต่งงานที่ไม่พร้อมทำให้อุปสรรคแห่งรักนั้นมีมาให้พิสูจน์หัวใจกันเนืองๆ
เจ้าฟ้าหญิงจิรัฐิติกาลในคราบชายหนุ่มดูจะเกษมสำราญเป็นอันมากเมื่อได้ออกมาท่องโลกกว้าง แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่บ้างที่มี 'ผู้คุม' เป็นไวกูณฐ์ ชายหนุ่มอ่อนแอ เจ้าหนอนหนังสือใส่แว่นลูกชายองครักษ์คนสนิทของพระบิดา แต่ถ้าไม่ยินยอมร่วมทางไปกับเขา เจ้าพ่อก็คงไม่ปล่อยออกจากกรงทอง เธอจำใจร่วมทางและสร้างความยุ่งยากเป็นภาระใหญ่หลวงให้เขา แต่ในคราเดียวกันความใกล้ชิด ความใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นในใจ แต่จะทำอย่างไร เมื่อเธอฝังใจว่าเขาไม่ใช่ "ชายจริง" นิยายภาคต่อของ ลิขิตรักบัลลังก์หัวใจ
เมื่อต้องเสียแผ่นดินจากการช่วงชิงของพระเจ้าอา ทรรศินากัลยามาส เจ้าฟ้าหญิงรัชทายาทแห่งมธุรรัฐจำต้องเสด็จหนีจากแผ่นดินเกิด แฝงกายเข้าไปในสิงขรรัฐ จากที่คิดจะปลอมตัวเป็นนางกำนัล กลับตกกระไดพลอยโจนถวายตัวเป็นสนมของเจ้าหลวงรัฐสิงห์สีหนาทในนามลูกของศัตรู!? รอจนถึงวันทวงบัลลังก์คืน กล้วยไม้ป่าแรกแย้มเพิ่งผลิรับฤดูฝน เจ้าหลวงเอื้อมไปหมายจะเด็ด ก็ถูกพระหัตถ์เล็กๆ ตีเผียะลงบนหลังมือ "ดอกไม้จะสวยงามที่สุดเมื่ออยู่กับต้นเพคะ" ดำรัสขึงขัง "แต่พี่จะเก็บให้เธอ" รับสั่งกลับอ่อนโยน "ท่าจะเด็ดดอกไม้แรกแย้มเสียจนเคย" เจ้าฟ้าหญิงประชดตรงๆ เจ้าหลวงยกพระหัตถ์ในท่าสาบาน "สาบาน ต่อไปพี่จะไม่เด็ดดอกไม้ ไม่ว่าดอกไหน จะรอดอกฟ้าตรงหน้านี้ดอกเดียวเท่านั้น"
เมื่อซากีน่าน้องสาวอันเป็นที่รักถูกฆ่าข่มขืน หลักฐานในมือคือแผ่นเงินฉลุลวดลายสวยงาม ซาห์ราจำได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของของสิ่งนี้ การตามล้างแค้นจึงเกิดขึ้น ชีคฮาซัน บินญาบิร อัล บุสตานีย์ กลายเป็นเหยื่อความแค้นที่เขาไม่ได้ก่อ ถูกหล่อนทรมานต่างๆ นานาและต้องสูญเสียเมียสาวในคืนวันแต่งงานจากน้ำมือซาห์รา แต่เมื่อความจริงปรากฏว่าใครเป็นฆาตกรที่แท้จริง ซาห์ราจะชดใช้สิ่งที่ทำลงไปให้แก่เขาด้วยชีวิต ตามกฏชีวิตแลกชีวิต แต่ชีคฮาซันกลับต้องการให้หลอนชดใช้ด้วย หัวใจ
เมื่อธิดาองค์น้อยเริ่มเติบโต ชีคกาเบรียนที่อยากให้ลูกรู้จักภาษาของแม่บังเกิดเกล้า จึงมองหาครูสอนภาษาชาวไทย แต่กลับได้ทโมนไพรไปแทน นางสาวกฤติกา หรือแม่ดาวลูกไก่ นอกจากสอนภาษาไทยให้ธิดาองค์น้อยของชีคแล้ว ยังสอนปีนต้นไม้กลายเป็นลิงเป็นค่าง จนพระนมของชีคเอือมระอา ทว่าท่าทางแก่นกะโหลกของดาวลูกไก่กลับจับใจต้องตาชีคกาเบรียนจนกลายเป็นความรัก แต่ปัญหาสงครามแบ่งแยกดินแดนในประเทศยังไม่สงบ เมื่อดาวลูกไก่ถูกจับตัวไปเพื่อต่อรอง แม้พระองค์ไม่อาจยกแผ่นดินเพื่อแลกกับผู้หญิงที่รักได้ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนครั้งที่เสียสนมคนอื่นไป ทรงลอบออกจากวังเพื่อไปช่วยหญิงอันเป็นที่รักด้วยตนเอง
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"